ทริปวันที่ 1
ทริปวันที่ 2
ทริปวันที่ 3
การเดินทางจากโตเกียว (Tokyo)
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในการเดินทางที่ทุกคนคิดถึงคือการได้ไปสัมผัสกับหิมะขาวๆที่ฟูนุ่ม ครั้งนี้เราเลยตั้งใจเดินทางไปที่เมืองโทคามาจิ (Tokamachi) จ.นีงาตะ(Niigata)โดยตั้งต้นที่ สถานีโตเกียว (Tokyo station) หรือใครจะขึ้นรถไฟที่สถานีอูเอโนะ (Ueno station) ก็ได้ ด้วยรถไฟโจเอ็ทสึชินคันเซน (Joetsu shinkansen)
เพื่อไปยังสถานีเอจิโกะยูซาวะ (Echigo-Yuzawa Station) แล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟท้องถิ่นสายโฮคุโฮคุ (Hokuhoku Line) ที่ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีไปยังสถานีโทคามาจิ (Tokamachi Station) ระหว่างเดินทางก็จะสามารถมองเห็นวิวที่ด้านนอกหน้าต่างได้
เมื่อถึงสถานีเอจิโกะยูซาวะ (Echigo-Yuzawa Station) ลงจากชินคันเซ็นแล้วมาเปลี่ยนขบวน โดยเดินตามป้ายสีฟ้านี้มาเลย ที่สถานีนี้เราจะเห็นภาษาไทยมากมาย
ภาพด้านล่างคือภาพของชานชลาที่เราจะรอรถไฟเพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีโทคามาจิ (Tokamachi) ในช่วงฤดูหนาว รถไฟขบวนนี้เป็นทั้งต้นและปลายทาง ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาขึ้นลงรถไฟ
ด้านในรถไฟเป็นที่นั่งแบบเลือกนั่งได้ตามใจชอบ บางจุดเป็นเก้าอี้ยาวที่สามารถนั่งชมวิวนอกหน้าต่างได้อย่างเพลิดเพลิน
ภายในรถไฟท้องถิ่นส่วนใหญ่จะไม่มีภาษาอังกฤษกำกับ แต่สำหรับขบวนนี้สามารถเข้าใจได้ง่ายโดยให้สังเกตป้ายการจอดสถานีที่ขึ้นโชว์ หากมีคำว่า まもなく十日町 แปลว่า อีกสักครู่จะถึงสถานีโทคามาจิ เป็นอันเข้าใจว่าต้องเตรียมลงเพราะรถไฟจะจอดสถานีโทคามาจิในป้ายหน้า
หลังจากที่รถไฟจอดแล้ว ก็เดินลงมาที่ชานชลาด้านล่างได้เลย สำหรับขากลับก็ง่ายมาก เพียงแค่ไปรอรถไฟที่ชานชลาอีกฝั่ง
แนะนำสถานีโทคามาจิ (Tokamachi station)
สถานีโทคามาจิ (Tokamachi Station) เป็นสถานีที่พร้อมไปด้วยข้อมูลและการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก มีเจ้าหน้าที่ๆสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ที่นี่เราสามารถติดต่อขอรับข้อมูลแผนที่เมืองภาษาอังกฤษ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมรองเท้าที่กันน้ำมาได้ ที่นี่นอกจากจะมีบริการให้เช่ารองเท้าบูทยางเพื่อเดินในช่วงหน้าหนาวแล้ว ยังสามารถฝากสัมภาระได้ด้วย รองเท้าบูทวันละ 500 เยน สำหรับสัมภาระกระเป๋าเดินทาง ราคา 300 – 500 เยน *ไม่รับฝากแบบข้ามคืน
มีมุมของฝากเล็กๆ ที่สามารถเดินชมและแวะซื้อตอนขากลับได้ หากใครหิวก็มีร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ เปิดบริการ ซึ่งเวลาทำการขึ้นอยู่กับช่วงเวลาต่างๆ รบกวนเช็คเวลาทำการจากเว็บไซต์เมืองโทคามาจิ
Tokamachi City Tourist Information
ที่อยู่ | (อยู่ภายในสถานีโทคามาจิ อยู่ฝั่งทางออกตะวันตก) 251-17 Asahi-cho, Tokamachi-shi, Niigata-ken 948-0079, JAPAN |
---|---|
เวลาทำการ | 9.00 น.-17.00 น. |
บริการ | รับฝากสัมภาระแบบ 1 วัน / เช่ารองเท้าบูทแบบ 1 วัน |
อีเมล | อีเมล |
Website | Tokamachi City |
แนะนำเมืองโทคามาจิ(Tokamachi)
เมื่อได้ข้อมูลการเดินทางครบแล้ว เราก็เตรียมตัวออกเดินทางเที่ยวเมืองโทคามาจิกัน เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่ที่มีหิมะตกมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นโดยมีหิมะตกสูงถึงประมาณ 2 ถึง 3 เมตรในฤดูหนาว เทศกาลหิมะโทคามาจิชื่อดังก็ถือกำเนิดจากความเชื่อของชาวท้องถิ่นที่ว่า “ผูกมิตรกับหิมะและเพลิดเพลินกับหิมะ” เทศกาลความเชื่อจึงเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวเยอะและคนท้องถิ่นก็สามารถอยู่ร่วมกับหิมะได้อย่างดี มีอาหารพื้นเมืองไว้ทาน มีการเรียนรู้ถนอมอาหารและการปรับทัศนียภาพเมืองให้เต็มไปด้วยศิลปะและกิจกรรมบันเทิงมากมาย พื้นที่โทคามาจิมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1300 ปีในฐานะพื้นที่ผลิตผ้ากิโมโน
มีแม่น้ำชินาโนะ (Shinano river) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นไหลผ่านใจกลางแอ่ง มีน้ำบาดาลที่อุดมสมบูรณ์จากหิมะละลายที่เหมาะสำหรับการย้อมผ้าและให้เอฟเฟกต์สีที่ยอดเยี่ยม จึงเป็นต้นกำเนิดของสิ่งทอคุณภาพของโทคามาจิ แต่ทั้งนี้โทคามาจิก็มีเสน่ห์และทัศนียภาพที่สวยงามตลอดทั้งปี
แม้ว่าจะเป็นเมืองที่มีหิมะสูงกว่า 2 เมตร แต่ถนนในเมืองและรอบๆนั้นก็ได้รับการดูแลและดำเนินการกวาดหิมะอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้ขึ้นภูเขาสูง การเช่ารถขับก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แนะนำในการเดินทางเที่ยวเมืองนี้ ข้อสังเกตเล็กๆคือ สัญญาณไฟจราจรของที่นี่จะเป็นแนวตั้งทั้งหมด เนื่องจากลดการทับถมของหิมะ
พิพิธภัณฑ์เมืองโทคามาจิ (Tokamachi City Museum)
