รีวิวเที่ยว Yamaguchi จัดเต็ม เที่ยวตามได้ง่ายๆ พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

10/11/2022 (อัพเดทเมื่อ 11/11/2022)
ตอนนี้เราสามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้แบบปกติแล้ว มาดูกันเถอะสำหรับที่เที่ยว Yamaguchi เที่ยวสุดฟินรีวิวแบบเที่ยวตามง่ายๆ จะมีอะไรบ้าง วันนี้ทางเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดคูลพร้อมดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงาม และกิจกรรมสุดเพลินในโซนจังหวัดยามากุจิและใกล้เคียง ให้ได้เที่ยวและสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะชมความงามของสถานที่ต่างๆ อิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่น เพลิดเพลินกับกิจกรรมแบบหลากหลาย และเป็นเส้นทางที่สามารถเริ่มต้นการเดินทางได้จากสนามบินฟุคุโอกะได้เลย พร้อมแล้วไปดูกันเลย

เที่ยว Yamaguchi

ที่แรกเราเริ่มเดินทางการจากสนามบินฟุคุโอกะนั่งรถไฟยังสถานี Hakata เพื่อนั่งรถไฟชินคังเซนไปลงสถานี Shin-Yamaguchi และนั่งสายธรรมดาไปลงที่สถานี Yudaonsen เพื่อไปเพลิดเพลินและผ่อนคลายกับ “ยุดะออนเซ็น (Yuda Onsen)” แหล่งออนเซ็นเก่าแก่ของจังหวัดยามากุจิ ที่มีสรรพคุณโดดเด่นช่วยในเรื่องของผิวพรรณ แช่แล้วผิวนุ่มสวย หนุ่มๆสาวๆต้องการผิวพรรณดีไม่ควรพลาด

จากนั้นเดินทางไปต่อกันที่ “วัดรุริโคจิ (Rurikoji Temple)” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองยูดะออนเซ็น เป็นวัดพุทธชื่อดังที่มีเจดีย์ 5 ชั้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ และยังได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 3 เจดีย์ที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในญี่ปุ่น

นั่งบัสเที่ยวเกาะ ชมวิวทะเลญี่ปุ่น

เที่ยว Yamaguchi

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการนั่งบัสเยี่ยมชม “เกาะสึโนชิมะ (Tsunoshima)” เกาะที่มีเสน่ห์และวิวทิวทัศน์อันงดงามของญี่ปุ่น มีสะพานสึโนชิมะโอฮาชิ (Tsunoshima Ohashi Bridge) หนึ่งในสะพานข้ามเกาะที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น วันที่อากาศแจ่มใส สองฝั่งข้างทางระหว่างนั่งบัสจะเห็นท้องทะเลสีมรกต และช่วงที่พระอาทิตย์ตกเป็นเวลาที่บรรยากาศรอบๆโรแมนติกสุดๆ

ต่อด้วยการทำกิจกรรม “ฮะงิยากิ (Hagi-yaki)” เพลิดเพลินกับงานฝีมือการทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตัวเองที่เมืองฮะงิ ซึ่งสืบทอดเทคนิคการทำกันมายาวนานกว่า 400 ปี ทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการดื่มชามาช้านานแต่ยุคเอโดะ โดยมีช่างฝีมือคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ทดลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆกันแถมได้ของที่ระลึกกลับไปบ้านไปด้วย

นั่งรถไฟและต่อบัสเพื่อไปสนุกกับการเช่าจักรยานปั่นและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของ “ที่ราบสูงอะคิโยะชิได (Akiyoshidai)” บน สองฝั่งถนนความยาวกว่า 8 กม. สถานที่เต็มไปด้วยหินปูนรูปร่างแปลกประหลาดอายุราว 300 ล้านปีที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณราวกับว่าหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่แปลกใหม่ ปั่นจักรยานและดื่มด่ำการถ่ายภาพไปได้พร้อมๆกัน

ใกล้กันมีถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ “ถ้ำอะคิโยะชิ (Akiyoshi Cave)” ให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับความสวยงาม แปลกใหม่ของอีกโลกหนึ่งในถ้ำแห่งนี้ มีหินงอก หินย้อย และแนวหินปูนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติให้ได้ชมกันแบบเต็มๆ ตา

