มารู้จัก “คามิโกจิ (Kamikochi)” กันสักนิด
คามิโคจิ ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า Japanese Alps ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ธรรมชาติที่งดงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น คามิโกจิถือเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกากุ (Chubu Sangaku National Park) และได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญระดับชาติ (Special Natural Monument) และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพงดงาม (Special Place of Scenic Beauty) โดยรัฐบาลญี่ปุ่น
ในอดีตบริเวณคามิโคจิตรงนี้ ถูกค้นพบและสำรวจโดยนักปีนเขาชาวญี่ปุ่นที่ต้องการพิชิตยอดเขาโฮตากะ (Mount Hotaka) และยาริงะทาเกะ (Mount Yari) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคนี้ ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษชื่อ วอลเตอร์ เวสตัน (Walter Weston) ได้เดินทางมาสำรวจและปีนเขาในภูมิภาคนี้ จนทำให้คามิโกจิเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ เวสตันยังได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งการปีนเขาสมัยใหม่ในญี่ปุ่น และมีการจัดงานเทศกาลเวสตัน (Weston Festival) ขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปีเพื่อรำลึกถึงเขา
ภายในบริเวณอุทยานแห่งนี้ เราก็จะพบเจอกับรูปปั้นของคุณ Walter Weston อีกด้วยนะ
ชวนรู้จักเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น (Japan Alps) และภูเขาโฮตะกะ (Hotaka)
Japan Alps เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในตอนกลางของเกาะฮอนชู (Honshu) ซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักปีนเขาและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ
ภูเขาโฮตะกะหรือโฮตะกะดาเกะ (Hotaka-dake) เป็นหนึ่งในภูเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขา Northern Alps และถือเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสูงถึง 3,190 เมตร (10,466 ฟุต) ภูเขานี้มีลักษณะภูมิประเทศที่ท้าทายและงดงาม ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับนักปีนเขาที่ต้องการท้าทายความสามารถ
สำหรับไฮไลท์ภายในคามิโคจิที่น่าสนใจ
คามิโกจิมีทัศนียภาพที่งดงาม ทั้งป่าไม้เขียวขจี ลำธารใสสะอาด และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า และสำรวจธรรมชาติ โดยไฮไลท์ที่น่าสนใจ ควรไปเยี่ยมชม เราขอลิสต์ไว้ประมาณนี้
Taisho Pond
ทะเลสาบไทโช (Taisho Pond) เป็นทะเลสาบขนาดเล็ก ถูกค้นพบในปี 1915 จากการระเบิดของภูเขาไฟยะเกะ (Mount Yake) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคงมีการเคลื่อนไหวในภูมิภาคนี้ การระเบิดของภูเขาไฟทำให้เกิดดินถล่มและดินโคลนจำนวนมากที่ไหลลงสู่แม่น้ำอาซูสะ (Azusa River) ทำให้แม่น้ำถูกกั้นและเกิดเป็นทะเลสาบไทโชขึ้นมา
Tashiro Pond