ว่ากันว่าหากเราอยากรู้ประวัติศาสตร์และพื้นเพของคนท้องถิ่นที่ไหน ให้เราไปที่พิพิธภัณฑ์ของที่นั่น เราเลยต้องมาที่พิพิธภัณฑ์เมืองโทคามาจิ เพราะเมืองนี้รวบรวมเรื่องราวและจัดแสดงสิ่งของ เครื่องใช้ มาตั้งแต่ยุคโจมง หรือราว 16,000 ปีก่อนเชียวนะ
พิพิธภัณฑ์เมืองโทคามาจิ (Tokamachi City Museum) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1979 โดยทำการสำรวจ อนุรักษ์ และสืบทอดธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอันหลากหลายและสมบูรณ์ของเมืองโทคามาจิกับประชาชนและให้ความรู้แก่ผู้มาเยือน
เมืองโทคามาจิเป็นเมืองศิลปะประวัติศาสตร์ เครื่องปั้นดินเผาแบบเปลวไฟที่สร้างขึ้นเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ไม่ใช่แค่มีให้ชมเท่านั้น แต่ยังมีแบบจำลองให้เราได้ลองประกอบเล่นๆดูด้วยนะ ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยมากๆ
หนึ่งในกิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือ การสแกนตัวของเราแล้วจะมีชุดในสมัยยุคโจมงมาให้ลองใส่ จากนั้นภาพตัวเราที่ใส่ชุดใหม่จะไปปรากฏที่จอดิจิทัลที่จำลองการดำรงชีวิต ล่าสัตว์ ทำอาหาร พอไปกันหลายคนก็เหมือนครอบครัวใหญ่ ในจอสกรีน บางคนเดินไปล่าหมูป่าเองด้วยนะ เฮฮา สนุกมาก
เราจะได้เห็นวิถีชีวิตจำลองของคนที่นี่เมื่อครั้งอดีต ในช่วงที่หิมะกินเวลาประมาณครึ่งปีตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเมษายน และผู้คนอาศัยอยู่กับหิมะอย่างแท้จริงนั้นสามารถทนต่อความหนาวได้อย่างไร ทั้งต้องเตรียมอาหาร เสื้อผ้า และที่พักพิงสำหรับฤดูกาลหน้าอีก
สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการชมเรื่องราวสิ่งทอ ที่โทคามาจิถือเป็นแหล่งผลิตกิโมโนที่สำคัญของประเทศ หลักฐานสำหรับสิ่งทอที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองโทคามาจินั้นได้มาจากการค้นพบซากปรักหักพังของเมื่อ 1500 ปีที่แล้ว
มีการค้นพบล้อแกนหมุนซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับหมุนเกลียว ด้านบนของล้อแกนหมุนถูกขุดขึ้นมาในสมัยนารา (ค.ศ. 710-794) และผ้าของที่นี่ยังถูกผลิตเป็นผ้าทอชั้นสูงแก่กับตระกูลขุนนางและตระกูลซามูไร ที่ต้องการเข้าเยี่ยมชมปราสาทเอโดะ ในสมัยยุคเอโดะด้วย
เอกลักษณ์ของการทอผ้ากิโมโนของที่นี่คือการใช้ฟุโนริ (Funori) แบบดั้งเดิม (สาหร่ายญี่ปุ่น) ตั้งแต่สมัยโบราณ funori ถูกใช้อย่างกว้างขวางในญี่ปุ่นสำหรับคุณสมบัติในการยึดติดและการควบแน่น ในขั้นต้น มันทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นสำหรับเส้นด้ายในการผลิตไหม ทำให้ผ้านุ่มลื่นเวลาสวมใส่ และ นำไปใช้ในงานศิลปะ งานฝีมือ และงานบ้านในครัวเรือน อย่างในปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์เมืองโทคามาจิ (Tokamachi City Museum)
ที่อยู่ | 1-chome 448-9 Nishihoncho, Tokamachi City, Niigata Prefecture, Japan 948-0072 |
---|---|
เวลาทำการ | 9.00-17.00 (ปิดรับ 16.30น.) |
ราคา | ผู้ใหญ่ 500 เยน วันหยุด วันจันทร์ |
Website | www.tokamachi-museum.jp |
ทานมื้อเที่ยงแบบโบราณที่เรียวกังเซโตกุจิ (Setoguchi)
เซโตกุจิเป็นโรงแรมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มีคู่สามีภรรยาที่เป็นเจ้าของโรงแรมเป็นผู้ดูแลต้อนรับแขกที่มาพักเอง หากใครที่สนใจการพักและอยากพูดคุยกับคนท้องถิ่น แนะนำการพักแบบนี้เลย เค้ามีแพ็คเกจที่พักด้วยนะ แต่วันนี้เรามาทานอาหารเที่ยงกัน โดยมีคุณลุงเป็นเชฟปรุงอาหารให้เราสำหรับมื้อเที่ยงนี้
โดยเรานั่งล้อมวงทานที่เตาอิโรริ (Irori) เตาอิโรรินั้นเป็นเตาเผาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม นิยมใช้สำหรับทำความร้อนในบ้านและปรุงอาหารญี่ปุ่น โดยพื้นฐานแล้วเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านล่างมีผงเถ้าถ่าน ด้านบนมีตะขอแบบปรับได้ซึ่งเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่า “จิไซคางิ-jizaikagi” และมักจะประกอบด้วยแท่งเหล็กที่หุ้มไว้ในท่อไม้ไผ่ จิไซคางิใช้สำหรับการยกหรือลดระดับหม้อหรือกาต้มน้ำแบบแขวนโดยใช้คันโยกที่แนบมาซึ่งปกติแล้วจะมีการออกแบบให้มีรูปร่างเหมือนปลาเพื่อการตกแต่งแบบดั้งเดิม
อาหารท้องถิ่นถูกปรุงอย่างปราณีต บรรจงวางลงในภาชนะจานเล็กจานน้อยมากมาย หนึ่งในอาหารยอดนิยมคือปลาอายุย่างเกลือ
นอกจากพื้นที่โทคามาจิที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของนีงาตะ จะเป็นที่ตั้งของภูมิทัศน์นาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงหลายแห่งแล้ว ข้าวของที่นี่ยังอร่อยมากๆอีกด้วย พันธุ์ “Koshihikari” ข้าวถูกหุงด้วยวิถีท้องถิ่น มีความหอม นุ่ม ชอบที่สุดเลย
คุณป้ายังได้นำวิธีการถนอมอาหารมาให้เราได้ชมด้วยนะ คือการตากแห้งผักและผลไม้ต่างๆ รวมถึงการดองเกลือ เพื่อรักษาคุณภาพเก็บไว้ทานได้ยาวนานหลายเดือนจนกว่าหิมะจะละลายและถึงฤดูกาลเพาะปลูกหน้า
อีกหนึ่งการถนอมอาหารที่คนสมัยก่อนทำคือ ไดคอนสึกุระ คำว่าสึกุระหมายถึงภาชนะที่ทำด้วยฟางถัก ด้านในจะนำหัวไชเท้าสดหรือแครอทสดมาวางเรียงไว้ จะเริ่มทำหลังฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป ประมาณต้นธันวาคมหิมะเริ่มตกลงมาปกคลุมบนสึกุระ แต่อุณหภูมิภายในสึกุระจะคงที่ทำให้ผักที่บ่มไม่แข็งตัวและยังคงความอร่อย นี่เป็นสิ่งที่น่าทึ่งว่า เมืองที่มีหิมะสูงกว่า 2 เมตรมีวิธีเก็บอาหารในช่วงฤดูหนาวได้อย่างไร
Kiyotsukyo Onsen, Setoguchi
ที่อยู่ | 168 Nishitajiri-shin karashi, Tokamachi-shi, Niigata 949-8437 Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | โดยรถยนต์ |
เวลาทำการ | Check-in: 12 AM Check-out: 12:00 AM |
โทรศัพท์ | 025-763-2431 |
Website | www.setoguti.info |
อุโมงค์แห่งแสง (KIYOTSU-GORGE Tunnel of Light )
ไม่ไกลกันจากที่นี่ เราเดินทางมาที่ช่องเขาคิโยสึ หรือ Kiyotsu Gorge Tunnel ที่นี่ถูกกำหนดให้เป็นจุดชมวิวแห่งชาติและอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติในปี 1941 พื้นผิวของหุบเขามีลักษณะเป็นชั้นๆ สวยงามมาก ภายในมีการขุดอุโมงค์ทางเท้าเพื่อการท่องเที่ยว
เมื่อจ่ายค่าเข้าแล้ว เราก็เดินเท้าเข้าไปเลย ระยะทางเดินในอุโมงค์นั้นค่อนข้างไกล ราว 750 เมตร ใครที่มากับผู้สูงอายุสามารถขอยืมรถเข็นได้ อุโมงค์ช่องเขาคิโยสึเปิดในเดือนตุลาคม ปี 1996 เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับความงามทางธรรมชาติอันงดงามของพื้นที่ด้วยวิธีที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น โครงสร้างได้รับการปรับปรุงใหม่อีกครั้งในปี 2018 สำหรับ Echigo Tsumari Art Trienniale เป็นงานศิลปะที่เรียกว่า “Tunnel of Light” ศิลปิน โดย Ma Yansong / MAD Architects
Cr: Ma Yansong/MAD Architects “Tunnel of Light” (Echigo-Tsumari Art Field)
เราสามารถดื่มด่ำกับความงามอันน่าอัศจรรย์ของทัศนียภาพของที่นี่ได้อย่างแท้จริง เมื่อเดินมาถึงจุดพาโนรามาที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งทัศนียภาพด้านหน้าจะสะท้อนกลับมาที่พื้นผิวของน้ำเสมือนมีกระจก วิธีการเดินไปถ่ายภาพคือ ให้เดินชิดขอบผนังไปเลย * ในช่วงวันหยุดเทศกาล นักท่องเที่ยวเยอะ ควรซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า
Cr: Ma Yansong/MAD Architects “Tunnel of Light” (Echigo-Tsumari Art Field)
อุโมงค์แห่งแสง (KIYOTSU-GORGE Tunnel of Light )
ที่อยู่ | Koide, Tokamachi City, Niigata Prefecture, 949-8433 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Echigo-Yuzawa โดยสารรถประจำทาง Morimiyanohara ลงที่ป้าย Kiyotsukyou-Irig จากนั้นเดินอีกประมาณ 30 นาที (2 km.) รถยนต์จอดฟรี |
เวลาทำการ | 8.30 น. – 17.00 น.(เปิดให้เข้าได้ถึง 16:30 น.) *อาจปิดช่วงฤดูหนาวในกรณีที่หิมะตกหนักหรือหิมะถล่ม ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนเวลาเปิดทำการ |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 400 เยน |
Website | nakasato-kiyotsu.com/en/tunnel |
แวะร้านอาหารค่ำรอบๆสถานีโทคามาจิ
เมื่อมาถึงเมืองโทคามาจิ เรามีร้านอาหารค่ำที่อยากแนะนำคือ ร้านยูเกะ (Yuge,ゆげ) ที่อยู่ในตัวเมืองเลย ร้านนี้มีอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่รสชาติอร่อยและตกแต่งจานได้สวยงามมากๆ “Yuge” เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2021
คุณโทโมโกะ ยูเกะ เจ้าของร้านแห่งนี้เป็นนักเล่นสกีวิบากเมื่อตอนที่เธอยังเป็นนักเรียน ในขณะที่มีชีวิตที่แข่งขันต้องให้ความสำคัญแก่สมรรถภาพทางกายและอาหารที่ทาน จึงเริ่มสนใจศึกษาวัฒนธรรมอาหาร ทั้งยังหลงใหลในการปรุงอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่นแห่งนี้มากๆ
เธอบอกว่าเมืองโทคามาจิมีวัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย พวกเขาเก็บเกี่ยวพืชป่าที่กินได้ด้วยตนเอง ถนอมไว้ด้วยวิธีการเก็บรักษาแบบดั้งเดิมและนำมาปรุงอาหาร ฉันต้องการค้นพบสิ่งใหม่โดยไม่สูญเสียวิธีการทำอาหารแบบเก่าและศึกษาวิธีการถนอมอาหารเพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของอาหารในแผ่นดินนี้
tokamachi-yuge
ที่อยู่ | 128 Tokamachi-shi, Niigata, Japan 948-0088 |
---|---|
เวลา | 18.00 – 22.00 |
วันหยุด | จันทร์และอาทิตย์ |
โทร | 025-755-5263 จองล่วงหน้า |
Website | tokamachi-yuge
|
และอีกร้านที่ไม่มาไม่ได้ ด้วยรูปร่างโครงสร้างที่เหมาะสำหรับเมืองที่มีหิมะตก งานไม้ที่มีเสน่ห์และอาหารเครื่องดื่มที่รสชาติดี ที่นี่คือ IKOTE เป็นร้านที่เปิดทั้งกลางวันและกลางคืน ดำเนินการโดยบริษัทก่อสร้างในโทคามาจิ ชื่อ Flower Home เน้นการสร้างบ้านที่อบอุ่นโดยใช้วิธีการก่อสร้างที่สืบทอดมาแต่โบราณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เจ้าของ IKOTE กล่าวว่าเขาก็นึกๆว่าบริษัทก่อสร้างสามารถทำอะไรได้บ้าง? เลยอยากสร้างสัญลักษณ์ของภูมิภาคและสร้างสถานที่ที่ทุกคนสามารถรวมตัวกันได้อย่างสบายใจทุกเวลา เมื่อพูดถึงเมืองแห่งหิมะจึงนึกถึงกระท่อมน้ำแข็งคามาคุระ และอยากให้เมื่อใดก็ตามที่คุณกลับมาที่โทคามาจิ ชวนเพื่อนรักของคุณ หรือต้องการใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว ก็ให้มาที่คามาคุระหลังใหญ่นี้ด้วยนะ
