Cr: Chill Chill Japan
คาโกชิมะ (Kagoshima) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในตอนใต้ของภูมิภาคคิวชูซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าเที่ยวของโซนคิวชูตอนใต้นี้ จังหวัดนี้โดดเด่นที่มีธรรมชาติสวยงาม อย่างภูเขาไฟ Sakurashima (ซากุระชิมะ) ที่ตั้งอยู่บนเกาะซากุระชิมะซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับคาโกชิมะ หรือแม้แต่สถานที่เที่ยวชมความสวยงามสไตล์ญี่ปุ่นแท้อย่างสวนญี่ปุ่น Sengan en ทั้งยังมีกิจกรรมแปลกใหม่ให้ได้ลองไปสัมผัสอย่างการแช่ออนเซ็นทราย
เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดน่าเที่ยวที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแบบให้เราได้ไปสัมผัสเลยทีเดียว
การเดินทางมาคาโกชิมะ
Cr: Chill Chill Japan
การเดินทางมาเที่ยวคาโกชิมะนั้นมีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะนั่งเครื่องบินมาลงที่คาโกชิมะเลย หรือนั่งรถไฟมาจากเมืองอื่นก็ได้ด้วยเช่นกัน อย่างถ้ามาเที่ยวมิยาซากิหรือคุมาโมโตะเมืองข้างเคียงก็สามารถจับรถไฟหรือขับรถมาที่คาโกชิมะได้ด้วยเช่นกัน
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับการเดินทางมาคาโกชิมะครั้งนี้ของเราก็เดินทางจากสถานี Minami Miyazaki ไปยังสถานี Kagoshima chuo ด้วยรถไฟ JR ต่อเดียวถึง ในราคา 4,230 เยน โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับรถไฟขบวนที่เรานั่งนั้นเป็นแบบจองที่นั่ง เมื่อขึ้นรถไฟไปก็เดินไปนั่งตามพิกัดของตัวเองกันได้เลย และเนื่องจากต้องนั่งรถไฟเป็นเวลาถึงสองชั่วโมง ขอแนะนำให้แวะซื้อขนมขบเคี้ยวและน้ำดื่มจากร้านค้าบริเวณสถานีติดไม้ติดมือกันเข้ามาด้วยนะ
Cr: Chill Chill Japan
นั่งรถไฟไปเรื่อย ๆ ถ้าเริ่มเห็นภูเขาไฟซากุระจิมะแบบนี้แปลว่าใกล้จะถึงจังหวัดคาโกชิมะเต็มทีแล้วจ้ะ
Shiroyama Park Observation Deck : พิกัดชมวิวภูเขาไฟ
Cr: Chill Chill Japan
พิกัดแรกที่เราจะพาไปเที่ยวในคาโกชิมะกันนั้น เราจะพาไปชมความงามของภูเขาไฟประจำจังหวัดอย่าง Sakurajima (ซากุระจิมะ) กันก่อนเลย สถานที่ชมภูเขาไฟซากุระจิมะกันนั้นเป็นจุดชมวิวเมืองคาโกชิมะที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ที่จุดชมวิวแห่งนี้จะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นเมืองคาโกชิมะทั้งเมือง พร้อมฉากหลังที่เป็นภูเขาไฟซากุระจิมะที่ยิ่งใหญ่สวยงาม และเนื่องจากภูเขาไฟลูกนี้ยังคงมีการปะทุอยู่ บางวันก็อาจจะเห็นควันพวยพุ่งออกจากภูเขาไฟด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
แล้วยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน แสงของพระอาทิตย์ที่สาดส่องจะเปลี่ยนสีภูเขาไฟลูกนี้ให้กลายเป็นสีม่วงสวย ใครอยากเห็นวิวสวย ๆ ของคาโกชิมะ จุดชมวิวแห่งนี้เป็นจุดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลย
Shiroyama Park Observation Deck
ที่อยู่ | 22-13 Shiroyama machi Kagoshima, Kagoshima Prefecture 892-0853 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Asahidori จากนั้นเดินต่อประมาณ 28 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Website | Shiroyama Park Observation Deck |
Sakurajima : เที่ยวสนุกที่ภูเขาไฟ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หลังจากที่เราได้ไปดูวิวภูเขาไฟซากุระจิมะสวย ๆ กันไปแล้ว คราวนี้เราขอพาทุกคนไปเที่ยวที่ภูเขาไฟซากุระกันเลยดีกว่า ! และสำหรับการเดินทางไปชมภูเขาไฟซากุระจิมะนั้นเนื่องจากภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่บนเกาะที่ชื่อว่าซากุระจิมะ เราจึงต้องเดินทางไปยังเกาะที่ว่าด้วยเรือ Ferry กัน
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับการนั่งเรือ Ferry นั้นสามารถซื้อได้ทั้งตั๋วนั่งเรือ โดยราคาค่าขึ้นเรือ ผู้ใหญ่ 160 เยน เด็ก 80 เยนและตั๋วนำรถข้ามฝากไปกับเรือสำหรับคนที่เช่ารถขับเที่ยว ขึ้นอยู่กับขนาดของรถนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
เรือ Ferry ที่เราจะได้นั่งไปยังเกาะซากุระจิมะนั้นใช้เวลาเพียง 15 นาทีซึ่งในช่วงเวลานี้เองที่เราจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาไฟซากุระจิมะได้ใกล้ชิดขึ้นเรื่อย ๆ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
โดยเรือ Ferry ลำนี้จะมีที่นั่งอยู่หลายชั้นด้วยกัน ทั้งแบบ indoor และ outdoor ซึ่งสำหรับคนที่ซื้อตั๋วแบบนำรถขึ้นมาบนเรือเพื่อข้ามฟากก็สามารถจอดรถไว้ที่ชั้นล่างแล้วขึ้นมาชมวิวที่ชั้นบนของเรือได้ก่อนที่จะถึงที่หมาย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือ Ferry : คลิ๊กที่นี่
Sakurajima
ที่อยู่ | Sakurajimaakoubarucho, คะโงะชิมะ จังหวัดคะโงะชิมะ 891-1417 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี JR Kagoshima มาประมาณ 12 นาที เพื่อขึ้นเรือ Ferry ที่ท่าเรือ Sakurajima Ferry Terminal Kagoshima Port (Main Port) ฝั่ง Kagoshima มายังท่าเรือบนเกาะ Sakurajima โดยจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ค่าขึ้นเรือ ผู้ใหญ่ 160 เยน เด็ก 80 เยน |
Website | Sakurajima |
Sakurajima visitor center : เรียนรู้เรื่องของภูเขาไฟ
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อมาถึงเกาะซากุระจิมะแล้ว จะเห็นได้ว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ให้ได้เที่ยวเล่นกันภายในเกาะแห่งนี้ สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราขอแนะนำให้แวะมากันก่อนเลยก็คือ Sakurajima visitor center แห่งนี้
มีที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะช่วยให้เราได้รู้จักภูเขาไฟซากุระจิมะแห่งนี้มากขึ้นอยู่ และหากได้มาที่นี่แล้วบอกเลยว่าต้องไม่พลาดเข้าไปเยี่ยมชม เพราะภูเขาไฟแห่งนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจที่เราอาจจะไม่เคยรู้หลายเรื่องเลยล่ะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อเราเข้ามาภายใน Sakurajima visitor center จะมีวิทยากรณ์สุดใจดีมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับภูเขาไฟซากุระลูกนี้ให้เราฟังกัน โดยทางวิทยากรก็เริ่มเล่าให้เราฟังว่า ที่จริงแล้วภูเขาไฟลูกนี้ยังไม่ดับลงและอาจเกิดการประทุขึ้นบ่อยครั้ง โดยแต่ละครั้งก็มีระดับความรุนแรงแตกต่างกันและที่นี่เขาก็เก็บสถิติไว้วิเคราะห์เพื่อคาดการณ์การประทุหรือระเบิดครั้งต่อไปของภูเขาไฟ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
โดยจากการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟซากุระจิมะในอดีตนั้นลาวาที่ไหลออกจากภูเขาไฟได้เย็นตัวลงแล้วกลายเป็นพื้นที่แผ่นดินที่เพิ่มขึ้นใหม่ของเกาะแห่งนี้ไปเลย ดูได้จากพื้นที่สีแดงในภาพ
ฟังดูอาจจะน่ากลัว แต่บริเวณรอบ ๆ ภูเขาไฟซากุระจิมะนั้นมีประชากรอาศัยอยู่ด้วยกันกว่า 5,000 คน เรียกได้บริเวณรอบ ๆ ภูเขาไฟนั้นมีทั้งบ้านเรือน โรงเรียน ร้านสะดวกซื้อและโรงพยายาบาลเลยทีเดียว
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
บอกเลยว่าที่คนที่นี่ดูอยู่กันได้อย่างไม่หวาดกลัวนั้นเป็นเพราะที่ Sakurajima visitor center แห่งนี้จะมีการวัดระดับการสั่นไหว การประทุและการแจ้งเตือนภัยพิบัติเมื่อมีความเสี่ยงที่ภูเขาไฟแห่งนี้จะระเบิดแบบ 24 ชั่วโมง เทียบกันวันต่อวัน ด้วยการแจ้งเตือนที่น่าเชื่อถือนี้จึงทำให้คนที่นี่อยู่กันได้อย่างปกติสุขนั่นเอง ทั้งนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็ต้องมีการซ้อมรับมือกับภัยพิบัติอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
คุณวิทยากรยังบอกกับเราอีกว่า นอกจากการระเบิดหรือประทุของภูเขาไฟจะน่ากลัวและสร้างความเสียหายแล้ว การระเบิดหรือประทุของภูเขาไฟและการอาศัยอยู่รอบ ๆ ภูเขาไฟนั้นก็ยังมีความพิเศษพร้อมประโยชน์ดี ๆ ที่พื้นที่อื่นไม่มีอีกด้วย
Cr: Chill Chill Japan
โดยหลักก็คือการระเบิดและประทุของภูเขาไฟนั้นช่วยทำให้พื้นดินบนเกาะแห่งนี้มีแร่ธาตุมาก จึงทำให้ที่เกาะซากุระจิมะนั้นมีดินที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อปลูกผัก ผลไม้แล้วได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ลูกใหญ่ หวานอร่อย แร่ธาตุดังกล่าวยังมีในออนเซ็นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้อีกด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
และนอกจากที่นี่จะช่วยให้เราได้รู้จักและเข้าใจภูเขาไฟซากุระจิมะมากขึ้นแล้ว เนื่องจากที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะมากมาย ก็เลยมี Guide Map แนะนำการท่องเที่ยวบนเกาะซากุระจิมะแห่งนี้ไว้ให้ดูกันด้วยล่ะ
Cr: Chill Chill Japan
จุดถ่ายรูปเก๋ ๆ ก็มีให้ลองไปโพสท่าถ่ายเล่น รับรองว่าจะได้รูปถ่ายที่เราได้ใกล้ชิดกับภูเขาไฟซากุระจิมะแบบใกล้ชิดสุด ๆ
Cr: Chill Chill Japan
โซนขายของที่ระลึกของที่นี่ก็มี อยากซื้ออะไรติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึกกลับบ้านก็ย่อมได้ ถ้ามาเที่ยวที่เกาะซากุระจิมะแห่งนี้แล้วไม่มาที่นี่บอกเลยว่าเหมือนมายังไม่ถึง
Sakurajima visitor center
ที่อยู่ | 1722-29 Sakurajima-yokoyama-cho, Kagoshima city 891-1419 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Sakurajima Ferry Terminal เพียง 10 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
ราคา | ไม่มีค่าเข้า |
Website | Sakurajima visitor center |
Sakurajima Lava Nagisa Park : แช่ออนเซ็นเท้าชมวิวสบายใจ
Cr: Chill Chill Japan
บริเวณใกล้กันกับ Sakurajima visitor center นั้นมีจุดแช่ออนเซ็นเท้าพร้อมชมวิวสวย ๆ ที่ พื้นที่แช่ออนเซ็นเท้าที่จะช่วยให้เราได้ผ่อนคลายอยู่
Cr: Chill Chill Japan
ที่นี่เป็นพิกัดแช่ออนเซ็นเท้าที่สบายที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะแห่งนี้ แถมที่สำคัญยังแช่ได้โดยไม่เสียเงินสักเยนเลยด้วยจ้ะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
วิธีแช่ออนเซ็นเท้านั้นไม่ยาก ไม่ต้องเขิน เพียงถอดรองเท้าและถุงเท้าของเราออกให้เหลือเพียงเท้าเปล่า จากนั้นก็หย่อนเท้านั่งลงแช่ได้เลย อุณหภูมิน้ำจะไม่ได้ร้อนมากและอุ่นกำลังสบาย
นอกจากการแช่ออนเซ็นที่นี่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้ว ทิวทัศน์ระหว่างแช่เท้าอยู่ก็สวยงามจนอาจจะทำให้คุณแช่เท้าจนเพลิน
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
บริเวณสำหรับแช่เท้านั้นกระจายอยู่รอบ ๆ สามารถเลือกไปนั่งแช่ตามจุดต่าง ๆ ในสวนแห่งนี้ได้ตามสบายเลย
Yunohira Observatory : จุดชมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะ
Cr: Chill Chill Japan
หลังจากรู้จักกับซากุระจิมะกันไปพอสมควร เราขอพาไปเที่ยวที่ต่อไปบนเกาะแห่งนี้กันบ้าง โดยการเดินทางบนเกาะนี้สามารถนั่งรถบัสของเกาะไปเที่ยวยังที่ต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าใครเอารถขึ้นเรือ Ferry ข้ามฝากมาด้วยก็ใช้ขับเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ บนเกาะได้เลย
Cr: Chill Chill Japan
จุดต่อไปที่เราจะไปเยือนกันนั้นคือ จุดชมวิวที่สูงที่สุดของซากุระจิมะแห่งนี้ที่มนุษย์อย่างเราสามารถมาเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ที่จุดนี้มีความสูงกว่า 373 เมตรและตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมากที่สุด จนถึงขนาดสามารถมองเห็นปล่องภูเขาไฟได้เลย
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับใครที่อยากดูวิวชัด ๆ แนะนำให้ขึ้นชั้น 2 เลยค่ะ
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อขึ้นมาแล้วเราจะได้เห็นวิวสูงในมุมสองไม่เหมือนใคร
Cr: Chill Chill Japan
กล้องส่องทางไกลประจำตำแหน่งก็มีให้ ใครได้พบก็อย่าลืมลองหยอดเหรียญแล้วใช้สองวิวสวย ๆ ไกล ๆ ดูสักหน่อยล่ะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ทิวทัศน์ที่สวยงามและเต็มไปด้วยธรรมชาติแบบนี้ ต่อให้บอกว่าภูเขาไฟกำลังจะประทุก็ยังต้องหยุดดู
Cr: Chill Chill Japan
ที่ชั้น 1 ของจุดชมวิวมีร้านขายของฝากเล็ก ๆ อยู่ ถ้าใครอยากซื้อเป็นที่ระลึกและก็แวะร้านนี้ได้เลย สำหรับที่เที่ยวบนเกาะซากุระจิมะนั้นยังมีอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็น ศาลเจ้า
Yunohira Observatory
ที่อยู่ | 1025, Sakurajima Koike cho Kagoshima, Kagoshima Prefecture 891-1418 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัส Sakurajima Island View Bus ลงที่สถานี Yunohira Observatory |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
Website | Yunohira Observatory/a> |
Kagomma Furusato Yataimura : ตามล่าของอร่อยในพิกัดรวมร้านแผงลอย
Cr: Chill Chill Japan
