ซูโม่ (Sumo) คือ กีฬาญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน นักกีฬาเป็นผู้ชายเท่านั้น สูงไม่ต่ำกว่า 165-167 เซนติเมตร น้ำหนัก 65-67 กิโลกรัมขึ้นไป กติกาการแข่งขันคือทำให้คู่ต่อสู้ออกจากบริเวณที่กำหนดในสังเวียน เป็นกีฬาที่เป็นที่รู้จักและนิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นรวมถึงชาวต่างชาติ
ซูโม่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปีตามที่มีปรากฏในบันทึกประวัติศาสตร์โบราณ เดิมทีซูโม่เป็นพิธีกรรมทางการเกษตรของลัทธิชินโตในการทำนายผลการเก็บเกี่ยว จนเมื่อถึงสมัยเอโดะจึงได้กลายเป็นการแข่งขันวัดกำลังและเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของชาวบ้าน และได้พัฒนามาเป็นกีฬาซูโม่อย่างทุกวันนี้
นักกีฬาซูโม่ต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 165-167 เซนติเมตร น้ำหนัก 65-67 กิโลกรัมขึ้นไป ส่วนมากรับสมัครตอนอายุ 23-25 ปี และรับเฉพาะเพศชายเท่านั้น
นักซูโม่มืออาชีพต้องเข้าฝึกที่ค่ายฝึกที่เรียกว่า เฮยะ (Heya) ต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ทั้งการฝึกซ้อม อาหารการกิน การพักผ่อน และอื่นๆ
เมื่อแข่งชนะไปเรื่อยๆ ก็จะได้เลื่อนขั้น โดยตำแหน่งสูงสุดเรียกว่า โยโกสุนะ (Yokosuna)
นักซูโม่จะไว้ผมทรงที่เรียกว่าชนมาเกะ (Chonmage) คือไว้ผมยาว รวบเป็นมวยแล้วพาดกลับมาข้างหน้า เครื่องแต่งกายจะใส่เฉพาะผ้าเตี่ยวคาดเอวที่เรียกว่ามาวาชิ (Mawashi)
ซูโม่ไม่มีการแบ่งรุ่นตามน้ำหนักเหมือนมวย เป็นการประชันพละกำลังและเทคนิคของแต่ละคน แต่แน่นอนว่ายิ่งตัวใหญ่ก็ยิ่งได้เปรียบ นักซูโม่จึงมักเน้นขนาดตัวไว้ก่อน
สังเวียนซูโม่ทำจากดินที่อัดสร้างเป็นเวทีสี่เหลี่ยม ตรงกลางมีวงกลมที่ทำจากฟางที่เรียกว่าโดะเฮียว (Dohyo) โดยนักซูโม่ออกนอกวงกลมนี้เมื่อไหร่จะถือว่าแพ้ เนื่องจากซูโม่มาจากพิธีกรรมทางศาสนา สังเวียนนี้จึงห้ามผู้หญิงเหยียบเข้าไปโดยเด็ดขาดตามความเชื่อชินโต
ก่อนแข่งขันนักซูโม่จะโรยเกลือลงพื้นเวทีเป็นการชำระล้าง จากนั้นจะยกขากระทืบพื้นทีละข้างแล้วนั่งยองๆ ในตำแหน่งเป็นท่าเตรียมพร้อม วางกำปั้นสองข้างลงบนพื้น เมื่อกรรมการให้สัญญาณก็จะพุ่งเข้าประชิดคู่ต่อสู้ทันที
การตัดสินแพ้ชนะคือการทำให้คู่ต่อสู้ออกนอกโดะเฮียวให้ได้ อีกทั้งนอกจากฝ่าเท้าแล้ว ห้ามให้ส่วนใดของร่างกายสัมผัสพื้น เช่น มือแตะพื้นหรือล้ม ก็จะถือว่าแพ้เช่นกัน ไม่มีเวลากำหนด แต่ส่วนมากมักใช้เวลาไม่นาน
ข้อห้ามในการแข่งขันคือห้ามต่อย ถีบหรือเตะ โจมตีตาหรือคอ และกระชากผม หากทำผิดกติกาก็จะถูกปรับแพ้ นอกจากข้อห้ามเหล่านี้แล้วจะใช้เทคนิคใดในการเอาชนะก็ได้ เช่น ผลักร่างกายส่วนบน ยกคู่ต่อสู้ พุ่งเข้ากระแทก หรือกระทั่งตบมือให้ตกใจแล้วเข้าจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัว
จังโกะนาเบะ (Chankonabe) คือนาเบะที่ทานกันในหมู่นักซูโม่ เอกลักษณ์คือปริมาณมหาศาล และอุดมไปด้วยโปรตีนที่ให้พลังงาน สำหรับนักซูโม่ที่ต้องยืนสองขาโดยไม่ให้มือแตะพื้นถือว่าสัตว์ที่มี 4 ขาอย่างหมูและวัวนั้นไม่เป็นมงคล จังโกะนาเบะจึงมักทำจากน้ำซุปกระดูกไก่ ใส่เนื้อไก่ เต้าหู้ ลูกชิ้น ผัก และเห็ด
นักซูโม่มีธรรมเนียมว่ารุ่นน้องจะต้องทำอาหารให้รุ่นพี่ ซึ่งจะทำเป็นหม้อใหญ่ เวลาทานก็ต้องเรียงลำดับจากผู้ใหญ่ไปหาผู้น้อย
เที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี อากาศเป็นไง ครบข้อมูลเตรียมเที่ยวเลย
10/03/2021 | Japan
รีวิว ตึกม่วง ทาเคยะ ปิดกี่โมง มีกี่สาขา ซื้ออะไรดี คำตอบครบจบในที่เดียว
08/04/2020 | Tokyo
ตลาดคุโรมง เที่ยวตลาดปลาโอซาก้า กับ 9 ร้านเด็ด กิน ช้อป ฟินสุดใจ
11/11/2021 | Japan
เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น 7 อันดับ รสเยี่ยม ที่ต้องห้ามพลาด
23/02/2017 | Japan
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
21/10/2019 | Japan
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-5285-8088
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
03-5789-2449
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
06-6262-9226-7
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
092-686-8775
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว