เมืองคิตะคิวชู (KITAKYUSHU) พื้นที่ท่องเที่ยวใกล้เมืองฟุกุโอกะ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย เช่น สวนดอกไม้คาวาอุจิ ฟูจิเอ็น และท่าเรือโมจิ

30/01/2024 (อัพเดทเมื่อ 01/02/2024)
เมืองคิตะคิวชู (KITAKYUSHU) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคคิวชู รองจากเมืองฟุกุโอกะ หากนั่งรถไฟชินคันเซ็น จะสามารถเดินทางจากสถานีฮากะตะในเมืองฟุคุโอกะ ไปยังสถานีรถไฟโคคุระ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองคิตะคิวชู ในเวลาเพียง 15 นาที ในอดีตเมืองคิตะคิวชูมีชื่อเสียงในฐานะเมืองอุตสาหกรรมที่มีอุตสาหกรรมเหล็กเป็นศูนย์กลาง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองที่สอดคล้องกับความเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม ภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น แหล่งช้อปปิ้ง พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ย่านเมืองเก่าแสนโรแมนติก เป็นต้น

เดอะ เอาท์เล็ต คิตะคิวชู (THE OUTLETS KITAKYUSHU)

THE OUTLETS KITAKYUSHU คือเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 270,000 ตารางเมตร และมีร้านค้าประมาณ 170 ร้าน ในบรรดาร้านค้าต่าง ๆ มีร้านแบบที่เป็นเอ้าท์เล็ต 48 ร้าน มีแบรนด์แฟชั่นยอดนิยม เช่น Coach และ Michael Kors นอกจากนี้ ยังมีสินค้าลดราคาหลากหลายประเภท เช่น นาฬิกาข้อมือของ Seiko และแบรนด์เครื่องครัวของฝรั่งเศส Tefal รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Space LABO ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และสวนสนุก ASOBLE ที่ชวนให้คุณได้วาดฝันเกี่ยวกับอนาคตผ่านการเล่นกิจกรรม ก็นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเลยทีเดียว *ร้านค้าข้างต้นเป็นข้อมูลลำดับถัดมาของเดือนมกราคม 2024

THE OUTLETS KITAKYUSHU

ที่อยู่4-1-1 Higashida, Yahata Higashi Ward, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย JR Kagoshima Main Line มาลงที่สถานี Space World แล้วเดินประมาณ 2 นาที หรือ นั่งรถจากทางออก Edamitsu ของทางด่วนเมืองคิตะคิวชู ประมาณ 2 นาที
เวลาเปิดให้บริการ10:00 – 20:00 น. (Lawson 9:00-21:00 น., STARBUCKS COFFEE 10:00-21:00 น., ร้านเนื้อย่าง / ร้านสุกี้ขาบู อนโดรุ 11:00-22:00 น.)
Websitehttps://th.aeonmall.global/mall/theoutletskitakyushu/

ดูแผนที่ THE OUTLETS KITAKYUSHU

ดอกซากุระที่ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle)

ปราสาทโคคุระเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ต่อมาถูกเพลิงไหม้ทำลายลง และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1959 และยังคงสภาพไว้จนถึงปัจจุบันนี้ หอคอยปราสาทแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ โดยจะมีการฉายวิดีโอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ 400 ปีของปราสาทโคคุระ และนิทรรศการเกี่ยวกับ “มิยาโมโตะ มูซาชิ” หนึ่งในนักดาบชั้นนำของญี่ปุ่น นอกจากนี้บริเวณรอบปราสาทยังมีต้นซากุระประมาณ 300 ต้นที่ปลูกล้อมรอบ โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งในช่วงเวลานั้นจะมีการจัดงานที่เรียกว่า “เทศกาลซากุระ” รอบๆ ปราสาทโคคุระอีกด้วย นอกจากจะได้ชมการแสดงต่าง ๆ แล้ว คุณจะได้อื่มอร่อยกับอาหารขึ้นชื่อของคิตะคิวชูอีกด้วย

KITAKYUSHU

Kokura Castle

ที่อยู่2-1 Jonai, Kokura Kita Ward, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture
วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย JR Kagoshima Main Line มาลงที่สถานีโคคุระ (Kokura Station) แล้วเดินต่อ 20 นาที หรือ เดิน 10 นาทีจากสถานีนิชิโคคุระ (Nishi-Kokura Station) หรือ ขับรถประมาณ 8 นาทีจากทางออก Otemachi ของทางด่วนเมืองคิตะคิวชู
เวลาเปิดให้บริการ09:00 – 20:00 น. (เดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคม : 09:00-19:00 น.)
ค่าเช้าชม : ผู้ใหญ่ 350 เยน ※ เทศกาลชมซากุระสามารถเข้าฟรี
ค่าเช้าชมผู้ใหญ่ 350 เยน ※ เทศกาลชมซากุระสามารถเข้าฟรี
Websitehttps://www.kokura-castle.jp/overview-en/

ดูแผนที่ Kokura Castle

สวนดอกไม้คาวาอุจิ ฟูจิเอ็น(Kawauchi Fujien)

สวนดอกไม้คาวาอุจิ ฟูจิเอ็น (Kawauchi Fujien) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่รายการ CNN ของสหรัฐอเมริกาแนะนำไว้ว่าเป็นหนึ่งใน “31 จุดชมดอกไม้ที่สวยงามของญี่ปุ่น”  ในช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกวิสทีเรียกว่า 22 สายพันธุ์ การเดินลอดอุโมงค์ที่ทำจากดอกวิสทีเรียสีม่วงน่าหลงไหลนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝันเลยทีเดียว นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม ใบไม้จากบนต้นไม้ประมาณ 700 ต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงซึ่งนับเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมใบไม้ร่วง ทั้งเส้นทางชมดอกวิสทีเรีย และเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสี ใช้เวลาเดินชมประมาณ 30 นาที ดังนั้นขอแนะนำให้สวมรองเท้าที่ใส่สบาย และสำหรับในฤดูชมดอกวิสทีเรีย คุณจำเป็นต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าจากบนเว็บไซต์ทางการ เพราะจะไม่มีการจำหน่ายตั๋วที่หน้างานดังนั้นโปรดระวัง

KITAKYUSHU

สวนดอกไม้คาวาอุจิ ฟูจิเอ็น ดอกวิสทีเรีย

KITAKYUSHU
KITAKYUSHU

สวนดอกไม้คาวาอุจิ ฟูจิเอ็น ใบไม้เปลี่ยนสี

ที่อยู่2-2-48 Kawachi, Yahata Higashi Ward, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture
วิธีเดินทางเดินทางด้วยรถยนต์โดยใช้ทางด่วน Kitakyushu Urban Otani Ramp ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ค่าเช้าชม【ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม】
เวลาเปิดให้บริการ : 08:00 – 18:00 น. 
ค่าเช้าชม : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน ※ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าชม

【กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม】
เวลาเปิดให้บริการ : 09:00 – 17:00 น. 
ค่าเช้าชม : 500 เยน 
Websitehttps://kawachi-fujien.com/

ดูแผนที่ สวนดอกไม้คาวาอุจิ ฟูจิเอ็น ใบไม้เปลี่ยนสี

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ภูเขาซาราคุระ (Sarakura)

ในปี 2022 เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ได้รับเลือกจากทั่วทั้งประเทศให้เป็นอันดับ 1 ของ “3 เมืองที่มีทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามที่สุดของญี่ปุ่น” นอกจากทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันทรงพลังของช่องแคบคันมง (Kanmon) ซึ่งถูกจัดเป็น 1 ใน 9 ของ “ทัศนียภาพยามค่ำคืนอันทรงคุณค่าของญี่ปุ่น” แล้ว ที่คิตะคิวชูแห่งนี้ทุกท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อีกหลากหลายรูปแบบ เช่นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเขตอุตสาหกรรมเป็นต้น ในบรรดานั้นจุดที่ยอดนิยมที่สุดคือ ทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากบนภูเขาซาราคุระ (Sarakura) โดยสามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ (Cable Car) ต่อด้วยสโลปคาร์ (Slope Car) ไปยังจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนความสูง 622 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้ เมื่อมองลงไป จะเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามของเมืองคิตะคิวชูเปล่งประกายระยิบระยับอยู่เต็มพื้นที่เบื้องล่าง เรียกได้ว่าสวยจนลืมหายใจเลยทีเดียว

