Kyoto Railway museum
พิพิธภัณฑ์รถไฟ Kyoto เปิดบริการเมื่อวันที่ 29 เมษายน ปี 2016 นี่เอง โดยเป็นการแสดงให้ผู้คนทั่วไปได้เห็นถึง การพัฒนาเข้าสู้ความทันสมัยผ่านประวัติศาสตร์ของรถไฟของ Kyoto โดยคอนเซปของพิพิธภัณฑ์รถไฟ Kyoto นั้น คือ เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมรถไฟที่จะขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า
ภายในพิพิธภัณฑ์นั้นจะจัดแสดงตั้งแต่การก่อสร้างทางรถไฟจนไปถึงประวัติศาสตร์และการบริการ นอกจากนั้นแล้วภายในพิพิธภัณฑ์ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงการทดลองเป็นพนักงานคนขับรถไฟด้วยเช่นกัน
ประวัติศาสตร์สำคัญของรถไฟ
บริเวณอาคารหลักของชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถศึกษา เรียนรู้ประวัติศาสตร์รถไฟตั้งแต่เริ่มต้นจนไปถึงปัจจุบันที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 130 ปี
ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดแสดงรถไฟของจริงที่ปลดระวางแล้ว ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มเลยทีเดียว โดยมีมากถึง 53 ตู้ขบวนให้ชมกัน
นอกจากนั้นแล้วที่ชั้น 1 ยังมีจุดที่เรียกว่า Roundhouse ซึ่ง Roundhouse นั้น เป็นแพลตฟอร์มที่มีลักษณะกลม เป็นแท่นหมุนที่เปลี่ยนทิศทางของหัวรถจักร ซึ่งปัจจุบันเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวท่านได้ที่สนใจทางด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรถไฟ ถ้ามา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต้องมาที่ Roundhouse ให้ได้ เพราะว่า Rousehound แห่งนี้ เป็นที่จัดเก็บรถหัวจักรไอน้ำตั้งแต่สมัยยุคเมจิ จนถึงยุคโชวะ เลยทีเดียว ซึ่งมีให้นักท่องเที่ยวได้ชมจนจุใจแน่นอน
เท่านั้นยังไม่พอที่นี่ยังมีอดีตสถานีรถไฟ Nijo The former Nijo Station House ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย โดยสถานีนี้นั้นสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1904 ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่สร้างจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และปัจจุบันเป็นทัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของ Kyoto ในปีค.ศ. 1996 ซึ่งได้ในนั้นได้จักนิทรรศการและมีร้านค้า
รูปด้านบนคือ Roundhouse
ส่วนทางเดินที่เชื่อมระหว่างทางเข้าพิพิธภัณฑ์จนไปถึงอาคารหลักเรียกว่า Promenade เป็นทางเดินที่มีระยะ 100 เมตร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สร้างขึ้นมาเป็นลักษณะคล้ายชานชาลาของสถานีรถไฟ ซึ่งจัดแสดงรถไฟของจริงให้นักท่องเที่ยวได้ดูด้วย
ทางด้านชั้น 2 นั้นก็ถือว่าน่าสนใจด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการจัดแสดงเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานีรถไฟตั้งแต่ต้นยุคโชวะจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งทำให้เห็นว่าพัฒนาไปมากกว่าเดิมแค่ไหน อย่างเช่น Ticket Gate เป็นต้น
เพลิดเพลินกับการนั่งรถไฟหัวจักรไอน้ำ SL Steam
นี่ก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งนี้ครับ คือการได้นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำของจริง ถึงแม้จะเป็นเพียงระยะทางสั้นๆ แต่ก็เป็นความประทับใจที่ยากจะลืม
ซึ่งการจะนั่งรถไฟ SL Steam นั้น จะต้องซื้อตั๋วแยกต่างหาก โดยจะสามารถซื้อได้ที่ชานชาลาเลย ซึ่งมีราคา 300 เยน ส่วนเด็กจะมีราคา 100 เยน ซึ่งรถไฟจะออกทุก 15 – 45 นาที โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 16.00 น.
เรียนรู้ความปลอดภัยของรถไฟ
ที่บริเวณชั้น 1 นักท่องเที่ยวสามารถทดลองขี่จักรยานรางรถไฟที่ใช้สำรวจรางรถไฟได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการจำลองบรรยากาศการสำรวจรองรถไฟของช่างซ่อมบำรุงว่า มีวิธีการทำงานอย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นอีก 1 ในงานด้านความปลอดภัยของรถไฟ
นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังมีโซนที่นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไฟได้อีกด้วย
ทดลองเป็นพนักงานงานรถไฟ
อันนี้ก็เป็นอีกไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์นี้ คือการให้นักท่องเที่ยวได้มาสวมบทบาทเป็นพนักงานรถไฟ ซึ่งโซนนี้จะอยู่ชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์ โดยจะเป็นกิจกรรมเชิงโต้ตอบ ( interactive activities ) อย่างเช่น การควบคุมสัญญาณจราจรทางรถไฟและการสับรางเป็นต้น
นอกจากนั้นแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจที่นั่งคนขับรถไฟได้อีกด้วย เท่านั้นไม่พอ ที่นี่ยังมีทีเด็ดอีกอย่างที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดก็คือ การขับรถไฟแบบ simulators ซึ่งกิจกรรมนี้จะเป็นการทดลองขับเหมือนที่พนักงานขับรถไฟขับจริงๆ ทุกประการ โดยสามารถทดลองขับชินคันเซน จนไปถึงรถไฟท้องถิ่น โดยจะต้องขับที่ความเร็วตามความเป็นจริง และจะต้องเบรกให้พอดีด้วย ซึ่งถ้าไม่พอดีอาจจะจอดเลยสถานีเลยทีเดียว
โดยการใช้บริการโซนนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่ 100 เยน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องซื้อตั๋วแบบ E – Ticket จากได้เว็บ Asoview และตั๋ว 7- Eleven Tickets ซึ่่งสามารถซื้อได้ที่ 7 – Eleven
Sky Terrace
ที่นี่จะอยู่ชั้น 3 ของพิพิธภัณฑ์ โดยเป็นจุดชมวิวแบบเปิดโล่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่มองเห็นรางรถไฟตัดกับวิวเมือง Kyoto ซึ่งสามารถมองเห็น เจดีย์ 5 ชั้นของวัด Toji ได้อีกด้วย ซึ่งผู้คนนิยมขึ้นมาบริเวณนี้เพื่อถ่ายรูปรถไฟที่กำลังแล่นอยู่บนราง ซึ่งจะเป็นภาพที่ค่อนข้างสวยงาม
Railway Diorama
ที่นี่จะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 เป็นการจัดแสดงโชว์ภาพ 3 มิติขนาดใหญ่ที่มีความกวาง 30 เมตร และลึก 10 เมตร โดยเป็นการจำลองพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาด 1/80 จากของจริง โดยว่ากันว่าเป็นภาพ 3 มิติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ป่นอีกด้วย โดยให้ผู้ชมได้สัมผัสกับระบบรางรถไฟขณะที่รถไฟจำลองวิ่งไปตามราง
โดยจะมีการโชว์วันละ 5 รอบเท่านั้น คือเวลา 11.00 น., 12.30 น., 13.30 น., 14.30. และ16.00 น.
