ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ไม่เพียงแต่เป็นปราสาทที่เก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามและหลากหลายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของตระกูลฟูจิระในสมัยเอโดะ ยังเป็นสถานท่องเที่ยวที่หลายๆ คนเดินทางมาเยือนเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่งดงามในทุกฤดูกาล
ประวัติศาสตร์และความสำคัญ
ปราสาทฮิโรซากิมีบทบาทสำคัญในช่วงสมัยเอโดะ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการปกครองของตระกูลฟูจิระ ซึ่งมีอำนาจครอบคลุมพื้นที่ทั้งหลาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ ในเมืองฮิโรซากิ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมในช่วงปลายยุคซามูไร ก่อนการเปลี่ยนแปลงในยุคฟื้นฟูเมจิ (Meiji Restoration) ในปี ค.ศ. 1868
ลักษณะของปราสาท
ปราสาทฮิโรซากิมีโครงสร้างที่โดดเด่นและสวยงาม โดยเฉพาะหอคอยหลัก (Tenshu) ที่สร้างจากไม้และมีรูปทรงดั้งเดิมในแบบญี่ปุ่น ด้วยความสูงประมาณ 30 เมตรและหลังคาที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งเป็นหนึ่งในหอคอยที่มีการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในญี่ปุ่น นอกจากหอคอยแล้ว ปราสาทฮิโรซากิมีการตกแต่งที่ละเอียดและสวยงาม โดยเฉพาะรอบๆ ปราสาทมีป้อมปราการและกำแพงหินที่งดงาม
ความสวยงามรอบปราสาทฮิโรซากิ: ธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่กลมกลืน
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความงดงามและสำคัญทางประวัติศาสตร์ นอกจากตัวปราสาทที่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว ความสวยงามของสถานที่โดยรอบยังทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยือนทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง หรือในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีไปเป็นเฉดสีที่สวยงาม
สวนปราสาทฮิโรซากิ: อัญมณีแห่งธรรมชาติ
รอบๆ ปราสาทฮิโรซากิคือสวนปราสาทที่มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ สวนนี้ได้รับการดูแลอย่างดีและเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณเดือนเมษายน) ต้นซากุระในสวนจะบานสะพรั่งเต็มที่ สร้างภาพทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นที่นิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การเดินชมสวนในช่วงเวลานี้คือการได้สัมผัสกับความงดงามและสงบเงียบที่ไม่เหมือนใคร
ทิวทัศน์จากหอคอยหลัก (Tenshu)
การขึ้นไปบนหอคอยหลักของปราสาทฮิโรซากิจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองฮิโรซากิและภูเขาฮักโกะ (Mount Iwaki) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดอาโอโมริ ภาพวิวจากหอคอยของปราสาทจะช่วยให้คุณมองเห็นสวนซากุระและธรรมชาติรอบๆ อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นในฤดูใบไม้ร่วง ภูมิทัศน์ของปราสาทและสวนจะถูกเติมเต็มด้วยสีสันอันสดใสจากใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดง สีส้ม และสีทอง
สะพานและคลองที่สวยงาม
ปราสาทฮิโรซากิมีคลองและสะพานสวยงามที่เชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของสวน คลองที่ไหลผ่านรอบๆ ปราสาททำให้บริเวณนี้ดูสงบและผ่อนคลาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อสะพานถูกล้อมรอบด้วยต้นซากุระที่บานสะพรั่ง การเดินข้ามสะพานไปมาในบรรยากาศที่เงียบสงบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝัน
ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง: เสน่ห์ที่แตกต่างในแต่ละช่วงปี
ความสวยงามรอบปราสาทฮิโรซากิไม่ได้จำกัดอยู่แค่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในฤดูร้อน สวนรอบปราสาทจะเต็มไปด้วยความเขียวขจีจากต้นไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง สวนจะกลายเป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม จากนั้นในฤดูหนาว ภูมิทัศน์รอบๆ ปราสาทจะเปลี่ยนเป็นภาพหิมะปกคลุมที่น่าตื่นตาตื่นใจและสงบเงียบไปอีกแบบ
สถานที่พักผ่อนและกิจกรรมในสวน
นอกจากการเดินชมสวนและถ่ายภาพธรรมชาติแล้ว สวนปราสาทฮิโรซากิยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลหรือวันหยุด นักท่องเที่ยวสามารถนั่งพักในพื้นที่ห้องพักหรือคาเฟ่ที่มีวิวสวยๆ ของสวน และในบางครั้งยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงดนตรีสดหรือการจัดตลาดท้องถิ่นให้ได้สนุกสนาน
