ระงับ ฟรีวีซ่าญี่ปุ่น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ประกาศมาตรการเข้าเมืองสำหรับประชาชนชาวไทย ระงับ ฟรีวีซ่าญี่ปุ่น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 28 มีนาคม 2563
“ญี่ปุ่นจะระงับการยกเว้นวีซ่าเข้าญี่ปุ่น 15 วันสำหรับคนไทยเป็นการชั่วคราว รวมไปถึงยกเลิกวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตสถานกงสุลใหญ่ของญี่ปุ่นในต่างประเทศ ได้ออกให้ก่อนวันที่ 28 มี.ค. 2563 โดยผู้ที่มีวีซ่าประเภทเข้าได้หลายครั้ง และมีเอกสาร Re-Entry จะได้รับการยกเว้นให้สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้”
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปญี่ปุ่นจำเป็นต้องทำเรื่องขอวีซ่าพร้อมเอกสารรับรองว่าร่างกายแข็งแรงไม่ได้ไปในสถานที่เสี่ยงในเวลาที่กำหนด
ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไทยต้องกักตัว 14 วันเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น รวมถึงอีก 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน เวียดนาม และมาเลเซีย) ให้กักตัว 14 วันและหลีกเลี่ยงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งแต่เวลา 0.00 น. ของวันที่ 28 มีนาคม 2563 (ตามเวลาญี่ปุ่น) จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 นั้น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ขอเตือนชาวไทยที่มีถิ่นพำนักในจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่นที่วางแผนจะลงเครื่องบินที่สนามบินหลัก (อาทิ ฮาเนดะ และนาริตะ) แล้วใช้ระบบขนส่งสาธารณะ อาทิ สายการบินในประเทศ หรือโดยสารรถไฟ/ชินคันเซ็น/รถบัส เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ว่า ท่านจะต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน ให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะเดินทางต่อไปยังจุดหมายได้ โดยจากสนามบินไปยังสถานที่กักกันตัวนั้นจะต้องไม่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทุกชนิด (รวมถึงรถแท็กซี่ และรถไฟใต้ดิน)
ข้อแนะนำจากสถานทูตกว่าวว่า หากไม่มีความจำเป็น โปรดเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงนี้ ขอให้สำรองที่พักใกล้สนามบินเพื่อใช้กักตัว และจัดรถยนต์ส่วนบุคคล/เช่ารถยนต์จากสนามบินไปยังจุดกักตัวให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงแรมที่พักใกล้สนามบินทั้งฮาเนดะและนาริตะค่อนข้างเต็มแล้ว อีกทั้ง รถเช่าและโรงแรมอาจขอให้ท่านแสดงใบรับรองแพทย์ก่อนการขึ้นรถและเข้าพักเพื่อมิให้เกิดปัญหาในการเดินทางขอให้ตรวจสอบกับโรงแรมที่ท่านสำรองที่พัก และบริษัทเช่ารถด้วย
สำหรับข้อมูลการขอวีซ่าสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
การขอวีซ่าญี่ปุ่น
ข้อสรุป
ทางชิลชิลเจแปนขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน สำหรับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ครั้งนี้เราจะมาอัพเดทกันเรื่อยๆ