วิธีการเดินทางมายัง Kyoto Railway Museum
เดินทางโดย | รายละเอียดการเดินทาง |
---|---|
รถไฟ Jr | นั่งรถไฟจากสถานี Kyoto มาลงสถานี Umekoji Kyotonishi แล้วเดินอีก 2 นาที |
เดิน | เดินจากสถานี Kyoto ไปทางทิศตะวันตก 20 นาที |
นั่งรถบัสสาย 205 หรือ 208 | ลงป้าย Umekoji Koen หรือ Jr Umekoji Kyotonishi แล้วเดิน 3 นาที |
นั่งรถบัสสาย 101, 110, 86, 88 | ลงป้าย Umekoji หรือ Kyoto Railway Museum |
นั่งรถบัสของ Keihan Kyoto Kotsu Bus สาย 2, 14, 15, 26, 26B หรือ 28A | ลงป้าย Umekoji Koen หรือ Jr Umekoji Kyotonishi แล้วเดินอีก 3 นาที |
ตารางข้อมูล
Kyoto Railway Museum
ที่อยู่ | Kankijicho, Shimogyo Ward, Kyoto, 600-8835 |
เวลาทำการ | ปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 17.00 น. ปิดทุกวันพุธ และวันปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม – 1 มกราคม |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1500 เยน เด็กมหาวิทยาลัยและมัธยมปลาย 1300 เยน เด็กมัธยมต้นและประถม 500 เยน เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 200 เยน |
Website | Kyoto Railway Museum |
สถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกับ Kyoto Railway Museum
Kyoto Tower
หอคอยที่มีความสูง 135 เมตร ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดจุดหนึ่งของ Kyoto และยังเป็นทั้งโรงแรม และแหล่งช็อปปิ้งอีกด้วย ถ้าใครมา Kyoto ห้ามพลาดเด็ดขาด
Kyoto Tower
ที่อยู่ | 721-1 Higashishiokoji-cho, Karasuma-dori Shichijo-sagaru, Shimogyo-ku, Kyoto 600-8216 |
วิธีเดินทาง | เดิน 1 นาทีจากสถานี Kyoto |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 21.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็กมัธยม 700 เยน เด็กมัธยมต้น – ประถม 600 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี 200 เยน |
Website | Kyoto Tower |
ศาลเจ้า Rokusonno
ศาลเจ้า Rokusonno เป็น 1 ใน 3 เจ้า Genji ของ shinto โดยมีความเชื่อว่า น้ำจากบ่อจะช่วยให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย และคลอดอย่างปลอดภัย และนอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของ Kyoto ด้วย
ศาลเจ้า Rokusonno
ที่อยู่ | Hachijo Mabudori, Minami Ward, Kyoto City, Kyoto |
วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากสถานี Kyoto หรือ นั่งรถบัสหมายเลข 17 มาลงป้าย Rokusonno Jinja – Mae |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | ศาลเจ้า Rokusonno |
ย่าน Ninenzaka
ย่าน Ninenzaka เป็นยานที่มีลักษณะเป็นเนินยาว โดยมีร้านค้ามากมาย 2 ข้างทางซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ตามสบาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินจากย่านนี้ไปถึงวัด Kiyomizu ได้เลยทีเดียว เพราะทางมันเชื่อมไปถึงวัด
ย่าน Ninenzaka
ที่อยู่ | 605-0826 Kyoto, Higashiyama Ward, Masuyacho, Shimuzu 2 Chome |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงป้าย Kiyomizu – michi |
Website | Ninenzaka |
สรุป
เป็นไงบ้างครับสำหรับบทความพิพิธภัณฑ์รถไฟ Kyoto ซึ่งเห็นได้ว่าในพิพิธภัณฑ์ก็จะจัดแสดงรถไฟตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนได้ว่าญี่ปุ่นนั้นมีการพัฒนาระบบรถไฟอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งพิพิธภัณฑ์รถไฟ Kyoto นั้นเหมาะกับผู้คนทุกเพศทุกวัย ถึงแม้ว่าบางคนไม่ใช่สายรถไฟก็ยังมีความประทับใจกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งบางคนอาจจะมีความฝันในการเป็นพนักงานขับรถไฟแต่ไม่มีโอกาสก็สามารถเติมเต็มความฝันได้ที่นี่กับการทดลองขับแบบ Simulater ได้
ซึ่งที่นี่ก็ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนห้ามพลาดในเวลามาเที่ยว Kyoto