ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เซนได (Sendai) เมืองแห่งต้นไม้แห่งโทโฮคุ สัมผัสความงามเหนือระดับ !!!!

05/11/2025
ถ้าพูดถึงใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงเกียวโตเป็นอันดับแรก แต่ถ้าอยากหนีความแออัด แล้วยังได้ความสวยงามที่ไม่แพ้กัน ลองมองไปทางภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) สักหน่อย เพราะที่นี่มี เซนได (仙台市 - Sendai) เมืองศูนย์กลางที่ได้ชื่อว่า "Mori no Miyako" (杜の都) หรือ "เมืองแห่งต้นไม้" รอต้อนรับด้วยทัศนียภาพสีทองแดงสุดตระการตา
เซนไดไม่ใช่แค่เมืองใหญ่ที่มีความเจริญเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำรวจธรรมชาติอันงดงามของจังหวัดมิยางิ ทั้งหุบเขาลึก น้ำตก ออนเซ็น และอ่าวมัตสึชิมะที่ติดอันดับหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในเซ็นได ( Sendai ) นั้นจะเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม บนยอดเขาสูงอย่างนารูโกะและซาโอะ ค่อย ๆ แผ่ลงมาจนถึง ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ในตัวเมืองและมัตสึชิมะ ช่วงเวลาที่ธรรมชาติแต่งแต้มภาพวาดสีสันอันน่าทึ่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

จุดเด่นที่สำคัญคือ ที่นี่สวยไม่แพ้เกียวโต แต่คนน้อยกว่ามาก เดินทางสะดวกจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็นเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที เท่านั้น เหมาะสำหรับใครที่อยากสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม โดยไม่ต้องแย่งเบียดใครถ่ายรูป
Link to Meiji RakuRaku cube LP
Link to Meiji Step RakuRaku Cube LP
Contents Index
  1. 1 🍁 7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการในเซนได ( Sendai )และจังหวัดมิยางิ ( Miyagi )
    1. 1.1 หุบเขานารูโกะ (Naruko Gorge – 鳴子峡)
    2. 1.2 อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay – 松島)
    3. 1.3 น้ำตกอากิอุ (Akiu Otaki – 秋保大滝)
    4. 1.4 ถนนโจเซ็นจิโดริ (Jozenji-dori Avenue – 定禅寺通)
    5. 1.5 วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple – 輪王寺)
    6. 1.6 สวนซากปราสาทเซนได (Aobayama Park / Sendai Castle Ruin – 仙台城跡)
    7. 1.7 ซุยโฮเดน ( Zuihoden Mausoleum – 瑞鳳殿 )
  2. 2 🗺️ เส้นทางเที่ยวแนะนำ (Trip Itinerary)
    1. 2.1 ทริป 1 วัน (เที่ยวในเมือง – เหมาะกับคนเวลาจำกัด)
    2. 2.2 ทริป 2 วัน(เน้นธรรมชาติ – เหมาะกับคนอยากชมความงามเต็มอิ่ม)
    3. 2.3 💡 แนะนำ: ใช้บัตร JR East Pass (Tohoku Area)
  3. 3 🏡 ที่พักและอาหารท้องถิ่นไม่ควรพลาด
    1. 3.1 ที่พัก
    2. 3.2 อาหารท่องถิ่น
    3. 3.3 🌡️ เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม
    4. 3.4 📱 เช็กพยากรณ์ใบไม้
    5. 3.5 🚌 การเดินทางนอกเมือง
    6. 3.6 📷 ช่วงเวลาที่ถ่ายรูปได้สวย
  4. 4 สรุป

🍁 7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการในเซนได ( Sendai )และจังหวัดมิยางิ ( Miyagi )