คำว่า IKOTE เป็นคำง่ายในท้องถิ่นที่คนญี่ปุ่นพูด ความหมายคือ ไปกันเถอะๆหรือชวนกันมาที่นี่เถอะ ซึ่งให้ความหมายและความรู้สึกสบายๆ รสชาติอาหารอร่อยและถูกจัดวางบนจานอย่างสวยงาม ด้านในนี้เป็นโครงไม้ อบอุ่น ชั้นสองเป็นพื้นที่โล่งสำหรับจัดกิจกรรม
ที่อยู่ | 5-39-6 Honcho, Tokamachi City, Niigata Prefecture 948-0081 |
---|---|
เวลาทำการ | [LUNCH] 11: 00-14: 00 [CAFE]11: 00-17: 00 [DINNER]17: 00-22: 00 (21: 00 L.O, ปิดวันพุธและอาทิตย์) |
Website | ikote.net |
โรงแรมเบลนาทิโอ Atema Plateau Resort Belnatio
ถ้ามากับครอบครัวหรือกรุ๊ปใหญ่แนะนำพักที่นี่เลยนะ เพราะโรงแรมเบลนาทิโอ หรือภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า เบรุนะทิโอ มีห้องพักกว้างและมีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือวิวด้านนอกของโรงแรมนั้นสวยงามประทับใจมาก เนื่องจากอยู่บนเขาสูง ช่วงหน้าหนาว หิมะตกเยอะมาก สวยสุดๆเลย
ห้องพักของโรงแรมมีทั้งแบบในตัวโรงแรมและแบบบ้านหลังเดี่ยว วิวตอนเช้าตื่นมาคือ ด้านหน้าของโรงแรมมีหิมะตกขาวโพลนไปหมดเลย
อาหารเช้าของโรงแรมเป็นแบบบุฟเฟต์ มีอาหารให้เลือกมากมาย แนะนำว่าอย่าถือสัมภาระมาเยอะเนื่องจากบางห้องพักนั้นอยู่ไกลจากห้องทานอาหารมาก
เด็กเล็กจะต้องชอบมาก นอกจากสถานที่จะกว้างขวาง ขนมและเครื่องดื่มมีเพียบแล้ว ยังมีห้องนั่งเล่นสำหรับคุณหนูๆด้วยนะ
โรงแรมเบลนาทิโอ Atema Plateau Resort Belnatio
ที่อยู่ | Tamagawa, Tokamachi-city, Niigata 949-855 ,Japan |
---|---|
ตารางรถรับ-ส่งสถานี Tokamachi | https://www.belnatio.com/en/maps-and-directions/ |
Website | belnatio |
วันที่ 2
เดินป่าลุยหิมะที่ Bijinbayashi Forest หรือการชมความงามของป่าบีช ที่ “โรงเรียนป่าไม้” เคียวโรโระ (Kyororo) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติขนาดเล็ก เมืองโทคามาจิ สถานที่นี้มีเอกลักษณ์เฉพาะอยู่ในถิ่นที่มีหิมะปกคลุมไปด้วยป่าบีชที่มีเสน่ห์ทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว เมื่อถึงช่วงหิมะตก กิจกรรมการเดินป่าด้วยรองเท้าหิมะจึงเริ่มต้นขึ้น
เราเดินทางมาที่นี่เพื่อมาลองประสบการณ์ใหม่ๆดู การเดินบนหิมะที่หนาด้วยรองเท้าปกตินั้นไม่สามารถทำได้ เราต้องใช้รองเท้าเดินบนหิมะพิเศษ เช่าครั้งละ 1000 เยน ซึ่งสวมครอบกับรองเท้าบูทยางอีกชั้นหนึ่ง(เช่ารองเท้าบูทยาง 100 เยน) ซึ่งราคาค่าไกด์และค่าธรรมเนียมต่างๆ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ หากเราเช่าแค่รองเท้าบูทยางเดินป่าเล่นๆ ก็ได้นะ
ป่าบีชของที่นี่สวยงามมาก ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ ก็อาจจะเจอแจ็คพอต หิมะที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ร่วงหล่นลงมาใส่หัว สร้างเสียงหัวเราะได้มากทีเดียว
ไกด์จะพาเราเดินตามเส้นทางที่เราอยากไป ตรงไหนหิมะฟูนุ่ม ตรงนั้นแหล่ะคือจุดหมายของเรา เหนื่อยก็นั่งพัก หายเมื่อยแล้วก็เดินต่อ เอาเข้าจริงคือ 2 ชั่วโมงที่อยู่ในป่าสนุกมากๆเลย แนะนำ 3 ชั่วโมงไปเลยจ้า (เตรียมเสื้อผ้าที่กันน้ำอย่างชุดสกีมาใส่จะดีกว่า และที่นี่ไม่มีชุดให้เช่า)
Bijinbayashi Forest
ที่อยู่ | 1712-2 Matsunoyama Matsuguchi, Tokamachi City, Niigata Prefecture |
---|---|
โทรศัพท์ | 025-595-8311 |
Website | https://www.matsunoyama.com/kyororo/ |
matsunoyama.kyororo |
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านมัตสึได Matsudai kyodo shiryokan
แวะชมพิพิธภัณฑ์ที่น่ารักอีกแห่งกัน ที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านมัตสึได ถือเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ตัวบ้านหลังนี้ประมาณ 140 ปี เดิมบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อื่นก่อนจะถูกย้ายมาตั้งไว้ในเขตพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน ภายในบ้านมีการจัดแสดงเครื่องทอผ้าโบราณ งานฝีมือจากฟางและของใช้ในฤดูหนาวอื่นๆที่สำคัญต่อการดำรงชีพ
ด้านในมีเตาอิโรริให้ความอบอุ่น นั่งพัก สนทนาพูดคุยกัน โดยคุณป้าจะคอยเล่าเรื่องราวความสำคัญของห้องต่างๆ และความเป็นมาเป็นไปของบ้าน ที่ใช้เทคนิคในการก่อสร้างแบบไม่ใช้ตะปู ด้านในเป็นโครงสร้างหนักที่สามารถทนต่อหิมะตกหนักได้ ห้องเสื่อทาทามิ ห้องนั่งเล่น และห้องรับแขกยังคงเหมือนเดิมไว้ทุกอย่างในแบบบ้านสมัยเก่า
สิ่งที่ทำให้เราสะดุดตามากที่สุดคือเจ้ารองเท้าฟางโมเดลคู่จิ๋วเหล่านี้ ที่ในอดีตเคยเป็นรองเท้าบูทยาวให้ความอบอุ่นแก่เท้าของผู้คนๆ เวลาเดินฝ่าหิมะออกนอกบ้าน
และที่ไม่ลองสวมไม่ได้ คือ เสื้อคลุมที่ทำมาจากฟาง ให้ทั้งความอบอุ่นและกันความเปียกชื้นจากหิมะที่ตกลงมา ใส่แล้วดูเหมือนเป็นแม่นกยังไงไม่รู้ ฮา