ไปเที่ยวกันมาสักพักขอแบรคไปพักกินของอร่อย ๆ กันก่อนดีกว่า ที่คาโกชิมะมีพิกัดของอร่อยแห่งหนึ่งที่เราอยากแนะนำ สถานที่ที่ว่านั้นคือ Kagomma Furusato Yataimura
Cr: Chill Chill Japan
ภายในพื้นที่ของ Kagomma Furusato Yataimura นั้นจะมีร้านอาหารตั้งรวมกันอยู่หลายร้านให้เราได้เลือกไปอร่อย โดยลักษณะของแต่ละร้านจะเป็นร้านขนาดเล็ก มีที่นั่งจำนวนไม่เยอะมาก ให้บรรยากาศคล้ายร้านแผงลอยหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Yatai นั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
โดยจะรวมร้านอาหารน่าอร่อยเอาไว้ด้วยกันกว่า 20 ร้าน ซึ่งในแต่ละเดือนร้านค้าก็จะมีการสลับเปลี่ยนกันไปอีกด้วย เรียกได้ว่ามีให้เลือกหลากหลายเลยทีเดียว
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
เมนูอาหารของแต่ละร้านนั้นแตกต่างกันไปมีทั้งร้านที่มีเมนูอาหารทานเล่นไม่เน้นอิ่ม แต่เน้นอร่อยแบบเป็นกับแกล้ม และร้านที่มีเมนูให้สั่งมาอร่อยได้แบบอิ่มท้อง ไม่ว่าจะเป็นร้านราเมน ซูชิ ซาชิมะ ยากิโทริ และอื่น ๆ อีกหลากหลายเมนู
Cr: Chill Chill Japan
ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นที่มาที่นี่ล้วนแต่ตั้งใจมากินอาหารอร่อย ๆ พร้อมดื่มเครื่องดื่มให้ชื่นใจและหายจากอาการเหน็ดเหนื่อยในการทำงาน และที่นี่จะเปิดทำการในช่วงกลางวันตั้งแต่ 12.00-14.00 น. และในช่วงเย็น 17.00-เที่ยงคืนกันเลยทีเดียว
ใครตามหาของอร่อยสดใหม่ยามดึกละก็แวะมาฝากท้องกันที่นี่ก็ได้นะ
Kagomma Furusato Yataimura
ที่อยู่ | 6-4 Chuocho, Kagoshima, Kagoshima Prefecture 890-0053 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Takamibashi จากนั้นเดินต่อประมาณ 1 นาที |
เวลาทำการ | ช่วงกลางวัน 12.00-14.00 น. ช่วงเย็น 17.00-0.00 น. |
Website | Kagomma Furusato Yataimura |
Tenmonkan : ถนนสายช้อปแห่งคาโกชิมะ
Cr: Chill Chill Japan
ถ้าพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งของคาโกชิมะ เราขอพาทุกคนมาที่ถนนสายช้อป Tenmonkan ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองของคาโกชิมะ เพราะที่นี่ถือเป็นแหล่งช้อปที่ใหญ่ที่สุดในคาโกชิมะเลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ถนนสายช้อปนี้เป็นถนนสายยาวตรงไปเรื่อย ๆ มีซอยให้ซอกแซกเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาบ้าง สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก ขนมของฝาก ร้านขายยา ร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า และอีกมากมาย เรียกได้ว่าเดินกันจนเพลิน ขาช้อปก็ช้อปกันจนฟิน
Cr: Chill Chill Japan
ร้านขายยาที่หลายคนตามหา ซึ่งร้านขายยาของญี่ปุ่นเค้าไม่ได้มีให้เราซื้อแค่ยาญี่ปุ่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีเครื่องสำอางและขนมของฝากมากมายให้เราได้ซื้อด้วย
Cr: Chill Chill Japan
ร้าน Daiso ที่เน้นขายของในราคา 100 เยนก็มีที่นี่ด้วยเหมือนกัน อยากบอกว่าถึงจะราคาไม่แพงแต่มีของน่ารักเพียบ ใครเผลอเข้าไปรู้ตัวอีกทีช้อปออกมาหลายพันเยนเหมือนกันนะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ร้านขายรองเท้า นอกจากร้าน ABC-MART แล้วก็ยังมีร้าน Step เองก็มีรองเท้าหลากหลายแบรนด์ที่ขายในราคาน่าซื้อให้เราไปช้อปด้วย
Cr: Chill Chill Japan
เดินช้อปจนเมื่อยก็มีร้านกาแฟหรือร้านอาหารให้นั่งพัก อย่างสตาร์บั๊คก็มี
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หรือแม้จะซุปเปอร์แบบท้องถิ่น ที่มีจำหน่ายทั้งผักและผลไม้แบบสดใหม่ให้เราได้ซื้อลองชิม มาเดินถนนเส้นนี้บอกเลยว่าต้องเผื่อเวลาช้อปไปเลย 1 ชั่วโมงไปเพราะจะเดินเพลินจนลืมเวลากันไปเลยล่ะ
Tenmonkan
ที่อยู่ | Sennichichō Kagoshima-shi, Kagoshima-ken 892-0843ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ TEmmonkandori มาประมาณ 3 นาที |
เวลาทำการ | ร้านค้าเริ่มเปิดในช่วงสายจนถึงเย็น |
Cr: Chill Chill Japan
หากเดินช้อปในถนน Tennmonkan กันสักพักแล้วชักเมื่อย ท้องก็เริ่มหิวอยากกินอะไรอร่อย ๆ เด็ด ๆ เราขอแนะนำร้าน Beefar’s ที่มีเมนูสเต็กเนื้อวัวสุดอร่อยราคาสุดคุ้มแห่งนี้
Cr: Chill Chill Japan
ร้าน Beefar’s จะใช้เนื้อวัวส่วนต่าง ๆ จากคุโรเกะวากิว ซึ่งเป็นวัวที่มีขนสีดำทั้งตัวและยังเป็นเนื้อวัวคุโรเกะวากิวจากคาโกชิมะโดยเฉพาะ จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Satsuma Wagyu หรือเนื้อวากิวจากเมือง Satsuma ชื่อเมืองแบบเก่าของคาโกชิมะนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
เมนูที่น่าสนใจของร้านนี้คือ เมนูช่วงอาหารกลางวันที่จะใช้เนื้อคุโรเกะวากิวชั้นดีมาทำอาหารอร่อย ๆ ให้เรากินกันในราคาสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็นสเต็ก หรือสตูเนื้อ
Cr: Chill Chill Japan
บรรยากาศภายในร้านก็ไพรเวทสุด ๆ มีที่นั่งไม่เยอะมากแต่ได้นั่งรอบเคาท์เตอร์โดยมีเชฟฝีมือดีประกอบอาหารจานเด็ดให้เราดูอยู่ตลอด แน่นอนว่าจะได้ดูการทำอาหารจานที่เราสั่งไปด้วย
Cr: Chill Chill Japan
และเนื่องจากมีที่นั่งค่อนข้างน้อยช่วงเวลาอาหารกลางวัน (11.30-17.00 น. ) คนจะค่อนข้างแน่นและมีคิวต้องรอพอสมควร แต่ด้วยรสชาติของเนื้อวากิวสุดพิเศษที่แสนอร่อย ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดและมาต่อคิวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ นะ
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับเมนูที่เราสั่งมาอร่อยในครั้งนี้เป็นสตูเนื้อ+สเต็กเนื้อสุดอร่อยในราคาเพียง 1,280 เยน เราจะได้ทั้งสตูเนื้อ สเต็กเนื้อพร้อมนำ้จิ้ม เกลือไว้กินคู่กัน ข้าวสวยร้อน ๆ และเครื่องดื่มที่สามารถได้เลือกได้ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น โดยเซ็ตนี้เขาจะใช้เนื้อวากิว 50 กรัมมาทำอาหารให้เรานั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
ขอรีวิวรสชาติของสตูกันก่อน บอกเลยว่าอร่อยมากกกก รสชาติเข้มข้นไม่หวานหรือเค็มและไม่เลี่ยนเกินไป เป็นรสชาติกล่มกล่อมกำลังดี ตัวเนื้อในสตูก็นุ่มอร่อยติดมันเล็ก ๆ กินเพียว ๆ หรืออร่อยกับข้าวสวยก็ล้วนแต่ดีงาม
Cr: Chill Chill Japan
ในส่วนของสเต็กเนื้อที่มาพร้อมกันนั้นเชฟจะถามเราด้วยว่าต้องการให้สุกระดับไหน อย่างของเราสั่งแบบ Medium rare ก็อร่อยกำลังดี รสชาติเนื้อนุ่ม ๆ ชุ่มในปากอร่อยจนอยากสั่งเพิ่มอีกเซ็ตกันไปเลย ใครที่ชอบกินเนื้อวัวชั้นดีเราขอแนะนำให้แวะกันมาที่ร้านนี้เพราะนอกจากราคาจะคุ้มค่าแล้วรสชาติก็ดีเลิศศศ
Beefar’s
ที่อยู่ | 13-10 Higashisengokucho, Kagoshima, Kagoshima Prefecture 892-0842 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Temmonkandori จากนั้นเดินต่อประมาณ 1 นาที |
เวลาทำการ | จันทร์ถึงศุกร์ ช่วงอาหารกลางวัน 11.30-15.00 น. ช่วงอาหารเย็น 17.30-22.00 น. / เสาร์ อาทิตย์ ช่วงอาหารกลางวัน 11.30-17.00 น. ช่วงอาหารเย็น 17.00-21.00 น. |
ราคา | เริ่มต้นที่ 980 เยน |
Website | Beefar’s |
Shirokumaya : น้ำแข็งไสสุดอร่อย
Cr: Chill Chill Japan
กินข้าวแล้วก็ต้องกินหวาน ใครอยากกินขนมหวานให้ชื่นใจเราขอแนะนำ ร้านน้ำแข็งไส ดังเดิมที่มีต้นตำรับมาจากคาโกชิมะให้ได้ลองไปชิมกันนั่นก็คือร้าน Shirokumaya แห่งนี้
Cr: Chill Chill Japan
ร้านนี้ตั้งอยู่ในถนน Temmonkan เช่นเดียวกันมีน้ำแข็งไสหรือที่เรียกว่า Shirokuma ถ้วยใหญ่ตั้งเด่นเป็นเอกลักษณ์เดินหาได้ไม่ยาก
Cr: Chill Chill Japan
สาเหตุที่ร้านนี้เขาตั้งชื่อเมนูน้ำแข็งไสซิกเนเจอร์ว่า Shirokuma นั้นเป็นเพราะว่า เมนูนี้จะนำน้ำแข็งไสที่ละเอียดจนกลายเป็นปุยนุ่มมาราดนมสีขาว จนมีลักษณะคล้ายกับหมีขาวหรือ Shirokuma ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่น้ำแข็งใส่นมเท่านั้นเพราะเมนูน้ำแข็งไสร้านนี้จะมาพร้อมกับผลไม้และเยลลี่อร่อย ๆ กินแล้วสดชื่นสุด ๆ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับใครที่อยากกินนำแข็งไสรสชาติอื่น ๆ ทางร้านก็มีให้สั่งด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะรสช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่ ฯลฯ แต่ถ้าอยากกินรสดั้งเดิมแบบออริจินอลก็สั่งเมนู Shirokuma ได้เลย ราคา 450 เยนเท่านั้น ถ้วยใหญ่ด้วยนะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ทางร้านจะมีให้เลือกสั่งทั้งจะถือกินเลยหรือใส่เป็นถ้วยคล้ายไอศกรีมกลับบ้าน นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ แนะนำให้สั่งแบบถือกินเลยเพราะตัวน้ำแข็งจะกำลังนุ่มปุยอร่อยกว่าแบบกลับบ้านที่จะอัดน้ำแข็งเป็นก้อนเพื่อไม่ให้ละลายได้ง่าย ส่วนใครอยากนั่งทานที่ร้านทางร้านก็โต๊ะให้นั่งด้วยนะ และภายในร้านยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ เพื่อลูกค้าที่หิวอีกด้วย
Shirokumaya
ที่อยู่ | 14-2 Shineichō, Kagoshima-shi, Kagoshima-ken 890-0072 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Minami-Kagoshima จากนั้นเดินต่อประมาณ 6 นาที |
เวลาทำการ | 10.00-19.00 น. |
Website | Shirokumaya |
Ibusuki เมืองน่าเที่ยวธรรมชาติน่าชม
อีกนอกเมืองจากคาโกชิมะกันอีกสักครั้งมายังเมือง Ibusuki เมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดคาโกชิมะ สามารถเดินทางมาจากเมืองคาโกชิมะได้โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งด้วยการนั่งรถไฟจากสถานี Kagoshima Station มาลงที่สถานี Ibuzuki Station นั่นเอง
เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น (หากไม่นับรวมเกาะโอกินาวะ) จุดเด่นของเมืองนี้คือมีชายหาดที่สวยงาม มีภูเขาไฟ Kaimondake ที่ยังคงประทุอยู่
ทำให้พื้นที่ลึกใต้ดินมีน้ำร้อนตามธรรชาติไหลเวียนอยู่ บางส่วนถูกถ่ายเทขึ้นมาบนพื้นดินบริเวณชายหาดของเมือง ทำให้ทีนี่ทรายของที่นี่มีอุณหภูมิร้อนกว่าที่อื่นและทำให้เกิดการออนเซ็นทรายหรืออบทราบร้อนขึ้นมา
Ikeda lake : ชมทิวทัศน์ทะเลสาบ
Cr: Chill Chill Japan
เราเดินทางมายังบริเวณทะเลสาบ Ikeda ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู โดยเมื่อ 6,400 ก่อนพื้นที่ของทะเลสาบแห่งนี้เคยเป็นปล่องภูเขาไฟที่ระเบิดไปแล้วนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
และในอดีตยังมีการเล่าขานกันว่ามีคนได้พบเห็นกับสัตว์ประหลาดคอยาวหรือ อิชชี่คุง ที่มีหน้าตาลักษณณะคล้ายสัตว์ประหลาดในตำนานของฝรั่งที่ชื่อว่า เนสซี ด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
บริเวณรอบ ๆ ทะเลสาบ Ikeda นั้นถูกสร้างขึ้นเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน และจอดพักรถเนื่องจากถนนที่ตัดผ่านทะเลสาปแห่งนี้เป็นหนทางที่จะไปยังตัวเมือง Ibusuki นั่นเอง แนะนำว่าหากใครเช่ารถขับเที่ยวที่คาโกชิมะก็แวะพักเข้าห้องน้ำชมทิวทัศน์อันสวยงามของบริเวณก่อนไปต่อ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
แน่นอนว่านอกจากห้องน้ำแล้วก็ยังมีร้านอาหารให้บริการสำหรับคนที่ขับรถจนเหนื่อยหรือนั่งในรถจนหิวด้วยนั่นเอง
Ikeda lake
ที่อยู่ | Ibusuki, จังหวัดคะโงะชิมะ ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถหรือขับรถจากสถานี Higashi-Kaimon มาประมาณ 20 นาที |
Nagasaki bana : ชมจุดใต้สุดของคิวชู
Cr: Chill Chill Japan
มาถึงเมือง Ibusuki ที่อยู่ใต้สุดของญี่ปุ่นทั้งที ถ้าไม่มาดูจุดใต้สุดของเมืองนี้ก็คงกระไรอยู่ เราจึงขอพาทุกคนมายัง Nagasaki bana แห่งนี้เพื่อชมทิวทัศน์ที่จุดใต้สุดของญี่ปุ่นกันสักหน่อย
Cr: Chill Chill Japan
ระหว่างเดินไปบริเวณจุดชมวิวที่นี่จะมีร้านขายของเรียงรายดักนักช้อปอย่างเราระหว่างเดินไปด้วย แล้วก็มีแผ่นป้ายความรู้เกี่ยวกับภาษาและคำที่คนพื้นที่ใช้กันในสมัยก่อน
Cr: Chill Chill Japan
มีร้านที่ขายแบงค์แสนเยนด้วย ! แต่เป็นของปลอมนะเพราะแบงค์ใหญ่สุดของญี่ปุ่นคือแบงค์หมื่นเยนเท่านั้นจ้ะ เขาน่าจะทำออกมาขายเอาฮา นี่ก็เกือบจะซื้อแล้วล่ะ
Cr: Chill Chill Japan
เดินเข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนถึงจุดชมวิวเราจะได้เจอกับศาลเจ้าเล็ก ๆ ของที่นี่
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
แวะไหว้ขอพร ทำความเคารพเทพเจ้ากันก่อนจะไปชมวิวสักหน่อย
Cr: Chill Chill Japan
จากตรงศาลเจ้าเราก็สามารถชมวิวหรือไปถ่ายรูปสวย ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
Cr: Chill Chill Japan
เดินมาอีกหน่อยเราก็จะได้เจอกับจุดชมวิวภูเขาไฟ Kaimondake ของเมืองนี้แบบสวย ๆ ใครอยากถ่ายรูปคู่กับภูเขาก็ถ่ายมุมนี้ได้เลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ใกล้ ๆ กันนั้นจะมีรูปปั้นของโมโมทาโร่ ตัวละครในตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่น มีคนเขียนข้อความขอพรเอาไว้ในเปลือกหอยเต็มไปหมดเลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