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/best-places-for-autumn-foliage-in-sendai-and-miyagi/
สถานที่จุดเด่น / ช่วงเวลาที่เหมาะวิธีเดินทาง
หุบเขานารูโกะ(Naruko Gorge – 鳴子峡)จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันดับ 1 ของโทโฮคุ ชมหุบเขาลึกเปลี่ยนที่ย้อมไปด้วยใบไม้สีแดง เหลืองทองสุดอลังการจุดถ่ายรูปยอดนิยม: สะพานโอฟุคาซาวะ (Ofukazawa Bridge)ช่วงพีค: ปลายตุลาคมจากสถานี Sendai นั่ง JR Shinkansen ไป Furukawa → ต่อ JR Rikuu-tō Line ไป Naruko Onsen Station (ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม. 10 นาที – 2 ชั่วโมง 20 นาที ) → ต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังจุดชมวิว (มีรถบัสพิเศษเฉพาะฤดู)※ บางเส้นทางอาจปิด ควรเช็กข้อมูลอัปเดต
อ่าวมัตสึชิมะ(Matsushima Bay – 松島)หนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ชมเกาะเล็กนับร้อยล้อมรอบอ่าว ใบไม้แดงตัดกับต้นสนสีเขียว วัดเอนซืออิน (Entsuin Temple – 円通院) ที่มี Light-up ยามค่ำคืนในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาที่นี่: ปลายต.ค.–กลางพ.ย.จากสถานี Sendai นั่ง JR Senseki Line ไป Matsushima-Kaigan Station (40 นาที)
น้ำตกอากิอุ(Akiu Otaki – 秋保大滝)น้ำตกยักษ์ที่สูงถึง 55 เมตร และติดอันดับ 1 ใน 3 น้ำตกของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ล้อมรอบด้วยป่าใบไม้เปลี่ยนสี อยู่ในเขตออนเซ็นอากิอุ (Akiu Onsen) แช่ออนเซ็นพลางชมวิวธรรมชาติ ฟินน์สุดๆจากสถานี Sendai นั่งรถบัสจากป้ายหมายเลข 8 ลงป้าย Akiu Otaki (ใช้เวลาประมาณประมาณ 80 นาที) รถบัสจะมีเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือจากสถานีเซนไดนั่งรถไฟไปลงสถานี Ayashi ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้งนั่งรถบัสจากป้ายหมายเลข 2 ลงป้าย Akiu Otaki ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที )
ถนนโจเซ็นจิโดริ(Jozenji-dori Avenue – 定禅寺通)Detail 02ถนนต้นไม้สัญลักษณ์ของเมือง ความยาวกว่า 700 เมตร เรียงรายด้วยต้น Zelkova สีเหลืองทอง เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และจิบกาแฟในคาเฟ่ใกล้ ๆและช็อปปิ้ง ช่วงเวลา: ปลายต.ค.–กลางพ.ย.นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Kotodai-Koen (Sendai Subway Namboku Line) แล้วเดินอีกประมาณ 1 นาทีหรือเดินจากสถานี Sendai ผ่านถนนช็อปปิ้ง Clis Road ( ใช้เวลาประมาณ 15 นาที )
วัดรินโนจิ(Rinnoji Temple – 輪王寺)วัดเก่าแก่ซึ่งจะเรียกว่าเป็นวัดประจำตระกูลดาเตะ ( Date ) ก็ไม่ผิดนักที่นี่มีสวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) สวยที่สุดในเซนได ไฮไลท์: ภาพสะท้อนใบไม้แดงบนสระน้ำกลางสวน แนะนำมาช่วงเช้า 8–9 โมง หรือบ่ายแก่ ๆ เพื่อแสงถ่ายรูปสวยนั่งรถไฟจากสถานี Sendai มาลงสถานี Kita – sendai แล้วเดินอีก 20  นาที
สวนซากปราสาทเซนได(Aobayama Park / Sendai Castle Ruin – 仙台城跡)จุดชมวิวเมืองเซนไดแบบพาโนรามาในโอบล้อมของใบไม้สีส้มแดง ถ่ายรูปคู่รูปปั้นมังกรตาเดียว “ดาเตะ มาซามูเนะ” (Date Masamune) ซามูไรในตำนาน เหมาะช่วง: ต้น–กลางพ.ย.ขึ้นรถบัสท่องเที่ยว Loople Sendai ลงป้าย Site Of Sendai Castle
ซุยโฮเดน ( Zuihoden Mausoleum  – 瑞鳳殿 )งแม้ว่าที่นี่จะเป็นสุสานแต่ก็ไม่ใช่สถานที่น่ากลัวแต่อย่างใด แถมเป็นไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และงานศิลปะสุดน่าทึ่ง ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงเวลากลางคืนของเดือนพฤศจิกายนประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ประดับไฟที่สวยงามท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีนั่งรถ Loople Sendai มาลงป้าย Zuihoden mausoleum

