สำรวจ AQUA CiTY ODAIBA แหล่งรวมของอร่อย ช้อปปิ้งเพลินกับร้านค้ามากมาย พร้อมชมวิวโอไดบะหลากเสน่ห์ทั้งกลางวันและกลางคืน

การเดินทางมา Aqua City โอไดบะ ก็แสนจะง่ายดาย จากสถานีShinjuku นั่ง oedo line ลงเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Shiodome เพื่อเปลี่ยนรถไฟไปขึ้นสายYurikamome (Toyosu) นั่งชิลๆไปแค่ 5 สถานี เพื่อที่จะลงที่สถานี Daiba ที่ห่างจากห้างแค่ร้อยกว่าเมตรเองนะ อะไรจะสะดวกสบายปานนี้

หรือจะไปจากShinjuku สาย Rinkai line ลงที่สถานี Tokyo teleport และเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็ใช้เวลาแค่สิบกว่านาทีเองนะ

เอาจริงๆห้างนี้คือมีร้านค้าเยอะมากนะ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านร้อยเยน โรงหนัง ไปจนถึงร้านอาหารเยอะมาก นี่แหล่ะ อันหลังที่ทำให้เรามาถึงนี่ เพราะเราจะมาชิมๆๆ ของอร่อยกัน ขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น ５ เลยจ้า

ทางเข้าโซนร้านราเมงชั้น ５สวยงามแบบนี้เลย

ราเมงร้านแรกที่จะมาแนะนำให้ลองชิมคือร้าน 二代目 博多 だるま เราเรียกว่าร้าน ดารุมะ แล้วกันนะ เพราะมีตุ๊กตาดารุมะที่ถือเป็นของนำโชคของญี่ปุ่นอยู่ด้านหน้าร้าน เพราะเค้ามาจากฮากาตะแห่งเกาะคิวชู แล้วราเมงที่เจ้าของร้านทำก็เลื่องลือในเรื่องความเข้มข้นของน้ำซุปมาก แต่ที่เราว่าเด็ดกว่าน้ำซุปคือเนื้อหมู ที่เคี้ยวได้สะใจมาก จ่ายเงินซื้อคูปองอาหารที่ตู้ขายคูปองอัตโนมัติที่ด้านหน้าร้านก่อน จากนั้นเอาไปยื่นให้พนักงานแล้วค่อยเดินเข้าไปนั่ง ใครอยากเพิ่มหมูชาชูหรือไข่ต้มก็ต้องซื้อที่เครื่องนี้ด้วยเหมือนกัน

ถ้วยนี้มีชื่อว่า Special chashu ramen ราคา 1300 เยน ความเด็ดของถ้วยนี้คือ เนื้อหมูที่นุ่มเวอร์วังมาก ใครชอบเนื้อหมู ต้องลองเลยนะ เคี้ยวจนเพลินเลยล่ะ เนื้อหมูฉ่ำๆ รสชาติพอดี

ส่วนถ้วยนี้ก็รสชาติน้ำซุปไม่เข้มเท่าถ้วยด้านบน ชื่อ Special Ramen ราคา 1200 เยน ทานง่าย ใครไม่ชอบแบบน้ำซุปข้น น่าจะชอบถ้วยนี้เลยล่ะ เส้นราเมงของที่นี่เป็นแบบเส้นเล็กๆ ซึ่งเราชอบมาก สามารถสั่งความแข็งนุ่มของเส้นตามใจชอบได้ด้วยนะ

น้ำซุปใสๆ ไม่ต้องเข้มข้นมาก ทานพร้อมกับเนื้อหมูชาชูที่มีรสเค็มพอดี ทำให้ถ้วยนี้เป็นอีกเมนูที่น่าลองทานเลยค่ะ

แต่ถ้าใครยังไม่อิ่ม เรายังมีอีกร้านราเมง อยู่ตรงข้ามกันเลย ร้านนี้มาจากฮอกไกโดเลยนะ ชื่อร้าน 札幌 みその เรียกว่า ร้านมิโสะโนะ ก็แล้วกันนะ มาไกลมากเพราะฉะนั้นต้องมีความพิเศษแน่นอน

