ตะลุย 11 ที่เที่ยว Hokkaido Summer เริงร่าไปกับฤดูร้อนซ่อนรัก

ถ้าหากอยู่ที่เมืองไทยช่วงนี้คงจะได้ยินเสียงฝนตกเปาะแปะเป็นแน่ และเชื่อได้ว่าคนไทยหลายๆ คนคงมีคนที่ไม่ชอบสายฝนเพราะทั้งเปียก แล้วไหนจะน้ำที่คอยท่าจะท่วมอยู่ทุกเมื่อที่ฝนตก ใครที่กำลังมองหาที่หลบฝน ลองอ่านบทความนี้เลย เพราะเราจะพาทุกคนหลบฝนไปซ่อนรักท่ามกลาง Summer in Hokkaido กัน

ช่วง ฤดูร้อนของฮอกไกโดนั้น ตรงกับเดือน มิถุนายน กรกฏาคม และสิงหาคม ซึ่งในช่วงฤดูร้อนนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดเลย นั่นก็เพราะว่าช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ดอกไม้ที่บานสะพรั่งท่ามกลางทุ่งที่กว้างใหญ่ ในช่วงฤดูร้อนนั้นอากาศค่อนข้างแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เหมาะกับการผจญภัยในธรรมชาติ เยี่ยมชมสวนสัตว์ และเดินชิลล์ในเมืองก็ได้ สบายๆ ว่าแต่ว่าจะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้างลองไปดูกันเลย

ภูเขาไฟ Usu

อุทยานธรณีโลก (Global Geoparks) ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ทางทิศใต้ของทะเลสาบโทยะที่ระดับความสูง 733 เมตร สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกล้ำค่าทางธรณีวิทยา เราสามารถชมความงามของภูเขาไฟ “Showa Shinzan”

เป็นภูเขาไฟน้องใหม่ซึ่งเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ Usu ทำให้เกิดแผ่นดินไหวจนก่อตัวขึ้นเป็นภูเขาไฟลูกใหม่ โดยเราสามารถชมวิวและเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพเบื้องล่างที่มองเห็นทะเลสาบและภูเขาไฟ Showa Shinzan ได้จากหอชมวิว Toya Lake อีกด้วย

ภูเขาไฟ Usu

ที่อยู่	184-5 Aza Showa Shinzan, Sobetsu-cho, Usu-gun, Hokkaido, Japan 052-0102 (Usuzan Ropeway)
วิธีเดินทาง	รถยนต์ : ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากใจกลางเมืองซัปโปโร (ผ่านทางหลวงหมายเลข 230) / ประมาณ 2 ชั่วโมงจากสนามบินชิโตเสะ (ผ่านทางหลวงสาย DO-O, ทางหลวงหมายเลข 453) บัส : จากสถานี JR Toya นั่งรถบัสบริษัทโดนันไปที่ “Toyago Onsen” ประมาณ 15 นาที ให้ลงรถบัสที่ “Toyako Onsen Bus Terminal” จากนั้นเปลี่ยนรถไปขึ้นรถบัสโดนันที่มุ่งหน้าสู่ “Showa Shinzan” นั่งรถประมาณ 15 นาที ลงรถที่ป้ายสุดท้าย
เวลาทำการ	8: 00-18: 00 (มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) ปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม 2020
ราคา	ค่าบริการ (rope way) ไป-กลับ : ผู้ใหญ่ (มัธยมต้นขึ้นไป) , 600 เยนเด็ก 800 เยน ที่จอดรถ รถยนต์โดยสาร 400 คัน (ค่าจอดรถ: 1 วัน / 500 เยน)
โทรศัพท์	0142-75-2401

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha)

ว่ากันว่าเป็นสุสานของซัปโปโรที่มีทั้ง “โมอาย” และ “พระพุทธรูป” ขนาดยักษ์อีกด้วย เป็นสถานที่สุดฮิต สุดฮิปที่เป็นกระแสในโซเชียลมีเดียอย่างมาก นั่นก็คือ Takino reien ระหว่างที่คุณเดินชมทุ่งลาเวนเดอร์กว่า 150,000 ต้น บนเนินเขา

