เดินชมปราสาท ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม ที่สวนคะโจ Kajo Park

14/05/2025
สวนคะโจ หรือ Kajo Park เป็นสวนสวยที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ประเทศญี่ปุ่น บนพื้นที่เดิมของปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) ภายในสวนมีต้นซากุระหลากหลายสีสันมากกว่า 1,500 ต้น บานสะพรั่งไปทั่ว รวมถึงภายในสวน Kajo Park ยังรายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ถือเป็นสวนสวยที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับปิกนิกหรือเดินเล่นพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ
Meiji Amino Collagen LP R1
Contents Index
  1. 1 ทำความรู้จัก สวนสาธารณะ Kajo Park
  2. 2 ประวัติความเป็นมาของ Kajo Park และปราสาทยามากาตะ
    1. 2.1 การเปลี่ยนผ่านสู่สวนสาธารณะในยุคปัจจุบัน
  3. 3 ไฮไลท์กิจกรรมใน Kajo Park ที่ไม่ควรพลาด
    1. 3.1 เดินชิลๆ ชมซากกำแพง และคูน้ำโบราณ
    2. 3.2 นั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ ที่ สวน Kajo Park
    3. 3.3 ปั่นจักรยาน และเดินเล่นในสวนอันร่มรื่น
  4. 4 ชมซากุระที่ Kajo Park จุดถ่ายรูปสวยในฤดูใบไม้ผลิ
    1. 4.1 แนะนำมุมถ่ายรูปสวยๆ บริเวณริมคูน้ำโบราณ
    2. 4.2 อลังการกับแสงไฟ ที่ประดับประดาช่วงเทศกาล Hanami
  5. 5 เที่ยว Kajo Park ฤดูไหนดีที่สุด?
    1. 5.1 ชมความงามของซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมี.ค. – ต้นเม.ย.)
    2. 5.2 ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง
    3. 5.3 สวน Kajo Park กับบรรยากาศหิมะในฤดูหนาว
  6. 6 ข้อมูล และวิธีเดินทางไป Kajo Park
  7. 7 จุดพักผ่อน ร้านอาหาร และคาเฟ่ใกล้ๆ Kajo Park
  8. 8 กิจกรรมแนะนำสำหรับครอบครัว ภายในสวน Kajo Park
    1. 8.1 สนามเด็กเล่น และพื้นที่วิ่งเล่นภายในสวน
    2. 8.2 ศูนย์ประวัติศาสตร์เมืองยามากาตะ (Yamagata City Museum)
  9. 9 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง Kajo Park ที่แนะนำ
    1. 9.1 Bunshokan – อาคารรัฐบาลเก่าที่สวยงามสไตล์ยุโรป
    2. 9.2 Yamagata Museum of Art
    3. 9.3 Yamadera Temple
  10. 10 สรุป

ทำความรู้จัก สวนสาธารณะ Kajo Park

สวน Kajo Park นั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) ที่นักท่องเที่ยวนั้น สามารถเดินจากสถานียามากาตะเพียง 10 นาที ก็ถึงประตูทางเข้าของสวนแล้ว โดยภายในนั้น ยังคงมีซากปราสาท กำแพงหิน และคูน้ำโบราณให้ได้เดินชม ล้อมรอบด้วยต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 1,500 ต้น เบ่งบานเรียงรายคอยทักทายนักท่องเที่ยว ถือเป็นสวนสวยที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับปิกนิกหรือเดินเล่นพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ

ประวัติความเป็นมาของ Kajo Park และปราสาทยามากาตะ

ที่ Kajo Park นั้น เป็นสวนสวยใจกลางเมืองยามากาตะ ที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวเมืองเอง และนักท่องเที่ยว ซึ่งในอดีตนั้น พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นที่ของปราสาทในส่วนนี้ ก็ถูกปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ Kajo Park พร้อมทั้งมีการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์รัฐยามากาตะ และอาคารอื่นๆ ใกล้เคียง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน และจัดงานเทศกาลต่างๆ นั่นเอง ซึ่งถือได้ว่า สวน Kajo Park นั้น เป็นสัญลักษณ์ของเมืองยามากาตะ ซึ้่งในปัจจุบัน ภายในสวนก็ยังคงมีซากปราสาท กำแพง และคูน้ำโบราณ ล้อมรอบหลงเหลือให้เห็นอยู่ และที่สำคัญ ภายในสวนนั้น เต็มไปด้วยต้นซากุระ และพันธุ์ไม้อีกหลายชนิด ที่เบ่งบานตามฤดูกาลต่างๆ จนทำให้ที่นี่ กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมือง และนักท่องเที่ยว

การเปลี่ยนผ่านสู่สวนสาธารณะในยุคปัจจุบัน

ภายหลังยุคเมจิ (Meiji) หรือในช่วงปี 1871 พื้นที่ปราสาทยามากาตะ ได้ก็ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นทรัพย์สินของทางรัฐ จนในปี 1906 ทางการท้องถิ่นยามากาตะ ได้ปลูกต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นรอบคูน้ำ เพื่อรำลึกถึงชัยชนะในสงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นให้พื้นที่นี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั่นเอง จนเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง พื้นที่ของปราสาท ก็ถูกปรับปรุงและเปิดเป็น “สวนคะโจ” หรือ Kajo Park เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึง และสามารถใช้งานเป็นสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ยามากาตะขึ้นภายในบริเวณสวนนั่นเอง

ไฮไลท์กิจกรรมใน Kajo Park ที่ไม่ควรพลาด

จุดเด่นและความน่าสนใจของสวน Kajo Park นั้น นอกจากเป็นสวนสวยใจกลางเมืองแล้ว ภายในยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ และไฮไลท์ห้ามพลาดอีกมากมาย เช่น อุโมงค์ซากุระที่สวยงาม ปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) 1 ใน 100 ปราสาทที่ทรงคุณค่าของญี่ปุ่น และอีกหลายๆ จุด หลายๆ กิจกรรม ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม

เดินชิลๆ ชมซากกำแพง และคูน้ำโบราณ

อีก 1 ความสวยงามที่น่าสนใจภายในสวน Kajo Park นั้น ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด กับการเดินชิลๆ รับลมเย็นสบาย กับความสวยงามในประวัติศาสตร์ของซากกำแพงปราสาทยามากาตะ และหินเก่าแก่ ที่มีลวดลายร่องรอยการกัดเซาะจากกาลเวลา รวมไปถึงคูน้ำโบราณสมัยเอโดะ ที่ยังคงหลงเหลือสภาพเดิมให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ในบรรยากาศสบายๆ ที่แสงแดดอ่อนๆ ทอดผ่านต้นซากุระ มากระทบผิวน้ำเป็นประกาย ซึ่งไม่ว่าจะฤดูไหน ที่สวน Kajo Park นั้น ก็มีความงดงามไม่ต่างกัน

นั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ ที่ สวน Kajo Park

สำหรับการมานั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระที่สวน Kajo Park นั้น เป็นอีกกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น ที่ปลูกเรียงรายรอบคูน้ำ จะผลิบานไปพร้อมๆ กัน กลายเป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่สวยงามสุดๆ ถือเป็นการนั่งปิกนิกที่สัมผัสความงามของธรรมชาติ รวมไปถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ในบรรยากาศสบายๆ รอบตัว นอกจากนี้ เมื่อถึงยามค่ำคืน ที่ สวน Kajo Park นั้น ยังมีไฮไลท์ห้ามพลาดอย่างการประดับประดาแสงไฟ illumination บริเวณรอบๆ คูน้ำ ให้ตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