เดินต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะได้ลงไปชมจุดชมวิวริมทะเลที่ถือว่าเป็นจุดใต้สุดของญี่ปุ่น บอกเลยว่าบรรยากาศดีมากเลย ได้ขมทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติกันไปเต็ม ๆ
Nagasaki bana
ที่อยู่ | 189 Ubayanagicho Nakagyo-ku Kyoto Kyoto |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Nishi-Oyama จากนั้นนั่งแท็กซี่มาใช้เวลาประมาณ 12 นาที |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Kagoshima flower park : ชมเหล่าดอกไม้สวยสดชื่นใจ
Cr: Chill Chill Japan
ชมวิวสวย ๆ กันไปแล้วก็ขอพาไปชมดอกไม้สวย ๆ กันบ้าง เราจะเดินทางต่อกันไปยังสวนดอกไม้ชื่อดังของจังหวัดคาโกชิมะ หรือ Kagoshima flower park
Cr: Chill Chill Japan
ที่นี่แบ่งการจัดอกไม้ไปตามโซนของสวน โดยรวมมีพืชพันธุ์อยู่รวมกันกว่า 400,000 แสนต้น รวมกว่า 2,400 ขนิดเลยทีเดียว
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
บรรยากาศภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความร่มรื่น อากาศดีดพืชพันธุ์แต่ละชนิดก็ถูกดูแลเป็นอย่างดีจนออกดอกสวยงาม
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สวนโซนต่าง ๆ ของที่นี่ก็จัดในรูปแบบแตกต่างกันไป มีทั้งโซนที่จัดดอกไม้สวย ๆ ไว้ให้เราไปถ่ายรูปทั้งในช่วงวันธรรมดาและช่วงที่มีงานเทศกาล
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือผีเสื้อขนาดใหญ่สายพันธุ์ Oogomadara ซึ่งที่นี่เค้าเพาะเลี้ยงกันเองภายในเรือนกระจกแห่งนี้เลย
Cr: Chill Chill Japan
ผีเสื้อสายพันธุ์ Oogomadara นั้นจะมีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่และมีลวดลายสีขาวและดำบนปีกชัดเจนและสวยงาม
Cr: Chill Chill Japan
ตรงส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ผีเสื้อทำการขยายพันธุ์ ดักแด้ที่เป็นสีเหลืองทองนั้นคือดักแด้ที่ยังไม่ได้ให้กำเนิดผีเสื้อ ส่วนเหลืองอ่อนเกือบขาวนั้นคือที่มีผีเสื้อกำเนิดออกมาแล้วนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อคุณเข้ามาในเรือนกระจกแห่งนี้แล้วผีเสื้อจะบินและเกาะอยู่เต็มไปหมด เรียกได้ว่าเราจะได้ใกล้ชิดกับผีเสื้อแสนสวยนี้ แต่ถ้าใครกลัวผีเสื้อขอไม่แนะนำให้เข้ามานะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับคนที่ชอบผีเสื้อนั้นในเรือนกระจกแห่งนี้จะเป็นเหมือนสวรรค์ของคุณ คุณจะถ่ายรูปผีเสื้อได้ใกล้มาก ๆ โดยที่พวกมันไม่บินหนี แต่ถึงจะไม่บินหนีก็ห้ามไปจับหรือรบกวนมันกันนะจ๊ะ
Cr: Chill Chill Japan
นอกจากที่นี่จะมีต้นไม้และดอกไม้สวย ๆ ให้ดูกันในโซน Outdoor แล้ว ก็ยังมีเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่เป็นโซน indoor ให้เราได้เข้าไปชมด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
โดยจะมีทั้งพืชพันธุ์ที่ปลูกลงกระถางอย่างกระบองเพชรชนิดต่าง ๆ โดยภายในโซน indoor ก็จะถูกจัดอย่างสวยงามไม่แพ้ข้างนอกเลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สวนดอกไม้แห่งนี้ค่อนข้างกว้างขวาง เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวที่จุดชมวิวของที่นี่ได้ด้วย โดยจะมีแบคกราวน์ด้านหลังเป็นเกาะที่หน้าตาคล้ายสนูปี้นอนหลับอยู่ด้วยนะ
Cr: Chill Chill Japan
อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันของที่นี่ก็คือโซนส่วนกลาง บริเวณกลางสวนที่จะทำการจัดตกแต่งดอกไม้เปลี่ยนไปตามฤดูกาลและเทศกาลต่าง ๆ ทั้งยังเป็นมุมที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟประจำเมือง Daimondake อีกด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ในบริเวณสำนักงานของสวนก็มีร้านขายของที่ระลึกให้ช้อปด้วยนะ แวะกันก่อนกลับไป ใครอยากชมวิวพร้อมดอกไม้สวย ๆ แวะเวียนกันมาที่นี่ได้เลย
Kagoshima flower park
ที่อยู่ | 〒891-0513 1611 Yamakawaoka-Kogamizu, Ibusuki City, Kagoshima Prefecture |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Nishi Oyama จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อใช้เวลาประมาณ 8 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. ช่วงเปิดวันที่มี Light-up 9.00-22.00 (เข้าได้ชมได้รอบสุดท้าย 17.00 น.) |
ราคา | ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 620 เยน เด็ก (6-12 ปี) 300 เยน |
Website | Kagoshima flower park |
Sand Bath Hall SARAKU : อบทรายร้อนผ่อนคลายร่างกาย
Cr: Chill Chill Japan
อีกหนึ่งที่เลยที่มา Ibusuki แล้วไม่มาก็เหมือนมาไม่ถึงนั่นก็คือ Sand Bath Hall SARAKU หรือสถานที่อบทรายร้อนนั่นเอง โดยเมือง Ibusuki แห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องต้นตำรับการอบทรายร้อนหรือในภาษาญี่ปุ่นที่เรียกว่า Sunaburo
Cr: Chill Chill Japan
ซึ่งที่นี่ก็เป็นต้นตำรับดั้งเดิมที่ทำการอบทรายร้อนกันมาเป็นเวลานานยาวตั้งแต่ในสมัยเอโดะ นอกจากนั้นยังให้บริการออนเซ็นน้ำแร่อีกด้วย
สำหรับราคาในการอบทรายร้อนนั้น ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 1,080 เยน , เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) 590 เยน และยังมีราคาสำหรับผู้ที่ไชต้องการแช่ออนเซ็นน้ำร้อนแค่เพียงอย่างเดียวด้วย ผู้ใหญ่ แช่ออนเซ็นอย่างเดียว 610 เยน, เด็ก แช่ออนเซ็นอย่างเดียว 300 เยน
โดยราคาของการอบทรายร้อนนั้นสามารถเข้าแช่ออนเซ็นนำ้แร่ได้ด้วย แต่ถ้าจ่ายเฉพาะออนเซ็นน้ำแร่อย่างเดียวจะไม่สามารถอบทรายร้อนได้นั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อขึ้นมาด้านบนจะได้เจอกับล็อบบี้ที่มีไว้ให้เรานั่งพักผ่อน และเคาท์เตอร์สำหรับชำระเงินค่าบริการอบทรายร้อน
Cr: Chill Chill Japan
ราคาค่าอบทรายนั้นจะรวมกับค่ายูกาตะที่เราต้องใช้ใส่เข้าไปอาบทราย ผ้าขนหนูและรองเท้าแตะ แถมด้วยน้ำเปล่า เนื่องจากการอบทรายร้อนจะทำให้เราเสียเหงื่อไม่แผ่การแช่ออนเซ็นน้ำร้อน มีน้ำไว้ดื่มหลังอบทรายเสร็จจะได้ทำให้สดชื่นนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
หลังจากชำระเงินแล้วให้เราไปเปลี่ยนชุดในห้องล็อกเกอร์ที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยให้ใส่เพียงชุดยูกาตะที่เขาให้มาออกมา (ไม่แนะนำให้ใส่ชุดชั้นในไว้ด้านในเนื่องจากจะต้องลงไปอบทรายทั้งชุดยูกาตะ) เก็บรองเท้า เสื้อผ้าและสัมภาระของเราเอาไว้ในล็อกเกอร์ โดยไม่ลืมนำผ้าขนหนูที่เขาให้มาและกุญแจที่ล็อกล็อกเกอร์ของเราเรียบร้อยแล้วติดมือมาด้วยนะจ๊ะ
