วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ

25/05/2016 (อัพเดทเมื่อ 04/06/2024)
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังริมทะเลสาปคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) เพื่อชมทิวทัศน์สวย ๆ ของภูเขาไฟฟูจิเอาไว้ให้แล้วในทางหนทางที่ประหยัดสุด ๆ



ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสุโอกะ (Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับท็อปฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะไปเยือนมากที่สุดเนื่องจากภูเขาไฟฟูจินั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่งดงามของประเทศที่ชาวญี่ปุ่นผูกพัน ทั้งยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศอีกด้วย โดยภูเขาไฟฟูจินั้นมีความสูงถึง 3,776 เมตรเลยทีเดียว



นอกจากความสูงแล้วภูเขาไฟลูกนี้ยังมีความงดงามในด้านของรูปทรงที่สมมาตรกันทุกด้าน ไม่ว่ามองมุมไหนก็ไม่บิดเบี้ยว ทั้งยังมีความงามของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลนเกือบตลอดทั้งปี กลายเป็นทิวทัศน์สุดงดงามที่มีความน่าสนใจ ทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อได้เห็นความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิสักครั้ง



ความจริงแล้วรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจินั้นมีทะเลสาบล้อมรอบอยู่มากถึง 5 แห่งได้แก่ ยามานากะโกะ (Yamanakako), ไซโกะ (Saiko), โชจิโกะ (Shojiko), โมโตซุโกะ(Motosuko), และ คาวากูจิโกะ (Kawaguchigo) แต่ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 นี้ คาวากูจิโกะถือเป็นสถานที่ชมภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมที่สวยงามและเดินทางจากกรุงโตเกียวได้สะดวกที่สุดแห่งหนึ่ง

วิธีการเดินทางไปเยือนภูเขาไฟฟูจิ

รถบัส


Cr: highway-buses.jp

รถบัส เป็นหนทางที่ประหยัดและง่ายสำหรับคนที่ไม่ชินทางอย่างชาวต่างชาติแบบเรา ๆ แต่อาจใช้เวลาในการเดินทางเยอะกว่าการขึ้นรถไฟและควบคุมเวลาไม่ได้หากการจราจรในบริเวณนั้นหนาแน่น


Cr: highway-buses.jp

รถบัสที่ว่านี้มีชื่อว่า Highway Bus โดยเราสามารถขึ้นจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku) ไปลงที่สถานีปลายทางคาวากูจิโกะได้เลย การนั่งรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที (ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด หากเป็นช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสีการจราจรจะติดขัด)

อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ราคาคนละ 1,950 เยน เด็ก 980 เยน (เที่ยวเดียว) ควรจองก่อนเดินทาง 1 วัน สามารถจองออนไลน์และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จองรถ Tokyo Shinjuku Expressway Bus Terminal

Shinjuku Expressway Bus Terminal

ที่อยู่ 1F, 1 Chome-10 Nishishinjuku, Shinjuku-ku, Tōkyō-to 160-0023, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Chou Line ลงที่สถานี Shinjuku เดินประมาณ 3 นาทีจะถึงป้ายรถบัส
ราคา ผู้ใหญ่คนละ 1,750 เยน เด็ก 880 เยน (เที่ยวเดียว)
โทรศัพท์ 03-5376-2222
Website Shinjuku Expressway Bus

ดูแผนที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal

 

รถไฟ

รถไฟ เป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและตรงเวลาที่สุด แต่จะไม่ได้แค่ต่อเดียวจบ เพราะการนั่งรถไฟไปคาวากูจิโกะนั้นจะมีการเปลี่ยนขบวนรถ ค่าใช้จ่ายจึงจะเยอะกว่าการเลือกนั่งรถบัสอยู่สักหน่อย

FUJI
Cr: mtfuji-jp.com

 

โดยเริ่มจากการนั่งรถไฟสาย Azusa จากสถานี JR Shinjuku หรือ Kaiji ไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารประมาณ 1,280 เยน *สามารถใช้ JR PASS ได้