ปั่นจักรยาน และเดินเล่นในสวนอันร่มรื่น

ภายในสวน Kajo Park สวนสวยใจกลางเมืองยามากาตะนั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถปั่นจักรยาน และเดินเล่นชิลๆ ภายในสวนได้ โดยสามารถปั่นและเดินเล่นตามเส้นทางรอบๆ คูน้ำโบราณ และกำแพงหินของปราสาทยามากาตะ เรียกได้ว่า ได้ใกล้ชิดกับสถาปัตยกรรมในยุคเอโดะนั่นเอง แถมยังสามารถหยุดจอดเพื่อถ่ายรูปตามมุมสวยๆ เช่น ภายในอุโมงค์ซากุระ บริเวณอนุสาวรีย์ผู้สร้างปราสาทยามากาตะ เป็นต้น ซึ่งตามเส้นทางในสวน Kajo Park จะเชื่อมต่อกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์รอบๆ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมนิทรรศการ หรือถ่ายรูปสวยๆ ได้ระหว่างทางอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีจุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ ก็คือ การรอชมรถไฟชินคันเซน ที่จะวิ่งผ่านปราสาทยามากาตะ ท่ามกลางดอกซากุระบานสะพรั่งบริเวณประตูด้านทิศตะวันออกของสวน

ชมซากุระที่ Kajo Park จุดถ่ายรูปสวยในฤดูใบไม้ผลิ

สำหรับฤดูใบไม้ผลิที่สวน Kajo Park นั้น เป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ด้วยเป็นช่วงที่สวน Kajo Park จะเต็มไปด้วยสีชมพูละลานตา ของดอกซากุระกว่า 1,500 ต้น โดยมีภาพปราสาทเก่าแก่ ที่เหลือเพียงซากกำแพงหินเด่นเป็นฉากหลัง แต่งเติมด้วยกลีบดอกไม้ที่ร่วงโปรยปรายลงบนพื้นหญ้าและผิวน้ำ สร้างบรรยากาศสบาย ๆ แบบมีเสน่ห์ เสมือนได้ย้อนเวลาไปยังยุคเอโดะกันเลย โดยเฉพาะที่อุโมงค์ดอกไม้ ที่จะโค้งรับความงาม สะท้อนภาพดอกซากุระเหนือผิวน้ำ พร้อมรับแสงแดดอ่อนๆ สร้างความสวยงามอบอุ่นยิ่งขึ้น

แนะนำมุมถ่ายรูปสวยๆ บริเวณริมคูน้ำโบราณ

บริเวณริมคูน้ำโบราณของสวน Kajo Park ก็ถือเป็นอีก 1 จุดมุมถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยมีบรรยากาศที่สวยงามผ่อนคลาย ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติ และอาคารสถาปัตยกรรมโบราณ ของปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูกาลอะไร ก็สวยงามมีเสน่ห์ไม่ต่างกัน หรือจะเป็นในช่วงกลางคืน ที่ทางสวน Kajo Park จะมีการตกแต่งประดับประดาไฟ Illumination ที่ต้นซากุระโดยรอบคูน้ำโบราณ จะถูกประดับไฟหลากสีสัน สะท้อนบนผิวน้ำเกิดภาพที่งดงามโนแมนติก

อลังการกับแสงไฟ ที่ประดับประดาช่วงเทศกาล Hanami

สวน Kajo Park นั้น เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง และเป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล Hanami ซึ่งเป็นประเพณีการชมดอกซากุระบาน ที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณของประเทศญี่ปุ่น โดยจะเริ่มในฤดูใบไม้ผลิ ที่ผู้คนจะมานั่งปิกนิก เพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร เครื่องดื่ม พูดคุยและเพลิดเพลินไปกับความงามของดอกไม้ที่สวน Kajo Park นั่นเอง และในช่วงเวลากลางคืน ที่สวน Kajo Park ก็จะมีการจัดไฟประดับประดา ตลอดแนวต้นซากุระบริเวณรอบๆ คูน้ำ เกิดเงาสะท้อนที่งดงามและโรแมนติก หรือจะเป็นบริเวณทางเดินประตูหลัก (Otemon Gate) ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นอุโมงค์ดอกไม้ยามค่ำคืน ที่ตกแต่งด้วยแสงไฟมากมายคอยสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว

เที่ยว Kajo Park ฤดูไหนดีที่สุด?