คุณจะสามารถเห็นเศียรของพระพุทธรูปที่โผล่พ้นเนินออกมาเท่านั้น ซึ่งเป็นการเดินชมลาเวนเดอร์ที่แปลกแหวกแนวออกอย่างที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลย โดยคุณสามารถเข้าชมเศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายเดือนเลย

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha)

ที่อยู่	Takino, Minami Ward, Sapporo, Hokkaido 005-0862
วิธีเดินทาง	รถไฟใต้ดิน นั่งรถไฟใต้ดินสาย Nanboku จากสถานี Sapporo มาลงที่สถานี Makomanai รถบัส ขึ้นรถบัสหมายเลข 2 จากป้าย Makomanai มุ่งหน้าไปสู่ Makomanai Takino Reien
เวลาทำการ	ช่วง เมษายน – ตุลาคม 9: 00-16:00 ช่วง พฤศจิกายน – มีนาคม 10: 00-15:00 วันหยุด วันขึ้นปีใหม่ (29 ธันวาคม – 4 มกราคม) และวันที่ซ่อมบำรุงสถานที่
Website	Takino reien

แหลม Kamui

จุดชมวิวคาบสมุทรชาโคตัง (Shakotan Peninsula) เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาถ่ายรูปสวยๆ อัพโซเชียลมีเดียกัน คุณสามารถเช่ารถขับไปยังที่นี่ได้จากสนามบินชิโตเสะด้วย และยังมีที่จอดรถ 300 คันให้ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยว ที่นี่ได้รับขนานนามว่า Shakotan blue เพราะความใสและสีของน้ำทะเลที่เปล่งประกายเป็นสีเขียวมรกต ทำให้บริเวณน้ำตื้นจะสามารถมองเห็นหินที่อยู่บริเวณนั้นได้

หากเดินไปตามทางเดินแคบๆ ผ่านเส้นทางคดโค้งบนสันเขาที่เรียกกันว่า “The path of Charenka” ที่ถูกโอบล้อมทั้งสองด้านด้วยทะเลไปประมาณ 20 – 30 นาที ก็จะไปที่สุดปลายแหลม Kamui ว่ากันว่าวิวบริเวณนั้นงดงามอย่างหาที่ติไม่ได้เลยเชียวล่ะ

เพียงทอดสายตามองออกไปก็จะเห็นทะเลลึกสีน้ำเงินใสสะอาด นอกจากนี้หากมาในช่วงฤดูร้อนคุณสามารถชมดอกไม้จีน, ดอกลิลลี่ หรือกุหลาบญี่ปุ่น โรแมนติกสุดๆ ไปกับดอกไม้สีเหลืองพลิ้วไหวไปพร้อมกับน้ำทะเลที่กระเพริ่มไปตามแรงลม

แหลม Kamui

ที่อยู่	Hokkaido Shakotan County Shakotan cho Kamisu
วิธีเดินทาง	รถไฟ JR : จาก Hakodate Main Line สถานี Otaru ขึ้น Chuo Bus ที่มุ่งหน้าไปยังแหลม Kamui ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที รถยนต์ : จากใจกลางเมืองซัปโปโรประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที (ผ่านทางด่วน Sasson)
เวลาทำการ	ไม่มีวันหยุด

ทุ่งทานตะวัน หมู่บ้านทานตะวันแห่งเมืองโฮคุริว (Hokuryu Himawari no sato)

เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะความโรแมนติกนั้นไม่เป็นสองรองใคร กับทุ่งดอกทานตะวันกว่า 2 ล้านดอก หากเราจะเดินชมให้ทั่วบริเวณต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง และนอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหารไว้ให้บริการ รวมถึงมีกิจกรรมต่างๆให้ร่วมสนุกมากมายเลย

ถ้าอยากจะลองท้าทายตัวเอง ที่นี่ก็มีเขาวงกตให้เราท้าทายความสามารถของตัวเองอีกด้วย และยังมีจุดชมวิวสูง 5 – 6 เมตร ให้คุณปีนขึ้นไปชมความสวยงามแบบพาโนรามาของทุ่งดอกไม้แห่งนี้

นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม ที่นี่ได้จัดงาน Himawari Matsuri อีกด้วย

ทุ่งทานตะวัน หมู่บ้านทานตะวันแห่งเมืองโฮคุริว (Hokuryu Himawari no sato)

