มาเที่ยวทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) เดือนไหนก็สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อน
ทะเลสาบที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ฤดูกาลก็ยังคงสวยงาม เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในฮอกไกโดแล้ว ทะเลสาบชิโกสึยังมีทัศนียภาพที่งดงามในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่หลากหลาย และธรรมชาติที่แปลกตาออกไป ส่วนในฤดูใบไม้ผลิที่เหล่าสิ่งมีชีวิต ต้นไม้ และดอกไม้ต่างๆ กลับมาผลิบานและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง และในฤดูร้อนภาพภูเขาสีเขียวชอุ่มที่โอบล้อมทะเลสาบเอาไว้ เป็นโทนสีของโลกที่ธรรมชาติสร้างไว้แสนลงตัว ยิ่งถ้าได้มีโอกาสมายืนมองตอนที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าที่นี่ด้วย ยิ่งเป็นภาพที่คุ้มค่าแก่การมาเยือนอย่างที่สุด ส่วนอุณหภูมิของน้ำในทะเลสาบนั้นมีความคงที่ตลอดทั้งปีทำให้ไม่เป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังมีเส้นทางธรรมชาติ ที่สามารถชมนกป่าที่อยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์นกยาโชโนะโมริซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบได้
มาทำความรู้จักกับทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) กัน
ทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 32,000 ปีก่อนตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกสึ-โทยะ (Shikotsu- Toya National Park)ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้ที่สุดกับซัปโปโร เมืองหลวงของฮอกไกโด เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น รอบทะเลสาบมีภูเขาไฟรายล้อมหลักๆ อยู่ 3 ลูก ได้แก่ภูเขาเอนิวะทางทิศเหนือ ภูเขาฟุปปาชิ และภูเขาทารุมาเอะทางทิศใต้ ทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากการยุบตัวของแผ่นดินระหว่างภูเขาไฟทั้ง 3 ในสมัยโฮโลซีน ความน่าสนใจนอกจากนั้น คือทะเลสาบที่นี่มีความลึกเฉลี่ย 265 เมตร (869 ฟุต) และความลึกสูงสุด 363 เมตร (1,191 ฟุต) เป็นอันดับที่ 2 รองจากทะเลสาบทาซาว่าในจังหวัดอาคิตะ และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่อันดับ 8 ในประเทศญี่ปุ่น
กิจกรรมที่สามารถทำได้เมื่อมาที่ทะเลสาบชิโกสึ
นอกจากทะเลสาบชิโกสึจะมีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติอันงดงามแล้ว ยังขึ้นชื่อในเรื่องกิจกรรมที่หลากหลาย สามารถทำกิจกรรมได้มากมาย
เรือนำเที่ยวใต้น้ำ
มีเรือจำนวน 2 ลำที่จะพาออกเดินทางไปชมน้ำในทะเลสาบสีน้ำเงินโคบอลต์จากหน้าต่างของเรือที่ ความลึกราวๆ 2 เมตร จากหน้าต่างที่มีประมาณ 16 บาน โดยที่เรือลำนี้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 50 คนด้วยกัน
แช่ออนเซ็น
รอบๆ ทะเลสาบชิโกสึ มีออนเซ็นรายล้อมอยู่หลายแห่ง โดยออนเซ็นที่นี่เรียกกันว่าบิจินโนะยุหรือน้ำแห่งความงาม เนื่องจากมีความนุ่มนวลและให้ความชุ่มชื้นด้วย จึงเป็นออนเซ็นที่มีประโยชน์ต่อผู้หญิง สามารถเข้าพักค้างคืนหรือมาแช่ชั่วคราวก็ได้
พายเรือคายัค เรือแคนูและการเล่นซัพบอร์ด
การพายเรือคายัค เรือแคนูและการเล่นซัพบอร์ด (เป็นการเล่นกระดานโต้คลื่นแบบยืนพาย) นั้นในหลายปีมานี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะผืนน้ำใสแจ๋วและเงียบสงบของทะเลสาบเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวอยากมีประสบการณ์นี้สักครั้ง และคุณสามารถเพลิดเพลินกับการล่องแพหรือตกปลาจากที่นี่ได้เช่นกัน
ดำน้ำ
ทัวร์ดำน้ำตื้นที่นี่จะช่วยให้คุณค้นพบพื้นที่ใต้น้ำอันลึกลับของทะเลสาบมากมาย เช่น ป่าโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำ และการก่อตัวของหินภูเขาไฟที่เรียกในท้องถิ่นว่า “แกรนด์แคนยอนใต้น้ำ” หากโชคดี อาจจะได้พบกับฝูงปลามากถึง 1,000 ตัวอย่างใกล้ชิดได้
ปั่นจักรยาน
รอบๆ ทะเลสาบมีถนนสำหรับสายปั่นจักรยานโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมวิวธรรมชาติสวยงามทั้งภูเขา และทะเลสาบ ยิ่งมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี เหล่าต้นไม้ที่ล้อมรอบทะเลสาบอยู่จะเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีเหลือง ส้มและแดงสวยงามมาก
เดินป่าท่ามกลางหิมะ
ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ล้อมรอบทะเลสาบ มอบโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับการเดินป่าแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวแต่พื้นที่บริเวณรอบๆ ทะเลสาบชิโกสึก็มีหิมะปกคลุมไม่สูงมากนักสามารถเดินเที่ยวชมธรรมชาติได้ด้วยรองเท้าเดินเขาแบบกันลื่น และกันน้ำได้ก็เพียงพอ
ปีนภูเขา
ภูเขาทารุมาเอะทางทิศใต้ มีคอร์สเดินชมภูเขาและสามารถขึ้นไปชมวิวทะเลสาบชิโกสึบนยอดได้ในระยะทางสั้นๆ ใช้เวลาราวๆ 5 ชั่วโมง ทางอุทยานมีไกด์ที่อธิบายเป็นภาษาอังกฤษไว้คอยให้บริการด้วย
แคมป์ปิ้ง
ทางทิศใต้และทางทิศตะวันตกของทะเลสาบ เป็นสถานที่ตั้งแคมป์ยอดนิยมที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ท่ามกลางทะเลสาบอันสวยงามและป่าไม้เขียวชอุ่ม สามารถทานอาหารค่ำรอบกองไฟท่ามกลางวิวธรรมชาติ
เทศกาลน้ำแข็งชิโกสึ (Lake Shikotsu Ice Festival) เพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ฤดูหนาวที่เย็นยะเยือกและน่ามหัศจรรย์ของฮอกไกโด
เทศกาลน้ำแข็งชิโกสึมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่เดิมเป็นเพียงงานเล็กๆ ในท้องถิ่นที่เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เทศกาลนี้ก็ได้รับควานิยมเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมมากอีกงานหนึ่งในญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลายหมื่นคนต่อปี ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคฮอกไกโดอย่างเช่นที่เห็นในปัจจุบัน
โดยงานนี้จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ มีการนำน้ำจากทะเลสาบชิโกสึมาสร้างประติมากรรมน้ำแข็งอันน่าทึ่งหลากหลายรูปทรง ในช่วงเวลากลางวันจะสามารถมองเป็นแสงสีฟ้าภายใต้แสงแดด ส่วนในเวลากลางคืนจะสว่างไสวด้วยแสงไฟหลากสี ราวกับเป็นอาณาจักรแห่งเทพนิยายที่มีมนต์ขลัง นอกจากประติมากรรมน้ำแข็งแล้ว เทศกาลนี้ยังมีกิจกรรมและความบันเทิงมากมายสำหรับผู้มาเยือนทุกเพศทุกวัย ซึ่งรวมถึงสไลเดอร์หิมะและน้ำแข็ง สเก็ตน้ำแข็ง รองเท้าเดินหิมะ และแม้กระทั่งการตีกลองไทโกะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีแผงขายอาหารและแผงขายเครื่องดื่มที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานรู้สึกอบอุ่นขึ้นตลอดการเข้าร่วมงานเทศกาลนี้ อาทิ โอเด้ง ราเมน โซบะ หรืออุด้งร้อน เป็นต้น
ไฮไลท์สำคัญของเทศกาลนี้
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของเทศกาลนี้คือการแสดง “ดอกไม้ไฟบนน้ำแข็ง” ซึ่งเกิดขึ้นเหนือพื้นผิวน้ำแข็งของทะเลสาบชิโกสึ การแสดงอันเป็นเอกลักษณ์นี้มีดอกไม้ไฟที่จุดพลุจากน้ำแข็งโดยตรง ทำให้เกิดแสงและสีอันน่าทึ่งที่สะท้อนจากพื้นผิวทะเลสาบน้ำแข็ง งานเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. ทุกวัน แต่การประดับไฟจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.30 น. ค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยน
การเดินทาง
คุณสามารถเดินทางไปยังเทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิโกสึได้ภายในเวลาประมาณ 40 นาทีโดยรถแท็กซี่จากสนามบินชิโตเสะ มีบริการรถบัสจากสนามบินในราคา 1,050 เยน
จุดเช็คอิน
เมื่อมาเยือนยังทะเลสาบชิโกสึแล้ว จุดเช็คอินท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ขอแนะนำ 2 จุดด้วยกัน