ไม่พูดพร่ำทำเพลงดีกว่า สั่งเลยจ้า ขอ Special pork miso ramen ถ้วยนึงค่า อ้าวลืม ต้องเดินไปซื้อคูปองอาหารที่ตู้ขายด้านหน้าก่อนนี่หว่า ฮ่าๆ ราคา 1350 เยน วิธีสั่งเหมือนร้านก่อนหน้าเลย ราเมงมาแล้ว ตักน้ำซุปซดเสียงดังเลยจ้า คนญี่ปุ่นเค้าบอกว่าการซดเสียงดังนี่หมายถึงอร่อยนะ

พอเคี้ยวหมูคำแรก โอ้ววว หอมกลิ่นเตาถ่านย่างตลบอบอวลในปากเลย พนักงานบอกว่าเส้นกับซุปมิโสะหอบมาจากฮอกไกโดเลยเชียวนะ

ส่วนคนที่คิดว่ามาโอไดบะทั้งทีก็อยากไปหาอะไรทานอาหารห้องอาหารวิวสวย ขอแนะนำเลยว่า ให้ลงไปที่ชั้น 3 เพราะที่ร้าน LONGBOARD CAFE ตกแต่งภายในร้านได้แปลกตาที่สุด เพราะจำลองเอาบรรยากาศของอเมริกันสไตล์ของยุคเก่ามาไว้ทั้งหมดในร้าน ด้านนอกหน้าร้านจะเป็นแบบนี้เลย เข้าไปเลยจ้า

ในร้านเปิดเพลงยุค80 ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปอดีต นั่งทานตรงเคาท์เตอร์ จิบเบียร์เบาๆพร้อมกับแอบมองหนุ่มโต๊ะข้างๆ ฮา

เมนูแรกที่แนะนำนี้คือ Tokyo cheese dog เป็นเมนูเด็ดของร้านเลยก็ว่าได้ เพราะนิยมมาก เนื้อขนมปังเหนียวนุ่มกำลังพอดี เสิร์ฟมาพร้อมมันผรั่งทอดที่กรอบมาก

อีกเมนูเป็นเนื้อบดราดซอสและไข่ลวกแบบไม่สุกมาก อิ่มและอิ่มมากจริงๆ

ตัดภาพมาที่การเจาะไข่ให้ไหลเยิ้มลงมา แล้วคลุกๆกับข้าวสวยเลยจ้า ฟินที่สุด

และเครื่องดื่มหวานๆ อย่างเมล่อนครีมโซดาแก้วนี้จะช่วยเติมเต็มการทานอาหารของคุณให้อร่อยยิ่งขึ้น

ภายในร้านตรงเคาน์เตอร์ ยังสามารถนั่งมองสะพานสายรุ้งและเทพีเสรีภาพได้อย่างชัดด้วยนะ เป็นหนึ่งร้านที่เหมาะแก่การนั่งพัก นั่งชมวิว และทานอาหารฟังเพลง

ส่วนภายนอกร้าน ก็มีโต๊ะเก้าอี้ให้ดื่มด่ำกับวิวอันงดงามของโอไดบะยามค่ำคืนได้เช่นกัน สวยงามแค่ไหน ดูที่ภาพเลยจ๊ะ

นั่งมองสักพัก ก็กลับเข้ามาด้านในต่อ ไปหาขนมหวานๆทานที่ด้านล่างกันต่อดีกว่า คราวนี้เรามาหยุดอยู่ที่หน้าร้าน MOUMOU ชั้น 1 เพื่อซื้อซอฟต์ครีมเข้มข้นจากฮอกไกโดเลยนะ ในโตเกียวมีแค่สาขานี้สาขาเดียว ดังนั้นมาที่นี่แล้วควรต้องลอง

ถ้วยนี้มีสตรอว์เบอร์รีสดตัดความเปรี้ยวด้วยวิปครีม ด้านล่างก็เป็นไอศกรีมเนื้อเข้มข้นอัดแน่น อิ่มเหลือเกิน แต่ยังไหว

นี่ก็สั่งแบบธรรมดามาลองทาน แต่พอชิมแล้วรสชาติไม่ธรรมดาเลยจ้า ความที่เป็นนมระดับคำว่าฮอกไกโดมันจึงเข้มข้นมาก ด้านล่างเป็นเค้กสปันจ์ รสชาติเข้ากันมากเลย

