คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
5%
17%
10%

| สถานที่ | จุดเด่น / ช่วงเวลาที่เหมาะ | วิธีเดินทาง |
|---|---|---|
| หุบเขานารูโกะ(Naruko Gorge – 鳴子峡) | จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันดับ 1 ของโทโฮคุ ชมหุบเขาลึกเปลี่ยนที่ย้อมไปด้วยใบไม้สีแดง เหลืองทองสุดอลังการจุดถ่ายรูปยอดนิยม: สะพานโอฟุคาซาวะ (Ofukazawa Bridge)ช่วงพีค: ปลายตุลาคม | จากสถานี Sendai นั่ง JR Shinkansen ไป Furukawa → ต่อ JR Rikuu-tō Line ไป Naruko Onsen Station (ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม. 10 นาที – 2 ชั่วโมง 20 นาที ) → ต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังจุดชมวิว (มีรถบัสพิเศษเฉพาะฤดู)※ บางเส้นทางอาจปิด ควรเช็กข้อมูลอัปเดต |
| อ่าวมัตสึชิมะ(Matsushima Bay – 松島) | หนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ชมเกาะเล็กนับร้อยล้อมรอบอ่าว ใบไม้แดงตัดกับต้นสนสีเขียว วัดเอนซืออิน (Entsuin Temple – 円通院) ที่มี Light-up ยามค่ำคืนในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาที่นี่: ปลายต.ค.–กลางพ.ย. | จากสถานี Sendai นั่ง JR Senseki Line ไป Matsushima-Kaigan Station (40 นาที) |
| น้ำตกอากิอุ(Akiu Otaki – 秋保大滝) | น้ำตกยักษ์ที่สูงถึง 55 เมตร และติดอันดับ 1 ใน 3 น้ำตกของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ล้อมรอบด้วยป่าใบไม้เปลี่ยนสี อยู่ในเขตออนเซ็นอากิอุ (Akiu Onsen) แช่ออนเซ็นพลางชมวิวธรรมชาติ ฟินน์สุดๆ | จากสถานี Sendai นั่งรถบัสจากป้ายหมายเลข 8 ลงป้าย Akiu Otaki (ใช้เวลาประมาณประมาณ 80 นาที) รถบัสจะมีเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือจากสถานีเซนไดนั่งรถไฟไปลงสถานี Ayashi ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้งนั่งรถบัสจากป้ายหมายเลข 2 ลงป้าย Akiu Otaki ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ) |
| ถนนโจเซ็นจิโดริ(Jozenji-dori Avenue – 定禅寺通) | Detail 02ถนนต้นไม้สัญลักษณ์ของเมือง ความยาวกว่า 700 เมตร เรียงรายด้วยต้น Zelkova สีเหลืองทอง เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และจิบกาแฟในคาเฟ่ใกล้ ๆและช็อปปิ้ง ช่วงเวลา: ปลายต.ค.–กลางพ.ย. | นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Kotodai-Koen (Sendai Subway Namboku Line) แล้วเดินอีกประมาณ 1 นาทีหรือเดินจากสถานี Sendai ผ่านถนนช็อปปิ้ง Clis Road ( ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ) |
| วัดรินโนจิ(Rinnoji Temple – 輪王寺) | วัดเก่าแก่ซึ่งจะเรียกว่าเป็นวัดประจำตระกูลดาเตะ ( Date ) ก็ไม่ผิดนักที่นี่มีสวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) สวยที่สุดในเซนได ไฮไลท์: ภาพสะท้อนใบไม้แดงบนสระน้ำกลางสวน แนะนำมาช่วงเช้า 8–9 โมง หรือบ่ายแก่ ๆ เพื่อแสงถ่ายรูปสวย | นั่งรถไฟจากสถานี Sendai มาลงสถานี Kita – sendai แล้วเดินอีก 20 นาที |
| สวนซากปราสาทเซนได(Aobayama Park / Sendai Castle Ruin – 仙台城跡) | จุดชมวิวเมืองเซนไดแบบพาโนรามาในโอบล้อมของใบไม้สีส้มแดง ถ่ายรูปคู่รูปปั้นมังกรตาเดียว “ดาเตะ มาซามูเนะ” (Date Masamune) ซามูไรในตำนาน เหมาะช่วง: ต้น–กลางพ.ย. | ขึ้นรถบัสท่องเที่ยว Loople Sendai ลงป้าย Site Of Sendai Castle |
| ซุยโฮเดน ( Zuihoden Mausoleum – 瑞鳳殿 ) | งแม้ว่าที่นี่จะเป็นสุสานแต่ก็ไม่ใช่สถานที่น่ากลัวแต่อย่างใด แถมเป็นไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และงานศิลปะสุดน่าทึ่ง ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงเวลากลางคืนของเดือนพฤศจิกายนประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ประดับไฟที่สวยงามท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี | นั่งรถ Loople Sendai มาลงป้าย Zuihoden mausoleum |