หุบเขานารูโกะ (Naruko Gorge – 鳴子峡)

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/autumn-foliage/ 

ถ้าจะถามว่าที่ไหนคือ MVP แห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในโทโฮคุ คำตอบนั้นก็ต้องยกให้หุบเขานารูโกะแบบคะแนนเป็นเอกฉันท์ หุบเขาลึกที่ถูกห้องล้อมไปด้วยธรรมชาติ จนบริเวณนั้นแทบเหมือนกับถูกย้อมด้วยใบไม้สีแดง เหลือง และส้ม

จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือ สะพานโอฟุคาซาวะ (Ofukazawa Bridge) ที่สามารถมองเห็นความงามของหุบเขาได้แบบ 180 องศา ภาพที่ได้ออกมาสวยจนแทบไม่ต้องแต่งรูป ช่วงพีคจะอยู่ที่ ปลายเดือนตุลาคม ดังนั้นใครที่วางแผนไปช่วงนี้ ควรจองที่พักล่วงหน้าเพราะคนจะเยอะกว่าปกติ

เคล็ดลับ: มีรถบัสพิเศษวิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่บางเส้นทางอาจปิดเนื่องจากสภาพอากาศ แนะนำให้เช็กข้อมูลอัปเดตล่าสุดจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองก่อนออกเดินทาง

เว็บไซส์ https://www.city.osaki.miyagi.jp/shisei/soshikikarasagasu/narukosogoushisho/chiikishinkoka/10/1/3086.html

อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay – 松島)

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/best-places-for-autumn-foliage-in-sendai-and-miyagi/

ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น (Nihon Sankei) และเมื่อใบไม้เปลี่ยนสีมาเยือน ความสวยงามก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความงามบริเวณอ่าวที่ล้อมรอบด้วยต้นสนสีเขียวสดตัดกับใบไม้แดงเหลือง สร้างภาพที่สมดุลและสงบงามเหมือนภาพวาดสีน้ำญี่ปุ่น

ไฮไลท์สำคัญคือ วัดเอนซืออิน (Entsuin Temple – 円通院) ที่มีการจัดแสดง Light-up ยามค่ำคืนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งสวยราวกับภาพเขียน (ปลายตุลาคม–กลางพฤศจิกายน) บรรยากาศยามพลบค่ำที่ไฟส่องสว่างต้นไม้สีแดงในสวน สวยจนต้องกดชัตเตอร์กล้องไม่หยุด

นอกจากนี้ยังมีเรือท่องเที่ยวรอบอ่าวที่พาชมเกาะต่าง ๆ ที่มีรูปร่างแปลกๆและหาดูจากที่ไหนไม่ได้ เหมาะสำหรับใครที่อยากเห็นความสวยงามแบบเต็มตา

น้ำตกอากิอุ (Akiu Otaki – 秋保大滝)

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/autumn-foliage/

น้ำตกขนาดใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของน้ำตกของญี่ปุ่น ด้วยความสูงประมาณ 55 เมตร เสียงน้ำตกดังก้องสะท้อนท่ามกลางป่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ล้อมรอบ บรรยากาศเงียบสงบแต่ทรงพลัง เป็นจุดที่เหมาะสำหรับหยุดพักจากความวุ่นวายในเมือง

ที่พิเศษกว่านั้นคือ น้ำตกอากิอุอยู่ในเขต Akiu Onsen หนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของภูมิภาค ดังนั้นหลังจากชมความงามของน้ำตกแล้ว ก็สามารถแวะแช่ออนเซ็นผ่อนคลายกล้ามเนื้อพร้อมวิวธรรมชาติได้ในทริปเดียว

เคล็ดลับ: ถ้ามีเวลา แนะนำให้พักค้างคืนที่เรียวกังในเขตนี้ เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่ยังเงียบสงบ และลิ้มรสอาหาร Kaiseki Course แบบดั้งเดิม

ถนนโจเซ็นจิโดริ (Jozenji-dori Avenue – 定禅寺通)

https://th.discoversendai.travel/places/best-places-for-autumn-foliage-in-sendai-and-miyagi/ 

