วิธีเดินทางมายัง Izumo Taisha
วิธีการเดินทางนั้นผมจะเริ่มจากตัวเมือง Matsue เลยแล้วกันครับ
ก่อนอื่นผมจะแนะนำให้เพื่อนได้รู้จัก “En-Musubi” PERFECT TICKET ซึ่งบัตรตัวนี้เป็นบัตรที่ใช้เดินทางในจังหวัด Shimane ซึ่งครอบคลุมถึง Izumo Taisha โดยบัตรนี้มีราคา 4000 เยน แต่ตอนนี้ลดราคาเหลือ 2000 เยน ซึ่งบัตรนี้ครอบคลุมการโดยสารรถบัส รถไฟ ของบริษัท Ichibata ***Matsue Lakeline bus และ รถบัสเมือง Matsue ภายในระยะเวลา 3 วัน
*** ซึ่ง Matsue Lakeline bus นั้นถือว่าเป็นรถบัสที่วิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมือง Matsue ซึ่งถ้ามีบัตรตัวนี้จะทำให้เที่ยวในเมือง Matsue ได้สะดวกยิ่งขึ้น
รวมถึงส่วนลดราคาสำหรับการเข้าชมสถานที่ต่างๆอีกด้วย
สถานที่จำหน่ายบัตร “En-Musubi” PERFECT TICKET นั้นมีหลายที่แต่ผมขอแนะนำ Ichibata Travel Service ซึ่งจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Matsue
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “En-Musubi” PERFECT TICKET สามารถดูได้ที่นี่
“En-Musubi” PERFECT TICKET
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “En-Musubi” PERFECT TICKET สามารถดูได้ที่นี่
มาถึงวิธีการเดินทางกันต่อ โดยเริ่มจากสถานีให้เพื่อนๆนั่งรถไฟ Jr มาลงที่สถานี Izumoshi ซึ่งถ้าเพื่อนๆมี Jr Pass สามารถใช้ได้นะครับ จากนั้นให้เดินไปยังสถานี Dentetsu-Izumoshi ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งสถานีนี้จะเป็นของบริษัท Ichibata ให้เพื่อนๆ ใช้บัตร “En-Musubi” PERFECT TICKET ในการขึ้นรถไฟแล้วมาลงที่สถานี Izumotaisha-Mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีก็ถึงทางเข้าศาลเจ้า
ศาลเจ้า Izumo Taisha
ศาลเจ้า Izumo Taisha เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ที่เมือง Izumo จังหวัด Shimane และเป็น 1 ในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงเดือน 10 ตามปฎิทินจันทรคตินั้น ( ประมาณเดือนพฤศจิกายนตามปฎิทินจันทรคติ ) ตามความเชื่อคือเทพเจ้าทุกองค์ของญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ตามบันทึกนั้นศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ได้ปรากฎปีที่แน่ชัด แต่ตามข้อสันนิษฐานแล้ว คาดว่าไม่น้อยกว่า 700 ปีก่อนคริสตกาล โดยเป็นที่ประดิษฐานของเทพ โอคุนินุซึโนะ ( Okuninushi ) ซึ่งตามความเชื่อนั้นเป็นเทพที่สร้างประเทศญี่ปุ่นขึ้นมา
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นเทพเกี่ยวกับการสมรสอีกด้วย ดังนั้นแล้วศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ผู้คนมักจะมาขอพรเกี่ยว “ความรัก” และวิธีการขอพรของศาลเจ้าแห่งนี้ นั้นจะไม่เหมือนกับศาลเจ้าอื่นๆ คือ ที่นี่จะต้องปรบมือ 4 ครั้ง ผิดกับศาลเจ้าอื่นๆที่จะต้องปรบบมือแค่ 2 ครั้ง
ปัจจุบันศาลเจ้า Izumo Taisha ถูกจดทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ บรรยากาศภายในศาลเจ้านั้นจะค่อนข้างร่มรื่นมีต้นไม้จำนวนมากที่ให้รู้สึกได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ โดยทางเดินไปยังศาลเจ้านั้นเมื่อมาถึงจุดที่เรียกว่า Matsu no sando จะมีต้นส้นปลูกอยู่มากมายซึ่งจะมีกฎในการเดิน คือ ให้เดินทางเดินข้างๆ เพราะทางเดินตรงกลางนั้นเป็นทางเดินสำหรับเทพเจ้า