สวนรอบปราสาทฮิโรซากิ: ความงดงามที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
สวนที่ล้อมรอบปราสาทฮิโรซากิเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและสีทอง สวนแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน จะมีการประดับไฟสวยงามในเวลากลางคืนที่เพิ่มบรรยากาศความโรแมนติก ในฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน) สวนรอบปราสาทฮิโรซากิจะกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสีสันจากใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม และสีทอง ต้นไม้ในสวนจะมีการเปลี่ยนสีที่สวยงาม สร้างภาพทิวทัศน์ที่มีความอบอุ่นและโรแมนติก สวนแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น การเดินชมสวนในฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว สวนรอบปราสาทฮิโรซากิจะเปลี่ยนเป็นภาพที่เงียบสงบและมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา ปราสาทและสวนจะกลายเป็นฉากที่สวยงามและมีมนต์เสน่ห์ ในช่วงฤดูหนาวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในสวนที่มีหิมะปกคลุมได้อย่างสบายใจ และยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่แตกต่างจากฤดูอื่นๆ ได้ เช่นกัน
Fujita Memorial Garden: สวนสวยแห่งเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki)
Fujita Memorial Garden (藤田記念庭園) เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นและงดงามในเมืองฮิโรซากิ ที่สามารถเดินมาชมความงามได้ไม่ไกลจากปราสาทฮิโรซากิ สวนแห่งนี้มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และความงามของธรรมชาติ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของสวนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม
ความงดงามของ Fujita Memorial Garden
Fujita Memorial Garden ได้รับการออกแบบในสไตล์สวนญี่ปุ่นที่เรียกว่า Karesansui (สวนหิน) ซึ่งมีการใช้หินและน้ำเป็นองค์ประกอบหลักในการจัดแต่งสวน จุดเด่นของสวนคือความสงบและการสร้างสรรค์ที่ช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองและสัมผัสความงามของธรรมชาติที่มีการออกแบบอย่างละเอียด
ภายในสวนมีการจัดเรียงต้นไม้และพรรณไม้อย่างลงตัว เช่น ต้นบ๊วย (Plum) และต้นเชอร์รี่ (Cherry Blossom) ซึ่งทำให้สวนมีความงดงามในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและทอง ทำให้สวนนี้เป็นที่นิยมในช่วงทั้งสองฤดูกาล
อีกหนึ่งจุดเด่นของสวนคือ บ้านสวนเก่า หรือ โรงเรือน (Western-style House) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่น ภายในบ้านมีการจัดแสดงของสะสมของ Fujita Tetsugoro ที่สะท้อนถึงความรักในศิลปะและวัฒนธรรมต่างชาติ รวมถึงเครื่องเรือนและของตกแต่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปในสมัยก่อน
แหล่งชมซากุระขึ้นชื่อของปราสาทฮิโรซากิ
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่สวยงามและขึ้นชื่อที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง รอบๆ ปราสาทจะเต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนที่สร้างภาพทิวทัศน์ที่งดงามและน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีจุดชมซากุระสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด สวนรอบปราสาทฮิโรซากิเป็นแหล่งชมซากุระที่โดดเด่นที่สุดในเมืองฮิโรซากิ และถือเป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณเดือนเมษายน) ต้นซากุระกว่า 2,600 ต้นจะบานเต็มที่ ทำให้สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันของดอกซากุระสีชมพูและขาวที่บานสะพรั่งทั่วบริเวณ การเดินชมซากุระที่นี่จึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด
ในสวนปราสาทฮิโรซากิยังมีพันธุ์ซากุระที่เรียกว่า “ยามานาชิ” ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีสีชมพูเข้มและบานเร็วกว่าซากุระพันธุ์อื่นๆ นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเห็นซากุระบานในช่วงเวลาที่เร็วขึ้นก่อนที่จะถึงช่วงพีคของการชมซากุระที่นี่