ที่อยู่	143-2 Itaya, Hokuryu-cho, Uryu-gun, Hokkaido
วิธีเดินทาง	รถยนต์ : จากใจกลางเมืองซัปโปโรประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที (ทางด่วน Do-o Sapporo IC → ผ่าน Fukagawa JCT) รถไฟ JR : จากสถานีซัปโปโร ไปยังสถานี Takigawa โดย Limited Express Super Kamui ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือโดยรถยนต์จากสถานี Takigawa ประมาณ 30 นาที
เวลาทำการ	เวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมทุ่งทานตะวันคือ กลางเดือนกรกฎาคมถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม

ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

วิวที่งดงามของภูเขาฮาโกดาเตะนั้นได้รับการยกย่องจาก Michelin Green Guide Japan ถึงระดับ 3 ดาวซึ่งเป็นระดับสูงสุดนั่นเอง โดยลักษณะภูมิประเทศในแทบนี้ล้อมรอบไปด้วยทะเล นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพยามค่ำคืนไปพร้อมกับอากาศบริสุทธิ์ๆ

โดยคุณสามารถขึ้นรถกระเช้า (Ropeway) จากด้านล่างภูเขาประมาณ 3 นาทีเพื่อไปยังจุดชมวิว โดยชั้นที่ 1 จะเป็นสถานีรถกระเช้า (สถานี Ropeway Sancho) ชั้นที่ 2 เป็นร้านอาหาร และชั้นที่ 3 จะมี Tea Lounge และชั้นบนสุดจะเป็นจุดชมวิว

ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

ที่อยู่	19-7, Motomachi, Hakodate-shi, Hokkaido 040-0054 (Hakodate Ropeway Sanroku Station)
วิธีเดินทาง	ใช้เวลาประมาณ 27 นาที
เวลาทำการ	กระเช้าลอยฟ้า Hakodate 10: 00-22: 00 น. *ตั้งแต่ 16 ตุลาคม – 24 เมษายน เปิดถึง 21:00 *ช่วงตั้งแต่กลางเดือนต.ค.-ม.ค.จะมีการหยุดเพื่อซ่อมบำรุง และบางครั้งก็อาจหยุดถ้าสภาพอากาศเลวร้าย
โทรศัพท์	0138-23-3105 (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
Facebook	Hakodate Ropeway

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ( Hakodate Asaichi)

ตลาดใหญ่ใน Hakodate ที่รวบรวมร้านค้าไว้กว่า 250 ร้าน และไม่ใช่เพียงอาหารทะเลที่หาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสดและดีมากเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีผลหมากรากไม้ต่างๆ ไปจนถึงอาหารคาวหวานเลิศรสที่รอคอยบรรดาแม่บ้านและเหล่านักช้อปนักชิมไปพิสูจน์กัน

ถ้าคุณมาที่นี่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดกับ ตลาด Donburi Yokocho ที่อยู่ในตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นจุดที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรดากับอาหารทะเลสดๆ เพียงแค่คุณเดินเข้าไปในตลาดก็อาจจะต้องน้ำลายสอไปตามๆ กัน เพราะแต่ละร้านนั้นมีโมเดลอาหารจำลองสมจริงวางไว้หน้าร้านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดทั้งนั้น

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Asaichi)

ที่อยู่	9-19 Wakamatsu-cho, Hakodate-shi, Hokkaido
วิธีเดินทาง	เดินประมาณ 2 นาที
เวลาทำการ	5:00 ถึง 14:00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า / มกราคม – เมษายน เปิด 6:00 น.)
โทรศัพท์	+81-120-858-313 (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
Website	Hakodate Asaichi

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)

โกดังอิฐแดงแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างขึ้นในบริเวณพื้นที่อ่าว Hakodate โดยโกดังคลังสินค้านี้สร้างขึ้นในปี 1909 จนได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดในปี1988 โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือ “Hakodate History Plaza” “Kanmori Western Museum” และ “BAY Hakodate”

ภายในอาคารก่ออิฐย้อนยุคแห่งนี้ มีร้านค้าที่จำหน่ายขนม ของที่ระลึก เครื่องประดับ ของใช้เบ็ดเตล็ดรวมถึง Beer Hall ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)