นั่งบัสไปลงป้าย Katata เดินต่อไม่ไกลจะพบกับบ่อน้ำสีฟ้า “บ่อน้ำ เบปปุ เบ็นเท็น (Beppu Benten Pond)” ที่เป็นเหมือนจุดเสริมพลังของชาวเมืองยามากุจิ ช่วงกลางวันแดดดีๆสามารถมองเห็นก้นบ่อที่มีความลึกถึง 4 ม. และบ่อน้ำนี้มีอุณหภูมิคงที่เฉลี่ยแล้ว 14 องศาตลอดปี สามารถไปชมความงดงามของธรรมชาติกันได้

เดินทางลงมาสู่เมืองที่อยู่ใต้สุดของเกาะฮอนชู ติดกับช่องแคบสึชิมะ และตรงข้ามกับเมืองคิตะคิชู “ชิโมะโนะเซกิ (Shimonoseki)” เมืองที่มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย รวมถึง “ตลาดปลาคาราโตะ (Karato Market)” ตลาดที่ทุกคนจะได้ทานอาหารทะเลสดใหม่ตลอด รวมทั้งซูชิ ซาซิมิในราคาถูก ไฮไลท์คือการทาน “ปลาปักเป้า” เมนูท้องถิ่นของคนที่นี่ สามารถเดินเล่น กินอาหารทะเลสดๆ เพลิดเพลินกับวิวสวยๆเมืองนี้ได้

นั่งกระเช้าไปยัง “สวนสาธารณะฮิโนยามะ (Hinoyama Park)” สวนสาธารณะที่สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวช่องแคบคันมงและสะพานคันมงได้อย่างงดงาม ซึ่งมีจุดชมวิวที่มีความสูง 268 เมตร หากไปในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิก็จะพบกับดอกไม้นานาพันธุ์ เช่น ซากุระ ทิวลิปและอื่นๆ เป็นสวนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

เดินทางข้ามมายัง “เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu)” เมืองเหนือสุดบนเกาะคิวชู เพลิดเพลินกับการเช่าชุดกิโมโน/ยูคาตะเดินชมบ้านเรือนสไตล์เรโทรที่ “ท่าเรือโมจิ (Moji Port)” 1 ใน 3 ท่าเรือสำคัญของญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงในคิวชู ไปสัมผัสกับวิวบรรยากาศความเก่าแก่ ความเรโทรของบ้านเมืองในย่านนี้ รอบๆมีร้านอาหารมากมาย และยังเป็นจุดที่นิยมมาชมวิวในยามค่ำคืนกันอีกด้วย

ไปต่ออีกนิดจะพบกับ “สะพานคันมง (Kanmon Bridge)” สะพานแขวนแบ่งเขตแดนระหว่างคิวชูกับฮอนชู เป็นสะพานแขวน 6 เลนที่ใหญ่ที่สุด ใช้เชื่อมระหว่างทะเลญี่ปุ่นและทะเลเซโตะ หากอยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆแนะนำลองเดินข้ามไปอีกฝั่งซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ไปถ่ายรูปคู่และมีประสบการณ์การเดินข้ามสะพานแขวนแห่งนี้กันค่ะ ทั้งยังเพลิดเพลินกับวิวสวยๆยามค่ำคืนของสะพานแห่งนี้ได้เช่นกัน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สวยงามทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม เชื่อว่าหลายๆท่านตอนนี้คิดถึงญี่ปุ่นกันมาก จากที่ห่างหายไปนานเกือบ 3 ปี และเราได้เลือกเอาเส้นทางเที่ยว Yamaguchiมาแนะนำให้กับเพื่อนๆ รีวิวนี้เก็บสถานที่ท่องเที่ยวครบทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติอันงดงาม อาหารอร่อย และเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่ไม่เหมือนใคร เรียกว่าครบรสเลยทีเดียว เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนคงคิดถึงญี่ปุ่นสุดใจ ไว้มาเที่ยวกันนะคะ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของเส้นทาง สามารถดูได้จากเว็บไซต์ “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO)”

IMAGE NAME HERE

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO)

Japan National Tourism Organization

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515