ทะเลสาบทาชิโระเป็นทะเลสาบขนาดเล็ก ตั้งอยู่ระหว่างสะพานคัปปะบาชิ (Kappa Bridge) และทะเลสาบไทโช (Taisho Pond) บนเส้นทางเดินป่าหลักของคามิโกจิ ทะเลสาบนี้มีจุดเด่นคือ น้ำใสจนเห็นพื้นหิน มีสีฟ้าอ่อนสะท้อนจากสีฟ้าบนท้องฟ้าเลยละ
Myojin Pond
ทะเลสาบเมียวจิน ตั้งอยู่ภายในหุบเขาคามิโกจิ มีทะเลสาบที่อยู่ในบริเวณนี้ 2 แห่งคือ ทะเลสาบโอคุมิโยจิน (Okumiya Pond) และ ทะเลสาบมิโมโตะ (Mimoto Pond)
แม่น้ำอะซุสะ (Azusa River)
แม่น้ำอะซุสะมีต้นกำเนิดจากธารน้ำแข็งและหิมะละลายบนเทือกเขา Northern Alps โดยเฉพาะจากภูเขาโฮตะกะ (Mount Hotaka) ที่สูงที่สุดในภูมิภาค น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขามีความใสสะอาดเป็นพิเศษ เนื่องจากถูกกรองผ่านชั้นหินและทรายตามธรรมชาติ ทำให้แม่น้ำอะซุสะมีสีฟ้าใสสะอาด สะท้อนท้องฟ้าและภูเขาที่ล้อมรอบอย่างงดงาม หรือพูดง่าย ๆ คือ ลำธารน้ำสีใสที่เราเห็นรอบๆคามิโกจิ บริเวณ Taisho pond, myojin pond และ สะพานกัปปะ ก็คือแม่น้ำอะสุซะ นั่นเอง
Kappabashi Bridge
สะพานคัปปะบาชิเป็นสะพานแขวนที่สร้างจากไม้ทอดข้ามแม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) ด้วยความยาวประมาณ 36 เมตร สะพานนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ เนื่องจากสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขา Northern Alps โดยเฉพาะภูเขาโฮตะกะ (Mount Hotaka) ที่สูงตระหง่านอยู่ในฉากหลัง
ชื่อ “คัปปะบาชิ” มาจากตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเกี่ยวกับ คัปปะ (Kappa) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานของญี่ปุ่นที่เชื่อว่าอาศัยอยู่ในแม่น้ำและบ่อน้ำ ก็เป็นที่รู้จักในฐานะผู้พิทักษ์แม่น้ำและแหล่งน้ำด้วยเช่นกัน จุดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเดินป่าบนตัวเขาคามิโกจิอีกด้วยนะ (จะมีจุดให้บริการข้อมูลเดินขึ้นเขาตรงนี้ด้วย)
สายแคมป์ปิ้งห้ามพลาด ! บริเวณตั้งแคมป์โคะนาชิไดระ (Konashidaira)
“Konashidaira Campground” ตั้งอยู่ในบริเวณที่ร่มรื่นด้วยป่าไม้หนาทึบ มีพื้นที่กว้างขวางและมีการจัดวางเต็นท์ในพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติ โดยที่นี่สามารถรองรับทั้งนักตั้งแคมป์ที่นำเต็นท์มาเองและผู้ที่ต้องการเช่าอุปกรณ์ตั้งแคมป์ รวมถึงมีบริการกระท่อมเล็กๆ (bungalows) สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกกับการพักในเต็นท์
รู้จักเส้นทางการเดินชมป่าในคามิโคจิ
1. เส้นทางคัปปะบาชิ (Kappa Bridge) ถึง ไทโชพอนด์ (Taisho Pond)
ระยะทาง: ประมาณ 3.5 กิโลเมตร (ไปกลับประมาณ 7 กิโลเมตร)
อันนี้คือเส้นทางเดินเที่ยวหลักที่กลุ่มนักท่องเที่ยวทัวร์และบุคคลทั่วไป(อย่างเรา) เดินเที่ยวได้ ถนนทางเดินไม่ลำบาก ผู้สูงอายุก็มาเดินกันเยอะพอสมควร
2. เส้นทางคัปปะบาชิ ถึง มโยจินพอนด์ (Myojin Pond)
ระยะทาง: ประมาณ 7 กิโลเมตร (ไปกลับประมาณ 14 กิโลเมตร)
หากเพื่อน ๆ ต้องการไปเที่ยวต่อจากจุดชมวิวสะพานกัปปะ ก็สามารถเดินทางไปยังจุดชมวิวบึงเมียวจินได้ แต่เส้นทางนี้จะเริ่มขึ้นเขาโฮตากะแล้วนะ
3. เส้นทางคามิโกจิ ถึง โยโคะโอ (Yokoo)