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านมัตสึได Matsudai kyodo shiryokan
ที่อยู่ | 3718 Matsudai, Tokamachi City, Niigata Prefecture |
---|---|
เวลาทำการ | 10.00-17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.30 น.) ปิดวันอังคารและวันพุธ (ปิดในวันถัดไปหากวันนั้นเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับนิทรรศการ) |
ราคา | ค่าธรรมเนียมทั่วไป 300 เยน |
Website | https://www.tokamachishikankou.jp/spot/matsudaikyoudosiryoukan |
ชิมเฮกิโซบะชื่อดัง
เรามาชิมอาหารอร่อยประจำเมืองโทคามาจิกัน แน่นอนเรากำลังพูดถึงเฮกิโซบะ Hegisoba แม้จะคล้ายกับโซบะทั่วไปแต่ความพิเศษกว่าคือเค้าใส่สาหร่ายฟูโนริ (funori)ในขั้นตอนการทำเส้นโซบะด้วย ทำให้นุ่มลื่นเวลาทานเข้าไป เคี้ยวทานง่ายจริงๆ ด้วยล่ะ ปกติเราสามารถหาร้านขายเมนูเฮกิโซบะได้หลายแห่งในเมืองนี้ แต่ครั้งนี้เราพามาทานที่ร้านโยชิยะ Yoshiya ซึ่งเราชอบการเสิร์ฟแบบถาดใหญ่ที่สามารถทานได้ 4 – 5 คน
เฮกิโซบะ นิยมทานแบบจุ่มลงในถ้วยน้ำซอส โดยมีเครื่องเคียงคือต้นหอมซอยและมัสตาร์ด (โซบะทั่วไปจะทานกับวาซาบิ) โดยคีบหยิบขึ้นมาทานทีละจับ
คนญี่ปุ่นนิยมทานเฮกิโซบะแบบเย็น โดยสามารถทานได้ตลอดทั้งปี สมัยก่อนอาหารชนิดนี้ทำขึ้นทานเฉพาะงานเทศกาลหรือในงานจัดเลี้ยงสำคัญเท่านั้น แต่ตอนนี้หาทานได้ทั่วไปเลย สามารถสั่งเทมปุระมาทานเพิ่มได้นะ
ร้านโยชิยะ Yoshiya
ที่อยู่ | 82-4 Shinmiya, Tokamachi City, Niigata Prefecture |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทาง จากสถานี Doichi เดิน 10 นาที |
เวลาทำการ | [วันจันทร์ / วันพุธ / วันศุกร์] 10:30 – 14:00 และ 15:30 – 17:30/ วันพฤหัสบดี 10:30 – 14:00 / วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:30 – 17:30 วันหยุด วันอังคาร |
วันหยุด | วันอังคาร |
Website | https://www.tokamachishikankou.jp/spot/nadaikisoba_yoshiya |
วัดโบราณ Jinguji Temple
แวะชมวัดกันบ้าง นี่คือวัดโบราณ Jinguji Kannon-do กล่าวกันว่าวัดโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยเฮอันอาคารปัจจุบัน ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะ และพระพุทธรูปสามองค์ที่สร้างขึ้นในสมัยฟูจิวาระนั้นล้วนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของจังหวัด บริเวณด้านในวัดสวยและสงบมากๆ แนะนำว่าต้องแวะไปชมสักครั้ง
วัดโบราณ Jinguji Temple
ที่อยู่ | 1300 Yokkamachi, Tokamachi city, Niigata |
---|---|
เวลาทำการ | เปิดตลอด |
ราคา | ฟรี |
Website | https://www.tokamachishikankou.jp/spot/zinguzikannondo |
ชมงานศิลป์สุดเท่
เปลี่ยนบรรยากาศมาเดินชมงานศิลป์สุดเท่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Echigo-Tsumari Satoyama MonET กันบ้าง ที่นี่มีการแสดงงานศิลป์ที่แปลก เท่และผสมผสานระหว่างเรื่องราวของวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เช่น ประโยคคำพูดทั่วไปของสหภาพโซเวียตแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ โดยอาคารด้านนอกใช้รูปทรงเรขาคณิตและเลือกใช้คอนกรีตกับกระจกเพื่อให้ความรู้สึกสงบ
ชื่องานนี้คือ 16 ropes โดยชื่อศิลปิน Ilya & Emilia Kabakov มุมนี้เป็นคำคมต่างๆทั้งภาษาญี่ปุ่นและแปลเป็นภาษาอังกฤษ เราก็เดินไปอ่านเรื่อยๆ ช้าๆ ใช้ความคิดเพื่อจะได้เข้าถึงปรัชญาแห่งการใช้ชีวิตในปัจจุบันกัน
มุมนี้น่าสนใจมากๆเลย มองดูผิวเผินนึกว่าฝูงแมลงบิน แต่เมื่อเราจ้องมองใกล้ๆแล้ว ไม่ใช่เลยจ้า เราไปดูกันนะว่านั่นคืออะไร นี่คือผลงานที่ชื่อว่า movementsโดยศิลปิน 目[mé]
นี่คือหน้าปัดนาฬิกา ที่ทุกเรือนก็ยังคงใช้งานได้จริง เข็มบอกเวลายังคงหมุนไปตามปกติในเวลาที่แตกต่างกัน ว่ากันว่า การตีความหมายของงานศิลป์นั้นไร้ขอบเขต สำหรับเรา เราคิดว่าเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการจัดการชีวิตตัวเองว่าจะใช้เวลาของเราได้คุ้มค่าแค่ไหนในแต่ละวัน
ผลงานนี้ชื่อว่า Soil Library โดยศิลปินชื่อ Koichi Kurita เป็นขวดบรรจุดินสีต่างๆเอาไว้ โดยวางเรียงรายที่ริมผนังพร้อมแปะชื่อไว้เรียบร้อย เป็นคอลเล็กชั่นดินต่างๆ กว่า 570 ชนิดที่รวบรวมจากแต่ละพื้นที่ในจ.นีงาตะและใส่ไว้ในโหลแก้วขนาดเล็ก สวยมากจริงๆ
ผนังของร้านปูด้วยชั้นหนังสือที่โค้งมนอย่างอ่อนโยน และรูปทรงกลมจำนวนนับไม่ถ้วนบนเพดานแสดงถึงการเคลื่อนไหว (แผ่นกลมสีขาวจะเลื่อนขยับช้าๆตลอดเวลา) และไฟเพดานจะให้แสงที่อบอุ่น ภายในมุมนี้เราสามารถพักผ่อนและเพลิดเพลินกับช่วงเวลาช้าๆได้ มีบริการกาแฟที่ทำจากเมล็ดกาแฟที่บ่มในห้องหิมะ และชาที่ทำจากใบชาจากเมืองนีงาตะ
มุมคาเฟ่ก็ถือเป็นงานศิลปะหนึ่งแห่งของ Massimo Bartolini feat. Lorenzo Bini โดยมีชื่องานว่า Two River การออกแบบลวดลายบนโต๊ะ เมื่อนำมาวางต่อกัน ลายของโต๊ะเชื่อมบรรจบกันแล้วราวกับว่าแม่น้ำชินาโนะ (แม่น้ำสายสำคัญ) ปรากฏขึ้น
พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Echigo-Tsumari Satoyama MonET