ถ้าจะถามว่าที่ไหนคือ MVP แห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในโทโฮคุ คำตอบนั้นก็ต้องยกให้หุบเขานารูโกะแบบคะแนนเป็นเอกฉันท์ หุบเขาลึกที่ถูกห้องล้อมไปด้วยธรรมชาติ จนบริเวณนั้นแทบเหมือนกับถูกย้อมด้วยใบไม้สีแดง เหลือง และส้ม
จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือ สะพานโอฟุคาซาวะ (Ofukazawa Bridge) ที่สามารถมองเห็นความงามของหุบเขาได้แบบ 180 องศา ภาพที่ได้ออกมาสวยจนแทบไม่ต้องแต่งรูป ช่วงพีคจะอยู่ที่ ปลายเดือนตุลาคม ดังนั้นใครที่วางแผนไปช่วงนี้ ควรจองที่พักล่วงหน้าเพราะคนจะเยอะกว่าปกติ
เคล็ดลับ: มีรถบัสพิเศษวิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่บางเส้นทางอาจปิดเนื่องจากสภาพอากาศ แนะนำให้เช็กข้อมูลอัปเดตล่าสุดจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองก่อนออกเดินทาง
เว็บไซส์ https://www.city.osaki.miyagi.jp/shisei/soshikikarasagasu/narukosogoushisho/chiikishinkoka/10/1/3086.html

ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น (Nihon Sankei) และเมื่อใบไม้เปลี่ยนสีมาเยือน ความสวยงามก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความงามบริเวณอ่าวที่ล้อมรอบด้วยต้นสนสีเขียวสดตัดกับใบไม้แดงเหลือง สร้างภาพที่สมดุลและสงบงามเหมือนภาพวาดสีน้ำญี่ปุ่น
ไฮไลท์สำคัญคือ วัดเอนซืออิน (Entsuin Temple – 円通院) ที่มีการจัดแสดง Light-up ยามค่ำคืนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งสวยราวกับภาพเขียน (ปลายตุลาคม–กลางพฤศจิกายน) บรรยากาศยามพลบค่ำที่ไฟส่องสว่างต้นไม้สีแดงในสวน สวยจนต้องกดชัตเตอร์กล้องไม่หยุด
นอกจากนี้ยังมีเรือท่องเที่ยวรอบอ่าวที่พาชมเกาะต่าง ๆ ที่มีรูปร่างแปลกๆและหาดูจากที่ไหนไม่ได้ เหมาะสำหรับใครที่อยากเห็นความสวยงามแบบเต็มตา

น้ำตกขนาดใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของน้ำตกของญี่ปุ่น ด้วยความสูงประมาณ 55 เมตร เสียงน้ำตกดังก้องสะท้อนท่ามกลางป่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ล้อมรอบ บรรยากาศเงียบสงบแต่ทรงพลัง เป็นจุดที่เหมาะสำหรับหยุดพักจากความวุ่นวายในเมือง
ที่พิเศษกว่านั้นคือ น้ำตกอากิอุอยู่ในเขต Akiu Onsen หนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของภูมิภาค ดังนั้นหลังจากชมความงามของน้ำตกแล้ว ก็สามารถแวะแช่ออนเซ็นผ่อนคลายกล้ามเนื้อพร้อมวิวธรรมชาติได้ในทริปเดียว
เคล็ดลับ: ถ้ามีเวลา แนะนำให้พักค้างคืนที่เรียวกังในเขตนี้ เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่ยังเงียบสงบ และลิ้มรสอาหาร Kaiseki Course แบบดั้งเดิม

ถนนสายนี้คือสัญลักษณ์แห่งความเป็นเมืองแห่งต้นไม้ของเซนได ความยาวกว่า 700 เมตร ทั้งสองข้างทางเรียงรายด้วยต้น Zelkova (ต้นไม้จำพวกต้นกันเกรา) ที่พอถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบจะกลายเป็นสีเหลืองทองสดใส
เดินเล่นไปตามถนนสายนี้ในช่วง ปลายตุลาคม–กลางพฤศจิกายน แล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศโรแมนซ์ติกท่ามกลางสีเหลืองทองสดใสของใบไม้ต้นสน 2 ข้างทาง ซึ่งใกล้กับที่นี่ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารเก๋ ๆ ให้แวะเข้าไปนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ พร้อมชมวิวใบไม้จากหน้าต่าง
ที่นี่เป็นจุดที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในตัวเมือง เหมาะสำหรับใครที่ไม่มีเวลามากนักแต่อยากสัมผัสบรรยากาศฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแบบผ่อนคลาย

วัดเก่าแก่ที่มีสวนญี่ปุ่นที่สวยที่สุดในเซนได ไม่ต้องไปไกลถึงเกียวโต เพราะที่นี่ก็มีให้ชม ไฮไลท์สำคัญคือภาพสะท้อนของเจดีย์และห้องชงชาที่ห้อมล้อมไปด้วยใบไม้สีแดงบนผิวน้ำสระกลางสวนที่สวยงามจนต้องตกตะลึงในความงาม
เคล็ดลับสำหรับช่างภาพ: มาในช่วงเช้า 8–9 โมง หรือบ่ายแก่ ๆ จะได้แสงอ่อน ๆ ที่ทำให้สีของใบไม้ดูนุ่มนวลและสะท้อนน้ำได้สวยที่สุด หลีกเลี่ยงช่วงเที่ยงที่แสงแรงเกินไป
บรรยากาศโดยรอบวัดเงียบสงบ เหมาะกับการนั่งสมาธิหรือแค่ปล่อยใจไปกับการมองธรรมชาติ เป็นจุดที่ห่างจากความวุ่นวายของเมืองเพียงแค่ 10 นาที

จุดชมวิวเมืองเซนไดแบบพาโนรามาที่โอบล้อมด้วยใบไม้สีส้มแดง แม้ปราสาทจะเหลือแค่ซาก แต่บรรยากาศของที่นี่ยังคงความยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ โดยเฉพาะรูปปั้นของท่านมังกรตาเดียว ดาเตะ มาซามูเนะ (Date Masamune) ซามูไรในตำนานผู้ก่อตั้งเซนได ที่ยืนตระหง่านมองเมืองอย่างภาคภูมิ
ช่วง ต้น–กลางพฤศจิกายน ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีจะเข้ากับวิวเมืองได้อย่างลงตัว เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากได้ภาพแนวประวัติศาสตร์ผสมธรรมชาติเคล็ดลับ: ขึ้นรถบัส Loople Sendai (รถบัสท่องเที่ยวเที่ยวรอบเมือง) จะสะดวกสบายและแวะหลายจุดท่องเที่ยวในเมืองได้ในคันเดียว ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกมาก

ถึงแม้ที่นี่จะเป็นสุสาน แต่ก็ไม่ใช่สถานที่น่ากลัวแต่อย่างใด ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้นก็มีการประดับประดาไฟในช่วงกลางคืนในระยะเวลา 2 อาทิตย์ ควบคู่กับใบไม้เปลี่ยนสึ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ต้องไปสัมผัสให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต
เคล็ดลับ: สามารถนั่งรถ Loople Sendai เที่ยวได้ทั้ง Zuihoden และ ปราสาท Aoba

เช้า: เริ่มต้นที่ซุยโฮเดน Zuihoden ชมใบไม้เปลี่ยนสีในยามเช้า จากนั้นไป สวนซากปราสาทเซนได (Aobayama Park) ชมวิวเมืองและถ่ายรูปกับรูปปั้นดาเตะ มาซามูเนะท่ามกลางใบไม้สีทอง
จากนั้น เดินไปยัง International Center Station แล้วนั่งรถไฟใต้ดินไปลงมุ่งหน้าไปยังสถานี Kita – Sendai แล้เดินไปยัง วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) สัมผัสความสงบและชมภาพสะท้อนใบไม้แดงบนสระน้ำที่สวยราวกับภาพวาด
บ่าย: กลับมาขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Kita- Sendai แล้วนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kotodaikoen แล้วเดินเล่นตามถนน Jozenji-dori Avenue ชมต้นไม้สีเหลืองทองตลอดสายทาง แวะคาเฟ่จิบกาแฟ แล้วช้อปปิ้งของฝากในถนนช็อปปิ้ง Clisroad
เย็น ( ประมาณ 3 – 4 โมงเย็น ): เดินทางไปแช่ออนเซ็นที่ Akiu Onsen พร้อมทานอาหารมื้อค่ำแบบญี่ปุ่นต้นตำรับ ก่อนกลับเข้าเมือง หรืออีก 1 ทางเลือกก็คือกลับไปที่ Zuihoden อีกครั้งเพื่อชมความงามของการประดับประดาไฟในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
วันที่ 1:
วันที่ 2:
บัตรนี้ครอบคลุมเกือบทุกเส้นทางหลัก รวมถึงชินคันเซ็นจากโตเกียวไปเซนได (ใช้เวลาเพียง 1ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น ) และรถไฟท้องถิ่นในเขตโทโฮคุ คุ้มค่ามากสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเที่ยวหลายจุด