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของศาลเจ้า Izumo Taisha คือ Shimenawa หรือเรียกง่ายๆว่ามัดฟาง โดย Shimenawa ของศาลเจ้านั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความยาว 13.5 เมตร กว้าง 8 เมตร ศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นจะบูรณะทุกๆ 60 ปี โดยครั้งล่าสุดบูรณะเมื่อปี ค.ศ. 2008 และเสร็จเมื่อปี ค.ศ 2013
โดย Shimenawa ที่กล่าวถึงนั้นจะอยู่ด้านหน้าของ Kaguraden ส่วนระหว่างทางเดินจากสถานีรถไฟ Izumotaisha-Mae มายังศาลเจ้านั้นก็จะมีร้านค้า ร้านขนม ร้านอาหาร มากมาย เมื่อเพื่อนๆมาถึงสถานี Izumotaisha-Mae หลังจากที่เดินออกจากสถานีแล้วแนะนำให้เพื่อนเดินไปทางแม่น้ำ Horikawa ก่อน ซึ่งจะพบกับเสา Otorii สีขาวขนาดยักษ์ ตามความเชื่อนั้น คนธรรมดาเวลามาสักการะศาลเจ้า Izumo Taisha นั้น ถ้าเป็นคนที่เคร่งมากๆเวลาเดินผ่านเสา Otorii ต้นนี้จะต้องเดินผ่านด้านข้างเท่านั้น ส่วนทางตรงกลางจะไม่เดินผ่านเลยเพราะเชื่อว่าเป็นทางสำหรับเทพเจ้าเท่านั้น
จากนั้นก็ให้เดินย้อนกลับมาทางเดิมแล้วเดินเลยสถานีรถไฟ Izumotaisha-Mae ขึ้นไปอีก ก็จะพบกับทางเข้าไปในเขตศาลเจ้า Izumo Taisha ซึ่งต่อจากนี้ไปผมจะแนะนำสถานที่ต่างๆของศาลเจ้าให้เพื่อๆได้รู้จักกันนะครับ
จุด Matsu no sando ที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นจะมีต้นสนปูลูกเรียงรายกันเป็นแถวซึ่งบุคคลทั่วไปจะเดินทางเดินที่อยู่ด้านข้าง เพราะทางเดินตรงกลางนั้นเชื่อว่าเป็นทางเดินของเทพเจ้าHaiden
สถานที่แรกที่จะแนะนำให้รู้จักคือ Haiden ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับสวดอธิฐาน โดยอาคาร Haiden ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1959 ซึ่งอาคารหลังเก่าได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1953 ซึ่งอาคาร Haiden นั้นจะตั้งอยู่ด้านหน้าของอาคารหลักของศาลเจ้าอาคารหลัก ( Honden )
อาคารหลักของศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างของลัทธิชินโตที่มีขนาดสูงที่สุด และเป็นที่ประดิษฐานของเทพ Okuninushi โดยมีความสูงอยู่ที่ 24 เมตร รูปแบบของอาคารหลักนั้นเป็นการสถาปัตยกรรมแบบ Taisha-zukuri ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ
ห้องโถงด้านในของอาคารหลักนั้นจะมีเสาทั้งหมด 9 ต้น โดยอาคารหลักที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1744 และถูกบรรจุเป็นสมบัติแห่งชาติในปี ค.ศ. 1952 ตัวอาคารหลักนั้นไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านในได้ ชมได้แต่ด้านนอกเท่านั้น ซึ่งด้านนอกของตัวอาคารหลักจะล้อมรั้วไว้ 2 ชั้น
Kaguraden
ถัดมาจาก Honden ถ้าเพื่อนๆหันหน้าเข้าไปที่ Honden ให้เพื่อนๆเดินมาทางซ้ายมือข้ามสะพานเล็กๆไปก็จะพบกับ Kaguraden ซึ่งที่นี่มีจุดเด่นคือ shimenawa หรือมัดฟางขนาดใหญ่ที่ผมเกรินไว้ข้างต้น อยู่ด้านหน้าอาคาร ซึ่ง shimenawa ของที่นี่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีความยาว 13.5 เมตร กว้าง 8 เมตร และหนัก 5.2 ตัน โดย shimenawa นั้นจะถูกเปลี่ยนใหม่ในทุกๆ 6 – 8 ปี เพื่อนๆสามารถดู วิธีการเปลี่ยนมัดฟางได้ที่นี่
ห้องโถงอาคาร Kaguraden นั้นมีพื้นที่ 270 เสื่อทาทามิ และด้านหน้านั้นตกแต่งด้วยงานกระจกสีซึ่งหาดูได้ยากมากสำหรับศาลเจ้าที่เป็นสถาปัตยกรรมโบราณ โดยอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ทำพิธีบรวงสรวงต่างๆ และนี่คือมัดฟาง shimenawa แบบชัดๆ
Shinkoden หรือ หอสมบัติ
หอสมบัติแห่งนี้จะอยู่บริเวณมุมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของศาลเจ้าหรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆคือทางขวามือของอาคาร Haiden ที่นี่สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1981 โดยที่นี่นั้นถูกใช้เป็นห้องจัดแสดง นิทรรศการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของศาลเจ้า รวมถึงเสาหลักโบราณของศาลเจ้าขุดมาจากศาลเจ้าในปี ค.ศ. 2000, ภาพเขียนต่างๆ, เอกสารสำคัญและภาชนะต่างๆอาคาร Jukusha
อาคาร Jukusha อาคารแห่งจะเป็นอาคารไม้ยาวๆ จะตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ( ทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตก ) ของอาคารหลักของศาลเจ้า Izumo Taisha
เพื่อนๆยังจำที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นได้รึเปล่าครับ ที่กล่าวว่าช่วงเดือน 10 ของปฏิทินจันทรคติ ที่เทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้า Izumo Taisha แห่งนี้ ซึ่งที่อาคาร Jukusha นี่แหละครับจะเป็นที่พำนักของเทพจากทั่วญี่ปุ่นมากกว่า 8 ล้านองค์เลยทีเดียว อาคาร Jokusha นั้นถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1661 – 1672 โดยได้มีบูรณะอาคารแห่งนี้ครั้งล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2014รูปปั้นของ Okuninushi และ กระต่าย Inaba
เวลาเพื่อนๆมาที่ศาลเจ้า Izumo Taisha ถ้าเพื่อนๆสังเกตดีๆ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีรูปปั้นกระต่ายอยู่มากมาย ซึ่งกระต่ายนั้นก็ถือว่าเป็นอีก 1 เรื่องเล่าในตำนานของเทพ Okuninushi ซึ่งครั้งหนึ่งท่านได้ช่วยชีวิตกระต่ายไว้ โดยเรื่องมีอยู่ว่า ในดินแดน Inaba ได้มีเจ้าหญิงผู้สวยงามชื่อว่า Yakami โดยท่าน Okuninushi ได้เดินทางไปเพื่อพบกับเจ้าหญิง Yakami พร้อมกับพี่น้องของท่าน โดยท่านได้เป็นคนเดินรั้งท้าย เพราะต้องแบกกระเป๋าให้พวกพี่ๆ และท่านก็ได้พบกับกระต่ายตัวหนึ่งกำลังร้องไห้เพราะผิวหนังของมันฉีกขาด ท่านจึงถามกระต่ายว่าเหตุใดถึงมาร้องไห้อยู่ที่นี่
กระต่ายได้ตอบว่า เดิมทีนั้นเจ้ากระต่ายได้อาศัยอยู่ที่เกาะ Oki และได้เดินทางมายังดินแดน Inaba โดยที่ตัวเองไม่ต้องการจะว่ายน้ำจึงได้หลอกฉลามว่าต้องจะแข่งกับฉลามว่าใครมีเพื่อนมากกว่ากัน จากนั้นเจ้ากระต่ายจึงให้ฉลามเข้าแถวกันเพื่อจะได้นับ จากนั้นกระต่ายก็ได้เดินเหยียบหลังฉลามเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง แต่กระต่ายดันหลุดปากไปว่าฉลามหลอกง่าย จึงโดนฝูงฉลามรุมฉีกผิวหนังเพื่อเอาคืนที่โดนหลอก แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหลังจากที่โดนฉลามรุมฉีกผิวแล้ว เจ้ากระต่ายก็ได้พบกับพี่น้องของท่าน Okuninushi ซึ่งได้หลอกกระต่ายว่า ถ้าไม่อยากทรมาณให้เจ้ากระต่ายลงไปว่ายในน้ำทะเลแล้วขึ้นมาตากลม จะได้รู้สึกดีไม่ทรมาน แต่ปรากฎว่าหลังจากเจ้ากระต่ายได้ทำตามที่บอกกลับทำให้มันทรมาณเจ็บปวดหนักกว่าเดิม หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากเจ้ากระต่ายแล้ว ท่าน Okuninushi จึงแนะนำให้เจ้ากระต่ายตัวนั้นไปแช่ในน้ำจืดแล้วไปนอนบนดอกธูปฤาษี เจ้ากระต่ายได้ทำตามที่ท่าน Okuninushi แนะนำ ปรากฎว่าผิวหนังที่ฉีกขาดกลับเป็นปกติเหมือนเดิม
แต่จากเหตุการณ์ช่วยชีวิตกระต่ายตัวนี้ ทำให้ท่าน Okuninushi เดินทางไปถึงที่หมายช้ากว่าพี่น้อง แต่ทว่าคนที่ได้ถูกองค์หญิง Yakami เลือก ก็คือท่าน Okuninushi *** บางตำนานก็บอกว่า สัตว์ที่เจ้ากระต่ายไปหลอกนั้นคือ จระเข้
ศาลเจ้า Izumo Taisha
ที่อยู่ | 195 Taisha, Kizukihigashi, Izumo, Shimane 699-0701 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Izumotaisha – Mae |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 6.30 น. – 20.00 น. หอสมบัติเปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 16.30 น. |
ราคา | ฟรี หอสมบัติ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยม 200 เยน เด็กประถม 100 เยน |
Website | izumooyashiro.or.jp |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับศาลเจ้า Izumo Taisha ที่ต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
ต่อไปนี้ผมขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับศาลเจ้า Izumo Taisha น่าสนใจไม่แพ้กัน มาอ่านต่อกันครับพิพิธภัณฑ์ Shimane museum of ancient izumo
ถ้าหากเพื่อนๆยังต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเมือง Izumo หรือศาลเจ้า Izumo Taisha เพิ่มเติม พิพิธภัณฑ์ Shimane Prefecture Ancient Izumo History Museum นั้นสามารถตอบโจทย์ของเพื่อนๆได้ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้า Izumo Taisha มากนัก เพียงแค่เดินประมาณ 3 นาทีเท่านั้น
โดยพิพิฑภัณฑ์แห่งนี้จะจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ เสาโบราณที่เคยค้ำตัวศาลเจ้า Izumo Taisha, อาวุธโบราณ, แบบจำลองศาลเจ้า Izumo Taisha ในสมัยก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด
พิพิธภัณฑ์ Shimane museum of ancient izumo
ที่อยู่ | 99-4 Taisha, Kizukihigashi, Izumo, Shimane 699-0701 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากศาลเจ้า Izumo Taisha 3 นาที |
เวลาทำการ | เดือนมีนาคม – เดือนตุลาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 18.00 น. เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 310 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัย 200 เยน เด็กนักเรียน 100 เยน |
Website | www.izm.ed.jp |
Inasa No Hama
ชายหาดที่อยู่ฝั่งตะวันตกของศาลเจ้า Izumo Taisha ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีจุดเด่นคือ เกาะที่เป็นโขดหินขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า Benten jima โดยบนโขดหินนั้นมีศาลเจ้าตั้งอยู่ด้วย ซึ่งมีตำนานเล่ากันมาว่า เทพ Yatsu-kami-zu-omizunu นั้นได้ใช้เชือกวิเศษดึงหินก้อนนี้ขึ้นมาจากทะเลมาตั้งแต่ชายหาด Inasa และตามความเชื่ออีกอย่าง เรื่องที่เทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมาชุมนุมครั้งใหญ่กันที่ศาลเจ้า่ Izumo Taisha ก็จะมาแวะที่โขดหินนี่ ก่อนที่จะไปศาลเจ้า Izumo TaishaInasa No Hama
ที่อยู่ | 2711 Taisha, Kizukikita, Izumo, Shimane 699-0702 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินประมาณ 15 นาทีจากศาลเจ้า Izumo Taisha |
เวลาทำการ | เปิดตลอด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | www.izumo-kankou.gr.jp |
สวนนก matsue vogel park
หลังจากที่ผมได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับศาลเจ้า และประวัติศาสตร์มาเยอะแล้ว คราวนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแนวผ่อยคลายบ้าง นั่นคือสวนนก matsue vogel park ซึ่งสวนนกแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ระหว่างเมือง Izumo และ Matsue ซึ่งเพื่อนสามารถเดินทางจากศาลเจ้า Izumo Taisha มาที่นี่ง่ายๆ เดินทางโดยรถไฟ
ที่สวนนกแห่งนี้นั้นเป็นสวนนกแบบในร่ม ด้านในก็จะมีนกมากมายหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นนกแสก,นกฮูก,นกเงือก เป็นต้น และรวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆอีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ดู นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีโชว์ต่างๆให้นักท่องเที่ยวดู ไม่ว่าจะเป็นโชว์พาเลซนกเพนกวิ้น, โชว์นกฮูก, โชว์นกเหยี่ยวและนกอินทรี นอกจากโชว์แล้วที่นี่ยังมีจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปกับนกได้อีกด้วย นอกจากนกแล้วที่นี่ยังมีดอกไม้นานาพันธุ์อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวชม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังมีหอคอยสำหรับชมวิวทะเลสาบ Shinji ได้อีกด้วย ( ทะเลสาบ Shinji นั้น ถือว่าเป็นทะเลสาบคู่บ้านคู่เมืองของ Matsue และเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ) นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารอีกด้วย
สวนนก matsue vogel park
ที่อยู่ | 52 Ogaki, Matsue, Shimane 690-0263 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Izumotaisha – mae มาลงสถานี Matsue Vogel Park ใช้เวลาประมาณ 45 นาที |
เวลาทำการ | วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 17.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น. |
ราคา | ผมขอเขียนเป็นราคานักท่องเที่ยวต่างชาตินะครับ ผู้ใหญ่ 1050 เยน เด็ก 530 เยน เด็กเล็ก ฟรี |
Website | www.ichibata.co.jp |
ปราสาท Matsue
ปราสาทคู่บ้านคู่เมืองของ Matsue และเป็นปราสาทดั้งเดิม 12 ปราสาทของญี่ปุ่นที่อยู่มาถึงปัจจุบัน โดยปราสาท Matsue นั้นสร้างขึ้นโดย Horio Yoshiharu ในปี ค.ศ. 1607 – 1611 ปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของไดเมียวท่านนี้
ปัจจุบันปราสาท Matsue เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยมีทั้งหมด 5 ชั้น ด้านในก็จัดแสดงอาวุธโบราณ, ชุดเกราะ, รูปปราสาทอื่นๆ ส่วนชั้นบนสุดนั้นสามารถชมวิวเมือง Matsue และทะเลสาบ Shinji ได้ ที่สำคัญคือด้านในปราสาทสามารถถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย
ปราสาท Matsue
ที่อยู่ | 1-5 Tonomachi, Matsue, Shimane 690-0887 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถ Lake Line Bus จากสถานี Matsue มาลงป้าย Matsue Castle ได้เลย |
เวลาทำการ | วันที่ 1 เมษษยน – 30 กันยายน เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 18.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 8.30 น. -17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 680 เยน ถ้ายื่นพาสปอร์ตลดเหลือ 470 เยน เด็ก 290 เยน ถ้ายื่นพาสปอร์ตลดเหลือ 200 เยน |
Website | matsue-castle |