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วให้เดินไปตามทางลูกศรที่จากในห้องล็อกเกอร์ (ในส่วนห้องล็อกเกอร์ไม่สามารถถ่ายภาพได้) เดินไปไม่ไกลเราก็จะมาถึงพื้นที่อบทรายกัน ซึ่งที่นี่จะมีทั้งโซนกลางแจ้งและโซนในร่ม
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับโซนกลางแจ้งนั้นมีเวลาให้ไปอบทรายร้อนกันค่อนข้างจำกัดเนื่องจากจะต้องอบทรายกับริมชายทะเล จึงขึ้นอยู่กับระดับน้ำทะเลนั่นเอง หากน้ำทะเลขึ้นเร็วการอบทรายร้อนริมชายหาดก็จะไม่สามารถทำได้นั่นเอง ซึ่งเราสามารถดูล่วงหน้าก่อนมาได้ทางเว็บไซต์
Cr: Chill Chill Japan
ก่อนอบทรายให้เราถอดรองเท้าให้เรียบร้อย โดยเราจะสามารถถ่ายภาพได้เฉพาะตัวเองหรือพื้นที่ที่ไม่มีทรายเท่านั้น (โดยของให้เจ้าหน้าที่ช่วยถ่ายได้)
ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่จะพาเราไปยังพื้นที่อบทรายที่ยังว่างอยู่ จากนั้นเขาจะขุดทรายออกเป็นหลุมใหญ่ ๆ ให้เราไปนอน ก่อนค่อย ๆ ฝังเราลงไป เราก็นอนนิ่ง ๆ รอเค้าฝังจนเสร็จ โดยเจ้าหน้าที่จะฝังทรายกลบเราราว ๆ 40-50 กิโลกรัม จึงจะรู้สึกค่อนข้างหนักและขยับเขยือนไม่ได้ อุณหภูมิของทรายจะไม่ร้อนมากเท่ากับการแช่ออนเซ็นน้ำแร่
การอบทรายร้อนนั้นใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นไม่ควรมากเกินไปกว่านี้ แต่ถ้าใครทนไม่ไหวถึง 10 นาทีสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตักทรายออกก่อนได้ ซึ่งการอบทรายร้อนนั้นจะช่วยในเรื่องการรักษาโรคและผิวพรรณได้ดี ที่เห็นผลเร็วที่สุดคือเมื่อแช่แล้วจะรู้สึกผ่อนคลายนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อครบ 10 นาทีขั้นตอนต่อไปที่เราต้องทำคือ ลุกออกไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปล้างทรายออกจากตัวให้สะอาด จุดนี้จะมีห้องน้ำแยกไว้เป็นห้องและมีทั้งบ่อแช่ออนเซ็น ใครสะดวกแบบไหนก็จัดเต็มได้เลย
เมื่ออาบน้ำล้างทรายสบายตัวแล้วก็มานั่งพักดื่มน้ำหรือซื้อน้ำหวานจากตู้กดอัตโนมัติบริเวณล็อบบี้ก่อนกลับได้เลย บอกเลยว่าการอบทรายร้อนเป็นประสบการณ์ที่หาทำได้ยากมาก มาถึงที่แล้วขอให้ทุกคนไม่เขินอายแล้วลองทำกันดูนะ
Sand Bath Hall SARAKU
ที่อยู่ | IBUSUKI SUNAMUSHI ONSEN Natural Sand Bath “SARAKU” 〒891-0406 5-25-18, Yunohama, Ibusuki-shi, Kagoshima, 891-0406, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Ibusuki จากนั้นเดินต่อประมาณ 18 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 8.30 น.เข้าได้ถึง 20.30 น. ปิดให้บริการ 21.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 1,080 เยน (แช่ออนเซ็นอย่างเดียว 610 เยน) , เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) 590 เยน (แช่ออนเซ็นอย่างเดียว 300 เยน) |
Website | Sand Bath Hall SARAKU |
Amami no sato : เที่ยวหมู่เกาะอามามิจำลอง
Cr: Chill Chill Japan
กลับจาก Ibusuki เข้ามาในเมืองคาโกชิมะกันอีกสักรอบ เพราะเราจะพาไปสถานที่ที่จำลองเกาะอามามิ เกาะที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเอาไว้ ที่นี่มีชื่อว่า Amami no sato
ซึ่งเกาะอามามินั้นมีชื่อเสียงไม่แพ้เกาะโอกินาว่า เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดคาโกชิมะนี่เอง ที่เกาะอามามินั้นมีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามของทะเลและหาดทรายแสนงาม ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนบนเกาะก็ถือเป็นชาวเกาะที่มีวิถีชีวิตในรูปแบบที่ไม่เหมือนกันคนญี่ปุ่นในเมืองอีกด้วย
Cr: Chill Chill Japan
โดยที่ Amami no sato แห่งนี้ก็ได้จำลองลักษณะและวิถีชีวิตของชาวเกาะเอาไว้ให้เราได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านลักษณะพิเศษหลังนี้
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
รวมไปถึงยังจำลองการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะอามามิให้เราดูด้วยว่า เขาแต่งตัวกันอย่างไร และดำรงชีวิตอย่างไร โดยชาวเกาะอามามินั้นจะนิยมทอผ้าเอง และมีดนตรีรูปแบบท้องถิ่นของตัวเอง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
นอกจากนั้นยังจำนวนสภาพภูมิทัศน์และดอกไม้เขตร้อนแบบบนเกาะอามามิเอาไว้เป็นสวนให้เราได้สัมผัสอีกด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หลังสัมผัสบรรยากาศบนเกาะอามามิกันไปแล้ว มาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวเกาะอามามิกันต่อ ด้วยกิจกรรมย้อมผ้าด้วยสีจากต้นไม้นั่นเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมนี้จะรวมอยู่กับค่าเข้าชมที่นี่แล้วด้วยนะ
Cr: Chill Chill Japan
โซนนี้จะเป็นทีให้เราทำ Workshop ย้อมผ้าด้วยสีจากธรรมชาติ ซึ่งปกติที่นี่จะทำการผสมสีในการย้อมผ้าเป็นสีต่าง ๆ เองด้วย
Cr: Chill Chill Japan
ก่อนจะเริ่มย้อมผ้าของตัวเอง ทางเจ้าหน้าที่จะสอนวิธีทำให้เราก่อน วิธ๊การทำนั้นเหมือนกับการทำผ้าบาติกบ้านเราไม่มีผิด
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หลังจากสอนแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจกผ้าขาวมาให้เราหนึ่งผืนขนาดเท่ากับผ้าเช็ดหน้า จากนั้นจะให้เรามัดหนังยางเพื่อให้เกิดเป็นลวดลายตอนย้อมผ้าด้วยสีนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
เมื่อมัดหนังยางจนพอใจแล้วทางเจ้าหน้าที่จะนำผ้าเราไปย้อมสี ทำให้แห้งและรีดมาคืนเรา
Cr: Chill Chill Japan
จากนั้นเราก็จะได้ผ้าย้อมสีจากธรรมชาติสไตล์เกาะอามามิกลับบ้านไปด้วยเลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หลังจาก Workshop ย้อมผ้ากันไปแล้ว เราก็จะไปดูการทอผ้าแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวอามามิกันต่อ ก่อนจะไปถึงก็มีสวนญี่ปุ่นสวย ๆ ให้เราได้ชมก่อนด้วย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
และนี่ก็คือโซนที่นำเสนอวิถีการทอผ้าแบบดั้งเดิมให้เราได้รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในสมัยก่อน หรือแม้แต่ลวดลายการทอผ้าแบบสมัยก่อน
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ทั้งนี้เราจะได้เห็นการทอผ้ากันจริง ๆ ด้วย โดยมีช่างผู้มีฝีมือนั่งทอผ้าอยู่ในห้องทำงาน โดยเราสามารถดูพวกเขาได้ผ่านจากกระจกด้านนอกนั่นเอง โดยผ้าที่ทอออกมานั้นจะเป็นผ้าไหมชั้นดีที่มีราคาสูงมาก ๆ
Cr: Chill Chill Japan