ถนนสายนี้คือสัญลักษณ์แห่งความเป็นเมืองแห่งต้นไม้ของเซนได ความยาวกว่า 700 เมตร ทั้งสองข้างทางเรียงรายด้วยต้น Zelkova (ต้นไม้จำพวกต้นกันเกรา) ที่พอถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบจะกลายเป็นสีเหลืองทองสดใส

เดินเล่นไปตามถนนสายนี้ในช่วง ปลายตุลาคม–กลางพฤศจิกายน แล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศโรแมนซ์ติกท่ามกลางสีเหลืองทองสดใสของใบไม้ต้นสน 2 ข้างทาง ซึ่งใกล้กับที่นี่ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารเก๋ ๆ ให้แวะเข้าไปนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ พร้อมชมวิวใบไม้จากหน้าต่าง

ที่นี่เป็นจุดที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในตัวเมือง เหมาะสำหรับใครที่ไม่มีเวลามากนักแต่อยากสัมผัสบรรยากาศฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแบบผ่อนคลาย

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple – 輪王寺)

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/rinnoji-temple/

วัดเก่าแก่ที่มีสวนญี่ปุ่นที่สวยที่สุดในเซนได ไม่ต้องไปไกลถึงเกียวโต เพราะที่นี่ก็มีให้ชม ไฮไลท์สำคัญคือภาพสะท้อนของเจดีย์และห้องชงชาที่ห้อมล้อมไปด้วยใบไม้สีแดงบนผิวน้ำสระกลางสวนที่สวยงามจนต้องตกตะลึงในความงาม

เคล็ดลับสำหรับช่างภาพ: มาในช่วงเช้า 8–9 โมง หรือบ่ายแก่ ๆ จะได้แสงอ่อน ๆ ที่ทำให้สีของใบไม้ดูนุ่มนวลและสะท้อนน้ำได้สวยที่สุด หลีกเลี่ยงช่วงเที่ยงที่แสงแรงเกินไป

บรรยากาศโดยรอบวัดเงียบสงบ เหมาะกับการนั่งสมาธิหรือแค่ปล่อยใจไปกับการมองธรรมชาติ เป็นจุดที่ห่างจากความวุ่นวายของเมืองเพียงแค่ 10 นาที

สวนซากปราสาทเซนได (Aobayama Park / Sendai Castle Ruin – 仙台城跡)

จุดชมวิวเมืองเซนไดแบบพาโนรามาที่โอบล้อมด้วยใบไม้สีส้มแดง แม้ปราสาทจะเหลือแค่ซาก แต่บรรยากาศของที่นี่ยังคงความยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ โดยเฉพาะรูปปั้นของท่านมังกรตาเดียว ดาเตะ มาซามูเนะ (Date Masamune) ซามูไรในตำนานผู้ก่อตั้งเซนได ที่ยืนตระหง่านมองเมืองอย่างภาคภูมิ

ช่วง ต้น–กลางพฤศจิกายน ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีจะเข้ากับวิวเมืองได้อย่างลงตัว เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากได้ภาพแนวประวัติศาสตร์ผสมธรรมชาติเคล็ดลับ: ขึ้นรถบัส Loople Sendai (รถบัสท่องเที่ยวเที่ยวรอบเมือง) จะสะดวกสบายและแวะหลายจุดท่องเที่ยวในเมืองได้ในคันเดียว ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกมาก

ซุยโฮเดน (  Zuihoden Mausoleum  – 瑞鳳殿 )

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/best-places-for-autumn-foliage-in-sendai-and-miyagi/

ถึงแม้ที่นี่จะเป็นสุสาน แต่ก็ไม่ใช่สถานที่น่ากลัวแต่อย่างใด ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั้นก็มีการประดับประดาไฟในช่วงกลางคืนในระยะเวลา 2 อาทิตย์ ควบคู่กับใบไม้เปลี่ยนสึ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ต้องไปสัมผัสให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต

เคล็ดลับ: สามารถนั่งรถ Loople Sendai เที่ยวได้ทั้ง Zuihoden และ ปราสาท Aoba

🗺️ เส้นทางเที่ยวแนะนำ (Trip Itinerary)

ที่มา https://th.discoversendai.travel/places/best-places-for-autumn-foliage-in-sendai-and-miyagi/