KITAKYUSHU

Sarakura

ที่อยู่1481-1 Ogura, Yahatahigashi Ward, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture (สถานีเคเบิ้ลคาร์ บริเวณเชิงเขา)
วิธีเดินทางเดินทางด้วยรถยนต์โดยใช้ทางด่วน Kitakyushu Urban Otani Ramp ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
※มีรถรับส่ง (Shuttle Bus) ให้บริการฟรีจากสถานียาฮาตะ (Yahata) ของรถไฟ JR สายคาโกชิมะ (Kagoshima) จนถึงสถานีเคเบิ้ลคาร์ บริเวณเชิงเขา
เวลาให้บริการของเคเบิ้ลคาร์ช่วงเดือนเมษายน-เดือนมิถุนายน และเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม เวลา 10:00-21:00 น. (ขึ้นรอบสุดท้ายเวลา 20:20 น.)
ช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนสิงหาคม เวลา 10:00-22:00 น. (ขึ้นรอบสุดท้ายเวลา 21:20 น.)
※ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคมของปีถัดไป เวลา 10:00-20:00 น. (ขึ้นรอบสุดท้ายเวลา 19:20 น.)
ตั๋วเคเบิ้ลคาร์ และสโลปคาร์แบบไป-กลับผู้ใหญ่ ราคา 1,230 เยน, เด็ก ราคา 620 เยน
Websitehttp://www.sarakurayama-cablecar.co.jp/

ดูแผนที่ Sarakura

สถานีโมจิโค (Mojiko Station)

ภายในเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่างย่านโมจิโค    เรโทร (Mojiko Retro) ซึ่งเป็นแหล่งที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นอาคารสไตล์เรโทรที่ตั้งเรียงรายอยู่ อย่างอดีตอาคารของโมจิมิตซุยคลับ อดีตอาคารของบริษัทโอซาก้าโชเซ็น หรืออดีตอาคารสำนักงานศุลกากรเขตโมจิ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ช่องแคบคันมง (Kanmon) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นให้ผู้เข้าชมมีประสบการณ์ร่วม โดยประตูสู่ย่านโมจิโคเรโทร (Mojiko Retro) เหล่านี้ก็คือ สถานีโมจิโค (Mojiko Station) นั่นเอง หลังจากการก่อสร้างซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมเสร็จสิ้นในปี 2019 อาคารต่าง ๆ ก็กลับมามีสภาพเหมือนตอนที่สร้างแรก ๆ           ในปี 1914 อาคารสถานีรถไฟซึ่งเป็นอาคารไม้ 2 ชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่นั้นเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรอเนสซองส์ (Neo-Renaissance) โดยสถาปัตกรรมรูปแบบนี้จะมีลักษณะเด่นอยู่ที่โครงสร้างอาคารด้านซ้ายและขวาจะมีสัดส่วนสมมาตรกัน ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นจากที่อื่นมากนัก บริเวณสถานีเองก็มีหลายจุดที่เหมาะแก่     การถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นห้องพักผู้โดยสารที่ตกแต่งอย่างงดงาม และน้ำพุที่อยู่บริเวณหน้าสถานี

Mojiko Station

ที่อยู่1-5-31 Nishikaigan, Moji Ward, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture
เวลาจัดแสดงน้ำพุหน้าสถานีเวลา 10:00-19:20 น.
Websitehttps://www.jrkyushu.co.jp/company/mojiko_sta/english/aisatu/index.html

ดูแผนที่ Mojiko Station

สะพานคันมง (Kanmon Bridge) 