ระยะทาง: ประมาณ 10 กิโลเมตร (ไปกลับประมาณ 20 กิโลเมตร) ยกระดับความท้าทายขึ้นสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเดินลุยในตัวเขาโฮตากะ
4. เส้นทางปีนเขาโฮตะกะ (Mount Hotaka)
ระยะทาง: 16 กิโลเมตร (ไป-กลับ)
เส้นทางนี้ถ้าจะเดินขึ้นไปคงต้องมีการเตรียมร่างกายที่ดี และอาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 วันในการเดินเที่ยว เพราะจะต้องเข้าไปลุยในหุบเขาที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น
ชวนชมภาพบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ที่ระหว่างเดินชมเส้นทางคามิโกจิ – คัปปะบาชิ (Kappa Bridge) – ไทโชพอนด์ (Taisho Pond)
เส้นทางเดินป่าส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะแบบในภาพนี้ ตอนเดินก็จะมีทั้งพื้นดินแห้งบ้าง แฉะบ้าง เดิน ๆ อยู่ก็มีฝนตกปรอย ๆ บ้าง แต่อากาศเย็นสดชื่น ทางอุทยานก็ทำทางให้นักท่องเที่ยวเดินได้สะดวกดี
ไม่ต้องกลัวหลงด้วย เพราะว่าทุกจุดที่มีทางแยก เขาจะมีป้ายบอกทางให้เรา
ถ้าเดินไปถึงจุดสำคัญต่าง ๆ ก็จะมีป้ายแนะนำสถานที่หรือกิจกรรมให้ทำ เช่น ส่องนก เป็นต้น (แต่ถ้าส่องนกจะแนะนำให้เอากล้องส่องมาด้วย เพราะว่ามองด้วยตาเปล่า อาจจะสังเกตยากพอสมควร)
เดินมาเรื่อย ๆ เราก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ที่ขนานไปกับเส้นทางหลักคามิโกจิ คือแม่น้ำอะซุสะ (Azusa river) สีใสสวยงาม
ถ้ากลัวหิวก็ไม่ต้องกังวลมาก เพราะระหว่างเดินทางก็จะมีร้านขนม กาแฟ และเจ้าชีสที่ผลิตจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นแห่งนี้ คอยเติมพลังให้เราได้อยู่ (แต่ว่า ไม่ได้มีให้พบเห็นถี่นะ หากว่าเจอจุดพักสำคัญอย่างเช่น สะพานกัปปะ อาจต้องซื้อเอาไว้ก่อน)
สภาพของไฮไลท์สำคัญ สะพานกัปปะบาชิ (Kappa Bridge) ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านขนาดไหน แต่เราบอกเลยว่าไม่เป็นอุปสรรค สวยงามตามท้องเรื่อง
หากว่าเราไม่อยากถ่ายรูปติดเบียดกับผู้คนมากนัก บริเวณใกล้กับสะพานกัปปะ ลองสุ่มเดินออกมาสักหน่อยนึง ประมาณ 5 นาที ก็จะเห็นพบกับความสงบแบบนี้ (ทางไหนก็ได้ เพราะจะเห็นวิวแบบนี้เหมือนกัน เราแนะนำให้เดินไปตามทางขึ้นหุบเขาคามิโกจิ มันจะมีป้ายบอกเบ่อเริ่มเลย ซึ่งคนจะน้อยแล้ว)
ขากลับแวะมาชักภาพแถว Tashi Pond เพราะใกล้ ๆ บริเวณนี้ เราสามารถเรียกรถ Taxi กลับได้
คามิโกจิ (Kamikochi)
ที่อยู่ | 上高地 Azumi, Matsumoto, Nagano 390-1516 |
วิธีเดินทาง | สามารถขึ้นรถบัสจากสถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิ (Takayama Nohi Bus Center) ไปลงที่ป้ายฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen / Hirayu Bus Terminal) โดยตารางรถจะวิ่งทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 7:00 – 17:30 โดยจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 05:00 – 19:00 คามิโคจิเปิดเส้นทางให้ท่องเที่ยวระหว่างช่วง กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | คามิโกจิ (Kamikochi) |
วิธีการเดินทาง