การขึ้นรถไฟขบวนนี้มีตู้ 3 แบบ ซึ่งเราต้องเลือกขึ้นรถไฟให้ถูกตู้ด้วยโดยจะมีระบุที่ตั๋วรถไฟหรือที่ป้ายสถานี (ควรตรวจดูทุกครั้งก่อนขึ้น)

ตู้แบบที่ 1 สีเหลือง : สำหรับคนไม่ได้จองที่นั่ง
ตู้แบบที่ 2 สีแดง : สำหรับคนที่จองที่นั่ง
ตู้แบบที่ 3 สีเขียว : ที่นั่งแบบพิเศษ


Cr: http://e.fujikyu-railway.jp

จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway จากสถานี Otsuki ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เป็นราคาโดยประมาณ) *ไม่สามารถใช้ JR PASS ได้ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานี Otsuki (บอกพนักงานว่าไปลงสถานี คาวากูจิโกะ )

A bus station, Fuji mountain background Japan

เมื่อถึงสถานี Otsuki เราจะต้องต่อรถไฟไปลงสถานีปลายทาง Kawaguchiko (แต่รถไฟจะจอดค้างอยู่ที่สถานี Fujikyu Highland เพื่อหัวหัวกลับ ก็ไม่ต้องตกใจและอย่าเพิ่งลงนะ เพราะยังไม่ถึงจุดหมายของเรา ดูชื่อสถานีกันดี ๆ นะ) ซึ่งรถไฟสายนี้บางขบวนก็จะมีลวดลายน่ารัก ๆ ในธีมภูเขาไฟฟูจิให้เราได้นั่งด้วย

Otsuki Station

ที่อยู่ 3641, Funatsu, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi-ken 401-0301, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Chou Line จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko
ราคา ผู้ใหญ่คนละ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เที่ยวเดียว)
Website Mt.Fuji Explorer

ดูแผนที่ Otsuki Station

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับไปชมภูเขาไฟฟูจิ

แม้ว่าภูเขาไฟฟูจิจะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่เหล่าเมฆหมอกบริเวณนั้นมักจะไม่ค่อยเป็นใจให้เราได้ชมภูเขาไฟลูกนี้กันได้อย่างเต็มที่สักเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวหลายคนก็ต้องผิดหวังเพราะอดเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา ดังนั้นการดูพยากรณ์อากาศก่อนจะไปชมภูเขาไฟลูกนี้จึงมีความสำคัญมาก

FUJI
Cr: google.co.th

คำแนะนำในการดูพยากรณ์อากาศก่อนไปชมภูเขาไฟฟูจิ

    • 1. การกำหนดวันที่จะไปชมภูเขาไฟฟูจิควรกำหนดจากสภาพอากาศ

 

    • 2. การดูพยากรณ์อากาศควรดูแบบวันต่อวัน สามารถดูได้ด้วยการค้นหาคำว่า ‘kawaguchiko weather’ ในเว็บไซต์

Google.com

    • 3. พยากรณ์อากาศจะขึ้นให้เราดูล่วงหน้าเป็นเวลา 1 อาทิตย์ (แต่แนะนำให้ดูวันต่อวันนะ)

 

    • 4. วันที่เหมาะสมกับการไปเยือนฟูจิก็คือวันที่ขึ้นเป็นรูปพระอาทิตย์แจ่มใสไร้เมฆหมอกใด ๆ นั่นเอง

 

    5. ก่อนออกเดินทางก็ควรดูพยากรณ์อากาศอีกทีเผื่อความชัวร์นะจ๊ะ ไปถึงคาวากูจิโกะแล้วจะได้เห็นวิวฟูจิกันแบบเต็ม ๆ ไม่เสียเที่ยว