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางมาที่สวน Kajo Park สวนสวยใจกลางเมืองยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถมากันได้ทุกฤดูกาล ซึ่งก็จะมีเสน่ห์ มีความสวยงามที่ต่างกันไปในแต่ละฤดู รวมไปถึงมีกิจกรรมสนุกๆ ที่น่าสนใจแตกต่างกัน ทั้งช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่สวยงามด้วยดอกซากุระ หน้าร้อนที่เหมาะกับการเดินเล่น หรือกิจกรรมต่างๆ หรือบรรยากาศของสีสัน และความอบอุ่นของฤดูกาลใบไม้ร่วง ก็ให้ภาพงดงามอีกเช่นกัน

ชมความงามของซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมี.ค. – ต้นเม.ย.)

หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิที่สวน Kajo Park นั้น ต้องบอกว่ามีความสวยงามโดดเด่น ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายกำลังดี มีแสดแดดอุ่นๆ คอยสร้างบรรยากาศ นี่คือช่วงเวลาที่สวนแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยกลีบดอกซากุระสีชมพูอ่อนๆ แผ่กิ่งก้านสร้างอุโมงค์กลีบดอกไม้ที่สวยงาม เป็นฤดูกาลที่เหมาะกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นชิลๆ ภายในสวน หรือจัดปาร์ตี้ปิกนิกเล็กๆ กับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนฝูง

ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง

อีก 1 ฤดูกาลที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว กับฤดูใบไม้ร่วงอันสุดแสนโรแมนติก ซึ่งที่สวน Kajo Park นั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้นไม้ใบไม้น้อยใหญ่ ทยอยกันไล่เฉดสี เปลี่ยนสีสันจากสีเขียวสดเป็นเฉดสีแดง เหลือง และสีส้ม ย้อมบรรยากาศของสวนให้ดูอบอุ่น แะบนลานสนามหญ้าใจกลางสวน ก็จะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่ดูคล้ายพรมสีส้มขนาดใหญ่ ยิ่งรวมกับความเก่าแก่ของกำแพงปราสาทเป็นฉากหลัง ทำให้สีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวน Kajo Park ดูสวยงามมีชีวิตชีวาราวกับภาพวาด ที่นักท่องเที่ยวจะต้องประทับใจ

สวน Kajo Park กับบรรยากาศหิมะในฤดูหนาว

แน่นอนว่าสำหรับช่วงฤดูหนาวที่สวน Kajo Park สวนสวยใจกลางเมืองยามากาตะ จะถูกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน พร้อมละอองหิมะที่ร่วงหล่น และเกาะกลุ่มอยู่บนกิ่งไม้ เกิดเป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาดญี่ปุ่นโบราณ และบริเวณซากปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่าน ก็ดูสวยงาม เงียบสงบ ท่ามกลางหิมะในฤดูหนาว

ข้อมูล และวิธีเดินทางไป Kajo Park

สวน Kajo Park นั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1357 และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในปราสาทที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่มีสิ่งสวยงาม สิ่งที่น่าสนใจมากมายทั้งซากปราสาทเก่าแก่ กำแพงและ คูเมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สวนสวยและธรรมชาติที่งดงาม บรรยากาศการนั่งปิคนิกชมซากุระ รวมไปถึงกิจกรรมอย่าง เทคโนโลยี VR/AR จำลองปราสาทยามากาตะในยุคสมัยที่รุ่งเรืองให้ได้ชมกันอีกด้วย