เทศกาลชมซากุระที่ปราสาทฮิโรซากิเป็นงานที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยมักจะจัดในช่วงที่ดอกซากุระบานเต็มที่ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงดนตรีสด การจัดตลาดท้องถิ่น และการประดับไฟในช่วงกลางคืน เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้กับการชมซากุระ อีกทั้งยังมีการจัดการแสดงพิธีชงชาญี่ปุ่นและการทำขนมญี่ปุ่นท้องถิ่นเพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
Hirosaki Castle Botanical Garden: สวนพฤกษศาสตร์งดงามในเมืองฮิโรซากิ
Hirosaki Castle Botanical Garden (弘前城植物園) ตั้งอยู่ภายในบริเวณปราสาทฮิโรซากิ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยความหลากหลายของพืชพรรณ ทั้งพืชพื้นเมืองและพืชต่างประเทศ
สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เดิมของสวนหลวงที่อยู่ภายในปราสาทฮิโรซากิ สวนแห่งนี้ได้รับการก่อตั้งในปี 1913 และได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างเป็นทางการในปี 1959 โดยตั้งใจที่จะสร้างสวนที่ไม่เพียงแต่มีความสวยงาม แต่ยังเป็นแหล่งศึกษาวิจัยพืชพรรณชนิดต่างๆ นอกจากการเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีพืชหลากหลายแล้ว สวนแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามรอบๆปราสาทฮิโรซากิได้อีกด้วย
ความงดงามของสวน
Hirosaki Castle Botanical Garden มีการออกแบบและตกแต่งสวนในหลายโซนที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณและดอกไม้จากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยมีการจัดแสดงพืชอย่างเป็นระเบียบและมีการดูแลรักษาอย่างดี
สวนดอกไม้ตามฤดูกาล
สวนแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลที่แตกต่างกัน โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามของ ซากุระ (Cherry Blossoms) ซึ่งเป็นจุดเด่นของสวน ขณะที่ในฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) จะมีดอกไม้หลากหลายชนิดบานสะพรั่ง เช่น ดอกลิลลี่และดอกไฮเดรนเยีย ในฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีทองและแดง เพิ่มความสวยงามให้กับสวน และในฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) สวนจะมีความสงบเงียบในท่ามกลางหิมะ
สวนพฤกษศาสตร์ตามธีม : สวนแห่งนี้มีการจัดพืชในลักษณะธีมต่างๆ เช่น สวนไม้ดอกไม้ประดับ, สวนพรรณไม้หายาก และสวนพืชสวนที่ได้รับการอนุรักษ์ตามมาตรฐานของสวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ รวมถึงสวนพืชพื้นเมืองญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และชมพืชพรรณที่มีความสำคัญทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
บ่อน้ำและน้ำตก : ภายในสวนมีบ่อน้ำและน้ำตกเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มความงดงามให้กับสวน และสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การเดินเล่นหรือผ่อนคลาย
วิวทิวทัศน์ของปราสาทฮิโรซากิ : สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับปราสาทฮิโรซากิ ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น การเดินชมสวนพร้อมกับมองเห็นปราสาทด้านหลัง จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในยุคซามูไร
การเยี่ยมชมปราสาทฮิโรซากิ
ปราสาทฮิโรซากิเปิดให้บริการแก่ผู้เยี่ยมชมตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลที่มีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิหรือการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากการเยี่ยมชมตัวปราสาทแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในสวนปราสาทที่กว้างขวางและสงบ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ปราสาทที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการสร้างสรรค์ของปราสาท
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดแสดงดอกไม้ในฤดูกาลที่แตกต่างกัน และการมีเทศกาลดนตรีหรือการแสดงในบางช่วงเวลาของปี ปราสาทฮิโรซากิจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม ไม่เพียงแต่ในแง่ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่น่าประทับใจในทุกฤดูกาล
วิธีการเดินทางไปปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)
การเดินทางไปปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ สามารถทำได้หลายวิธี ตามความสะดวกของผู้เดินทาง โดยสามารถใช้ทั้งการเดินทางโดยรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ส่วนตัว ดังนี้:
การเดินทางโดยรถไฟ
ปราสาทฮิโรซากิสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากสถานีหลักในเมืองฮิโรซากิ และจังหวัดอาโอโมริ
จากสถานีอาโอโมริ (Aomori Station):
- นั่งรถไฟ JR Ou Line (จากสถานีอาโอโมริไปยังสถานีฮิโรซากิ) ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
- ลงที่ สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) จากนั้นต่อแท็กซี่ หรือเดินไปยังปราสาทฮิโรซากิ (ห่างจากสถานีประมาณ 20 นาทีด้วยการเดิน)
จากสถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station):
- จากสถานีฮิโรซากิสามารถเดินไปยังปราสาทฮิโรซากิได้ง่ายๆ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
การเดินทางโดยรถบัส
จากสถานีอาโอโมริ:
- สามารถนั่งรถบัสจากสถานีอาโอโมริไปยังปราสาทฮิโรซากิ โดยใช้บริการรถบัสระหว่างเมืองอาโอโมริและฮิโรซากิ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50 นาที
- รถบัสจะจอดที่ป้ายใกล้ปราสาทฮิโรซากิ หรือบริเวณที่ตั้งของสวนปราสาท
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
จากเมืองอาโอโมริไปยังปราสาทฮิโรซากิ:
- ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที โดยขับรถจากเมืองอาโอโมริไปตามทางหลวงหมายเลข 7 หรือทางหลวงหมายเลข 102
- ที่ปราสาทฮิโรซากิจะมีที่จอดรถให้บริการทั้งสำหรับผู้ขับขี่ส่วนตัวและนักท่องเที่ยว
การเดินทางจากสนามบินอาโอโมริ (Aomori Airport)
จากสนามบินอาโอโมริ:
- สามารถใช้บริการแท็กซี่จากสนามบินไปยังสถานีอาโอโมริ (ประมาณ 30 นาที) แล้วจากนั้นนั่งรถไฟไปยังสถานีฮิโรซากิ
การเดินทางจากสถานีฮิโรซากิไปยังปราสาทฮิโรซากิ
จาก สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station):
- หากเดินจากสถานีไปยังปราสาทฮิโรซากิจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือสามารถนั่ง แท็กซี่ หรือ รถบัสท้องถิ่น ที่มีบริการไปยังสวนปราสาทได้เช่นกัน
Hirosaki Castle
ที่อยู่ | 1 Chome-1-1 Shimoshirogane, Hirosaki, Aomori 036-8356, Japan |
วิธีเดินทาง | รถไฟจากสถานีอาโอโมริ → ลงสถานีฮิโรซากิ → เดินหรือแท็กซี่ไปปราสาท รถบัสจากอาโอโมริ → ไปยังปราสาทฮิโรซากิ รถยนต์ส่วนตัว → ขับจากอาโอโมริไปฮิโรซากิประมาณ 40-50 นาที |
เวลาทำการ | 9:00 น. – 17:00 น. (เข้าชมสวนได้จนถึง 16:30 น.) ปิดทำการ: ปราสาทอาจปิดในช่วงปีใหม่ (31 ธันวาคม – 2 มกราคม) หรือบางวันในช่วงบำรุงรักษา |
ราคา | – ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ : 310 เยน – เด็ก (6-18 ปี) : 150 เยน – เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ฟรี – ค่าเข้าชมปราสาท (ในกรณีที่มีการจัดแสดงพิเศษหรือในช่วงเทศกาลต่างๆ อาจมีค่าเข้าชมเพิ่มเติม) |
Website | Hirosaki Castle |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
นอกจากการเยี่ยมชมปราสาทฮิโรซากิแล้ว เมืองฮิโรซากิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ฮิโรซากิ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมือง นอกจากนี้ยังมีสวนสัตว์ฮิโรซากิ และแหล่งน้ำพุร้อนที่นักท่องเที่ยวสามารถไปพักผ่อนและสนุกสนานได้
Sengūin Temple: วัดแห่งความสงบในอาโอโมริ
Sengūin Temple (เซงงูอิน) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริของญี่ปุ่น วัดนี้เป็นสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และทางจิตวิญญาณที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่มีความสนใจในศาสนาพุทธมักมาเยี่ยมเยือนเพื่อสัมผัสความสงบและเสน่ห์ของวัดที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี
Sengūin Temple
ที่อยู่ | 1-1 Sekiya, Sannohe, Aomori 039-0201, Japan |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Aomori : – นั่งรถไฟจากสถานี Aomori ไปยังสถานี Shichinohe-Towada Station ประมาณ 40 นาที – จากสถานี Shichinohe-Towada นั่งแท็กซี่ไปยังวัด Sengūin อีกประมาณ 20 นาที – หรือใช้บริการรถบัสที่มีการให้บริการในพื้นที่ |
เวลาทำการ | 9:00 น. – 16:00 น. ปิดทำการ: ทุกวันหยุดปีใหม่ (วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม) |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน การบริจาคหรือค่าเข้าชมเพิ่มเติม: อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากเข้าชมภายในพื้นที่อื่นๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ |
Website | Sengūin Temple |
Hirosaki Apple Park: สวนแอปเปิ้ลสุดสนุกในฮิโรซากิ
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักในธรรมชาติ รวมถึงการสัมผัสกับความเป็นเกษตรกรรมของญี่ปุ่น Hirosaki Apple Park ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแบบสัมผัสประสบการณ์การเก็บผลไม้สดๆ จากต้นแอปเปิ้ล
คำแนะนำ:
- ฤดูกาลที่แนะนำ: การเยี่ยมชม Hirosaki Apple Park จะมีความพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) ที่เป็นฤดูกาลเก็บแอปเปิลและมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับผลผลิตแอปเปิลในท้องถิ่น
- คุณสามารถลองชิมแอปเปิลสดๆ และซื้อของฝากที่ทำจากแอปเปิล เช่น ซอสแอปเปิลและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ได้ที่นี่
Hirosaki Apple Park
ที่อยู่ | 1-1, Futatsui, Hirosaki City, Aomori Prefecture, 036-0411, Japan |
วิธีเดินทาง | จากสถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) : – โดยรถไฟและรถบัส : ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยนั่งรถบัสจากสถานีฮิโรซากิไปยัง Hirosaki Apple Park – โดยแท็กซี่ : ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที จากสนามบินอาโอโมริ (Aomori Airport): – ขึ้นรถบัสหรือแท็กซี่ไปยัง Hirosaki Apple Park ซึ่งใช้เวลาประมาณ 40 นาที |
เวลาทำการ | 9:00 น. – 17:00 น. ปิดทำการ : ปิดทำการในช่วงปีใหม่ (29 ธันวาคม – 3 มกราคม) และบางวันในช่วงการบำรุงรักษา |
ราคา | ค่าเข้าชม : ฟรี (สำหรับการเข้าเยี่ยมชมสวนและบริเวณทั่วไป) กิจกรรมพิเศษ : การเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการเก็บแอปเปิลหรือการทำผลิตภัณฑ์จากแอปเปิลอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม |
Website | Hirosaki Apple Park |
Tsugaru-han Neputa Mura Village: สัมผัสวัฒนธรรมและประเพณีของภูมิภาคทสึการุ
Tsugaru-han Neputa-mura Village ตั้งอยู่ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ เป็นสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประเพณีของภูมิภาคทสุการุ ผ่านการจัดแสดง Neputa ซึ่งเป็นโคมไฟยักษ์ที่ใช้ในเทศกาล Neputa Matsuri ของเมือง ฮิโรซากิ ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความสำคัญของเทศกาล รวมถึงสามารถร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสร้างโคมไฟ Neputa ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการแสดงและการนำเสนอเกี่ยวกับศิลปะท้องถิ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย
Tsugaru-han Neputa Mura Village
ที่อยู่ | 61 Kamenokomachi, Hirosaki, Aomori, Japan |
วิธีเดินทาง | การเดินทางจาก ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) : – โดยการเดิน : ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร – โดยรถยนต์ : ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร การเดินทางจากสถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) : – จากสถานีฮิโรซากิ (Hirosaki Station) เดินไปยัง Tsugaru-han Neputa-mura Village โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที (ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร) |
เวลาทำการ | 9:00 น. – 17:00 น. ปิดทำการ: ปิดในช่วงปีใหม่ (29 ธันวาคม – 3 มกราคม) |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ : 500 เยน เด็ก (อายุ 6-15 ปี) : 250 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ฟรี ค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลหรือกิจกรรมพิเศษ |
Website | Tsugaru-han Neputa Mura Village |
สรุป
ปราสาทฮิโรซากิเป็นหนึ่งในปราสาทที่สำคัญของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความงดงามในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นในด้านสถาปัตยกรรมหรือธรรมชาติ รอบๆ ปราสาทที่มีสวนซากุระและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และความงามของญี่ปุ่นในทุกฤดูกาล การเยี่ยมชมที่นี่ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับอดีต แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง