ชินคันเซ็นเป็นขบวนรถไฟที่ดำเนินการโดยบริษัท Japan Railways (JR) ได้ขยายเครือข่ายไปทั่วประเทศ มีชื่อเสียงในด้านความเร็ว ความแม่นยำ ตรงต่อเวลา และความปลอดภัย จะเห็นได้อีกว่าชินคันเซ็นมีหลายเส้นทางที่เชื่อมโยงไปตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเช่น โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ฟุกุโอกะ และจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย
ภาพรวมเส้นทางหลักของการบริการชินคันเซ็นในประเทศญี่ปุ่น
มาทำความรู้จักกับเส้นทางหลัก ประเภทขบวน และคลาสที่นั่งของชินคันเซ็น หรือรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่ 7 เส้นทางหลักๆ ดังต่อไปนี้ โดยเริ่มจาก Tōkaidō Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานีโตเกียว – โอซาก้า เป็นเส้นทางยอดนิยมแลมีความเก่าแก่ที่สุด เส้นทางยอดนิยมต่อมาคือ San’yō Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานีชินโอซาก้า – ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) สามารถเชื่อมต่อกับ Tōkaidō Shinkansenได้ และอีกเส้นทางหลัก Kyūshū Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานีฮากาตะ – คาโกชิมะ เป็นเส้นทางหลักในภูมิภาคคิวชู
ไปกันต่อที่เส้นทาง Tōhoku Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานีโตเกียว – ชินอาโอโมริ เหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางไปในญี่ปุ่นทางตอนเหนือ อีกเส้นทางขึ้นไปทางเหนือของเกาะญี่ปุ่นเช่นกันคือ Hokkaidō Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานีชินอาโอโมริ – ฮาโกดาเตะ (ฮอกไกโด) เส้นทางของขบวน Jōetsu Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานี โตเกียว – นีงาตะ และเส้นทางหลักแนะนำสุดท้ายคือเส้นทาง Hokuriku Shinkansen ให้บริการในเส้นทางระหว่างสถานี โตเกียว – คานาซาวะ เป็นเส้นทางน่าเที่ยวแนะนำอีกเส้นทางในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ประเภทขบวน (Shinkansen Series) มีรุ่นอะไรบ้าง
รถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่นมีหลายประเภทขบวน ที่มีการพัฒนาทั้งคุณภาพ และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเร็ว ความสะดวก และความปลอดภัย โดยเริ่มจากรุ่นแรก 0 Series ซึ่งเปิดให้บริการในปีค.ศ.1964 ตามด้วยรุ่นต่าง ๆ เช่น 100, 200, 300, 400 Series และขบวนที่เน้นความเร็วสูงอย่าง 500, 700, N700 Series จนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด N700S Series ที่ประหยัดพลังงานและปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับภูมิภาคต่าง ๆ ก็มีขบวนเฉพาะ เช่น E2, E3, E5, E6, E7, W7 Series ใช้ในเส้นทางโทโฮคุ โฮคุริคุ ยามากาตะ อาคิตะ รวมถึง 800 Series และ H5 Series บนเส้นทางคิวชู และฮอกไกโดทำให้ชินคันเซ็นครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ดังต่อไปนี้
- Nozomi เป็นขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่เร็วและพรีเมียมที่สุดบนเส้นทาง Tōkaidō Shinkansen และ Sanyō Shinkansen ซึ่งเชื่อมต่อเมืองใหญ่ระหว่าง โตเกียว – นาโกย่า – เกียวโต – โอซาก้า และต่อไปยังฮิโรชิม่าและฮากาตะในจ.ฟุกุโอกะ
- Hikari เป็นขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่วิ่งบนเส้นทาง Tōkaidō Shinkansen และ Sanyō Shinkansen เช่นกัน มีความเร็วและสถานะเป็นรองจากขบวน Nozomi แต่เร็วกว่าขบวน Kodama
- Kodama ขบวน Kodama เป็นขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่ให้บริการบนเส้นทาง Tōkaidō Shinkansen และ Sanyō Shinkansen โดยเป็น ขบวนที่จอดทุกสถานี ซึ่งทำให้ใช้เวลาเดินทางนานที่สุดเมื่อเทียบกับขบวน Nozomi และ Hikari
- Mizuho รถไฟขบวนนี้เป็นหนึ่งในขบวนของชินคันเซ็นสาย San’yō Shinkansen ที่ทำการเชื่อมต่อไปยัง Kyūshū Shinkansen ให้บริการระหว่างสถานี Shin-Osaka กับ Kagoshima-Chūō รุ่นรถไฟที่ใช้คือรุ่น N700A ขบวน San’yō Shinkansen และ รุ่น N700-8000, N700S ขบวน Kyūshū Shinkansenมีความรวดเร็วและจอดน้อยสถานี
- Sakura เป็นหนึ่งในขบวนยอดนิยมของชินคันเซ็นสาย San’yō Shinkansen ที่ทำการเชื่อมต่อไปยัง Kyūshū Shinkansen เช่นกัน เป็นขบวนรถไฟที่มีความด่วนรองลงมาจากขบวน Mizuho แต่ยังเร็วและสะดวกมาก จอดสถานีมากกว่าขบวน Mizuho แต่เร็วกว่าขบวน Tsubame รุ่นรถไฟที่ใช้คือรุ่น N700 Series (N700-7000, N700-8000) รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Kyūshū Shinkansen
- Tsubame เป็นหนึ่งในขบวนหลักของชินคันเซ็นสาย Kyūshū Shinkansen เลยก็ว่าได้ โดยวิ่งระหว่างสถานี Hakata กับสถานี Kagoshima-Chūō เท่านั้น เป็นขบวนที่จอดทุกสถานีหรือเกือบทุกสถานีในเส้นทางนี้ เหมาะสำหรับเดินทางระยะสั้นหรือผู้ที่ไม่รีบมาก ภายในขบวนรถไฟ Tsubame มีความสวยงาม ดีไซน์หรูหราในแบบรถไฟของภูมิภาคคิวชู
- Hayabusa หนึ่งในขบวนชินคันเซ็นที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว (ความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม.) และหรูหราที่สุดของญี่ปุ่น วิ่งในเส้นทางหลักคือTokyo กับ Shin-Hakodate-Hokutoให้บริการสำหรับเส้นทางระยะไกล ตั้งแต่ Tokyo ไปยัง Aomori และ Hokkaidō จอดน้อยสถานีจึงเหมาะกับการเดินทางไกลที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย
- Yamabiko เป็นหนึ่งในขบวนสำคัญของ Tōhoku Shinkansen วิ่งในเส้นทางจากTokyo ไปยัง Sendai หรือ Morioka ในจ.อิวาเตะเป็น ขบวน Semi-fast (ความเร็วปานกลาง) ของสาย Tōhokuจอดมากกว่าขบวน Hayabusa แต่เร็วกว่าขบวน Nasunoเหมาะกับผู้โดยสารที่ต้องการความยืดหยุ่นและลงสถานีย่อยต่างๆจอดหลายสถานี เหมาะสำหรับการเดินทางไปเมืองต่างๆ ในภูมิภาคโทโฮคุ
- Nasuno เป็นหนึ่งในขบวนของ Tōhoku Shinkansen วิ่งระหว่างเส้นทาง Tokyo กับ Koriyama กับ Nasushiobara เป็น ขบวน Local (จอดทุกสถานี) ของ Tōhoku Shinkansenให้บริการเฉพาะช่วงต้นของสาย ไม่วิ่งไปถึง Sendai หรือ Aomori วิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่าขบวน Hayabusa และ Yamabiko จึงเหมาะสำหรับการเดินทางในระยะสั้นและลงตามสถานีย่อย
- Toki ซึ่งเป็นขบวนหลักของ Joetsu Shinkansen Tokyo Niigata ใช้รถไฟรุ่นใหม่ เช่น E7 Series และบางส่วนยังใช้ E2 Seriesชื่อมต่อเมืองหลวง โตเกียว กับภูมิภาค โฮคุริคุ-ชูโอเอะทสึ (Hokuriku-Chūetsu) ไปจนถึง Niigata