ซึ่งผ้าทอเหล่านี้จะกลายเป็นกิโมโนอันสวยงามนั่นเอง เมื่อได้ลองเข้าไปดูแล้วจะเห็นเลยว่าการทักทอผ้ากิโมโนนั้นแสนยากเย็น รวมไปถึงการปักเป็นลวดลายก็ต้องฝีมือขั้นสูงในการทำ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หลังจากชมห้องแสดงการทอผ้าไปแล้วเดินต่อมาอีกหน่อยจะได้พบกับคอลเลคชั่นกิโมโนสวย ๆ ราคาระดับล้านเยน แต่ละชุดเรียกได้ว่าสวยและมีลวดลายสุดพิเศษ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
หลังจากชมการทอผ้า ปักกิโมโลและกิโมโนสวย ๆ แล้ว ที่นี่ก็มีโซนจำนวนสินค้าที่ระลึกที่ทำจากการทอแบบดั้งเดิมและทำจากผ้าไหมชั้นดี ใครสะดวกซื้อแบบไหนก็เต็มที่ไปเลย เพราะเขามีทั้งผ้าพันคอ กระเป๋า ผ้าเช็ดหน้า และกิโมโน
Cr: Chill Chill Japan
แน่นอนว่าโซนขายขนมของฝากก็มีด้วยไม่ต้องห่วง มาทีนี่จะได้ทั้งความรู้ที่แปลกใหม่และของฝากกลับไปด้วยพร้อม ๆ กันเลย
Amami no sato
ที่อยู่ | 1 Chome-8-1 Nanei, Kagoshima-shi, Kagoshima-ken 891-0122 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Taniyama แล้วเดินต่อปมาประมาณ |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน นักเรียนมัธยมและประถม 200 เยน นักเรียนอนุบาล 100 เยน |
Website | Amami no sato |
Sengan en : ชมสวนสวยพร้อมทิวทัศน์สุดงดงาม
Cr: Chill Chill Japan
ที่เที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่มาคาโกชิมะแล้วไม่ควรพลาดคือ Sengen en สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่แต่เดิมเคยเป็นบ้านพักของครอบครัว Shimazu ผู้ปกครองเมืองหรือเจ้าเมืองประจำเมืองนี้นั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ที่นี่มีขนาดกว้างใหญ่มาก ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1658 เมื่อเข้าไปแล้วเราจะได้เห็นสิ่งก่อสร้างสมัยโบราณสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ตั้งอยู่มากมาย อย่างประตูทางเข้าขนาดใหญ่ และอาคารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
Cr: Chill Chill Japan
นอกจากบริเวณรอบ ๆ แล้ว ยังมีส่วนที่เปิดให้เข้าบริเวณบ้านพักที่ท่านเจ้าเมืองในอดีตอาศัยอยู่จริง ๆ ด้วย ก่อนเข้าจะต้องถอดรองเท้าก่อนนะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
เราจะได้ชมห้องต่าง ๆ ภายในบ้านหลังใหญ่ที่ท่านเจ้าเมืองและครอบครัวตระกูล Shimazu เคยอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาบน้ำ ห้องรับประทานอาหาร
ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีสิ่งของสไตล์ตะวันตกได้ตกแต่งเอาไว้อยู่ในหลาย ๆ ห้อง เนื่องจากท่านเจ้าเมืองประจำบ้านมีโอกาสได้ต้อนรับอาคันตุกะจากประเทศแถบตะวันตกด้วยนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
บรรยากาศของบ้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ทำให้ขณะเดินชมแล้วจะได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ แถมพอมองออกมาจากระเบียงบ้านก็มีวิวภูเขาไฟซากุระจิมะให้เห็นอีกด้วย สวยจริง ๆ เลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ซึ่งที่สวน Sengan en แห่งนี้เองก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่เราสามารถชมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะได้อย่างสวยงาม อยากให้ลองคิดดูถึงสมัยตอนที่เจ้าเมืองอาศัยอยู่ว่า เพียงแค่เดินออกมาที่ระเบียงบ้านก็ได้เห็นวิวสวย ๆ ของภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่ลูกนี้แล้ว
Cr: Chill Chill Japan
เดินออกมาจากโซนจัดแสดงบ้านพักของโชกุน ก็จะมีโซนให้เราได้ชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟซากุระจิมะกันแบบเต็ม ๆ ตา เป็นภาพที่สวยงามมากจริง ๆ และตรงนี้ใครอยากถ่ายรูปถ่ายไหนก็ถ่ายได้ตามสบายเลย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับใครที่อยากเห็นภูเขาไฟซากุระจิมะในมุมสูงแนะนำให้เดินไปอีกหน่อยจะมีทางขึ้นไปตรงจุดชมวิว ที่จะสามารถมองเห็นอาคารต่าง ๆ ในสวนแห่งนี้พร้อมกับวิวของซากุระจิมะนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
เป็นมุมที่สามารถชมวิวได้สวยมาก ๆ อีกมุมหนึ่ง ใครจะมาเก๊กถ่ายภาพหันหลังชมวิวภูเขาแบบนี้ก็ไม่ว่ากัน รับรองได้รูปสวย ๆ กลับไปดูให้คิดถึงคาโกชิมะกันแน่นอน
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
อีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษสำหรับที่นี่คือ ภายในสวน Sengan en นั้นมีศาลเจ้าแมวเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้วย โดยท่านเจ้าเมืองเป็นผู้จัดตั้งสำหรับแมวนำโชคที่ทำให้เขาชนะศึก หลังจากมันตายไปปเขาก็สั่งให้มีการสร้างศาลเจ้านี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการขอบคุณมันนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ความน่ารักคือปัจจุบันก็มีคนมาทำความเคารพศาลเจ้าแมวแห่งนี้ พร้อมกับมาเขียนป้ายถึงแมวขอพรหรือระลึกถึงแมวของตัวเองกันด้วยล่ะ
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
ใกล้ ๆ กับศาลเจ้าแมวจะมีร้านขายของงานฝีมือที่ทำจากไม้ และที่สำคัญคือมีขายของตกแต่งบ้านเป็นรูปแมวมากมายหลายชนิด รวมไปถึงเครื่องรางน่ารัก ๆ ที่ทำเป็นลวดลายน้องแมว และป้ายขอพรรูปแมวสำหรับเขียนแขวนที่ศาลเจ้าแมวนั่นเอง
Cr: Chill Chill Japan
ก่อนจะกลับแนะนำให้แวะไปที่บริเวณขายของที่ระลึก ตรงโซนนี้จะมีให้บริการเช่าชุดกิโมโนด้วย ใครอยากใส่ชุดกิโมโนสวย ๆ ไปถ่ายรูปกับบ้านหรือสวนสไตล์ญี่ปุ่นของที่นี่ มาเช่ากันตรงนี้ได้เลย
Cr: Chill Chill Japan
อีกหนึ่งอย่างที่พลาดไม่ได้เลยคือขนม จัมโบ้โมจิ ของดีของคาโกชิมะ ซึ่งถือว่าเป็นเมนูแนะนำที่ให้มากินกันในสวนแห่งนี้เลยทีเดียว โดยขนมจัมโบ้โมจินี้ จะเป็นโมจิย่างชิ้นใหญ่ที่นำไปราดซอส จะมีให้เลือกสองรสชาติคือราดซอสรสมิโสะเค็ม ๆ มัน ๆ กับรสชาติซอสถั่วเหลืองออกหวาน ๆ นั่นเอง เสิร์ฟมาให้ชิมพร้อมกับน้ำชา บอกเลยว่าอร่อยทั้งสองรส
Sengan en
ที่อยู่ | 9700-1 Yoshino-cho, Kagoshima City, Kagoshima 892-0871 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kagoshima จากนั้นนั่งรถต่อประมาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | 8.30-17.30 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม (ชม Garden, Museum, House) ผู้ใหญ่ 1,300 เยน เด็ก (6-15 ปี) 650 เยน ค่าเข้าชม (ชม Garden, Museum) ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก (6-15 ปี) 500 เยน |
