มาทำความรู้จักทัวร์นี้กันก่อน
ทัวร์เยือนเมืองโมริโอกะ บ้านเกิดของ นิโตเบะ อินาโซ ผู้เขียนหนังสือขายดีชื่อดังระดับโลก “Bushido: The Soul of Japan” หรือ “บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น” ซึ่งตีพิมพ์เมื่อ 120 กว่าปีที่แล้ว ทัวร์นี้สามารถสัมผัสประสบการณ์ทำสมาธิแบบซาเซนที่วัดที่เชื่อมต่อกับนิโตเบะ อินาโซได้ด้วย มาสัมผัสต้นกำเนิดของ “BUSHIDO” โดยเดินตามรอยของชายผู้เป็นต้นแบบของ Bushido และบุคคลสำคัญระดับนานาชาติที่ทำงานเพื่อสันติภาพโลกกันเถอะ
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวในครั้งนี้ เราตั้งใจที่จะได้รับความรู้และเนื้อหาเต็มๆของคุณนิโตเบะ อินะโซ จึงได้ซื้อแพ็คเกจทัวร์ของเมืองเค้าซะเลย ตารางแบบ 1 วันสบายๆ มีไกด์ท้องถิ่นด้วย
ชื่อทัวร์ | ทัวร์สัมผัสต้นกำเนิดของ “BUSHIDO” |
---|---|
ตารางทัวร์ | 9:00 น. รวมตัวกัน @หน้ารูปปั้นนิโตเบะ อินาโซะ หน้าทางออกตะวันออกของสถานีโมริโอกะ (ภายในลานน้ำตก) 9:30 น. ชมและรับฟังคำอธิบาย หอรำลึกบรรพบุรุษเมืองโมริโอกะ.*เดินทางมาด้วยรถตู้ 10:45 น. สถานที่เกิดของ นิโตเบะ อินาโซ *เดินทางมาด้วยรถตู้10:55 น. เดินเล่นรอบๆ บริเวณที่เชื่อมต่อกับอินาโซ *เดินต่อ 11:45 น. สัมผัสประสบการณ์ซาเซ็นที่วัดคิวโชจิ *เดินต่อ12:45 น. รับประทานอาหารกลางวัน เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น * นั่งรถตู้มา 14:00 น. สิ้นสุดทัวร์ @แยกย้ายที่สถานีโมริโอกะ หรือที่พักที่กำหนดในเมืองโมริโอกะ ฯลฯ |
การเดินทาง | จากสถานีโตเกียว/อูเอโนะ นั่งรถไฟชินคันเซ็นโทโฮคุลงที่สถานีโมริโอกะ |
วิธีการจอง | จองผ่านเว็บไซต์โดยตรง https://morioka-bushido.hare-localexperience.com/th/ (มีภาษาไทย) |
เวลาที่ใช้ (โดยประมาณ) | 5 ชั่วโมง (9.00-14.00) |
ค่าธรรมเนียม | คนละ 99,999 เยน (รวมภาษี) เข้าร่วม 2 คน: 112,000 เยน / เข้าร่วม 3 คน: 79,000 เยน / เข้าร่วม 4 คน: 62,000 เยน / เข้าร่วม 5 คน: 52,000 เยน / เข้าร่วม 6 คน: 46,000 เยน รับขั้นต่ำ 2 ท่านขึ้นไป |
นิโตเบะ อินะโซ (Nitobe Inazo) เค้าคือใครกันนะ
นิโตเบะ อินะโซ เป็นนักการศึกษา เกิดที่จังหวัดอิวาเตะ เป็นบุตรของซามูไรแห่งตระกูลโมริโอกะ เขาสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรกรรมซัปโปโรในปี 1881 และในปี 1884 ได้ออกจากมหาวิทยาลัยโตเกียวก่อนสำเร็จการศึกษาเพื่อไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา ที่นั่นเขาเปลี่ยนมานับถือเควกเกอร์ (Quaker)*เป็นนิกายย่อยหนึ่งในศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์
หลังจากกลับมายังญี่ปุ่นในปี 1891 เขาได้รับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง เช่น ศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยเกษตรกรรมซัปโปโร ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยจักรวรรดิโตเกียว และประธานคนแรกของมหาวิทยาลัยคริสเตียนสตรีแห่งโตเกียว หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือการศึกษาโดยใช้หลักการของ “ปัจเจกนิยม” ซึ่งเขานำมาใช้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานโรงเรียนมัธยมแห่งแรก ตั้งแต่ปี 1906 ถึง 1913
เขายังมีบทบาทในเวทีนานาชาติ โดยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการของสันนิบาตชาติ (League of Nations) ตั้งแต่ปี 1919 ถึง 1926 และต่อมาเป็นประธานสภาญี่ปุ่นของสถาบันความสัมพันธ์แปซิฟิก (Institute of Pacific Relations) ในปี 1927 นิโตเบะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาขุนนาง เขามีปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางการเกษตรและทางนิติศาสตร์ และเป็นที่รู้จักจากการเขียนหนังสือ “Bushido: The Soul of Japan” (วิถีบูชิโด: จิตวิญญาณแห่งญี่ปุ่น) ในปี 1900
เริ่มทัวร์กันเลย
พบกันที่ Bust of Inazo Nitobe หน้าทางออกทิศตะวันออกของสถานี Morioka (9.00 น.)
เริ่มทริปกันที่หน้าสถานีเลยจ้า ที่สถานีโมริโอกะ (Morioka station) ด้านฝั่ง ทางออกทิศตะวันออก หรือทางออกตรงที่มีจุดขึ้นรถบัสต่างๆนั่นเองค่ะ ที่นี่เราจะเดินไปชมรูปปั้นคุณ นิโตเบะ อินะโซ กัน
รูปปั้นนี้เป็นอนุสรณ์ถึงนักการศึกษาผู้ยิ่งใหญ่และนักเขียนผู้มีชื่อเสียง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านการศึกษาและการทูตระหว่างประเทศ นอกจากนี้ รูปปั้นนี้ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอิวาเตะและสถานีโมริโอกะ โดยชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมักจะแวะชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ในช่วงปลายยุคโชวะ (1926-1989) ถึงยุคเฮเซ (1989-2019) ภาพของนิโตเบะปรากฏอยู่บนธนบัตร 5,000 เยนของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่จดจำของผู้คน
ชมและรับฟังคำอธิบาย หอรำลึกบรรพบุรุษเมืองโมริโอกะ (AM 09:30)
“อย่าเร่งรีบ แต่จงอย่าหยุดพัก” เป็นคำขวัญที่เขียนด้วยพู่กันญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดย นิโตเบะ อินะโซ (1862-1933) และใส่กรอบไว้อย่างงดงาม ข้อความนี้จะเด่นสะดุดตาทันทีเมื่อผู้มาเยือนก้าวเข้าสู่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์วีรชนผู้ยิ่งใหญ่แห่งโมริโอกะในจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) สถานที่แรกในทริป พร้อมกันหรือยังคะ ไปชมด้านในกันเลยจ้า
ด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับ นิโตเบะ อินะโซ ไว้ทั้งหมด โดยที่เราจะได้ทราบทั้งประวัติตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก ที่คุณพ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่เขาอายุแค่ 5 ขวบเท่านั้นเอง บรรยากาศด้านในสบายตา อบอุ่นมากค่ะ
เมื่อได้ย้อนรอยชีวิตของเขา ทุกคนต่างรู้สึกทึ่งกับความสำเร็จที่โดดเด่นของนิโตเบะ เขาเขียนหนังสือ Bushido: Soul of Japan เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งในช่วงนั้นการที่มีความสามารถด้านภาษาเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ เค้าจะเขียนด้วยตัวเขียน;cursive ที่สวยงามมาก หนังสือถูกแปลเป็นหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย เห็นแล้วอยากหามาอ่านเลยค่ะ
บูชิโดเป็นวิถีที่ซามูไรยึดมั่นในการดำเนินชีวิตและการทำหน้าที่ของตน ซึ่งยังคงมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมและคุณธรรมในญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน
บูชิโดเน้นหลักสำคัญ 7 ประการ ได้แก่
- ความซื่อสัตย์ (義, Gi) – การยึดมั่นในความถูกต้องและความยุติธรรม
- ความกล้าหาญ (勇, Yu) – ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคและอันตราย
- ความเมตตา (仁, Jin) – ความกรุณาต่อผู้อื่น
- ความสุภาพและความเคารพ (礼, Rei) – การแสดงออกอย่างสุภาพและเคารพผู้คน
- ความซื่อสัตย์สุจริต (誠, Makoto) – การพูดความจริงและความเชื่อมั่นในคำพูดของตน
- เกียรติยศ (名誉, Meiyo) – ความภูมิใจในตนเองและการรักษาชื่อเสียงที่ดี
- ความภักดี (忠義, Chūgi) – ความจงรักภักดีและความภักดีต่อผู้ที่มีคุณต่อเรา
โดยเรื่องราวดีๆทั้งหมดในพิพิธภัณฑ์นี้ถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดโดยคุณ Fuji Shigeru ประธานกองทุน Nitobe ซึ่งให้ความรู้ได้อย่างละเอียดและประทับใจเลย การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสนับสนุนกิจกรรมทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นด้วย
หอรำลึกบรรพบุรุษเมืองโมริโอกะ
ที่อยู่ | 2-2 Motomiya Aza-Hebiyashiki, Morioka City, Iwate, Tokyo 108-0074 |
เวลาทำการ | 9:00 น. – 17:00 น. (สามารถเข้าชมได้จนถึง 16:30 น.) |
วันปิดทำการ | ปิดทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ จะปิดในวันจันทร์ถัดไป)ปิดในวันอังคารสุดท้ายของเดือนปิดช่วงวันหยุดปีใหม่ (29 ธันวาคม – 3 มกราคม) |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่: 300 เยนนักเรียนมัธยมปลาย: 200 เยนนักเรียนประถมและมัธยมต้น: 100 เยน |
Website | http://www.mfca.jp/senjin/ |
สถานที่เกิดของ นิโตเบะ อินาโซ (AM 10:45)
จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อเพื่อไปชมบ้านเกิดของนิโตเบะ ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Nakatsu ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของที่นี่ ตรงนี้มีรูปปั้นนิโตเบะอยู่ จากที่นี่ก็ไม่ไกลสถานีโมริโอกะแล้วล่ะ
รูปปั้นของท่านตรงนี้ ถือเป็นอิริยาบทที่ดูเท่และสง่างามตรงตามบุคลิกของท่านเลย รอบๆข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ที่ถูกดูแลรักษาอย่างดี
นิโตเบะตั้งปณิธานสูงส่งที่จะเป็น “สะพานที่ทอดข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก” และเฝ้าตักเตือนตัวเองว่าอย่าหยุดพัก แต่เขาก็รู้ดีถึงความเปราะบางในตัวเองซึ่งทำให้ต้องหยุดพักบ้าง และนั่นเองคือเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นสะพานอันยิ่งใหญ่ที่เชื่อมโยงญี่ปุ่นกับโลก โดยแนวคิดการใช้ชีวิตที่ไม่ตึงเกินไปไม่หย่อนเกินไปและให้เวลากับตัวเองบ้าง
สถานที่เกิดของนิโตเบะ อินะโซ
ที่อยู่ | 4-22 Shimonohashi-cho, Moriok, Iwate |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
เดินเล่นรอบๆ บริเวณที่เชื่อมต่อกับอินาโซ (AM 10:55)
จากตรงบ้านเกิดของเขาเราก็เดินข้ามสะพาน สะพานชิโมโนะ (下の橋) เป็นสะพานที่สร้างขึ้นโดย นัมบุ โตชิชิ (南部利直) ผู้เป็นเจ้าของตระกูลนัมบุ รุ่นที่ 27 โดยสะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการก่อสร้างปราสาทโมริโอกะ สะพานนี้เป็นหนึ่งในสามสะพาน ได้แก่ “สะพานอุเอะ (上の橋)”, “สะพานนากะ (中の橋)”, และ “สะพานชิโมโนะ” ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1612 (ปีที่ 17 ของยุคเคียวโช) * ปัจจุบัน สะพานชิโมโนะที่เราเห็นคือสะพานที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1911 (ปีที่ 1 ของยุคไทโช) เนื่องจากต้องปรับปรุงจากอันเดิม
จากนั้นเดินมานิดเดียวจะเข้าสู่บริเวณของปราสาทโมริโอกะ ตัวปราสาทพังไปเกือบหมดในปี 1874 แต่กำแพงหินยังคงอยู่ในสภาพสวยงามและมีการปรับปรุงขึ้นมา บริเวณรอบๆ ปราสาทมีสวนสาธารณะที่สวยงามซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและชมธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีซากุระบานสะพรั่ง
ปัจจุบัน โครงสร้างของปราสาทยังคงเหลืออยู่บ้าง เช่น กำแพงหินและทางเข้า และมีการบูรณะให้เข้าถึงได้สำหรับนักท่องเที่ยว เป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของชาวเมืองนี้ด้วย
ใกล้ๆกับปราสาท มีรูปปั้นของนิโตเบะ อินะโซอีกแล้ว เห็นด้วยว่าท่านเป็นคนสำคัญของเมืองจริงๆ ว่ากันว่า นี่เป็นรูปปั้นที่คล้ายกับท่านล่าสุดแล้วล่ะ
ปราสาทโมริโอกะ
ที่อยู่ | 1-37 Uchimaru, Morioka, Iwate |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
website | http://www.city.morioka.iwate.jp/shisei/midori/koen/1010491.html |
เดินเล่นกันต่อจ้า บริเวณรอบๆเมืองโมริโอกะ ยังเหมาะแก่คนที่ชอบความเป็นญี่ปุ่นในยุคโชวะด้วยนะ เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ อาคารที่เห็นคือ (Konyamachi Ban’ya) อาคารนี้สร้างขึ้นในปี 1913 (ปีที่ 2 ของยุคไทโช) เป็นอาคารไม้สไตล์ตะวันตกที่เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมในช่วงยุคไทโช โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานีดับเพลิงของหน่วยดับเพลิงที่ 4 ของเมืองโมริโอกะ นอกจากนี้ยังได้รับการกำหนดให้เป็นอาคารที่มีความสำคัญในการอนุรักษ์ของเมืองโมริโอกะอีกด้วย ปัจจุบันชั้น 1 คือคาเฟ่ Konyacho Banya Café
Konyacho Banya Café
ที่อยู่ | 4-34 Konyacho, Morioka, Iwate |
เวลาทำการ | 10:00 น. – 17:00 น. |
วันปิดทำการ: | ทุกวันจันทร์และอังคาร |
website | https://konyachobanya.com/ |
มุมนี้เป็นร้านของฝากชื่อดังของเมือง ขายขนมเซมเบ้ด้วยนะ ก่อตั้งขึ้นในปี 1953 ร้านหาง่ายมากๆเลย พนักงานใส่ชุดแบบญี่ปุ่น น่ารักมาก ลองซื้อมาชิมดูนะ ชื่อร้าน Shirasawa Senbeiten
ขนมเซมเบ้แบบนี้ ประวัติยาวนานมากๆเลยนะ ในสมัยโบราณ ระหว่างยุคเคนโตคุ (1370-1372) ขณะที่จักรพรรดิโชเค (長慶天皇) กำลังเสด็จเยือนพื้นที่นัมบุ ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินและไม่มีการเตรียมอาหารเย็นไว้ พระองค์รู้สึกประสบปัญหา ข้าราชการคนหนึ่งชื่ออากามัตสึ (赤松) จึงได้ไปหาฟาร์มใกล้เคียงเพื่อหาวัตถุดิบ จากนั้นนำ “แป้งบัควีท” มาผสมแล้วใส่ในหม้อเหล็กเพื่ออบ และโรยด้วย “งา” ก่อนนำไปเสิร์ฟให้กับจักรพรรดิ ซึ่งพระองค์ก็ทรงพอพระทัยมาก นี่จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของเซนเบ้นัมบุ (南部煎餅)
Shirasawa Senbeiten
ที่อยู่ | 2-16 Konyacho, Morioka, Iwate |
เวลาทำการ | 9:00 น. – 17:00 น. |
website | https://www.shirasawasenbei.net/ |
เดินไปต่อเลยจ้า ถนนของเมืองนี้จะเล็กๆ แต่ก็เหมาะสำหรับการเดินเล่นสบายๆ เราจะเหมือนหลุดออกมาจากโลกที่วุ่นวายและเห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
ถนนรอบๆ Sakanacho Shopping Arcade (ที่เห็นฝั่งตรงข้าม) ย่านนี้ค่อนข้างคึกคักมากๆ เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของฝาก
Sakanacho Shopping Arcade
ที่อยู่ | 6-6-12 Sakanacho, Morioka, Iwate |
website | https://www.sakanacho.com/ |
ย่านเดียวกันนี้ เราต้องไม่พลาดที่จะผ่านอาคารอิฐแดงเก่าแก่แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้ สร้างขึ้นในปี 1911 โดยมันจิ คาสาอิ และคิงโกะ ทัตซูโนะ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น สถานีโตเกียว อาคารนี้เปิดให้ประชาชนเข้าชมและมักจะจัดนิทรรศการต่างๆ อยู่เสมอ
ในเมืองโมริโอกะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักกวี อิชิคาวะ ทาคุโบกิ และนักเขียนนิทาน มิยาซาวะ เคนจิ ใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่น อาคารสวยงามที่สร้างจากอิฐแดงนี้เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปสมัยใหม่ ซึ่งมีบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกน Nostalgic อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1910 (ปีเมจิที่ 43) เป็นอาคารหลักของ ธนาคารคิวจู โดยสถาปนิก โยโกฮามะ เบน ซึ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมโมริโอกะ เช่นเดียวกับทาคุโบกิและเคนจิ อาคารนี้สะท้อนถึงกระแสการออกแบบสถาปัตยกรรมในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ หลังจากเยี่ยมชมนิทรรศการแล้ว สามารถพักผ่อนที่พื้นที่คาเฟ่ “คิซซ่า อาโคกาเระ” ที่ชั้น 1 ที่มีบรรยากาศย้อนยุค
อาคารอิฐแดงริมฝั่งอิวาเตะ
ที่อยู่ | 1-2-20 Nakanohashi-dori, Morioka, Iwate |
เวลาทำการ | 10:00-17:00 น. (เข้าได้ถึง 16:30 น.) |
วันปิดทำการ: | ทุกวันอังคาร วันหยุดสิ้นปีและปีใหม่ (29 ธันวาคมถึง 3 มกราคม) |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 300 เยนนักเรียนประถมและมัธยมต้น 100 เยนเด็กก่อนวัยเรียน (อายุต่ำกว่า 7 ปี) ฟรี |
website | https://www.iwagin-akarengakan.jp/ |
ย่านการค้าอย่างซาคานะโจ ย่านการค้าแบบนี้ ซึ่งมีหลังคาคลุมและปิดการจราจร เคยเป็นที่นิยมมากในอดีต วันฝนตกก็มาเดินเล่นสบายๆเลย สินค้าราคาถูกมากๆ
ชาวเมืองที่มานั่งรอตัดผมที่ร้านตัดผมชาย แบบด่วนๆ ในราคาพิเศษสุดๆ วันธรรมดาตัดที่ 690 เยน !ถ้าทำสีผมก็ 1980 เยน ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
5. สัมผัสประสบการณ์ซาเซ็นที่วัดประจำตระกูลนิโตเบะที่วัดคิวโซจิ (AM 11:45)
มาทำกิจกรรมกันต่อที่วัด Kyusho หรือ Kyushoji สถานที่ๆเราตั้งใจจะมาลองสัมผัสประสบการณ์นั่งสมาธิแบบเซน ดูนะ ต้องจองล่วงหน้านะ เพราะกิจกรรมเซนของที่นี่ได้รับความนิยมมาก
ห้องปฏิบัติการนั่งสมาธิแบบเซน (Zazen) นี่เป็นรูปแบบการนั่งสมาธิที่สำคัญในศาสนาพุทธนิกายเซน การนั่งสมาธินี้มุ่งเน้นการพัฒนาสติ (mindfulness) และการมุ่งมั่นในการตระหนักรู้ถึงปัจจุบัน
โดยมีวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติที่เฉพาะเจาะจง ควรเลือกสถานที่เงียบสงบ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน สามารถนั่งบนเบาะนั่งเซน (zafu) หรือบนพื้น หรือแม้แต่นั่งบนเก้าอี้ก็ทำได้เช่นกัน
ท่าทาง
- นั่งในท่าขัดสมาธิ (cross-legged) โดยสามารถใช้ท่าขัดสมาธิเต็มรูปแบบ (lotus position) หรือขัดสมาธิแบบครึ่ง (half lotus)
- รักษาเส้นหลังให้ตรงและผ่อนคลาย
- วางมือบนเข่าหรือในท่ามูเซ็น (shashu) โดยให้นิ้วโป้งและนิ้วชี้สัมผัสกัน
ประโยชน์ของการนั่งสมาธิแบบเซน
- ช่วยลดความเครียด: การนั่งสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
- เพิ่มสมาธิ: การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความสามารถในการมุ่งความสนใจ
- เสริมสร้างความตระหนักรู้: ช่วยให้เราตระหนักถึงความรู้สึกและความคิดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
- พัฒนาความสงบในชีวิตประจำวัน: สามารถนำความสงบนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ระหว่างนั่งสมาธิ ปล่อยให้หัวว่างเลยค่ะ ไม่ต้องคิดอะไร หลังจากเสร็จกิจกรรมได้รับการผ่อนคลายมากๆแล้ว ไปเยี่ยมชมสุสานของตระกูลนิโตเบะ อินะโซซึ่งอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งมีสุสานตั้งแต่รุ่นทวดเลย
วัดคิวโซจิ
ที่อยู่ | 1-5 Daijijicho, Morioka, Iwate |
website | http://www.kyushoji.com/ |
6. เพลิดเพลินกับอาหารญี่ปุ่นที่ร้านสึคุโมกุสะ (AM 12:45)
ถ้าพูดถึงการปิดท้ายทัวร์แบบมีสไตล์ ต้องแนะนำร้าน “สึคุโมกุสะ” ที่ตั้งอยู่ในย่านนากาโนะบาชิ-โดริ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “วาโชกุ” ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อยู่ติดกับร้านเก่าแก่ “อาซุมายะ” ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 ซึ่งถือว่าเป็นตำนานในโมริโอกะเลยนะ แม้ว่า “สึคุโมกุสะ” จะมีรากฐานจากร้านเก่า แต่เขาก็ไม่หยุดพัฒนา แถมยังมอบรสชาติและเทคนิคที่ลงตัว พร้อมกับนำเสนออาหารในรูปแบบที่สดใหม่และน่าสนใจอีกด้วย
“วาโชกุ” เป็นวัฒนธรรมอาหารที่เกิดจากการเคารพธรรมชาติของคนญี่ปุ่น และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จาก UNESCO ด้วยนะ! ถ้าคุณได้ไปเที่ยวที่เมืองโมริโอกะ คุณจะได้สัมผัสรสชาติและการนำเสนอของอาหารที่มีเอกลักษณ์สุดๆ ที่นี่เต็มไปด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่สดใหม่ ทำให้ทุกคำที่คุณได้ชิมมีรสชาติที่อร่อยและน่าจดจำ
การได้ลอง “วาโชกุ” ที่โมริโอกะไม่ใช่แค่การกินอาหาร แต่คือการได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนที่นี่อย่างแท้จริง รับรองว่าคุณจะมีความทรงจำดีๆ ที่ไม่อาจลืมเลือนได้แน่นอน
ร้านสึคุโมกุสะ
ที่อยู่ | 1-8-4 Nakanohashi-dori, Morioka, Iwate |
เวลาทำการ | 18:00 น. – 22:30 น. (21:30 LO) |
วันปิดทำการ: | วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ |
การเดินทางจากโตเกียว
เพื่อนๆสามารถมาที่นี่ได้ด้วยรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku ที่ขึ้นจากสถานีโตเกียวหรือสถานีอูเอโนะ รถไฟชินคันเซ็นที่จอดสถานี Morioka ส่วนใหญ่เป็นขบวนจองที่นั่งทั้งหมดนะ ดังนั้นต้องดูเวลาและมาให้ตรงเวลาด้วยนะ
หลังจากลงรถไฟแล้วก็เดินลงมาทางด้านล่างได้เลย ฝั่งทางออก North exit จะเป็นโซนห้างสรรพสินค้า ด้านในมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่เพียบเลย รับรองว่ามาแล้วเพลินมากๆ แนะนำให้ที่นี่เป็นจัดพักผ่อนอีก 1 แห่งระหว่างทริปโทโฮคุ
มาเมืองนี้แล้วอย่าลืมมองหาขนมปังคอปเปะ เป็นขนมปังทรงยาวรี นิยมนำมาผ่ากลางและใส่ไส้ต่างๆ จากร้าน Fukuda นะ มีขายที่ทางออกฝั่ง North ในสถานีจ้า ด้วยรสชาติและความหลากหลายของขนมปังที่มีให้เลือกมากมาย ร้านนี้จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนรักขนมปัง แนะนำไส้ถั่วแดงเนย อร่อยนุ่มมาก
*คำว่าคอปเปะ เพี้ยนมาจากคำว่า “Coupe” ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ตัด”
สรุป
เมืองโมริโอกะเป็นสถานที่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของนิโตเบะ อินะโซ ผู้ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่นี่ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและผลงานของเขา แต่ยังเสริมสร้างความสนุกสนานในบรรยากาศเมืองที่น่าหลงใหลอีกด้วย