สวน Kajo Park

ที่อยู่1-7 Kajomachi, Yamagata
เวลาทำการทุกวัน 05.00-22.00 น.
ราคาเช็ครายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
Websiteสวน Kajo Park
การเดินทางสถานีปลายทาง*หมายเหตุ
รถไฟลงที่สถานียามากาตะ (Yamagata Station)*ต่อรถบัสสาย Benichan หรือแท็กซี่ ลงที่ป้าย Kajo Koen-mae และเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที 

จุดพักผ่อน ร้านอาหาร และคาเฟ่ใกล้ๆ Kajo Park

ภายในสวน Kajo Park นั้น นอกเหนือจากปราสาท และสวนสวยๆ แล้ว ตามเส้นทางเดินยังเชื่อมต่อกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ทำให้สามารถแวะชมนิทรรศการ หรือถ่ายรูปสวยๆ ได้ระหว่างทาง และยังมีมุมต่างๆ ให้ได้แวะพักแวะชิลกันอีกด้วย เช่น บริเวณริมคูน้ำรอบกำแพงปราสาท หรือสนามหญ้ากว้างๆ ท่ามกลางธรรมชาติและวิวของปราสาทโบราณ นอกจากนี้ ใกล้ๆ กันยังมีร้านอาหารท้องถิ่น และร้านขายของฝากพื้นเมือง รวมถึงคาเฟ่นั่งชิลๆ บรรยากาศสบายๆ ให้ได้เลือกนั่ง เช่น คาเฟ่และร้านหนังสือเล็กๆ บริเวณชั้นบนของพิพิธภัณฑ์ประชาโบราณ (Yamagata City Folk Museum) หรือร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสวน Kajo Park ก็มีให้ได้เลือกกัน

กิจกรรมแนะนำสำหรับครอบครัว ภายในสวน Kajo Park

ต่อกันด้วยกิจกรรมสนุกๆ ที่สร้างความสุขและความผูกพันในครอบครัวภายในสวน Kajo Park  แถมยังเป็นสถานที่ที่สร้างการเรียนรู้ ทั้งด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น เช่น กิจกรรมครอบครัวกับการชมดอกซากุระ โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่จะเบ่งบานพร้อมกันเต็มสวน คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือการชมการจัดไฟสวยๆ ยามค่ำคืนที่ประตู Higashi Otemon ต่อด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ภายในสวน Kajo Park เช่น อาคาร Old Saiseikan หรือโรงพยาบาลตั้งแต่สมัยเมจิ Yamagata Prefectural Museum รวมถึง Yamagata Museum of Art ที่คอยเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

สนามเด็กเล่น และพื้นที่วิ่งเล่นภายในสวน

และด้วยพื้นที่กว้างขวางของทางสวน Kajo Park พร้อมด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายกำลังดี ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดินเล่นชิลๆ และทำกิจกรรมกันเยอะมากๆ รวมทั้งมีพื้นที่สนามเด็กเล่น พื้นที่วิ่งเล่นสำหรับเด็กๆ และเลนสำหรับการปั่นจักรยานช้าๆ ชิลๆ รอบสวน Kajo Park ที่จะลัดเลาะไปตามเส้นทาง และแนวคูเมือง พร้อมวิวสวยๆ ของปราสาทเก่าแก่ และต้นซากุระ และพันธุ์ไม้อีกหลายชนิด ที่เบ่งบานตามฤดูกาล

ศูนย์ประวัติศาสตร์เมืองยามากาตะ (Yamagata City Museum)

อีก 1 สถานที่ใกล้ๆ ที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด กับ ศูนย์ประวัติศาสตร์เมืองยามากาตะ หรือ Yamagata City Museum พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวม ศึกษา และจัดแสดงวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ในยุคเมจิ-เอโดะ กับเรื่องราวการสร้างเมืองเมืองยามากาตะในศตวรรษที่ 16–17  โดยตั้งอยู่บริเวณด้านนอกประตูตะวันออก (Great Eastern Gate) ของปราสาทยามากาตะ กับความสวยงามของอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่ออกแบบเรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยหลังคาโค้ง ผนังกระจกที่ช่วยให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้าสู่ภายในอย่างพอดี โดยภายในแบ่งเป็นโซนการจัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ ที่ขุดค้นขึ้นได้จากคูเมืองปราสาทยามากาตะนั่นเอง เช่น กระเบื้องหลังคารูปปลามิโนะชิ, แผนผังเมืองยามากาในยุคโบราณ หมวกเหล็กและอาวุธ เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง Kajo Park ที่แนะนำ

สำหรับใครที่เดินทางไปชมความสวยงามกันที่สวน Kajo Park กันแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถวางแผนเที่ยวต่อกันได้สะดวกสบาย กับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ที่มีให้เลือกเยี่ยมชมกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเดินชมพิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรมโบราณ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจ

Bunshokan – อาคารรัฐบาลเก่าที่สวยงามสไตล์ยุโรป

สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกที่เราอยากแนะ อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.2 กิโลเมตรเท่านั้น กับ Bunshokan หรืออาคารศาลากลางจังหวัดยามากาตะ หลังเก่านั่นเอง โดยเป็นอาคารที่สร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปยุคเรอเนสซองส์ ใช้หินแกรนิต และอิฐเป็นวัสดุหลัก ตกแต่งด้วยเสาโรมัน และกรอบหน้าต่างโค้งมน ให้ความสวยงามในสไตล์ยุโรป ดูสง่า งดงามเหนือกาลเวลา ให้ความรู้สึกเหมือนพระราชวังยุโรปใจกลางเมือง โดย Bunshokan หรืออาคารศาลากลางหลังเก่า จังหวัดยามากาตะ แห่งนี้ ถูกเลิกใช้งานในปี 1975 และถูกปล่อยทิ้งร้าง ก่อนได้รับการประกาศเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งชาติในปี 1984 และได้รับการบูรณะตกแต่ง จนแล้วเสร็จสิ้นในปี 1995 เพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมฟรีจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

Bunshokan

ที่อยู่3-4-51 Hatagomachi, Yamagata
วิธีเดินทางจากสถานียามากาตะ สามารถขึ้นรถบัส สาย Yamako Bus และลงที่ป้าย Yamagata Shiyakusho-mae
เวลาทำการ9.00-16.30 น. หยุดทุกวันจันทร์
WebsiteBunshokan

ดูแผนที่ Bunshokan

Yamagata Museum of Art

ชวนนักท่องเที่ยวมาเดินชมนิทรรศการศิลปะระดับโลก ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 900 เมตร จากสวน Kajo Park กับ Yamagata Museum of Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะยามากาตะ อีก 1 พิพิธภัณฑ์ที่มีเสน่ห์มาก ด้วยผลงานศิลปะทั้งจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก จากศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อดังระดับโลก เช่น โมนเต์ (Monet), รนัวร์ (Renoir), รูสโซ (Rousseau) และปิแอร์-โบนาร์ (Pierre Bonnard) เป็นต้น รวมถึงมีนิทรรศหมุนเวียนกันตลอดปี ทั้งในแวดวงศิลปะญี่ปุ่น และระดับนานาชาติ

Yamagata Museum of Art

ที่อยู่1-63 Otemachi, Yamagata
วิธีเดินทางจากสถานียามากาตะ สามารถเดินไปยัง Yamagata Museum of Art ได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เวลาทำการ10.00-17.00 น.
WebsiteYamagata Museum of Art

ดูแผนที่ Yamagata Museum of Art

Yamadera Temple

ปิดท้ายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง กับ วัดยะมะเดระ (Yamadera Temple) 1 ในวัดที่มีความสวยงาม มีบรรยากาศเงียบสงบ และมีชื่อเสียงในกลุ่มนักท่องเที่ยว ด้วยความสวยงามของวัด ทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามด้วยตั้งอยู่บนภูเขาสูง กับทางขึ้นบันไดหินกว่า 1,000 ขั้น ที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สวยงามไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใด โดยเฉพาะ Godaido อาคารของทางวัดที่เป็นจุดชมวิวหลัก ตั้งโดดเด่นอยู่ริมหน้าผา กับโครงสร้างไม้เก่าแก่ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ กระจายตัวอยู่ตามไหล่เขากลมกลืนไปกับธรรมชาติ ให้ภาพที่สวยงาม และบรรยากาศที่เงียบสงบ