ตักใส่ปาก ยังไม่ทันได้เคี้ยวก็กลืนลงไปละ ดูความเข้มข้นของเค้าละกัน

ทานอิ่ม หนังท้องเริ่มตึงแล้ว หนังตาจะหย่อนไม่ได้ ออกเดินช้อปปิ้งกันต่อดีกว่า เดินผ่านร้าน UNDEFEATED อร้าย อยากได้รองเท้าขึ้นมาทันที ก็ที่ร้านนี้เค้ารวมรุ่นรองเท้าที่สุดแซ่บ ยอดนิยมและหาซื้อไม่ได้ทั่วไป เข้าไปทีไรก็เผลอใจซื้อทุกที

นอกจากนี้ ร้านรองเท้า Onitsuga Tiger ก็ยังมีแต่รุ่นใหม่ๆออกมาเพียบ แวบเข้าไปดูอัพเดทสักหน่อยว่าตอนนี้แบบไหนกำลังเป็นที่นิยมนะ

นอกจากจะมีร้านร้อยเยนแล้ว ที่นี่ยังมีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมอย่าง Air BIC CAMERA ด้วยเน้อ เข้าไปสำรวจเลย แม้ว่าจะแปลกตาไปซะหน่อยเพราะที่นี่มีขายจิปาถะจริงๆ ทั้งของใช้ ยาสามัญประจำบ้าน วิตามิน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงขนมกล่องของฝากจากที่ต่างๆ

มีขนมกล่องแบบของฝากวางขายมากมาย ต่อไปนี้มาซื้อของร้านนี้ก็ได้ของฝากเกือบครบเลยนะ

ถ้าการสื่อสาร อ่านฉลากไม่ออกทำให้ไม่กล้าซื้อยา ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ที่นี่มีเครื่องแปลภาษาแปะตามชั้นวางสินค้า โดยเฉพาะมุมขายยา ที่แค่สแกนบาร์โค้ดไป ก็จะขึ้นภาษานั้นๆที่เราต้องการอ่าน สุดยอด

เครื่องอ่านฉลากยานี้ ทำให้การซื้อยาสำหรับคนต่างชาติเป็นไปได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้ายาตัวไหนไม่ได้มีข้อมูลภาษาไทยไว้ มันจะขึ้นภาษาอังกฤษแทนนะ

บอกแล้วว่ามีหลายสิ่งให้เลือกสรร ครีมหมักผมที่ว่ากันว่า ดีมากและใช้ดีจริงๆนะ เพราะเราก็ใช้อยู่ ฮ่าๆ

เออ รู้ไหมว่าด้านบนสุดของห้างนี้ นอกจากจะมีมุมบาร์บีคิวปิ้งย่างบริการแก่ลูกค้าในช่วงหน้าร้อนแล้ว เรายังมีศาลเจ้าของจริงแน่นอนด้วยนะ คนขึ้นมาไหว้ก็มี เพราะที่นี่สามารถขอพรเกี่ยวกับขอให้สมหวังกัน

ด้านนอกของโอไดบะยามค่ำคืน ก็เป็นมุมประดับไฟให้เราได้ถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน เช่นคำว่า LOVE กับ KISS ตรงนี้ฮิตมาก ใกล้ๆจุดนี้จะมีร้านค้า ขายกุญแจที่ไว้สำหรับคนรักซื้อมาแล้วเขียนชื่อตัวเองกับคนรัก แล้วล็อคแขวนไว้

ดูสิใครหนอช่างคิดช่างทำ การแขวนกุญแจนี้เหมือนจะได้รับความนิยมจากหนุ่มสาวด้วยนะ ล็อคเสร็จแล้วก็มาถ่ายรูปวิวสะพานสายรุ้งกันต่อเพราะอยู่ใกล้กันเลย

AQUA CiTY ODAIBA

ข้อสรุป

เที่ยวโตเกียวแล้วไปไหนดี วันนี้เรามีคำตอบแล้วว่าเราจะไปกิน ไปช้อป ไปถ่ายรูป ไปซื้อของฝาก กันที่ Aqua City โอไดบะกัน นอกจากจะเดินทางง่ายแล้ว การตั้งอยู่ตรงโซนโอไดบะที่ถือว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ยังทำให้เราได้ทำกิจกรรมหลายอย่างจนคุ้มค่าเวลาสำหรับทริปหนึ่งวันของเรามาก