ที่อยู่	14-12, Suehiro-cho, Hakodate, Hokkaido
วิธีเดินทาง	นั่งรถไปประมาณ 15 นาที
เวลาทำการ	9:30 น. – 19:00 น.
โทรศัพท์	0138-27-5530 (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
Website	Kanemori Red Brick Warehouse

สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park)

สถานที่โปรดของชาว Hakodate นั้นก็คือ สวน Goryokaku ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ หากมองจาก หอคอย Goryokaku ที่อยู่ติดๆ กันเราจะเห็นกำแพงปราสาทรูปดาวที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำและต้นไม้มากมาย

โดยสวนแห่งนี้จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลต่างๆ เช่น สีเขียว ใน ฤดูร้อน สีแดงและเหลือง ใน ฤดูใบไม้ร่วง สีขาว จากหิมะ ใน ฤดูหนาว และเมื่อถึงปลายเดือนเมษายนที่ดอกซากุระบานสีก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสดใสรับกับอาหาศสบายๆ เหมาะแก่การพักผ่อนในวันสบายๆ เป็นอย่างมาก

สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park)

ที่อยู่	44, Goryokaku-cho, Hakodate-shi, Hokkaido
วิธีเดินทาง	นั่งรถไปประมาณ 33 นาที
เวลาทำการ	5: 00-19: 00 น. (เมษายน – ตุลาคม) 5:00 – 18:00 น. (พฤศจิกายน – มีนาคม)
โทรศัพท์	0138-57-7210 (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
Website	Goryokaku Park

ย่านโมโตมาชิ (Motomachi area)

ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Hakodate แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็น Hakodate ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากกว่าร้อยปี

โดยถนนแต่ละเส้นที่ตรงไปยังท่าเรือด้านล่างนั้นก็จะให้อารมณ์และวิวที่แตกต่างกันออกไป ไม่ใช่แค่โบสถ์ที่งดงามและศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่อาคารเก่าแก่รอบๆ นั้นก็ล้วนแล้วแต่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน

ไม่ว่าคุณจะเดินอยู่ส่วนไหนของพื้นที่นี้ คุณก็สามารถเห็นทัศนียภาพที่งดงามราวกับภาพวาด โดยเฉพาะที่เนิน ชมวิวฮาจิมัน (Hachiman-zaka) ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาถ่ายรูป และเช็คอินอีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการถ่ายทำภาพยนต์และโฆษณาต่างๆ อีกด้วย

ย่านโมโตมาชิ (Motomachi area)

ที่อยู่	Hakodate Motomachi
วิธีเดินทาง	นั่งรถไป 19 นาที
โทรศัพท์	0138-21-3479 (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)

หมู่บ้านโบราณ (Noboribetsu Date Jidai Village)

สวนสนุกจำลองบ้านเมืองโบราณสมัยเอโดะ ที่นี่คุณสามารถสนุกสนามไปกับการแสดงต่างๆ จากเหล่านินจา ซามูไร โชว์ของโออิรัน เกอิชาชั้นสูง, การแสดงแอ็คชั่นกลางแจ้งในฤดูร้อน และการแสดงโชว์ซามูไรในฤดูหนาว ไม่เกี่ยวว่าคุณจะอายุเท่าไหร่หรือเป็นเพศอะไรก็สามารถสนุกได้อย่างไม่สิ้นสุด

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้คุณเข้าร่วมเรียนรู้วัตนธรรม และสนุกสนานไปกับมันได้เช่น ตะลุยลานประลอง เข้าไปใน “เขาวงกตนินจา” ปาดาวกระจาย เป่าลูกดอก เช่าเครื่องแต่งกายแบบย้อนยุค ระบายสีลูกข่าง (โคเคชิ) หรือทานคุชิดังโงะ เป็นต้น

หมู่บ้านโบราณ (Noboribetsu Date Jidai Village)

ที่อยู่	53-1 Naka Noboribetsu, Noboribetsu, Hokkaido
วิธีเดินทาง	ขึ้นรถไฟ JR Limited Express จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Noboribetsuใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากสถานี Noboribetsu ขึ้นรถบัส Donan ไปลงที่ป้าย Noboribetsu Jidaimura ใช้เวลาประมาณ 8 นาที ขับรถจาก Sapporo ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (ใช้ทางด่วน) โดยรถยนต์จาก Noboribetsu Onsen ประมาณ 8 นาที
เวลาทำการ	1 เมษายน – 31 ตุลาคม) 9: 00-17: 00 น. / (1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม) 9:00 น. – 16:00 น. ช่วงเวลาเปิดทำการทั้งปีไม่มีวันหยุด (จะมีการปิดบำรุงบางวันในช่วงหน้าหนาว)
ราคา	ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) / 2,900 เยน เด็ก (นักเรียนประถม) / 1,500 เยน (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2019 ราคา 1,600 เยน) เด็กเล็ก (เด็กก่อนวัยเรียน – 4 ขวบ) / 600 เยน
โทรศัพท์	075-204-5543 (+81-75-204-5543)
Website	Noboribetsu Date Jidai Village
Facebook	Noboribetsu Date Jidai Village

Natural Dining

ห้องอาหารภายในโรงแรม Furano Natulux Hotel หน้าสถานี Furano ที่อุดมไปด้วยขุมทรัพย์แห่ง Furano ซึ่งเป็นเมืองที่พร้อมพรั่งไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ถ้าหากคุณได้ลองลิ้มชิมรสอาหารจากวัตถุดิบสดๆ รับรองว่าจะต้องอยากกินแล้วกินอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่

ที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น เป็นการนำเสนออาหารในรูปแบบ NATULUX STYLE เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาทานได้แค่ที่นี่เท่านั้น วัตถุดิบที่ได้จาก Furano ถูกนำมาปรุงอย่างอย่างเรียบง่าย

ที่นี่มีอุดมคติว่า รสชาติของอาหารที่คุณได้ลิ้มลองระหว่างการเดินทาง จะเป็น “ความทรงจำ” ของสถานที่แห่งนั้น เพราะอย่างนั้นจึงไม่ควรพลาดที่จะมาลองลิ้มรสอากาศ น้ำ แสงอาทิตย์ของฟุราโน่ให้ความอบอุ่นค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปสู่หัวใจของทุกคนกัน!

Natural Dining

ที่อยู่	1-35 Asahicho,Furano,Hokkaido 076-0026
วิธีเดินทาง	เดิน 1 นาทีจากสถานี JR Furano รถบัส จากป้ายรถบัสหน้าสถานี Furano มีรถบัสต่อเดียวจากสถานี Sapporo รถไฟ มีรถไฟด่วนตรงจากสถานี Sapporo (เฉพาะฤดูร้อน)
เวลาทำการ	7.00～20.30 （เมนูมื้อเช้า คาเฟ่ มื้อกลางวัน และดินเนอร์แตกต่างกัน）
โทรศัพท์	(81)167-22-1777
Website	Natural Dining

สรุป

Hokkaido Summer ฤดูร้อน เราเลยชวนมาซ่อนรัก หลบฝน มาพึ่งไออุ่นที่ฮอกไกโด เป็นอย่างไรกันบ้างกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 11 ที่ ที่เรานำเสนอไปวันนี้ แต่ละที่ล้วนแล้วแต่มีกลิ่นอายของ Summer ที่แอบซ่อนความรัก ความโรแมนติกไว้ไม่แพ้กันเลยใช่ไหม ทั้งความรักของชาวฮอกไกโดที่มีต่อสถานที่ อาหาร และความรักของเราที่มีใจรักในการท่องเที่ยวไม่แพ้กันเช่นกัน ขอบอกเลยว่าถ้าใครมีโอกาสได้ไปฮอกไกโดไม่ควรพลาดสักที่!!

ฮอกไกโดเรียกได้ว่าเสน่ห์ทุกฤดู สำหรับใครที่ต้องการจะมาเที่ยวฮอกไกโดก็อย่าลืมหาข้อมูลท่องเที่ยวเพื่อเอาไว้ด้วยล่ะ

รวมข้อมูลท่องเที่ยวฮอกไกโด

บทคววามแนะนำพิกัดเที่ยว ข้อมูล แบบครบรสจัดเต็ม อ่านเลย

เที่ยวฮอกไกโด เล่นหิมะญี่ปุ่น สัมผัสอากาศหนาวสุดใจตลอดปี

อ่านบทความท่องเที่ยวฮอกไกโดอื่นๆ