Izumo Taisha ศาลเจ้าโบราณสำคัญของญี่ปุ่น ที่จะต้องไปให้ได้ซักครั้งหนึงในชีวิต พร้อมบอกวิธีเดินทาง !!!

24/10/2022 (อัพเดทเมื่อ 15/07/2024)
จังหวัด Shimane เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บนภูมิภาค Shugoku โดยจังหวัด Shimane นั้นถือว่าเป็นจังหวัดที่คนนิยมเที่ยวค่อนข้างน้อย แต่ว่าบทความนี้จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับจังหวัด Shimane ในมุมต่างๆ โดยบทความนี้จะพาเพื่อนๆไปรู้จักศาลเจ้า Izumo Taisha ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างเช่นสวนนก Matsue Vogel Park, ปราสาท Matsue, Shimane Prefecture Ancient Izumo History Museum และ Inasa No Hama เป็นต้น

วิธีเดินทางมายัง Izumo Taisha

วิธีการเดินทางนั้นผมจะเริ่มจากตัวเมือง Matsue เลยแล้วกันครับ

ก่อนอื่นผมจะแนะนำให้เพื่อนได้รู้จัก “En-Musubi” PERFECT TICKET ซึ่งบัตรตัวนี้เป็นบัตรที่ใช้เดินทางในจังหวัด Shimane ซึ่งครอบคลุมถึง Izumo Taisha โดยบัตรนี้มีราคา 4000 เยน แต่ตอนนี้ลดราคาเหลือ 2000 เยน ซึ่งบัตรนี้ครอบคลุมการโดยสารรถบัส รถไฟ ของบริษัท Ichibata ***Matsue Lakeline bus และ รถบัสเมือง Matsue ภายในระยะเวลา 3 วัน

*** ซึ่ง Matsue Lakeline bus นั้นถือว่าเป็นรถบัสที่วิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมือง Matsue ซึ่งถ้ามีบัตรตัวนี้จะทำให้เที่ยวในเมือง Matsue ได้สะดวกยิ่งขึ้น

รวมถึงส่วนลดราคาสำหรับการเข้าชมสถานที่ต่างๆอีกด้วย

สถานที่จำหน่ายบัตร “En-Musubi” PERFECT TICKET นั้นมีหลายที่แต่ผมขอแนะนำ Ichibata Travel Service ซึ่งจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Matsue

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “En-Musubi” PERFECT TICKET สามารถดูได้ที่นี่

IMAGE NAME HERE

“En-Musubi” PERFECT TICKET

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “En-Musubi” PERFECT TICKET สามารถดูได้ที่นี่

มาถึงวิธีการเดินทางกันต่อ โดยเริ่มจากสถานีให้เพื่อนๆนั่งรถไฟ Jr มาลงที่สถานี Izumoshi ซึ่งถ้าเพื่อนๆมี Jr Pass สามารถใช้ได้นะครับ จากนั้นให้เดินไปยังสถานี Dentetsu-Izumoshi ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งสถานีนี้จะเป็นของบริษัท Ichibata ให้เพื่อนๆ ใช้บัตร “En-Musubi” PERFECT TICKET ในการขึ้นรถไฟแล้วมาลงที่สถานี Izumotaisha-Mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีก็ถึงทางเข้าศาลเจ้า

ศาลเจ้า Izumo Taisha

ศาลเจ้า Izumo Taisha เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ที่เมือง Izumo จังหวัด Shimane และเป็น 1 ในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงเดือน 10 ตามปฎิทินจันทรคตินั้น ( ประมาณเดือนพฤศจิกายนตามปฎิทินจันทรคติ ) ตามความเชื่อคือเทพเจ้าทุกองค์ของญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ตามบันทึกนั้นศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ได้ปรากฎปีที่แน่ชัด แต่ตามข้อสันนิษฐานแล้ว คาดว่าไม่น้อยกว่า 700 ปีก่อนคริสตกาล โดยเป็นที่ประดิษฐานของเทพ โอคุนินุซึโนะ ( Okuninushi ) ซึ่งตามความเชื่อนั้นเป็นเทพที่สร้างประเทศญี่ปุ่นขึ้นมา

นอกจากนั้นแล้วยังเป็นเทพเกี่ยวกับการสมรสอีกด้วย ดังนั้นแล้วศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ผู้คนมักจะมาขอพรเกี่ยว “ความรัก” และวิธีการขอพรของศาลเจ้าแห่งนี้ นั้นจะไม่เหมือนกับศาลเจ้าอื่นๆ คือ ที่นี่จะต้องปรบมือ 4 ครั้ง ผิดกับศาลเจ้าอื่นๆที่จะต้องปรบบมือแค่ 2 ครั้ง