ที่อยู่ | 6 Honcho Tokamachi-city, Niigata Prefecture 948-0003 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokamachi เดินประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | กำลังจะเปลี่ยนเวลาทำการช่วงฤดูหนาว |
ราคา | นิทรรศการถาวร: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 500 เยน *ข้อมูลข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | เว็บไซต์ พิพิธภัณฑ์
เว็บไซต์ คาเฟ่ |
เรียนรู้ประเพณีท้องถิ่นผ่าน VR ที่มัตสึโนะยามะ (Matsunoyama)
แนะนำหมู่บ้านออนเซ็นของโทคามาจิกันนะ มัตสึโนะยามะออนเซ็น(Matsunoyama Onsen)เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดนีงาตะที่เต็มไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว น้ำพุร้อนของที่นี่มีสรรพคุณดีเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และทิวทัศน์ก็งดงามเกินกว่าจะบรรยายเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาวที่หิมะมีความสูงราว 3 เมตรปกคลุมรอบๆเรียวกังและถนนแคบๆ ที่เป็นเนินเขาใน “เมืองที่ถูกขนานนามว่ามีหิมะตกหนักมากที่สุด” ของญี่ปุ่น
ที่ท้ายของหมู่บ้านเรามีกระท่อมหิมะด้วยนะ ด้านในสามารถนำผลไม้เข้าไปนั่งทานได้ มีเบาะรองนั่งและมีไฟจากเปลวเทียนให้แสงสว่างด้วย
เราจะได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตในยามหน้าหนาวของคนโบราณ แต่สมัยนี้กระท่อมหิมะใช้ในงานและเชิงการท่องเที่ยวมากกว่าอาศัยจริง โดยด้านในจะใช้โครงสร้างรองรับเพิ่มเติมในระหว่างการก่อสร้างเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ด้านนอกหนาวมาก ด้านในจะอุ่นกว่าด้วยอุณหภูมิในร่างกายของเรา
ใกล้กันเราจะเดินมาที่ Matsunoyama Jiro Footbath ที่เป็นเหมือนสถานที่ทำกิจกรรมและสัมผัสประสบการณ์ มีบ่อออนเซ็นแช่เท้าด้วยนะ แต่ๆก่อนที่จะเข้าไปทำกิจกรรมสนุกๆต่อ ขอนั่งเสริมความงามด้วยไอน้ำจากน้ำพุร้อนของที่นี่หน่อยนะ ดีงาม หน้าใสกิ๊กเลย
เจ้าหน้าที่นำเครื่อง VR ซึ่งย่อมาจาก Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือนจริง เราจะได้เรียนรู้ประเพณีของโทคามาจิ พอสวมปุ๊บ เสมือนเราหลุดเข้าไปในงานเทศกาล Mukonage และ Sumi-nuri (พิธีโยนเจ้าบ่าวและทาหน้าสีดำเพื่ออวยพรชีวิตสมรส) ตื่นตาตื่นใจมาก เผลอเดิน เผลอยิ้ม เผลอโห่ร้องและปรบมือโดยไม่รู้ตัว ฮา มีภาษาไทยให้ฟังด้วยนะ
นอนเรียวกัง Hinanoyado Chitose
จบจากการทำกิจกรรมสนุกๆแล้ว เดินกลับเข้าที่พักกัน นี่เป็นเรียวกังที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองโทคามาจิ ด้านหน้าทางเข้าเราจะได้เห็นชุดกิโมโนประดับตามผนัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ พื้นปูด้วยเสื่อทาทามิที่มีความแข็งแรงทนทานสามารถลากกระเป๋าเดินทางได้สบาย
ด้านในมีลิฟต์อำนวยความสะดวก ภายในเรียวกังสามารถถอดรองเท้าเดินไปมาได้ ให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในบ้านของตัวเอง มีน้ำดื่มวางไว้ให้ ขนมต้อนรับ มีไวไฟ ห้องน้ำส่วนตัว แต่ไม่มีห้องอาบน้ำ หากต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถจองเวลาแช่ออนเซ็นล่วงหน้าก่อนวันเข้าพักได้ หรือจะเลือกพักห้องที่มีบ่อแช่ส่วนตัวก็ได้เช่นกัน บ่อแช่ส่วนตัวของที่นี่ แยกเป็นสองบ่อ ด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย
ด้านนอกมีกองหิมะขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่ น้ำออนเซ็นของหมู่บ้านน้ำพุร้อนมัตสึโนะยามะ (Matsunoyama Onsen) ถือเป็นน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณดี1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ด้วยส่วนประกอบของแร่ธาตุกว่าปกติถึง 15 เท่า อุณหภูมิของน้ำร้อนจากแหล่งกำเนิดถึง 92 องศาเซสเซียส ต่อตรงมายังเรียวกัง จากนั้นถึงผสมน้ำลงไปเพื่อลดอุณหภูมิให้เหมาะแก่การแช่ ขอบอกว่าผิวนุ่มลื่นดีมากๆ
ที่เรียวกัง เค้าจะเตรียมอาหารที่สื่อถึงรสชาติของหมู่บ้านกลางหุบเขา โดยใช้วัฒนธรรมและวัตถุดิบในท้องถิ่นตามฤดูกาลที่หลงเหลืออยู่ในมัตสึโนะยามะให้ดีที่สุด ระหว่างทานไป เราจะเพลิดเพลินกับอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเรียวกังซึ่งมีความพิเศษถูกปรุงด้วยความพิถีพิถันทุกเมนู
Hinanoyado Chitose
ที่อยู่ | 49-1 Matsunoyama Yumoto, Tokamachi City, Niigata Prefecture 424-1432 |
---|---|
วิธีเดินทาง | บริการรับฟรี จากสถานี Matsudai (14:15 / 16:10 / 17:10) |
เวลาทำการ | เวลาเช็คอิน 15:00 เช็คเอาท์ 10:00 |
Website | https://chitose.tv |
วันที่ 3
ชมศาสตร์แห่งศิลป์การผลิตผ้ากิโมโนที่ Aoyagi ที่นี่คือสถานที่ผลิตผ้ากิโมโนที่มีชื่อเสียงของเมืองโทคามาจิ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1938 (ยุคโชวะ 13) เราจะได้เห็นขั้นตอนการสร้างสรรค์ชิ้นงานตั้งแต่การวาดลาย มัดผ้า ย้อมสี ไปจนถึงกว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายอย่างสวยสง่าและหรูหรา
ในช่วงระยะเวลาหิมะตกเฉลี่ยประจำปีประมาณสี่เดือน ของเมืองโทคามาจิ การทำฟาร์มกลางแจ้งเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงไม่มีงานใดดีไปกว่าผลิตกิโมโน ที่นี่เน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าร่วมด้วย แต่ก็ไม่ลืมที่จะใช้ความคิดที่สร้างสรรค์ผลิตลายผ้าใหม่ๆอยู่เสมอ
เนื่องจากเป็นโรงงานที่ผลิตผ้ากิโมโนเอง จึงสามารถผสมสีทุกเฉดตามความต้องการได้ อุปกรณ์มากมายถูกวางเรียงรายภายในห้อง การเขย่าสีจะช่วยไม่ให้มีการตกตะกอน
การมัดและการปักหมุดผ้า เป็นขั้นตอนที่ต้องการทำลวดลายให้ผ้าก่อนที่จะไปสู่การย้อมสี ถือว่าเป็นงานที่ละเอียดมากๆเลย
กว่าจะได้มาถึงขั้นตอนนี้คือเค้าต้องหย่อนผ้าที่มัดลายไว้แล้วลงในน้ำย้อมที่มีอุณหภูมิสูงมาก เป็นขั้นตอนที่อันตรายที่สุดและต้องใช้ความชำนาญจริงๆ ก่อนจะนำมาแช่ที่อ่างน้ำเย็นอย่างในภาพ
เมื่อแกะผ้าและคลี่ออกมาดูในน้ำแล้ว จะเห็นลายของผ้าอย่างชัดเจน นี่คือหนึ่งในผ้าที่จะถูกนำไปเป็นผ้าสำหรับตัดชุดกิโมโนต่อไป
เอาล่ะ เรามาถึงขั้นตอนของการ ไม่ลองไม่รู้ กันบ้างแล้ว เราต้องสวมถุงมือยางถึง 3 ชั้น เอาถุงมือแช่ในน้ำเย็นแล้วปล่อยให้น้ำไหลเข้าไปด้านในแบบท่วมมือเลย จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าที่มัดเตรียมไว้แล้ว มาหย่อนลงที่บ่อย้อมสีม่วงที่มีน้ำร้อนจัดมาก ถ้าเราไม่ไหวก็เอามือขึ้นมาแล้วไปเปลี่ยนน้ำใส่ในถุงมือใหม่ ทำไปจนกว่าจะได้สีเข้มตามที่ต้องการ
พักผ้าเช็ดหน้าไว้เพื่อรอให้แห้ง จากนั้นเราก็เดินทางไปชมหน้าร้านที่มีผ้ากิโมโนที่ทำสำเร็จแล้วกัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก ตั้งแต่ราวๆ ปี 1980 อาโอยากิได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างชุดกิโมโนที่ซับซ้อนมากขึ้นโดยช่างฝีมือที่ได้รับการคัดสรรโดยเฉพาะ
“การออกแบบที่สวยงามทรงพลังและสง่างาม”ทำให้ทุกชุดกิโมโนของอาโอยากินั้น เมื่อสวมใส่แล้วรู้สึกได้ถึงความงดงามและความใส่ใจในการทำ
เมื่อเห็นขั้นตอนการผลิตแล้ว ก็ต้องขอลองสวมใส่ดูว่าสีไหนจะเหมาะกับเราดีนะ แม้ว่าชุดกิโมโนจะมีความยาวแต่ไม่มีปัญหาเพราะสามารถพับทบขึ้นมาเก็บไว้ตรงเอวได้ เพื่อให้เหมาะสมแก่รูปร่างของเรา
ชุดซ้ายคือสำหรับหญิงสาวในแบบสง่า พร้อมออกงาน สำหรับผู้ชายก็มีชุดกิโมโนเช่นกัน และผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานก็สามารถเลือกกิโมโนแบบฟุริโซเดะ ( 振袖 ) เป็นกิโมโนที่มีชายแขนเสื้อยาว มีลวดลายและสีสันสะดุดตา ใส่แล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย ใครสนใจจะทำเวิร์กช็อปเข้าไปชมรายละเอียดที่เว็บไซต์ได้เลย
ที่อยู่ | 26-6 Sakae-cho, Tokamachi City, Niigata Prefecture 948-0068 |
---|---|
คอร์สทำกิจกรรม | https://fact.kimono-aoyagi.jp/en/course |
Website | https://fact.kimono-aoyagi.jp/en |
ชมบ้านแห่งแสง House of light งานอาร์ตที่ดังในยุคนี้
หนึ่งในงานศิลปะ ของ Echigo Tsumari Art Fieldที่ดังมากๆของเมืองโทคามาจิคือ บ้านแห่งแสง ที่ดูภายนอกก็อาจจะยังไม่เข้าใจถึงความหมายของคำว่า House of light เราเข้าไปชมด้านในกันว่าเป็นอย่างไร
House of light ถูกออกแบบโดยศิลปินชื่อดังนามว่า James Turrell เป็นชาวอเมริกัน เขาสร้างบ้านแห่งนี้ด้วยมุมมองแบบ บ้านสมาธิ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยกบ้านให้สูงกว่าพื้นดิน 2.7 เมตรเพราะมีหิมะปกคลุมในฤดูหนาว และห้องนี้จริงๆสามารถเปิดช่องตรงหลังคาเพื่อชมแสงจากธรรมชาติได้
การสร้างบ้านหลังนี้เน้นการใช้สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของภูมิภาคนี้ และให้เราตระหนักถึง โลกแห่งเงาที่เราสูญเสีย โดยเขาอยากให้เราสามารถสัมผัสการใช้ชีวิตในบ้านที่แสงสามารถเชื่อมโยงกันได้จากแสงภายในและแสงภายนอก ความพิเศษของที่นี่คือเราสามารถเข้าพักได้จริงด้วยนะ มีออพชั่นอาหารเช้าแบบโรงแรมทั่วไป ซึ่งเราชอบมากๆ อยากลองพักเลยล่ะ สามารถเข้าชมภาพที่เว็บไซต์ได้
บ้านแห่งแสง House of light
ที่อยู่ | 2891 Ueno-Ko, Tokamachi, Niigata948-0122 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokamachi นั่งแท็กซี่ราว 15 นาที |
อีเมล | hikari01@hikarinoyakata.com |
การจองเข้าชม | https://hikarinoyakata.com/eng/reserve |
การจองเข้าพัก | https://hikarinoyakata.com/eng/charge |
Website | https://hikarinoyakata.com |
ฝึกทำอาหารท้องถิ่นแบบสนุกๆ กับบรรดาคุณแม่แห่งโทคามาจิ
ไปเที่ยวมาก็หลายที่ ทานอาหารท้องถิ่นมาก็มากมายแต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มีประสบการณ์การทำอาหารกับคนท้องถิ่นด้วย ครั้งนี้เราได้มาลองกิจกรรมครึ่งวันในการเรียนรู้อาหารพื้นเมืองของชาวโทคามาจิ เมนูประกอบด้วยเครื่องเคียง 3 อย่าง + ข้าว + ซุปมิโซะ เดี๋ยวเรามาลอง สนุกกับการเรียนทำอาหารในชนบทกัน เห็นท่าทางของพวกเราแล้ว มั่นใจได้เลยค่ะคุณแม่ ว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!