ภูมิอากาศบริเวณภูเขาไฟฟูจิ

ช่วงเวลาที่สภาพอากาศและอุณหภูมิเหมาะสมที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจินั่นก็คือช่วงเดือนเมษายนในหน้าร้อน และเดือนพฤศจิกายนในฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าภูเขาไฟฟูจิมีความงดงามในทุกฤดูกาล จึงสามารถเลือกไปเยือนกันได้ตามความพอใจและตามความสะดวกของแต่ละคน ชอบสภาพอากาศแบบไหนก็ลองวางแผนกันก่อนไปดู


ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม
(ฤดูหนาว)
อุณหภูมิ : ติดลบจนถึง -10 องศาเซลเซียส
อากาศหนาว หิมะตกมาก ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิมีหิมะปกคลุมจนเป็นสีขาว
ไฮไลท์ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ฟูจิสวยที่สุดในฤดูหนาว

ช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน (ฤดูใบไม้ผลิ)
อุณหภูมิ : ประมาณ 5-25 องศาเซลเซียส
ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่แต่จะเริ่มน้อยลงจนเกือบหมด อากาศเย็นสบาย
ไฮไลท์ ช่วงเดือนเมษายนซากุระจะบานสวยงาม

ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน (ฤดูร้อน)
อุณหภูมิ : ประมาณ 15-30 องศาเซลเซียส
ท้องฟ้าใสดอกไม้บาน อาจมีฝนตกบางวัน อากาศร้อนชื้น ที่ยอดฟูจิไม่มีหิมะปกคลุม
ไฮไลท์ ดอกลาเวนเดอร์จะบานในช่วงเดือนมิถุนายนและจะมีเทศกาลดอกไม้ไฟสุดอลังการในเดือนสิงหาคม

สำหรับนักปีนเขา
ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปี ภูขาไฟฟูจิจะเปิดให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปได้ เส้นทางในการปีนขึ้นภูเขานั้นมีหลายเส้นทาง คาวากูจิโกะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยนะ ใครชอบปีนเขาก็ลองมาพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิกันได้นะ

ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม (ฤดูใบไม้ร่วง)
อุณหภูมิ : ประมาณ 5-20 องศาเซลเซียส
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี อากาศเริ่มหนาวและเริ่มมีหิมะบริเวณยอดภูเขาไฟฟูจิ (ช่วงปลายเดือนตุลาคม)
ไฮไลท์ ใบไม้เปลี่ยนสีเดือนตุลาคม และจะเป็นสีแดงในช่วงพฤศจิกายน ในฤดูกาลนี้การแช่ออนเซ็นชมฟูจิจะได้อารมณ์มาก

การไปชมภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ

 

วิธีการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกที่สุดในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะก็คือการนั่งรถ Retro Bus สายพิเศษที่วิ่งรอบทะเลสาบแห่งนี้ชั่วโมงละ 2 คันหรือประมาณทุก ๆ 30 นาที จอดทั้งหมด 21 ป้าย

โดย Retro Bus ที่ว่านี้จะมี 2 สายด้วยกันคือ
1. Kawaguchiko Line : วิ่งไปตามริมฝั่งทิศเหนือและตะวันออกของทะเลสาบคาวากูจิโกะ
2. Saiko-Aokigahara : วิ่งตามทางทิศใต้ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ แล้ววิ่งไปวนรอบทะเลสาบไซโกะ
*ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทาง
*สามารถซื้อ unlimited ride coupon สำหรับ 2 วัน (นั่งรถบัสได้ไม่จำกัดเที่ยวในเวลา 2 วัน) ได้ ผู้ใหญ่ราคา 1,200 เยน เด็ก 600 เยน

อ่านรายละเอียดของ Retro Bus เพิ่มเติมได้ที่ Retro Bus

แต่นอกจากการนั่ง Retro Bus แล้วเรายังสามารถเที่ยวชมรอบทะเลสาบแบบชิล ๆ ได้ด้วยการเช่าจักรยานหรือเช่ารถยนต์นั่นเอง แต่ไม่แนะนำให้เดินเพราะจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดห่างจากสถานี Kawaguchiko ถึง 6.6 กิโลเมตร ถือเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ

  • ป้ายหมายเลข 7


Cr: yamanashi-kankou.jp

เหมาะสำหรับคนที่ชอบสมุนไพร เครื่องหอม เพราะที่ป้ายนี้จะมีบ้านขายสมุนไพรและเครื่องหอม Kawaguchiko Herb Hall ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย


Cr: 河口湖 北原ミュージアム Happy Days


Cr: 河口湖 北原ミュージアム Happy Days

แถมด้วยพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของเล่นโบราณ Kawaguchiko Kitahara Museum “HAPPY DAYS” ที่น่าเข้าไปชมไม่แพ้กัน (ค่าเข้าผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 6-14 ปี 400 เยน)

  • ป้ายหมายเลข 10


Cr: fujikyu.co.jp

ป้ายนี้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเพราะที่ Yuransen Ropeway Iriguchi จะมี Kachikachiyama Ropeway กระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปสู่จุดชมวิวที่สวยสุดยอดของภูเขาเท็นโจ ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ 9.00-17.10 น.

ค่าตั๋วนั่งกระเช้า
เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 400 เยน เด็ก 200 เยน
ไปกลับ ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน เด็ก 350 เยน


Cr: yamanashi-kankou.jp

และบริเวณฝั่งตรงข้ามของที่ขึ้นกระเช้าก็ยังมี Ensoleille Sailing ท่าเรือสำหรับออกไปล่องเรือชมวิวภูเขาไฟฟูจิในอีกหนึ่งรูปแบบ โดยจะใช้เวลาล่องเรือประมาณ 20 นาที (เรือหมดรอบ 17.30 น.)

ค่าตั๋วนั่งเรือ
เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 900 เยน
เด็ก 450 เยน

  • ป้ายหมายเลข 16

ที่นี่จะมี Kawaguchiko Music Forest Museum ซึ่งจัดแสดงกล่องดนตรีสวย ๆ ไว้มากมายทั้งยังมีไฮไลท์เป็นการแสดงเพลงบรรเลงทุก ๆ 30 นาทีที่ห้อง Dance Organ อีกด้วยนะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก (6-14 ปี) 800 เยน, เด็กโต (15-21 ปี) 1,100 เยน

  • ป้ายหมายเลข 18

Landscape of Itchiku Kubota art museum gate nearby Kawaguchiko lake, Japan in the autumn season.

เป็นบริเวณที่ทิวทัศน์สวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะใบไม้จะเปลี่ยนสีสวยและที่นี่จะกลายเป็นอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดง (เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน) แล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kubota Itchiku Art Museum ที่จัดแสดงชุดกิโมโนที่ออกแบบไว้อย่างมีศิลปะและน่าเข้าไปชมอีกด้วย

  • ป้ายหมายเลข 21

Kawaguchiko Shizen Seikatsukan ที่นี่คือป้ายรถป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะ บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยมาก ๆ อย่างที่ไม่มีอะไรมาบดบังตัวภูเขา ทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านของฝาก ร้านกาแฟและร้านขายซอฟต์ครีมน่าชิมอยู่ด้วย

ข้อสรุป

การไปชมภูเขาไฟฟูจิอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ยาก หากนักท่องเที่ยวอย่างเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี ที่สำคัญคือเราจะต้องเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะกับตัวเอง จำจุดขึ้นรถบัสหรือจำสถานีรถไฟที่ต้องไปลงหรือเปลี่ยนให้ดีเท่านี้การไปภูเขาไฟฟูจิด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อ้ออย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศก่อนจะเดินทางไปด้วยนะ !

HWA ハワ

Blogger : HWA ハワ

? บล็อกเกอร์ชื่อประหลาด ติดโยเกิร์ต ตระเวนกินไอศกรีม ชอบดูหนัง รักการเดินทาง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ประเทศที่ไปกี่ครั้งควาามรู้สึกก็แตกต่างกัน จึงอยากซอกแซกไปให้ทั่ว เพราะชอบความสุขและบรรยากาศสนุก ๆ ระหว่างการเดินทาง ??

307 Posts

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515