Yamadera Temple

ที่อยู่4456-1 Yamadera, Yamagata
วิธีเดินทางจากสถานี Yamadera สามารถเดินไปยังวัดได้ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
เวลาทำการทุกวัน 8.00-16.00 น.
WebsiteYamadera Temple

ดูแผนที่ Yamadera Temple

สรุป

สำหรับการมาเที่ยวกันที่สวน Kajo Park จังหวัดยามากาตะ นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ที่ครบครัน ทั้งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้งปี ซึ่งไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ก็มีเสน่ห์น่าไปเยี่ยมชม ทั้งดอกซากุระบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศสุดโรแมนติกของใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง หรือความสวยงามที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ก็งดงามไม่ต่างกัน

Contents Index
  1. 1 ทำความรู้จัก สวนสาธารณะ Kajo Park
  2. 2 ประวัติความเป็นมาของ Kajo Park และปราสาทยามากาตะ
    1. 2.1 การเปลี่ยนผ่านสู่สวนสาธารณะในยุคปัจจุบัน
  3. 3 ไฮไลท์กิจกรรมใน Kajo Park ที่ไม่ควรพลาด
    1. 3.1 เดินชิลๆ ชมซากกำแพง และคูน้ำโบราณ
    2. 3.2 นั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ ที่ สวน Kajo Park
    3. 3.3 ปั่นจักรยาน และเดินเล่นในสวนอันร่มรื่น
  4. 4 ชมซากุระที่ Kajo Park จุดถ่ายรูปสวยในฤดูใบไม้ผลิ
    1. 4.1 แนะนำมุมถ่ายรูปสวยๆ บริเวณริมคูน้ำโบราณ
    2. 4.2 อลังการกับแสงไฟ ที่ประดับประดาช่วงเทศกาล Hanami
  5. 5 เที่ยว Kajo Park ฤดูไหนดีที่สุด?
    1. 5.1 ชมความงามของซากุระ ในฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมี.ค. – ต้นเม.ย.)
    2. 5.2 ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง
    3. 5.3 สวน Kajo Park กับบรรยากาศหิมะในฤดูหนาว
  6. 6 ข้อมูล และวิธีเดินทางไป Kajo Park
  7. 7 จุดพักผ่อน ร้านอาหาร และคาเฟ่ใกล้ๆ Kajo Park
  8. 8 กิจกรรมแนะนำสำหรับครอบครัว ภายในสวน Kajo Park
    1. 8.1 สนามเด็กเล่น และพื้นที่วิ่งเล่นภายในสวน
    2. 8.2 ศูนย์ประวัติศาสตร์เมืองยามากาตะ (Yamagata City Museum)
  9. 9 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง Kajo Park ที่แนะนำ
    1. 9.1 Bunshokan – อาคารรัฐบาลเก่าที่สวยงามสไตล์ยุโรป
    2. 9.2 Yamagata Museum of Art
    3. 9.3 Yamadera Temple
  10. 10 สรุป
Kintetsu Line LP R3
Mmtb

Blogger : Mmtb

หนุ่มใต้ เคราดก หลงรักตัวอักษรไทย กับจักรยาน เมาท์เท่น ไบค์ วินเทจ

64 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • ถ้า Chill Chill Japan จะเปิดเพจอนิเมะ... ทุกคนคิดว่าเพจนี้ควรใช้ชื่อว่าอะไรดี? ช่วยกันโหวตหน่อยน้า~

    View Results

    Loading ... Loading ...
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x