สะพานแขวนแห่งนี้เปิดให้ใช้ในปี 1973 เพื่อเชื่อมต่อระหว่างเขตโมจิ (Moji)      เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) กับเมืองชิโมโนะเซกิ (Shimonoseki) ของจังหวัด   ยามากุจิ (Yamaguchi) มีความยาวรวมทั้งหมด 1,068 เมตร เนื่องจากตัวสะพานมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ทำให้สามารถมองเห็นได้จากหลายที่ อย่างจากจุดชมวิวที่ 2 ของสวนสาธารณะเมคาริ (Mekari Park) ก็สามารถมองเห็นทั้งสะพานคันมง และช่องแคบคันมงได้พร้อมกัน ส่วนจุดที่เหมาะแก่การชมวิวคือ จุดชมวิวระเบียงไม้ และลานจอดรถริมทะเล นอกจากนี้ บริเวณจุดพักรถเมคาริ (Mekari PA) ซึ่งตั้งอยู่บนทางด่วนฝั่งเมืองคิตะคิวชูก็มีดาดฟ้าที่ถูกออกแบบให้เป็นจุดชมวิวด้วยเช่นกัน   ทำให้สามารถชมสะพานคันมงอย่างใกล้ชิดจากที่นั่นได้ หรือหากเดินเล่นโดยใช้เส้นทางเดินเล่นชมทะเล ก็จะสามารถมองเห็นสะพานที่อยู่เบื้องบนได้อีกด้วย

Kanmon Bridge

ที่อยู่1 Chome, Mojiko Okubo, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture (Mojiko IC)
Websitehttps://www.gururich-kitaq.com/th/spot/kanmon-bridge

ดูแผนที่ Kanmon Bridge

ที่ราบสูงฮิราโอได (Hiraodai)

ที่ราบสูงฮิราโอได (Hiraodai) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 3 พื้นที่ราบสูงคาสต์ (ลักษณะภูมิประเทศที่เกิดจากการกัดกร่อนของหินปูนจนมีรูปร่างแปลกตา) ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งยังได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรรมชาติประจำจังหวัด  อุทยานแห่งชาติ และอนุสรณ์สถานธรรมชาติ       ที่นี่ตั้งอยู่บนระดับความสูงประมาณ 300-700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีหินปูนกระจายตัวอยู่เต็มทุ่งหญ้ากว้างซึ่งมีความยาวจากเหนือถึงใต้ 6 กิโลเมตร และจากตะวันออกถึงตะวันตก 2 กิโลเมตร เนื่องจากมีโขดหินรูปทรงแปลกตาอย่าง “โขดหินสิงโต” และ “โขดหินจูบกัน” ทำให้ระหว่างเดินตามหาโขดหินเหล่านี้ก็จะได้สนุกกับการเดินเล่นชมภายในอุทยานไปด้วย นอกจากการตระเวนเที่ยวชมถ้ำต่าง ๆ อย่างถ้ำหินปูนเซ็นบุทสึ (Senbutsu Cave) และถ้ำหินปูนเมจิโระ (Mejiro Cave) แล้ว  “กิจกรรมสำรวจถ้ำ” ที่เปิดโอกาสให้ออกผจญภัยสำรวจถ้ำตามธรรมชาติได้   ก็เป็นอีกกิจกรรมที่แนะนำ

Hiraodai

ที่อยู่2-2-48 Kawachi, Yahata Higashi Ward, Kitakyushu City, Fukuoka Prefecture
เวลาเช้าชมศูนย์ศึกษาธรรมชาติฮิราโอได (Hiraodai Nature Observation Center) เปิดให้เข้าชมเวลา 9:00-17:00 น. (สามารถเข้าได้ถึง 16:30 น.),
ถ้ำหินปูนเซ็นบุทสึ (Senbutsu Cave) เปิดให้เข้าชมเวลา 9:00-17:00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดถึง 18:00 น.), 
ถ้ำหินปูนเมจิโระ (Mejiro Cave) เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00-17:00 น.,
ถ้ำหินปูนโอจิกะ (Ojika Cave) เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00-17:00 น.(วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดถึง 18:00 น.)
Websitehttp://www.hiraodai.jp/

ดูแผนที่ Hiraodai

ตลาดทันกะ (Tanga Market)

ตลาดแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่มีประวัติความเป็นมายาวนานมากกว่า 100 ปี และยังคงบรรยากาศแบบดั้งเดิมไว้ ที่นี่ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ห้องครัวของคิตะคิวชู” (Kitchen of Kitakyushu) เนื่องจากมีอาหารทะเล และผักผลไม้ซึ่งเป็นผลผลิตในท้องถิ่น รวมถึงอาหารสดวางขายเรียงรายอยู่มากมาย และในบรรดานั้นก็มีอาหารขึ้นชื่ออย่าง “ต้มจินดานิ” (Jindani) ซึ่งเป็นเครื่องเคียงชนิดหนึ่งที่ทำโดยการนำปลาอย่างปลาซาบะ หรือปลาอิวาชิมาเคี่ยวกับนุกะมิโซะ (Nuka Miso) หรือมิโซะรำข้าวจนงวด  นอกจากนี้ภายในตลาดยังมีร้านอาหารอีกมากมาย รวมถึงร้านที่เสิร์ฟเมนูประจำท้องถิ่นอย่าง “คาชิวะอุด้ง” (Kashiwa Udon) ซึ่งปกติจะหาทานได้แค่ที่ชานชาลาของสถานีโคคุระ (Kokura Station) เท่านั้นอีกด้วย หลังจากนี้ทางตลาดมีแผนจะปรับปรุงพื้นที่ตลาดใหม่ทั้งหมด โดยคาดว่าเสร็จสิ้นในปี 2027  ดังนั้นใครที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศสไตล์เรโทรก็อย่ามัวแต่รอช้า ต้องรีบมากันแล้ว

Tanga Market

ที่อยู่4-2-18 Uomachi, Kokurakita Ward, Fukuoka Prefecture
Websitehttps://www.tangaichiba.jp/

ดูแผนที่ Tanga Market

อาหารคิตะคิวชู (Kitakyushu)อาหารที่มีต้นกำเนิดที่คิตะคิวชู (ผัดยากิอุด้ง และแกงกะหรี่อบ) 

หากพูดถึงอาหารขึ้นชื่อที่สุด 2 เมนูที่ถือกำเนิดขึ้นที่คิตะคิวชูก็คงหนีไม่พ้นผัดยากิ อุด้ง (Yaki Udon) และแกงกะหรี่อบ (Yaki Curry) ผัดยากิอุด้งเป็นเมนูที่นำเส้น    อุด้งมาผัดกับวัตถุดิบอื่นอย่างเนื้อและผัก แล้วปรุงรสด้วยซอสและเครื่องปรุงต่าง ๆ ปกติแล้วเมนูนี้มักใช้เส้นสดแบบนุ่มกัน แต่ที่นี่ซึ่งเป็นต้นตำรับของเมนูนี้จะใช้เส้นอบ แห้งนำมาต้ม ทำให้ได้รสสัมผัสที่หนุบหนับเคี้ยวเพลินกว่า ส่วนแกงกะหรี่อบเป็นเมนูที่นำไข่และชีสมาวางลงบนข้าวราดแกงกะหรี่แล้วนำไปอบต่อจนสุกและมีสีสันน่าทาน โดยต้นกำเนิดของเมนูเหล่านี้คือ ท่าเรือโมจิโค (Mojiko Port) ซึ่งเป็นสถานที่ที่วัฒนธรรมอาหารตะวันตกพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเคยเป็นท่าเรือที่ใช้ในการค้าขายระหว่างประเทศที่เจริญรุ่งเรืองมากในอดีต

อาหารคิตะคิวชูซูชิคิวชูมาเอะ (Kyushumae Sushi) สไตล์ดั้งเดิมที่ได้รสสัมผัสของเกลือ และผลไม้รสเปรี้ยว

เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) เป็นเมืองที่หันหน้าเข้าหาทะเล จึงมีอาหารทะเลให้ทานอยู่ตลอดไม่เคยขาด รอบ ๆ สถานีโคคุระ (Kokura Station) เองก็มีร้านซูชิที่ได้รับการการันตีความอร่อยตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ตั้งแต่ร้านซูชิสุดหรูไปจนถึงร้านซูชิสายพาน ในบรรดานั้น ซูชิที่อยากให้ได้ลิ้มลองคือ ซูชิสไตล์ดั้งเดิมของคิวชูที่เรียกว่า “คิวชูมาเอะ” (Kyushumae) ซึ่งเป็นซูชิที่ปรุงรสด้วยผลไม้ตระกูลซีตรัสให้รสเปรี้ยวอย่างคาโบซุ (Kabosu) และเกลือแทนการใช้โชยุ ทำให้ดื่มด่ำกับรสชาติที่แท้จริงของอาหารทะเลสด ๆ ได้ ทั้งยังเป็นการปรุงรสแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ผู้ทานจึงสามารถสัมผัสได้ถึงฝีมืออันละเอียดละออของเชฟซูชิผ่านลิ้นได้ โดยสามารถหาทานได้ตามร้านซูชิอย่าง “ร้านเท็นซูชิ เคียวมาจิ” (Tenzushi Kyomachi) แต่เนื่องจากร้านได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงต้องจองล่วงหน้าก่อนไปทาน

เนื้อโคคุระ (Kokura Gyu)

ในบรรดาวัวญี่ปุ่นพันธุ์ขนดำที่ถูกเพาะเลี้ยงภายในเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) “เนื้อโคคุระ” (Kokura Gyu) คือแบรนด์เนื้อที่ได้รับเครื่องหมายการค้าที่ให้เฉพาะกับเนื้อวัวที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดเท่านั้น จุดเด่นของเนื้อชนิดนี้คือ ลายหินอ่อนที่งดงาม ความเงางาม และสีสันที่น่าทานของเนื้อ ทั้งยังมีรสสัมผัสที่ละลายทันทีเมื่อเข้าปาก ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมชุ่มฉ่ำที่ออกมาจากเนื้ออย่างเต็มปากเต็มคำ วัวโคคุระจะถูกขุนให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ด้วยอาหารอย่างดี ในเนื้อจะอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดี แร่ธาตุ และวิตามินหลากหลายชนิด จึงทำให้ได้รับความสนใจ    ในฐานะที่เป็น “เนื้อที่ดีต่อสุขภาพ” หากต้องการซื้อ ขอเชิญที่ร้านเนื้อโคคุระที่ได้รับการรับรองภายในเมืองคิตะคิวชู

https://www.gururich-kitaq.com/spot/kokura-gyu

ปลาปักเป้าแห่งคันมง (Kanmon)

หากพูดถึงปลาปักเป้า เมืองชิโมโนะเซกิ (Shimonoseki) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับช่องแคบคันมง (Kanmon) นั้นขึ้นชื่อมาก แต่บริเวณท่าเรือโมจิโค (Mojiko Port) ก็มีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูแสนอร่อยจากปลาปักเป้าอยู่จำนวนมากเช่นกัน โดยสไตล์ของร้านจะมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ภัตตาคารเก่าแก่ไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคา   จับต้องได้ เมนูที่อยากให้ได้ลิ้มลองเป็นอันดับแรกคือ ปลาดิบซาชิมิ (Sashimi)    เนื้อปลาปักเป้าที่ถูกแล่จนบางเฉียบ เมื่อถูกเคี้ยวก็จะมีรสหวานอ่อน ๆ แผ่ซ่านอยู่ในปาก นอกจากนี้เมนูหม้อไฟเนื้อปลาปักเป้า “ฟุกุจิริ” (Fuguchiri) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง รสชาติอร่อยกลมกล่อมเหนือคำบรรยายที่ได้จากกระดูก และเนื้อส่วนคางของปลาปักเป้าจะละลายออกมาผสมในน้ำซุป ในตอนท้ายหากใส่ข้าวสวยลงไปในน้ำซุปก็จะได้เป็นข้าวต้มทรงเครื่องอีกหม้อเลยทีเดียว

บทสรุป

หลังจากที่ได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารขึ้นชื่อของเมืองคิตะคิวชู (KITAKYUSHU) แล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ? บอกเลยว่านอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาหารท้องถิ่นรสเลิศ งานเทศกาล และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้รู้จักกัน เมืองคิตะคิวชูนั้นก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวกันของเมือง 5 แห่งในปี 1963 ดังนั้นแต่ละเขตจึงมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ยิ่งคุณได้รู้จักข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้คุณรู้สึกอยากกลับไปเยี่ยมชมอีกครั้งมากขึ้นเท่านั้น สุดคุ้มเพราะเรามีคูปองแจกให้กับนักท่องเที่ยวจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2024 ถ้าคุณวางแผนที่จะไปเมืองคิตะคิวชู โอกาสทองของคุณมาถึงแล้ว!

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515