สำหรับวิธีการเดินทาง เราจะขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน
ส่วนที่ 1 วิธีการเดินทางมายังหุบเขาคามิโกจิ
เนื่องจากเป็นหุบเขาที่อยู่ตรงกลางระหว่างเมือง Matsumoto และ Takayama จึงสามารถเดินทางได้จากทั้ง 2 เมือง
– เดินทางจากเมือง Matsumoto
โดยเราสามารถเดินทางไปขึ้นรถไฟสายคามิโกจิได้ที่สถานี Matsumoto station โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
– เดินทางจากเมือง Takayama
เราสามารถขึ้นรถบัสจากสถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิ (Takayama Nohi Bus Center) ไปลงที่ป้ายฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen / Hirayu Bus Terminal) โดยตารางรถจะวิ่งทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 7:00 – 17:30 โดยจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม
ส่วนที่ 2 วิธีการเดินทางไปยังหุบเขาคามิโกจิ
อ้างอิงจากทริปที่เราเดินทาง เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ไปยังจุดจอดรถที่ 3 ซึ่งเป็นสถานีฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen / Hirayu Bus Terminal) จุดเดียวกับกลุ่มคนที่เดินทางมาจากเมือง takayama
โดยหากเราจะเดินทางต่อเข้าไปยังหุบเขาคามิโกจิ ซึ่งมันจะเข้าไปในส่วนของอุทยาน เราจะต้องเดินทางโดยใช้รถแท็กซี่ หรือ ใช้รถบัสประจำทาง
สำหรับเรา เราเลือกเดินทางโดยใช้รถแท็กซี่ เพราะไม่ต้องรอนาน และมีแทกซี่ก็มีจำนวนเยอะเหมือนกันนะ ราคาตกอยู่ที่ เที่ยวละ 4,500 เยน แพงนิดนึง แต่สะดวกและรวดเร็ว โดยเราเลือกไปลงและกลับที่ Taisho pond เพราะต้องการจะเดินชมป่า แต่จริง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ อยากนั่งตรงไปใกล้กับสะพานกัปปะเลย ก็ให้เลือกปลายทางเป็น Kamikochi เลย คุณลุงแทกซี่จะมาส่งลงตรงจุดพักผ่อน อยู่ตรงสะพานกัปปะพอดี
ทิปส์เล็กน้อยระหว่างการเดินชมคามิโกจิ
– เราจะเห็นป้ายเตือนให้ระวังหมีป่าบ่อยพอสมควร โดยมากจะเป็นจุดที่มีการายงานว่าพบเห็นบ่อย เพราะเราจะเดินอยู่ในตัวอุทยานซึ่งมีสัตว์ป่าหลากหลายเลย
– ถังขยะจะหายากมาก (ถึงมากที่สุด) แนะนำให้เพื่อน ๆ พกถุงขยะใบเล็กๆติดตัวกันไปนะ อย่าเผลอไปทิ้งริมทางละ
– สภาพอากาศบนเขาอาจแปรปรวนได้บ่อย เราขอแนะนำให้ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางมาสัก 1-2 วัน จะได้ไม่เสียเที่ยวเดินทาง
– สภาพแวดล้อมการเดินป่าบางพื้นที่ อาจไม่เอื้ออำนวยกับรองเท้าแตะหรือรองเท้าสีขาว อาจมีบึงโคลน ที่บางที่มันเป็นทางเดินผ่านบังคับ
– สภาพเส้นทางระหว่างสะพานกัปปะ ไปถึง บึงไทโช (Taisho Pond) เส้นทางค่อนข้างเรียบ ไม่มีเนินเขาให้ขึ้น ผู้สูงอายุมาเดินได้
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
1. Matsumoto Castle
ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) หรือที่ได้ฉายาว่าเป็นปราสาทอีกาดำ 1 ใน 5 ปราสาทเก่าแก่ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ ภายนอกนั้นเหมือนจะมีความสูง 5 ชั้น ทว่าโครงสร้างชั้นในนั้นซ่อนชั้นลับไว้อีกชั้น เป็นการออกแบบเพื่อใช้หลบซ่อน มีบันไดไม้ และช่องเปิดสำหรับยิงธนูและโยนหินต่อสู้ เป็นยุทธวิธีโบราณที่ใช้สู้กับศัตรู