สะพานยามาเซ็นเท็ตสึ
สะพานเหล็กยามาเซ็นเท็ตสึ (Yamasentetsu Brigde) สะพานรถไฟเก่าสำหรับคนเดินแห่งนี้ ใช้สำหรับข้ามแม่น้ำชิโตเสะ บนชายฝั่งทะเลสาบชิโกสึสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1899 เป็นสะพานเหล็กที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในฮอกไกโด และเป็นสัญลักษณ์ของทะเลสาบชิโกสึ สามารถชมทัศนียภาพอันงดงามสีขาวโพลนของหิมะที่ตกทับถมในช่วงฤดูหนาวทำให้วิวสะพานเหล็กสีแดงแห่งนี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทางเดินตะไคร้น้ำ
เป็นภูมิประเทศรูปทรงทางเดินที่สร้างขึ้นโดยลาวาที่ไหลออกมาเมื่อภูเขาทารุมาเอะปะทุและถูกกระแสน้ำกัดเซาะ ส่งผลให้มีมอสประมาณ 30 ชนิดเติบโตหนาแน่นบนพื้นผิวหินในพื้นที่บริเวณนี้ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่แปลกตากับภาพของหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวเข้มมีความงดงามและมหัศจรรย์ในเวลาเดียวกัน
วิธีการเดินทาง
รถโดยสารประจำทาง
Hokkaido Chuo Bus มุ่งหน้าไปยัง “Shikotsuko” (支笏湖) จากสถานี Chitose ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และจากสถานี Minami Chitose ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
รถแท็กซี่
จากสถานี Chitose ใช้เวลานั่งแท็กซี่ 30 นาที หรือจากสถานี Minami Chitose ใช้เวลานั่งแท็กซี่ 35 นาที
พิกัด ทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu)
ที่อยู่ | Shikotsuko Onsen, Chitose City, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Chitose นั่งรถบัส Chuo ไปทาง Shikotsu-ko ประมาณ 45 นาที |
เวลาทำการ | ตลอด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Lake Shikotsu |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ไปเที่ยวทะเลสาบ รวมทั้งทำกิจกรรมมากมายมาแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกหลายแห่งที่แนะนำให้ตามไปเที่ยวกันต่อ
Hill of the Buddha
เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า หรือเนินพระใหญ่สุดอลังการท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อน เป็นภาพที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่เป็นส่วนหนึ่งของสุสานมาโคะมะไนทาคิโนะที่ออกแบบโดยคุณทาดาโอะ อันโดะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังระดับโลก ส่วนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ทำจากหินมีความสูงถึง 13.5 เมตร น้ำหนัก 1,500 ตัน โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเมื่อมองในระยะไกล และเมื่อเข้าใกล้รูปปั้นจะพบเพียงเศียรของพระที่ยื่นออกมาจากเนินเขา นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพื้นที่โดยรอบและเข้าชมพระพุทธรูปที่อยู่ภายในอย่างใกล้ชิดได้
พิกัด เนินพระใหญ่ (Hill of the Buddha)
ที่อยู่ | Takino 2, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku ไปลงที่สถานี Makomanai ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วเดินต่อไปยังป้ายรถบัส หมายเลข 2 เพื่อขึ้นรถบัส Chuo Bus สาย 108 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – ตุลาคม 9.00 – 16.00 น., เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม 10.00 – 15.00 น. |
ราคา | 300 เยน |
Website | Hill of the Buddha |
Lake Toya
เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟอีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติชิโกสึ-โทยะ ทะเลสาบมีรูปทรงคล้ายไข่ดาว ตรงกลางทะเลสาบมีเกาะตั้งอยู่คือเกาะนากาจิมะ จากตะวันออกถึงตะวันตกมีความกว้างอยู่ที่ราวๆ 10 กิโลเมตร และจากทิศเหนือถึงทิศใต้มีความกว้างราว 9 กิโลเมตร ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบที่ไม่เป็นน้ำแข็งเช่นเดียวกับทะเลสาบชิโกสึและเป็นทะเลสาบที่มีน้ำใสเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เนื่องจากมีสารอาหารน้อย จึงมีแพลงตอนอาศัยอยู่น้อยตามไปด้วย จึงส่งผลให้น้ำในทะเลสาบมีความใส และมีออกซิเจนสูง จึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมมากมายให้ทำระหว่างท่องเที่ยวเช่นกัน นอกจากนั้นที่ทะเลสาบโทยะยังเป็นอุทยานธรณีที่ได้รับการรับรองโดย UNESCO World Geopark ว่าเป็น”พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกภาพและเป็นหนึ่งเดียว โดยที่สถานที่และภูมิทัศน์ที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาระดับนานาชาติ ได้รับการจัดการด้วยแนวคิดองค์รวมในด้านการปกป้อง การศึกษา และการพัฒนาที่ยั่งยืน”
พิกัด ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)
ที่อยู่ | Toyako Onsen, Toyako, Abuta District, Hokkaido 049-5721 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงสถานี Toya แล้วโดยสารรถบัสมาลงที่ Toyako Onsen |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Lake Toya |
Noboribetsu
โนโบริเบ็ทสึคือเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชิโกสึ – โทยะ ที่นี่เคยเป็นภูเขาไฟที่ประทุไปแล้วเมื่อ 10,000 ปีก่อน ทำให้น้ำแร่ที่ออกมาจากพื้นที่บริเวณนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพและดีต่อผิวพรรณ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักกันดีที่เรียกว่าหุบเขานรกจิโกคุดานิที่มีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเป็นภาพที่แปลกตา และบ่อโอยุโนมะที่มีอุณหภูมิพอเหมาะสามารถไปแช่เท้าได้ท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมแห่งหนึ่งของฮอกไกโด อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทสำหรับการพักผ่อน แช่ออนเซ็นที่ติดระดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
พิกัด โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)
ที่อยู่ | Noboribetsu Onsen-cho, Noboribetsu, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Sapporo นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Noboribetsu ต่อรถบัสหรือแท็กซี่อีกประมาณ 15 นาที |
เวลาทำการ | ตลอด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | Noboribetsu |
สรุป
การมาเยือนทะเลสาบชิโกสึไม่เพียงแต่จะทำให้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สวยงาม การได้มาทำกิจกรรมที่มีให้เลือกหลากหลาย ในช่วงฤดูหนาว มีกิจกรรมยอดนิยมอย่างสโนว์โมบิล ล่องแพหิมะ และเลื่อนหิมะ ในช่วงฤดูร้อนมีกิจกรรมยอดนิยม อย่าง ตกปลา พายเรือ ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายเรือคายัค ปั่นจักรยาน ในขณะเดียวกันยังสามารถทัวร์เดินป่าพร้อมไกด์ ปั่นจักรยานเสือภูเขา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งแคมป์ที่ยอดเยี่ยม สามารถเยี่ยมชมพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์นกยาโชโนะโมริได้อย่างใกล้ชิด อย่าพลาดแวะร้านอาหารหลายแห่งที่นำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาปรุงเป็นอาหารรสเลิศ อย่างปลาแซลมอนสีแดง นอกจากนี้ยังมีเทศกาลตามฤดูกาล เช่น เทศกาลทะเลสาบชิโกสึโคโย ช่วงเดือนตุลาคม และเทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิโกสึ ช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ปิดท้ายทริปแบบฟินๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นในหมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด ว่ากันว่ามีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพและผิวพรรณได้ตลอดทั้งปีจากที่นี่อีกด้วยนะ