- Kagayaki ซึ่งเป็นขบวนที่เร็วและหรูที่สุดของ Hokuriku Shinkansen วิ่งระหว่างTokyo กับ Kanazawa เป็น ขบวนด่วนพิเศษ (Limited Express) ของ Hokuriku Shinkansenเร็วที่สุด ในสายนี้ (ไม่จอดทุกสถานี)เชื่อมโตเกียวกับเมืองสำคัญอย่าง Nagano, Toyama และ Kanazawa E7 Series (JR East) และสามารถใช้ W7 Series (JR West)จอดน้อย เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความรวดเร็ว
- Hakutaka ในสาย Hokuriku ShinkanseTokyo กับ Kanazawaโดย Hakutaka จะจอดสถานีมากกว่าขบวน Kagayaki (จึงช้ากว่า)เป็นขบวนด่วนรองของ Hokuriku Shinkansenจอดหลายสถานีมากกว่าขบวน Kagayaki เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการราคาย่อมเยากว่าแต่ยังเดินทางได้รวดเร็ว
เส้นทางสายหลัก และขบวนชินคันเซ็นยอดนิยม
เส้นทางชินคันเซ็นสายหลักของญี่ปุ่นครอบคลุมทั่วประเทศ ที่มีตั้งแต่เส้นทางยอดนิยม ไปจนรถไฟสายเก่าแก่และมีผู้ใช้งานมากที่สุด นอกจากนั้นยังมีขบวนที่ทำการเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคตะวันตกหรือวิ่งขึ้นเหนือถึงภูมิภาคโทโฮคุ รวมทั้งลงใต้ไปยังคิวชู เส้นทางเหล่านี้รองรับทั้งการเดินทางเพื่อการทำธุรกิจและการท่องเที่ยว ด้วยการบริการที่ยอดเยี่ยม ความเร็วสูงและตรงต่อเวลาซึ่งเป็นจุดเด่นของรถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่น นอกจากนั้นในแต่ละเส้นทางและขบวนต่างๆ ยังมีทั้งขบวนเร็วพิเศษที่จอดบางสถานี และขบวนธรรมดาที่จอดหลายสถานี ให้เลือกได้ตามเวลาและจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้
1.สาย Tokaido Shinkansen เชื่อมต่อ โตเกียว – นาโกย่า – เกียวโต – โอซาก้า ขบวนหลัก: Nozomi, Hikari, Kodama เป็นเส้นทางยอดนิยมที่สุด เพราะเชื่อมเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ
2.สาย Sanyo Shinkansen เชื่อมต่อโอซาก้า – โอคายามะ – ฮิโรชิม่า – ฟุกุโอกะ (ฮากาตะ) ขบวนหลัก: Mizuho, Sakura, Hikari, Kodama นิยมเดินทางไปคิวชูหรือฮิโรชิม่า
3.สาย Tohoku Shinkansenเชื่อมต่อ โตเกียว – เซนได – โมริโอกะ – อาโอโมริ
ขบวนหลัก: Hayabusa, Yamabiko, Nasuno เส้นทางยอดนิยมช่วงฤดูหนาว ชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี
4.สาย Hokkaido Shinkansen เชื่อมต่อ อาโอโมริ – ฮาโกดาเตะ – ซัปโปโร (ในอนาคต)
ขบวนหลัก: Hayabusa สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปฮอกไกโด
5.สาย Joetsu Shinkansen เชื่อมต่อโตเกียว – กาลุอิซาวะ – เอจิโกะยูซาวะ – นีงาตะ
ขบวนหลัก Toki, Tanigawaนิยมสำหรับท่องเที่ยวลานสกีและออนเซ็น
6.สาย Hokuriku Shinkansenเชื่อมต่อ โตเกียว – นากาโนะ – โทยามะ – คานาซาวะ (ต่อไปยังสึรุงะ ปี 2024) ขบวนหลักKagayaki, Hakutaka, Asama เส้นทางยอดฮิตสำหรับเที่ยวภูเขา แช่ออนเซ็น และเมืองเก่า
ประเภทคลาสที่นั่งของชินคันเซ็น
ส่วนต่างราคาขึ้นอยู่กับ ระยะทาง, เส้นทาง, ขบวน และ ช่วงเวลาเดินทางด้วย แต่ขออธิบายคร่าวๆ ได้ดังต่อไปนี้
ประเภท | คำอธิบาย |
Ordinary Class (2nd Class) | มาพร้อมราคาประหยัด เบาะ 3+2 ที่นั่ง เหมาะสำหรับนักเดินทางทั่วไป |
Green Car (1st Class) | ที่นั่งกว้าง สบาย พื้นที่วางขากว้าง พื้นที่บริการคล้าย Business Class |
Gran Class | เป็นคลาสที่มีความหรูหราที่สุด เหมือน First Class มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบางขบวน โดยใช้กับบางเส้นทาง เช่น Tōhoku และ Hokuriku เท่านั้น |