Matsumoto Castle
ที่อยู่ | 4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873 |
วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจาก Kita-Matsumoto Station หรือ ขึ้นบัส Town sneaker (North corse) จาก Matsumoto station มาลงที่ป้าย ปราสาทมัตสึโมโต้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน |
เวลาทำการ | ปกติ 8:30 – 17:00 น. โกลเด้นวีค 25เม.ย.– 6 พ.ค./ฤดูร้อน 8-16 ส.ค. 8:00 – 18:00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 700 เยน / เด็ก 300 เยน |
Website | Matsumoto Castle |
2. Shin-Hotaka Ropeway
กระเช้ากอนโดล่าสองชั้นเจ้าเดียวของญี่ปุ่นที่จะพาเราชมทัศนียภาพบนยอดเขาโฮทากะ ชมเทือกเขาเจแปนแอลป์ เต็มอิ่มความงดสามของธรรมชาติ โดยเราสามารถนั่งกระเช้าชมธรรมชาติได้ถึง 2 จุดที่ระดับความสูง 1,308m และ 2,156 เหนือระดับน้ำทะเล พบความงดงามที่แตกต่าง พร้อมบริการนักท่องเที่ยวครบวงจรไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก และจุดบริการนักท่องเที่ยว
Shin-Hotaka Ropeway
ที่อยู่ | 710-58 Okuhida Onsengo Kansaka, Takayama, Gifu Prefecture 506-1421 |
วิธีเดินทาง | ขึ้น Nohi Bus จากสถานี Takayama ใช้เวลา 90 นาที ราคา 2,200 เยน |
เวลาทำการ | แตกต่างกันตามช่วงเวลา |
ราคา | ผู้ใหญ่ 2800 เยน เด็ก 1400 เยน |
Website | Shin-Hotaka Ropeway |
3. Hotaka Shrine
ศาลเจ้าโฮตะกะถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพเจ้าฮอตากะโนะมิโคโตะ (Hotaka no Mikoto) ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้ปกปักษ์รักษาภูเขาและผู้เดินทางในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ถึงแม้จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง Azumino แต่มีความสงบและสวยงามมากและยังสามารถเห็นแม่น้ำอะซุสะที่ไหลผ่านกลางเมืองอีกด้วย ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางของเทศกาลมโยจินไซ (Myojin-sai) ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 8 ตุลาคม เทศกาลนี้เป็นพิธีกรรมชินโตที่สำคัญอีกด้วย
Hotaka Shrine
ที่อยู่ | 6079 Hotaka, Azumino, Nagano 399-8303 |
วิธีเดินทาง | เดินทางมาลงที่สถานี Hotaka Station แล้วเดินต่อไปอีก 8 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 8.30-17.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Hotaka Shrine |
สรุป
สำหรับเรา คามิโกจิเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น ตลอดการเดินชมวิวทิวทัศน์ภายในคามิโกจิ ไม่ได้ทำให้เราเบื่อหน่ายได้เลย น้ำใสฟ้าสวย แถมมีเสียงนก เสียงป่าและเสียงแม่น้ำอะซุสะที่ไหล ที่มีภูเขาโฮตากะแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอยู่เบื้องหลัง มันทำให้เราเพลิดเพลินใจกับธรรมชาติของญี่ปุ่นไม่ต่างอะไรไปจากสวิตเซอร์แลนด์เลยละ