งานนี้ได้รับเกียรติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเทศมนตรีจากทั้ง 5 เมือง ของจังหวัดซากะมากล่าวเปิดงานและร่วมพูดคุยเพื่อให้ผู้ร่วมงานได้ทำความรู้จักกับซากะให้มากขึ้น ความน่ารักและความอบอุ่นของจังหวัดซากะได้ถูกยกมาไว้ที่ห้อง Grand Ballroom แห่งนี้แล้ว
หลังจากพิธีกรกล่าวเปิดงาน นาย Yoshinori Yamaguchi ผู้ว่าราชการจังหวัดซากะได้ขึ้นมาพูดคุยแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ที่เมื่อมาเที่ยวซากะไม่ควรพลาด ท่านผู้ว่าพูดถึงจังหวัดซากะว่า สำหรับผมจังหวัดซากะคือสถานที่ที่เชื่อมโยงผู้คนเอาไว้ด้วยกัน ท่านได้เล่าถึงประสบการณ์ในการมาเที่ยวประเทศไทยและยังเล่าว่าเคยมีโอกาสช่วยเหลือคู่รักชาวไทยที่มาเที่ยวที่ซากะ ท่านเห็นคู่รักชาวไทยติดขัดในการสั่งอาหาร ท่านจึงแนะนำวิธีสั่งและแนะนำการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมทั้งบอกคู่รักว่า ท่านเป็นผู้ว่าจังหวัดซากะ หากมีอะไรสามารถบอกได้เลย แต่คู่รักชาวไทยไม่เชื่อ (ผู้ฟังทั้งห้องหัวเราะ)
หลังจากที่ท่านผู้ว่าฯ พูดจบ ก็ถึงคิวของนายกเทศมนตรีจากแต่ละเมือง โดยท่านแรกคือท่านนายกเทศมนตรีจากเมือง Karatsu คุณ Toshiyuki Sakai ท่านนายกเทศมนตรีได้แนะนำว่าหากมาที่เมือง Karatsu ไม่ควรพลาดปลาหมึกใสที่ตลาดเช้า Yobuko ตลาดเช้าที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และสำหรับใครที่อยากสมหวังในความรักควรพาคนรักไปที่แหลม Hadomisaki สถานที่ที่ขึ้นชื่อในการบันดาลความรักให้สมหวัง นอกจากนี้ที่เมือง Karatsu ยังมีป่าสน Nijino Matsubara ป่าสนสีดำสวยงามที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และมีเทศกาล Karatsu Kunchi เทศกาลยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณเทพเจ้าหลังจากเก็บเกี่ยวสืบเนื่องกันมายาวนานกว่า 400 ปี
ท่านต่อมา คือ นาย Yoshikazu Tsukabe นายกเทศมนตรีเมือง Imari ท่านขึ้นมาพูดถึงศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ติดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น ที่นี่สวยงามถึงขนาดทีมงานถ่ายทำละครจากประเทศไทยต้องมาขอใช้โลเคชั่นถ่ายทำละครเรื่องกลกิโมโนกันเลย ที่เมืองนี้ยังโด่งดังมีประเพณีประวัติศาสตร์เครื่องเคลือบและปั้นดินเผา และเนื้อวัวอิมาริ (Imari Grill) ยังมีชื่อเสียงได้ด้านความอร่อย ถึงขนาดได้รับรางวัลการันตีว่าเป็น Hamburger แห่งคิวชู 3 ปีซ้อน
ท่านที่สามเดินขึ้นมาบนเวทีแล้วพูดว่า เห็นผมสภาพแบบนี้แต่ผมเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Takeo นะครับ! (ผู้ชมทั้งงานหัวเราะ) คุณ Tadashi Komatsu นายกเทศมนตรีเมือง Takeo เล่าว่าถึงเมืองของเขาจะเป็นเมืองเล็กๆ มีประชากรเพียง 50,000 คน แต่ได้รับการโหวตจากหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองชนบทที่น่าอยู่มากที่สุดในปีที่แล้วเลยนะ! ที่นี่ยังมีออนเซ็นที่มีอายุยาวนานกว่า 1,300 ปี และมีต้นการบูรที่มีอายุยาวนานกว่า 3,000 ปี อยู่ถึง 3 ต้น เลยด้วย
ถัดมาคือนาย Hisatoshi Higuchi จากเมือง Kashima เมืองแห่งหัวใจและเต็มไปด้วยสีสัน สีสันเหล่านี้มีความหมายสื่อถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงามต่างๆ ของเมือง ท่านนายกบอกว่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เป็นต้นไป จะมีล่ามภาษาไทยมาประจำที่เมืองคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้วด้วย
มาถึงเมืองสุดท้าย คือเมือง Ureshino มีนาย Taichiro Taniguchi ซึ่งวันนี้มาในชุดนินจา เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีประจำเมือง ท่านบอกว่าวันนี้จะมาแนะนำอาชีพหลักของท่านกันก่อนนั่นก็คือนินจา (ผู้ชมในงานหัวเราะ) เมือง Ureshino เป็นเมืองแห่งนินจาและมีออนเซ็นชื่อดังที่ช่วยในเรื่องความงาม หากใครได้มาแช่ตื่นมารับรองสวยจนจำไม่ได้เลย (ผู้ชมในงานหัวเราะอีกครั้ง)
ฝ่ายบริหารทุกท่านของจังหวัดซากะขึ้นมาพูดคุยอย่างเป็นกันเองและสนุกสนาน พร้อมสอดแทรกมุกตลกให้เราได้หัวเราะและอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา ทำให้บรรยากาศของงานนั้นอบอุ่นสมเป็นซากะสุด ๆ