ทริป 1 วัน (เที่ยวในเมือง – เหมาะกับคนเวลาจำกัด)

เช้า: เริ่มต้นที่ซุยโฮเดน Zuihoden ชมใบไม้เปลี่ยนสีในยามเช้า จากนั้นไป สวนซากปราสาทเซนได (Aobayama Park) ชมวิวเมืองและถ่ายรูปกับรูปปั้นดาเตะ มาซามูเนะท่ามกลางใบไม้สีทอง

จากนั้น เดินไปยัง International Center Station แล้วนั่งรถไฟใต้ดินไปลงมุ่งหน้าไปยังสถานี Kita – Sendai แล้เดินไปยัง วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) สัมผัสความสงบและชมภาพสะท้อนใบไม้แดงบนสระน้ำที่สวยราวกับภาพวาด

บ่าย: กลับมาขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Kita- Sendai แล้วนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kotodaikoen แล้วเดินเล่นตามถนน Jozenji-dori Avenue ชมต้นไม้สีเหลืองทองตลอดสายทาง แวะคาเฟ่จิบกาแฟ แล้วช้อปปิ้งของฝากในถนนช็อปปิ้ง Clisroad

เย็น ( ประมาณ 3 – 4 โมงเย็น ): เดินทางไปแช่ออนเซ็นที่ Akiu Onsen พร้อมทานอาหารมื้อค่ำแบบญี่ปุ่นต้นตำรับ ก่อนกลับเข้าเมือง หรืออีก 1 ทางเลือกก็คือกลับไปที่ Zuihoden อีกครั้งเพื่อชมความงามของการประดับประดาไฟในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี


ทริป 2 วัน(เน้นธรรมชาติ – เหมาะกับคนอยากชมความงามเต็มอิ่ม)

วันที่ 1:

  • เช้า – กลางวัน: เริ่มต้นที่สถานีเซนได ( Sendai Station ) แล้วนั่งรถไฟไปยัง หุบเขานารูโกะ (Naruko Gorge) ใช้เวลาชมความงามของหุบเขาและถ่ายรูปที่สะพานโอฟุคาซาวะ
  • บ่าย: หลังจากที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว  เช็กอินที่เรียวกังใน Naruko Onsen พร้อมกับแช่ออนเซนเพื่อผ่อนคลาย พร้อมหาอาหารท้องถิ่นรับประทาน ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี ถือว่าเป็นบรรยากาศการหาจากที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการกลับมาพักในเซนได  ( Sendai ) ก็ได้เช่นกัน (ขึ้นอยู่กับงบและสไตล์การเที่ยว )

วันที่ 2:

  • เช้า: เช็คเอาท์จากเรียวกังที่ Naruko Onsen จากนั้นกลับมาเที่ยวในตัวเมืองเซนไดหรือบางท่านก็พักที่เซนได ( Sendai ) อยู่แล้ว ก็สามารถแวะชมจุดท่องเที่ยวตามใจชอบ (Aobayama, Rinnoji, Jozenji-dori)
  • บ่าย: เดินทางไปยัง อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ล่องเรือชมเกาะ เดินเล่นรอบอ่าว
  • เย็น: ชม Light-up ที่วัดเอนซืออิน (Entsuin Temple) ถ่ายรูปใบไม้แดงส่องแสงไฟสวยงามยามค่ำคืน หรือไปชม Light Up ที่ Zuihoden ก็ได้ด้วยเช่นกัน

💡 แนะนำ: ใช้บัตร JR East Pass (Tohoku Area)

บัตรนี้ครอบคลุมเกือบทุกเส้นทางหลัก รวมถึงชินคันเซ็นจากโตเกียวไปเซนได (ใช้เวลาเพียง 1ชั่วโมงเศษๆเท่านั้น ) และรถไฟท้องถิ่นในเขตโทโฮคุ คุ้มค่ามากสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเที่ยวหลายจุด

🏡 ที่พักและอาหารท้องถิ่นไม่ควรพลาด

ที่มา https://sendaiasaichi.com/product

ที่พัก

🏙️ สะดวกสบาย (ในเมือง)