Website | Sengan en |
Amuplaza kagoshima : แวะห้างดังประจำเมือง
Cr: Chill Chill Japan
แวะเที่ยวกันในคาโกชิมะกันก็เยอะแล้ว แต่ยังขาดการไปช้อปที่ห้างดังประจำเมืองอย่าง Amu Plaza ที่ถือว่าเป็นห้างใหญ่ใจกลางเมืองของที่นี่
Cr: Chill Chill Japan
โดยห้างนี้แบ่งเป็น 7 ชั้น มีร้านค้ามากมายให้ได้ไปช้อปกันจนฟิน ไม่ว่าจะแบรนด์ดังของฝั่งญี่ปุ่นหรือของต่างประเทศ
Cr: Chill Chill Japan
เหล่าของกระจุกกระจิกน่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นเองก็มีให้ไปช้อป ทั้งร้านหนังสือหรือของเล่นก็มีเพียบ ใครตามหาซุปเปอร์ที่นี่ก็มีที่ชั้น B1F
Cr: Chill Chill Japan
สำหรับคนที่หิวก็มาฝากท้องที่ห้างนี้ได้เช่นกัน โดยพุ่งตรงไปที่ชั้น 5 กันได้เลยมีร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกเพียบ ถ้าพูดถึงห้างดังประจำเมืองก็ต้องเป็น Amu Plaza แห่งนี้
AAmuplaza kagoshima
ที่อยู่ | 1-1 中央町 Kagoshima, Kagoshima Prefecture 890-0053 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kagoshimachuo จากนั้นเดินต่อเพียง 4 นาที |
เวลาทำการ | 10.00-21.00 น. | Website | Amuplaza kagoshima |
Hotel Urbic Kagoshima : พักสบายในตัวเมือง
สำหรับใครที่มาเที่ยวคาโกชิมะแล้วไม่รู้จะไปพักที่ไหนดี เราก็มีพิกัดโรงแรมดี ๆ มาฝาก อย่าง Hotel Urbic Kagoshima แห่งนี้เป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมือง
เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากเพราะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟด้วยเช่นกัน ที่สำคัญยังอยู่ใกล้กับห้างและร้านค้าต่าง ๆ อีกด้วย
ในส่วนของห้องพักถึงจะขนาดไม่กว้างขวางมากตามสไตล์โรงแรมแบบ Bussiness แต่ก็พักผ่อนได้สบาย บริการดีและมีห้องน้ำในตัว
พร้อมทั้งบริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ อิ่มอร่อยและหลับสบายกันได้ที่นี่ แถมยังสะดวกสบายในการเดินทางอีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกห้องอาบน้ำส่วนตัว
อ่างอาบน้ำ ฝักบัว
โทรทัศน์
โทรศัพท์
เครื่องปรับอากาศ
เครื่องเป่าผม
ตู้เย็น
รองเท้าแตะ
กาต้มน้ำ
ผ้าเช็ดตัว
ชุดสำหรับใส่ในห้องพัก
WiFi
Hotel Urbic Kagoshima
ที่อยู่ | 1 Chome-1-3-1 Take, Kagoshima-shi, Kagoshima-ken 890-0045 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Kagoshimachuo เพียง 2 นาที |
เวลาทำการ | เช็คอิน 15.00-23.30 น. เช็คเอาท์ 5.00-10.00 น. |
ราคา | เริ่มต้นประมาณ 2,069 บาท 2 คน ต่อคืน |
Website | Hotel Urbic Kagoshima |
Ibusuki Kaijo Hotel : หลับฝันดี ชมวิวริมทะเล
สำหรับที่พักใน Ibusuki เราขอแนะนำโรงแรม Ibusuki Kaijo Hotel ที่นี่ตั้งอยู่ริมทะเล ทำให้เราสามารถเห็นทิวทัศน์ของทะเลสวย ๆ จากห้องพักได้อีกด้วย
นอกจากนั้นแล้วยังมีพิกัดตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่อบทรายร้อนอีกต่างหาก จากสถานที่อบทรายร้อนมาถึงโรงแรมสามารถเดินเท้ามาได้ไม่ถึง 10 นาที
ในส่วนของห้องพักนั้นจะเป็นแบบเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่น เราจะได้นอนหลับสบายบนฟูกนุ่ม ๆ แถมมีชุดยูคาตะและผ้าขนหนูไว้ให้ใช้พร้อม
ที่นี่ยังมีออนเซ็นให้บริการโดยแยกระหว่างชายหญิง ใครชอบแช่ออนเซ็นจะต้องแฮปปี้และถูกใจ
นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชมวิว สระว่ายน้ำในร่ม หรือแม้แต่คาเฟ่ให้ได้ดื่มกาแฟสดอร่อย ๆ ในตอนเช้า
แถมยังมีร้านขายของประจำโรงแรม โดยมีจำหน่ายทั้งขนมของฝาก ของที่ระลึกและเครื่องดื่ม
เรื่องอาหารตอนเช้าจะเป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก
ส่วนตอนเย็นก็มีอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไคเซกิเสิร์ฟต้อนรับเราแบบจัดเต็ม กินกันจนอิ่มแปล้ไปเลย ใครที่อยากมาลองอบทรายร้อนแล้วนอนค้างสักคืนหนึ่งเพื่อไม่ให้เหนื่อยกับการเดินทางมากเกินไป เราขอแนะนำโรงแรมนี้เลย
สิ่งอำนวยความสะดวกชุดสำหรับห้องพัก
ห้องน้ำส่วนตัว
อุปกรณ์ในห้องน้ำ
สระว่ายน้ำ
ออนเซ็น
โทรทัศน์
บาร์
WiFi
ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
ลิฟต์
ร้านค้าในโรงแรม
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าและค่ำ
Ibusuki Kaijo Hotel
ที่อยู่ | 3750 Junicho, Ibusuki, Kagoshima Prefecture 891-0403 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | มันจะใช้เวลา 10 นาทีเพื่อเดินจากสถานีเกียวโต |
เวลาทำการ | เช็คอิน 7.00-10.00 น. เช็คเอาท์ 16.00-22.00 น. |
ราคา | เริ่มต้นที่ 10,500 เยน |
โทรศัพท์ | 075-204-5543 (+81-75-204-5543) |
Ibusuki Kaijo Hotel |
Kagoshima Airport : สนามบินนี้มีดีที่ช้อปได้เพียบ
Cr: Chill Chill Japan
เที่ยวกันมาซะเต็มอิ่ม ขากลับหลายคนอาจมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องจากสนามบินคาโกชิมะ เราจึงขอมาแนะนำสนามบินของที่นี่ให้รู้จักกันคร่าว ๆ หน่อย
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
สนามบินคาโกชิมะแม้ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีร้านรวงให้เราได้ช้อปปิ้งเพียบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ระลึกหรือขนมของฝากที่ระลึก
Cr: Chill Chill Japan
Cr: Chill Chill Japan
อย่างน้ำแข็งไสชิโรคุมะก็มีทำออกมาในรูปแบบของขนม ให้ซื้อกลับไปกินแล้วคิดถึงรสชาาติอร่อย ๆ สดชื่นใจของน้ำแข็งไสเมนูเด็ดของที่นี่
Cr: Chill Chill Japan
บริเวณชั้นสองนั้นจะเป็นโซนของร้านอาหาร มีร้านอาหารมากมายให้ได้เลือกมาอร่อยกัน ใครท้องหิวแต่ยังไม่ถึงเวลาขึ้นเครื่องก็มาอร่อยกันก่อนได้ไม่ต้องห่วง ถือเป็นสนามบินที่ค่อนข้างสะดวกสบายเลยทีเดียวล่ะ
Kagoshima Airport
ที่อยู่ | 822 Mizobechofumoto, Kirishima, Kagoshima Prefecture 899-6404 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kagoshima-Chuo จากนั้นนั่งรถ Kagoshima-Airport Limousine Bus ใช้เวลาประมาณ 41 นาที |
Website | Kagoshima Airport |
ข้อสรุป
คาโกชิมะเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวของคิวชูตอนใต้ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้ไปเยือนมากมาย สำหรับใครที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใคร ลองมาเที่ยวที่นี่แล้วจะประทับใจแน่นอน