และเมื่อสิ้นสุดการกล่าวแนะนำแต่ละเมืองบนเวทีเรียบร้อยแล้ว “ซึโบะซามูไร” ซามูไรในโอ่ง Mascot สุดน่ารักสัญลักษณ์ศูนย์ให้บริการข้อมูลของเมืองซากะก็ปรากฎตัวมาทักทายและเรียกรอยยิ้มของผู้ร่วมงาน เป็น Mascot ที่น่ารักมาก ๆ
นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษอีก 3 ท่าน ที่มีความผูกพันกับจังหวัดซากะมาร่วมพูดคุยในช่วง Talk Show นั่นคือ คุณโหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ จากนิตยสารสร้างแรงบันดาลใจอย่าง aday ที่ได้เขียนหนังสือชื่อ “ทำอะไรเล็ก ๆ ง่าย ๆ ก็มีความสุขได้” เมื่อครั้งที่ไปเที่ยวซากะ และคุณบิ๊ก ภูมิชาย บุญสินสุข บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ a book และบรรณาธิการหนังสือ SAGA GANBATTE และแขกรับเชิญท่านสุดท้ายที่ไม่มาไม่ได้ นั่นคือ คุณซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ นักแสดงนำจากซีรี่ย์ “Stay…ซากะ” นั่นเอง
การพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนาน แขกรับเชิญทั้ง 3 ท่านแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน มีการหยอกล้อกันเป็นระยะสร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี โดยมีคุณเรียวตะ ซูซูกิ อดีตคอลัมนิสต์ของนิตยสาร aday และเจ้าของหนังสือ Best of Team Pladib มาเป็นพิธีกรให้ ซึ่งปัจจุบันคุณเรียวตะได้ย้ายไปปฏิบัติงานที่ศาลากลางจังหวัดซากะเพื่อคอยให้บริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวไทยอย่างเรา
กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างในงานก็คือการสอนปาดาวกระจายโดยนินจาสาวแชมป์ปาดาวกระจายระดับประเทศจากเมือง Ureshino จังหวัดซากะ และภายในงานยังมีเสิร์ฟ Cocktail Buffet สุดอร่อยให้ทานกันแบบจุใจ
และแล้วก็ถึงเวลาไฮไลท์ของงานกับการจับสลากของรางวัลที่ทุกคนรอคอย งานนี้แจกใหญ่แจกจริง โดยมีรางวัลเป็นของที่ระลึกสุดพิเศษจาก 6 เมืองที่บอกเลยว่าไม่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ และยังมีรางวัลเป็นแพ็กเกจที่พักจากโรงแรมชื่อดังอีกหลายรางวัล ซึ่งมูลค่าสูงสุดอยู่ที่ 60,000 บาท เลยทีเดียว เป็นอีกช่วงที่สร้างความสนุกสนานตื่นเต้นและเรียกเสียงฮือฮาให้ลุ้นไปพร้อม ๆ กัน
“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน นี่ถือเป็นก้าวแรกที่ทุกท่านจะได้รู้จักกับจังหวัดซากะ และขอให้รักซากะแบบนี้ตลอดไป”
เมื่อถึงช่วงท้ายของงาน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขึ้นมากล่าวขอบคุณเพื่อปิดงาน “Saga Night Cafe 2” อย่างเป็นทางการ ซึ่งงานนี้ก็จบลงอย่างสวยงามและสมบูรณ์ด้วยความร่วมมือกันระหว่างผู้สนับสนุน แขกรับเชิญ และผู้ร่วมงานทุกท่านที่เดินทางมาเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกสนานในครั้งนี้
จากการจัดงานครั้งนี้ก็ได้ทำให้รู้ว่าซากะนั้นเป็นจังหวัดที่น่ารักและอบอุ่นด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผู้คนมีอัธยาศัยดีเป็นกันเอง และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและเทศกาลที่น่าสนใจมากมายรอคอยให้พวกเราได้ไปเยือน
ซึ่งตอนนี้ทางจังหวัดได้จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Application อัพเดทการท่องเที่ยวซากะเวอร์ชั่นภาษาไทย ชื่อ DOGANSHITATO ที่เปิดให้โหลดฟรี
และ Call Center ภาษาไทย เบอร์โทรศัพท์ 0952-20-1601 ที่สามารถโทรได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
จังหวัดซากะอำนวยความสะดวกและยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยขนาดนี้ หากมีโอกาสลองเดินทางไปท่องเที่ยวที่จังหวัดซากะกันนะคะ
ร่วมแสดงความคิดเห็นงาน Saga Night Cafe 2
สำหรับผู้ร่วมงานทุกท่านสามารถเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และความประทับใจเกี่ยวกับงาน Saga Night Cafe 2 ได้ที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