ปัจจุบันศาลเจ้า Izumo Taisha ถูกจดทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ บรรยากาศภายในศาลเจ้านั้นจะค่อนข้างร่มรื่นมีต้นไม้จำนวนมากที่ให้รู้สึกได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ โดยทางเดินไปยังศาลเจ้านั้นเมื่อมาถึงจุดที่เรียกว่า Matsu no sando จะมีต้นส้นปลูกอยู่มากมายซึ่งจะมีกฎในการเดิน คือ ให้เดินทางเดินข้างๆ เพราะทางเดินตรงกลางนั้นเป็นทางเดินสำหรับเทพเจ้า

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของศาลเจ้า Izumo Taisha คือ Shimenawa หรือเรียกง่ายๆว่ามัดฟาง โดย Shimenawa ของศาลเจ้านั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความยาว 13.5 เมตร กว้าง 8 เมตร ศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นจะบูรณะทุกๆ 60 ปี โดยครั้งล่าสุดบูรณะเมื่อปี ค.ศ. 2008 และเสร็จเมื่อปี ค.ศ 2013

โดย Shimenawa ที่กล่าวถึงนั้นจะอยู่ด้านหน้าของ Kaguraden ส่วนระหว่างทางเดินจากสถานีรถไฟ Izumotaisha-Mae มายังศาลเจ้านั้นก็จะมีร้านค้า ร้านขนม ร้านอาหาร มากมาย เมื่อเพื่อนๆมาถึงสถานี Izumotaisha-Mae หลังจากที่เดินออกจากสถานีแล้วแนะนำให้เพื่อนเดินไปทางแม่น้ำ Horikawa ก่อน ซึ่งจะพบกับเสา Otorii สีขาวขนาดยักษ์ ตามความเชื่อนั้น คนธรรมดาเวลามาสักการะศาลเจ้า Izumo Taisha นั้น ถ้าเป็นคนที่เคร่งมากๆเวลาเดินผ่านเสา Otorii ต้นนี้จะต้องเดินผ่านด้านข้างเท่านั้น ส่วนทางตรงกลางจะไม่เดินผ่านเลยเพราะเชื่อว่าเป็นทางสำหรับเทพเจ้าเท่านั้น

จากนั้นก็ให้เดินย้อนกลับมาทางเดิมแล้วเดินเลยสถานีรถไฟ Izumotaisha-Mae ขึ้นไปอีก ก็จะพบกับทางเข้าไปในเขตศาลเจ้า Izumo Taisha ซึ่งต่อจากนี้ไปผมจะแนะนำสถานที่ต่างๆของศาลเจ้าให้เพื่อๆได้รู้จักกันนะครับ

จุด Matsu no sando ที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นจะมีต้นสนปูลูกเรียงรายกันเป็นแถวซึ่งบุคคลทั่วไปจะเดินทางเดินที่อยู่ด้านข้าง เพราะทางเดินตรงกลางนั้นเชื่อว่าเป็นทางเดินของเทพเจ้า

Haiden

สถานที่แรกที่จะแนะนำให้รู้จักคือ Haiden ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับสวดอธิฐาน โดยอาคาร Haiden ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1959 ซึ่งอาคารหลังเก่าได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1953 ซึ่งอาคาร Haiden นั้นจะตั้งอยู่ด้านหน้าของอาคารหลักของศาลเจ้า

อาคารหลัก ( Honden )

อาคารหลักของศาลเจ้า Izumo Taisha นั้นถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างของลัทธิชินโตที่มีขนาดสูงที่สุด และเป็นที่ประดิษฐานของเทพ Okuninushi โดยมีความสูงอยู่ที่ 24 เมตร รูปแบบของอาคารหลักนั้นเป็นการสถาปัตยกรรมแบบ Taisha-zukuri ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ

ห้องโถงด้านในของอาคารหลักนั้นจะมีเสาทั้งหมด 9 ต้น โดยอาคารหลักที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1744 และถูกบรรจุเป็นสมบัติแห่งชาติในปี ค.ศ. 1952 ตัวอาคารหลักนั้นไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านในได้ ชมได้แต่ด้านนอกเท่านั้น ซึ่งด้านนอกของตัวอาคารหลักจะล้อมรั้วไว้ 2 ชั้น

Kaguraden

ถัดมาจาก Honden ถ้าเพื่อนๆหันหน้าเข้าไปที่ Honden ให้เพื่อนๆเดินมาทางซ้ายมือข้ามสะพานเล็กๆไปก็จะพบกับ Kaguraden ซึ่งที่นี่มีจุดเด่นคือ shimenawa หรือมัดฟางขนาดใหญ่ที่ผมเกรินไว้ข้างต้น อยู่ด้านหน้าอาคาร ซึ่ง shimenawa ของที่นี่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีความยาว 13.5 เมตร กว้าง 8 เมตร และหนัก 5.2 ตัน โดย shimenawa นั้นจะถูกเปลี่ยนใหม่ในทุกๆ 6 – 8 ปี เพื่อนๆสามารถดู วิธีการเปลี่ยนมัดฟางได้ที่นี่

ห้องโถงอาคาร Kaguraden นั้นมีพื้นที่ 270 เสื่อทาทามิ และด้านหน้านั้นตกแต่งด้วยงานกระจกสีซึ่งหาดูได้ยากมากสำหรับศาลเจ้าที่เป็นสถาปัตยกรรมโบราณ โดยอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ทำพิธีบรวงสรวงต่างๆ และนี่คือมัดฟาง shimenawa แบบชัดๆ

Shinkoden หรือ หอสมบัติ

หอสมบัติแห่งนี้จะอยู่บริเวณมุมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของศาลเจ้าหรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆคือทางขวามือของอาคาร Haiden ที่นี่สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1981 โดยที่นี่นั้นถูกใช้เป็นห้องจัดแสดง นิทรรศการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของศาลเจ้า รวมถึงเสาหลักโบราณของศาลเจ้าขุดมาจากศาลเจ้าในปี ค.ศ. 2000, ภาพเขียนต่างๆ, เอกสารสำคัญและภาชนะต่างๆ

อาคาร Jukusha

อาคาร Jukusha อาคารแห่งจะเป็นอาคารไม้ยาวๆ จะตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ( ทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตก ) ของอาคารหลักของศาลเจ้า Izumo Taisha

เพื่อนๆยังจำที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นได้รึเปล่าครับ ที่กล่าวว่าช่วงเดือน 10 ของปฏิทินจันทรคติ ที่เทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้า Izumo Taisha แห่งนี้ ซึ่งที่อาคาร Jukusha นี่แหละครับจะเป็นที่พำนักของเทพจากทั่วญี่ปุ่นมากกว่า 8 ล้านองค์เลยทีเดียว อาคาร Jokusha นั้นถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1661 – 1672 โดยได้มีบูรณะอาคารแห่งนี้ครั้งล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2014

รูปปั้นของ Okuninushi และ กระต่าย Inaba

เวลาเพื่อนๆมาที่ศาลเจ้า Izumo Taisha ถ้าเพื่อนๆสังเกตดีๆ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีรูปปั้นกระต่ายอยู่มากมาย ซึ่งกระต่ายนั้นก็ถือว่าเป็นอีก 1 เรื่องเล่าในตำนานของเทพ Okuninushi ซึ่งครั้งหนึ่งท่านได้ช่วยชีวิตกระต่ายไว้ โดยเรื่องมีอยู่ว่า ในดินแดน Inaba ได้มีเจ้าหญิงผู้สวยงามชื่อว่า Yakami โดยท่าน Okuninushi ได้เดินทางไปเพื่อพบกับเจ้าหญิง Yakami พร้อมกับพี่น้องของท่าน โดยท่านได้เป็นคนเดินรั้งท้าย เพราะต้องแบกกระเป๋าให้พวกพี่ๆ และท่านก็ได้พบกับกระต่ายตัวหนึ่งกำลังร้องไห้เพราะผิวหนังของมันฉีกขาด ท่านจึงถามกระต่ายว่าเหตุใดถึงมาร้องไห้อยู่ที่นี่

กระต่ายได้ตอบว่า เดิมทีนั้นเจ้ากระต่ายได้อาศัยอยู่ที่เกาะ Oki และได้เดินทางมายังดินแดน Inaba โดยที่ตัวเองไม่ต้องการจะว่ายน้ำจึงได้หลอกฉลามว่าต้องจะแข่งกับฉลามว่าใครมีเพื่อนมากกว่ากัน จากนั้นเจ้ากระต่ายจึงให้ฉลามเข้าแถวกันเพื่อจะได้นับ จากนั้นกระต่ายก็ได้เดินเหยียบหลังฉลามเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง แต่กระต่ายดันหลุดปากไปว่าฉลามหลอกง่าย จึงโดนฝูงฉลามรุมฉีกผิวหนังเพื่อเอาคืนที่โดนหลอก แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหลังจากที่โดนฉลามรุมฉีกผิวแล้ว เจ้ากระต่ายก็ได้พบกับพี่น้องของท่าน Okuninushi ซึ่งได้หลอกกระต่ายว่า ถ้าไม่อยากทรมาณให้เจ้ากระต่ายลงไปว่ายในน้ำทะเลแล้วขึ้นมาตากลม จะได้รู้สึกดีไม่ทรมาน แต่ปรากฎว่าหลังจากเจ้ากระต่ายได้ทำตามที่บอกกลับทำให้มันทรมาณเจ็บปวดหนักกว่าเดิม หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากเจ้ากระต่ายแล้ว ท่าน Okuninushi จึงแนะนำให้เจ้ากระต่ายตัวนั้นไปแช่ในน้ำจืดแล้วไปนอนบนดอกธูปฤาษี เจ้ากระต่ายได้ทำตามที่ท่าน Okuninushi แนะนำ ปรากฎว่าผิวหนังที่ฉีกขาดกลับเป็นปกติเหมือนเดิม

แต่จากเหตุการณ์ช่วยชีวิตกระต่ายตัวนี้ ทำให้ท่าน Okuninushi เดินทางไปถึงที่หมายช้ากว่าพี่น้อง แต่ทว่าคนที่ได้ถูกองค์หญิง Yakami เลือก ก็คือท่าน Okuninushi *** บางตำนานก็บอกว่า สัตว์ที่เจ้ากระต่ายไปหลอกนั้นคือ จระเข้

ศาลเจ้า Izumo Taisha

ที่อยู่195 Taisha, Kizukihigashi, Izumo, Shimane 699-0701
วิธีเดินทางเดิน 5 นาทีจากสถานี Izumotaisha – Mae
เวลาทำการเปิดตั้งแต่ 6.30 น. – 20.00 น. หอสมบัติเปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 16.30 น.
ราคา ฟรี หอสมบัติ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยม 200 เยน เด็กประถม 100 เยน
Websiteizumooyashiro.or.jp

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับศาลเจ้า Izumo Taisha ที่ต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

ต่อไปนี้ผมขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับศาลเจ้า Izumo Taisha น่าสนใจไม่แพ้กัน มาอ่านต่อกันครับ

พิพิธภัณฑ์ Shimane museum of ancient izumo

ถ้าหากเพื่อนๆยังต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเมือง Izumo หรือศาลเจ้า Izumo Taisha เพิ่มเติม พิพิธภัณฑ์ Shimane Prefecture Ancient Izumo History Museum นั้นสามารถตอบโจทย์ของเพื่อนๆได้ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้า Izumo Taisha มากนัก เพียงแค่เดินประมาณ 3 นาทีเท่านั้น

โดยพิพิฑภัณฑ์แห่งนี้จะจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ เสาโบราณที่เคยค้ำตัวศาลเจ้า Izumo Taisha, อาวุธโบราณ, แบบจำลองศาลเจ้า Izumo Taisha ในสมัยก่อน ซึ่งเรียกได้ว่าใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด

พิพิธภัณฑ์ Shimane museum of ancient izumo

ที่อยู่99-4 Taisha, Kizukihigashi, Izumo, Shimane 699-0701
วิธีเดินทางเดินจากศาลเจ้า Izumo Taisha 3 นาที
เวลาทำการเดือนมีนาคม – เดือนตุลาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 18.00 น. เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น.
ราคาผู้ใหญ่ 310 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัย 200 เยน เด็กนักเรียน 100 เยน
Websitewww.izm.ed.jp

ดูแผนที่ พิพิธภัณฑ์ Shimane museum of ancient izumo

Inasa No Hama

ชายหาดที่อยู่ฝั่งตะวันตกของศาลเจ้า Izumo Taisha ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีจุดเด่นคือ เกาะที่เป็นโขดหินขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า Benten jima โดยบนโขดหินนั้นมีศาลเจ้าตั้งอยู่ด้วย ซึ่งมีตำนานเล่ากันมาว่า เทพ Yatsu-kami-zu-omizunu นั้นได้ใช้เชือกวิเศษดึงหินก้อนนี้ขึ้นมาจากทะเลมาตั้งแต่ชายหาด Inasa และตามความเชื่ออีกอย่าง เรื่องที่เทพเจ้าจากทั่วญี่ปุ่นจะมาชุมนุมครั้งใหญ่กันที่ศาลเจ้า่ Izumo Taisha ก็จะมาแวะที่โขดหินนี่ ก่อนที่จะไปศาลเจ้า Izumo Taisha

Inasa No Hama

ที่อยู่2711 Taisha, Kizukikita, Izumo, Shimane 699-0702
วิธีเดินทางเดินประมาณ 15 นาทีจากศาลเจ้า Izumo Taisha
เวลาทำการเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาฟรี
Websitewww.izumo-kankou.gr.jp

ดูแผนที่ Inasa No Hama

สวนนก matsue vogel park

หลังจากที่ผมได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับศาลเจ้า และประวัติศาสตร์มาเยอะแล้ว คราวนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแนวผ่อยคลายบ้าง นั่นคือสวนนก matsue vogel park ซึ่งสวนนกแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ระหว่างเมือง Izumo และ Matsue ซึ่งเพื่อนสามารถเดินทางจากศาลเจ้า Izumo Taisha มาที่นี่ง่ายๆ เดินทางโดยรถไฟ

ที่สวนนกแห่งนี้นั้นเป็นสวนนกแบบในร่ม ด้านในก็จะมีนกมากมายหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นนกแสก,นกฮูก,นกเงือก เป็นต้น และรวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆอีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ดู นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีโชว์ต่างๆให้นักท่องเที่ยวดู ไม่ว่าจะเป็นโชว์พาเลซนกเพนกวิ้น, โชว์นกฮูก, โชว์นกเหยี่ยวและนกอินทรี นอกจากโชว์แล้วที่นี่ยังมีจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปกับนกได้อีกด้วย นอกจากนกแล้วที่นี่ยังมีดอกไม้นานาพันธุ์อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวชม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังมีหอคอยสำหรับชมวิวทะเลสาบ Shinji ได้อีกด้วย ( ทะเลสาบ Shinji นั้น ถือว่าเป็นทะเลสาบคู่บ้านคู่เมืองของ Matsue และเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ) นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารอีกด้วย

สวนนก matsue vogel park

ที่อยู่52 Ogaki, Matsue, Shimane 690-0263
วิธีเดินทางนั่งรถไฟจากสถานี Izumotaisha – mae มาลงสถานี Matsue Vogel Park ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
เวลาทำการวันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 17.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น.
ราคาผมขอเขียนเป็นราคานักท่องเที่ยวต่างชาตินะครับ ผู้ใหญ่ 1050 เยน เด็ก 530 เยน เด็กเล็ก ฟรี
Websitewww.ichibata.co.jp

ดูแผนที่ สวนนก matsue vogel park

ปราสาท Matsue

ปราสาทคู่บ้านคู่เมืองของ Matsue และเป็นปราสาทดั้งเดิม 12 ปราสาทของญี่ปุ่นที่อยู่มาถึงปัจจุบัน โดยปราสาท Matsue นั้นสร้างขึ้นโดย Horio Yoshiharu ในปี ค.ศ. 1607 – 1611 ปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของไดเมียวท่านนี้

ปัจจุบันปราสาท Matsue เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยมีทั้งหมด 5 ชั้น ด้านในก็จัดแสดงอาวุธโบราณ, ชุดเกราะ, รูปปราสาทอื่นๆ ส่วนชั้นบนสุดนั้นสามารถชมวิวเมือง Matsue และทะเลสาบ Shinji ได้ ที่สำคัญคือด้านในปราสาทสามารถถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย

ปราสาท Matsue

ที่อยู่1-5 Tonomachi, Matsue, Shimane 690-0887
วิธีเดินทางนั่งรถ Lake Line Bus จากสถานี Matsue มาลงป้าย Matsue Castle ได้เลย
เวลาทำการวันที่ 1 เมษษยน – 30 กันยายน เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 18.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม – 31 มีนาคม เปิดตั้งแต่ 8.30 น. -17.00 น.
ราคาผู้ใหญ่ 680 เยน ถ้ายื่นพาสปอร์ตลดเหลือ 470 เยน เด็ก 290 เยน ถ้ายื่นพาสปอร์ตลดเหลือ 200 เยน
Websitematsue-castle

ดูแผนที่ ปราสาท Matsue

สรุป

Izumo Taisha

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้จบลงแล้ว ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆได้ทราบว่าจังหวัดก็นับเป็นอีก 1 จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อย่างเช่น ศาลเจ้า Izumo Taisha ศาลเจ้าโบราณที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนศาลเจ้าอื่น ไม่ว่า จะเป็นจำนวนครั้งที่ตบมือ ซึ่งมากกว่าศาลเจ้าอื่นๆ หรือมัดฟางที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็สามารถมาได้ง่ายๆ ซึ่งถ้าเพื่อนซื้อบัตร “En-Musubi” PERFECT TICKET ก็จะทำให้การเที่ยว Shimane นั้นสะดวกสบายมากกว่าเดิม นอกจากศาลเจ้า Izump Taisha แล้วสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่ผมได้แนะนำไปก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งขอบอกว่าที่นี่ จะต้องมาให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต !!!!
Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

72 Posts

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515