คุณแม่จะแจกกระดาษเมนูมาให้ มีภาพประกอบอย่างดี อาหารมี 3 อย่าง ( เช่น เมนูผัด ต้มและน้ำซุป) เรามากัน 3 คนเลยได้ลองทำคนละเมนู ระหว่างที่ทำไปก็ขำกันไปเพราะเห็นแต่คุณแม่วิ่งไปทางนั้นทีทางนี้ที
วัตถุดิบทั้งหมดก็มาจากในเมืองโทคามาจิ เราจะได้ลองทำกับข้าวในเมนูของคนที่นี่จริงๆนะ คอร์สใช้เวลาในการทำประมาณ 4 ชั่วโมงรับตั้งแต่ 2 – 10 คน นอกจากจะได้ฝึกทักษะการทำอาหารแบบคนญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังได้ทานอาหารฝีมือตัวเองด้วย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว กำลังสนุกๆอยู่เลย คราวนี้เราจะได้เวลาทานกับข้าวฝีมือตัวเองกันละนะ ไม่ต้องห่วงว่าจะทานไม่ได้ ฮา เพราะเค้าได้วัดอัตราส่วนมาเรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญ เราได้ทานกับข้าวสวยร้อนๆแห่งโทคามาจิ จ.นีงาตะ แหล่งปลูกข้าวชื่อดังด้วย ระหว่างที่ทานไปก็คุยโม้ให้กันฟัง สนุกสนานเลย
ที่อยู่ | อยู่ที่การนัดพบ ภายในเมืองโทคามาจิ |
---|---|
การจอง | การจอง |
ราคา | ตั้งแต่ 4,400 เยน / คน |
Website | https://homehome.jp/en/tours/cooking-class-tokamachi-2/ |
แนะนำการแต่งกายในฤดูหนาว
หากใครจินตนาการไม่ออกว่ามาเมืองที่มีหิมะตกหนา 2 เมตรนั้น แต่งกายแบบไหน อากาศหนาวกว่าที่อื่นหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลเพราะไม่หนาวมากเหมือนเมืองที่อยู่บนเขาสูง ใส่เสื้อโค้ทแบบหนามาปกติ ใครขี้หนาวก็แนะนำใส่เสื้อกั๊กอีกตัวที่ด้านใน นอกนั้นก็ใส่เสื้อแขนยาวและเสื้อที่ให้ความอบอุ่นด้านในอีกชั้น
แต่อยากแนะนำพิเศษสำหรับรองเท้า หากมาเที่ยว 1 วันสามารถขอเช่ารองเท้าบูทยางได้ที่สถานี Tokamachi แต่ถ้ามาพักและเดินทางท่องเที่ยวด้วย ควรใส่รองเท้าที่กันน้ำได้เนื่องจากต้องเดินบนพื้นที่เปียกและหากพื้นรองเท้ามีดอกยางสำหรับกันลื่นด้วยยิ่งปลอดภัยมากขึ้น
อุปกรณ์เสริมอื่นๆที่ช่วยให้การเที่ยวเมืองหนาวนั้นง่ายขึ้น คือ แผ่นแปะความร้อน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายโดยใช้งานง่ายๆคือเพียงแค่ดึงแถบกาวออกแล้วแปะทับบนเสื้อทับในเลย (แบบที่มีแถบกาว เขียนว่า 貼る- ฮารุ ) สำหรับเราแปะที่ด้านหน้าตรงช่วงท้อง และแบบสำหรับแปะที่ตรงปลายถุงเท้าด้วย เพราะพื้นเย็นมากแต่ถ้าเท้าเราอุ่นทั้งวันเราก็เดินเที่ยวได้สบายขึ้น หรือบางคนชอบแบบที่กำไว้ในกระเป๋าเสื้อก็ซื้อซองที่เขียนว่า 貼らない มาก็ได้ และอื่นๆก็เช่น หมวกไหมพรมและถุงมือแบบกันลมได้ ทั้งหมดนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อเช่นกัน (ขายแค่ช่วงฤดูหนาว)
สรุป
เมืองโทคามาจิ (Tokamachi) จ.นีงาตะ (Niigata) ได้มอบประสบการณ์ใหม่ๆให้เราได้เรียนรู้นอกจากการได้มาเที่ยว ถ่ายภาพสวยๆ ชมบ้านเมืองในฤดูหนาวแล้ว ยังให้เราได้เข้าใจถึงการดำเนินชีวิตท่ามกลางหิมะจำนวนมาก ชมงานผลิตผ้ากิโมโนอันถือเป็นความภูมิใจของคนท้องถิ่น การได้ทำอาหารกับคนท้องถิ่นและอีกความสนุกมากมายที่จะทำให้เรากลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งแน่นอน
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองโทคามาจิ คลิกที่ลิ้งก์นี่
*ข้อมูลอัพเดทการให้บริการและเวลาทำการ ของปี 2023 สามารถดูข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของสถานที่ต่างๆ ของเมือง