🏙️ สะดวกสบาย (ในเมือง)
ที่พักในเมืองเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย ช้อปปิ้งง่าย และเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ ได้รวดเร็ว
🌿 วิวสวย (ออนเซ็น)
ลิ้นวัวย่าง (Gyūtan – 牛タン)
เมนูขึ้นชื่อสุด ๆ ของเซนได ลิ้นวัวหั่นหนา ย่างด้วยเตาถ่านจนหอมกรุ่น เนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ทานคู่กับข้าวร้อน ๆ ซุปหางวัว และผักดอง ต้องลอง! ร้านที่แนะนำคือ Date no gyutan honpo
ถั่วแระกวนญี่ปุ่น (Zunda – ずんだ)
ของหวานประจำถิ่นที่ทำจากถั่วแระ (edamame) บดละเอียดผสมน้ำตาล รสชาติหวานมัน หอมกลิ่นถั่ว แปลกแต่อร่อยน่าลอง ร้านที่แนะนำคือ ร้าน Zunda Saryo
สับปะรดทะเล ( Hoya – ホヤ )
สับปะรดทะเลนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบโทโฮคุ ( Tohoku ) ซึ่งมักจะถูกนำมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะการรับประทานสดๆแบบ ซาชิมิ
อาหารทะเลสดใหม่จากอ่าวมัตสึชิมะ
เมื่อไปถึงมัตสึชิมะ อย่าพลาดอาหารทะเลสด ๆ โดยเฉพาะหอยนางรม (Kaki – 牡蠣) ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เนื้อหอยอวบอิ่ม หวานมัน สดใหม่ตรงจากทะเล โดยเฉพาะหอยนางรมย่าง
📸 เคล็ดลับเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีอย่างมือโปร

อุณหภูมิในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคโทโฮคุ ( Tohoku ) อยู่ที่ 5°C – 15°C ซึ่งจะเย็นกว่าภูมิภาคคันโตหรือโตเกียวพอสมควร ดังนั้นควรเตรียม:
นี่คือสิ่งที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี นั่นก็คือการดูพยากรของใบไม้เปลี่ยน ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีนั้นไม่ได้สวยพร้อมกันทุกจุด ขึ้นอยู่กับความสูงและสภาพอากาศ ส่วนใหญ่จะค่อยๆเปลี่ยนสีตั้งแต่เหนือ แล้วค่อยๆลงไปทางใต้ แนะนำให้ดูอัปเดตล่าสุดผ่าน:
สถานที่นอกเมืองอย่างนารูโกะหรืออากิอุ อาจต้องใช้รถบัสท้องถิ่น ซึ่งอาจมีตารางจำกัด โดยเฉพาะในวันหยุด แนะนำให้:
แต่ละจุดมีช่วงเวลาที่สวยต่างกัน:

เซนไดคืออัญมณีแห่งโทโฮคุที่รวมธรรมชาติ เมือง และออนเซ็นไว้ในหนึ่งเดียว ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังมาพร้อมบรรยากาศที่สงบเงียบ ไม่แออัด และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้หลงรัก
นี่คือช่วงเวลาที่ธรรมชาติแต่งแต้มเมืองด้วยสีทองแห่งความทรงจำ ที่จะคงอยู่ในใจไปอีกนาน แค่จองตั๋วชินคันเซ็นจากโตเกียว ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที แล้วมุ่งหน้าสู่เมืองแห่งต้นไม้ เพื่อสัมผัสความงามเหนือระดับนี้ด้วยตาตัวเอง
เตรียมกล้อง เตรียมใจ แล้วออกเดินทางไปพิสูจน์ว่าความสวยงามของเซนไดไม่แพ้เกียวโต และอาจจะประทับใจมากกว่าด้วยซ้ำ 🍂

Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
110 Posts
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515