  • The Westin Sendai – โรงแรมระดับสูง ห้องพักสะอาด สะดวกสบาย อยู่ใกล้สถานี Sendai
  • Hotel Metropolitan Sendai – เชื่อมตรงกับสถานี เดินทางง่าย ใกล้ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร
  • Sendai Washinton Hotel – โรงแรมราคาไม่แพง สะอาด ใกล้สถานีและร้านสะดวกซื้อ

ที่พักในเมืองเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย ช้อปปิ้งง่าย และเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ ได้รวดเร็ว

🌿 วิวสวย (ออนเซ็น)

  • Akiu Onsen – เขตออนเซ็นที่มีเรียวกังหลายแห่ง เหมาะกับผู้ที่อยากแช่น้ำร้อนพร้อมชมวิวภูเขาและใบไม้เปลี่ยนสี
  • Naruko Onsen – อยู่ใกล้หุบเขานารูโกะ ตื่นมาเช้าก็สามารถชมความงามของธรรมชาติได้ทันที พร้อมลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแบบ Kaiseki Course หรูหราและประณีต

อาหารท่องถิ่น

ลิ้นวัวย่าง (Gyūtan – 牛タン)

เมนูขึ้นชื่อสุด ๆ ของเซนได ลิ้นวัวหั่นหนา ย่างด้วยเตาถ่านจนหอมกรุ่น เนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ทานคู่กับข้าวร้อน ๆ ซุปหางวัว และผักดอง ต้องลอง! ร้านที่แนะนำคือ Date no gyutan honpo

ถั่วแระกวนญี่ปุ่น (Zunda – ずんだ)

ของหวานประจำถิ่นที่ทำจากถั่วแระ (edamame) บดละเอียดผสมน้ำตาล รสชาติหวานมัน หอมกลิ่นถั่ว แปลกแต่อร่อยน่าลอง ร้านที่แนะนำคือ ร้าน Zunda Saryo 

สับปะรดทะเล ( Hoya – ホヤ )

 สับปะรดทะเลนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบโทโฮคุ ( Tohoku ) ซึ่งมักจะถูกนำมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะการรับประทานสดๆแบบ ซาชิมิ

อาหารทะเลสดใหม่จากอ่าวมัตสึชิมะ

เมื่อไปถึงมัตสึชิมะ อย่าพลาดอาหารทะเลสด ๆ โดยเฉพาะหอยนางรม (Kaki – 牡蠣) ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เนื้อหอยอวบอิ่ม หวานมัน สดใหม่ตรงจากทะเล โดยเฉพาะหอยนางรมย่าง

📸 เคล็ดลับเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีอย่างมือโปร

ที่มา https://visitmiyagi.com/events_festivals/matsushima-fall-light-up/

🌡️ เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม

อุณหภูมิในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคโทโฮคุ ( Tohoku ) อยู่ที่ 5°C – 15°C ซึ่งจะเย็นกว่าภูมิภาคคันโตหรือโตเกียวพอสมควร ดังนั้นควรเตรียม:

  • เสื้อโค้ทหนา หรือเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว
  • เสื้อ Heat-tech (หรือเสื้อรัดรูปเก็บความอบอุ่น)
  • ถุงมือ / ผ้าพันคอ เพื่อป้องกันลมหนาว
  • รองเท้าสวมสบาย เพราะต้องเดินเยอะ โดยเฉพาะที่หุบเขานารูโกะ

📱 เช็กพยากรณ์ใบไม้

นี่คือสิ่งที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี นั่นก็คือการดูพยากรของใบไม้เปลี่ยน ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีนั้นไม่ได้สวยพร้อมกันทุกจุด ขึ้นอยู่กับความสูงและสภาพอากาศ ส่วนใหญ่จะค่อยๆเปลี่ยนสีตั้งแต่เหนือ แล้วค่อยๆลงไปทางใต้  แนะนำให้ดูอัปเดตล่าสุดผ่าน:

🚌 การเดินทางนอกเมือง

สถานที่นอกเมืองอย่างนารูโกะหรืออากิอุ อาจต้องใช้รถบัสท้องถิ่น ซึ่งอาจมีตารางจำกัด โดยเฉพาะในวันหยุด แนะนำให้:

  • เช็กตารางรถบัสล่วงหน้าจากเว็บไซต์ Miyagi Kotsu หรือสอบถามที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวในสถานีรถไฟเซนได ( Sendai Station )
  • พิจารณาเช่ารถขับ ถ้ามีใบขับขี่สากล จะสะดวกและยืดหยุ่นในการเดินทางมากขึ้น

📷 ช่วงเวลาที่ถ่ายรูปได้สวย

แต่ละจุดมีช่วงเวลาที่สวยต่างกัน:

  • Rinnoji Temple – ช่วงเช้า (8–9 โมง) แสงอ่อนนุ่ม สะท้อนน้ำสวย
  • Jozenji-dori Avenue – บ่ายแก่ ๆ (15.00–16.30 น.) แสงสีทองลอดผ่านใบไม้สร้างบรรยากาศอบอุ่น
  • Matsushima (Light-up) – ช่วงพลบค่ำ (17.00–21.00 น.) ไฟส่องใบไม้แดงในวัดเอนทสึอิน ( Entsuin Temple )

สรุป

ที่มา https://visitmiyagi.com/events_festivals/matsushima-fall-light-up/

เซนไดคืออัญมณีแห่งโทโฮคุที่รวมธรรมชาติ เมือง และออนเซ็นไว้ในหนึ่งเดียว ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังมาพร้อมบรรยากาศที่สงบเงียบ ไม่แออัด และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้หลงรัก

นี่คือช่วงเวลาที่ธรรมชาติแต่งแต้มเมืองด้วยสีทองแห่งความทรงจำ ที่จะคงอยู่ในใจไปอีกนาน แค่จองตั๋วชินคันเซ็นจากโตเกียว ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที แล้วมุ่งหน้าสู่เมืองแห่งต้นไม้ เพื่อสัมผัสความงามเหนือระดับนี้ด้วยตาตัวเอง 

เตรียมกล้อง เตรียมใจ แล้วออกเดินทางไปพิสูจน์ว่าความสวยงามของเซนไดไม่แพ้เกียวโต และอาจจะประทับใจมากกว่าด้วยซ้ำ 🍂

Contents Index
  1. 1 🍁 7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการในเซนได ( Sendai )และจังหวัดมิยางิ ( Miyagi )
    1. 1.1 หุบเขานารูโกะ (Naruko Gorge – 鳴子峡)
    2. 1.2 อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay – 松島)
    3. 1.3 น้ำตกอากิอุ (Akiu Otaki – 秋保大滝)
    4. 1.4 ถนนโจเซ็นจิโดริ (Jozenji-dori Avenue – 定禅寺通)
    5. 1.5 วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple – 輪王寺)
    6. 1.6 สวนซากปราสาทเซนได (Aobayama Park / Sendai Castle Ruin – 仙台城跡)
    7. 1.7 ซุยโฮเดน ( Zuihoden Mausoleum – 瑞鳳殿 )
  2. 2 🗺️ เส้นทางเที่ยวแนะนำ (Trip Itinerary)
    1. 2.1 ทริป 1 วัน (เที่ยวในเมือง – เหมาะกับคนเวลาจำกัด)
    2. 2.2 ทริป 2 วัน(เน้นธรรมชาติ – เหมาะกับคนอยากชมความงามเต็มอิ่ม)
    3. 2.3 💡 แนะนำ: ใช้บัตร JR East Pass (Tohoku Area)
  3. 3 🏡 ที่พักและอาหารท้องถิ่นไม่ควรพลาด
    1. 3.1 ที่พัก
    2. 3.2 อาหารท่องถิ่น
    3. 3.3 🌡️ เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม
    4. 3.4 📱 เช็กพยากรณ์ใบไม้
    5. 3.5 🚌 การเดินทางนอกเมือง
    6. 3.6 📷 ช่วงเวลาที่ถ่ายรูปได้สวย
  4. 4 สรุป
Link to Meiji Step RakuRaku Cube LP
Link to Meiji Step RakuRaku Cube LP
Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

110 Posts

Link to Meiji Step RakuRaku Cube LP

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณมี “เมนูในดวงใจ” ที่ตั้งใจจะไปกินให้ได้ไหม?

    View Results

    Loading ... Loading ...
Link to Meiji Step RakuRaku Cube LP

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

Link to Meiji Step RakuRaku Cube LP