ท่องเที่ยวเมืองอาริดะ (Arida) จังหวัดวาคายามะ (Wakayama): 10 จุดเช็กอิน ผ่อนคลายท่ามกลางทะเล ธรรมชาติ และส้มมิคัง

[ทิวทัศน์สวยงามที่ทะเลและท้องฟ้าเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน] ท่าเรือประมงโออิ (Oi Fishing Port) อ่าวยาบิตสึอุระ (Yabitsu-ura) และแหลมมิยาซากิโนะฮานะ (Miyazaki no Hana)

ท่าเรือประมงโออิ (Oi Fishing Port)

ท่าเรือประมงโออิ (Oi Fishing Port) เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ มาพร้อมบรรยากาศย้อนยุคและทิวทัศน์ยามเย็นที่สวยงาม ที่นี่รักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้อย่างดี หากอยากสัมผัสวัฒนธรรมการประมงของเมืองอาริดะ (Arida) แนะนำให้เข้าร่วม “ทัวร์ชมการประมูลปลา” ซึ่งจะพาชมขั้นตอนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่นำปลาขึ้นจากเรือ การคัดแยก ไปจนถึงการประมูล โดยมีไกด์คอยอธิบาย นับเป็นโอกาสพิเศษ เพราะปกติแล้วจะอนุญาตเฉพาะผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น และเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้แม้แต่ในตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Market)

ท่าเรือประมงโออิ (Oi Fishing Port)

ดูแผนที่ ท่าเรือประมงโออิ (Oi Fishing Port)

อ่าวยาบิตสึอุระ (Yabitsu-ura)

อ่าวยาบิตสึอุระ (Yabitsu-ura) เป็นจุดท่องเที่ยวลับสำหรับถ่ายรูป โดดเด่นด้วยน้ำทะเลใสสะอาดทอดยาว และเมื่อถึงช่วงน้ำลดยังสามารถชมสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ในแอ่งน้ำได้อีกด้วย ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเงียบสงบในเมืองอาริดะ (Arida) มีตรอกซอยแคบ บ้านเรือนบนเนิน และท่าเรือที่มีเรือประมงจอดอยู่หลายลำ บรรยากาศโดยรอบชวนให้รู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลง ทุกเดือนมกราคมจะมีการจัดงานประเพณี “โอฮิมะจิ” (Ohimachi) เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสวิถีท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

อ่าวยาบิตสึอุระ (Yabitsu-ura)

ดูแผนที่ อ่าวยาบิตสึอุระ (Yabitsu-ura)

แหลมมิยาซากิโนะฮานะ (Miyazaki no Hana)

มิยาซากิโนะฮานะ (Miyazaki no Hana) เป็นจุดสิ้นสุดทางตอนใต้ของแม่น้ำอาริดะ (Arida River) ด้วยทำเลที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสามด้าน ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นช่องแคบคิอิ (Kii Channel) ได้กว้างไกล ในวันที่อากาศแจ่มใส ยังอาจมองเห็นเทือกเขาของเกาะชิโกกุ (Shikoku) ได้อีกด้วย ไฮไลท์อยู่ที่ช่วงพระอาทิตย์ตกซึ่งย้อมทะเลเป็นสีแดงราวกับภาพวาด ชาวบ้านเรียกที่นี่ว่า “จุดชมพระอาทิตย์ตกดินลับ ๆ” และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ได้รับความนิยมในฐานะจุดถ่ายภาพสำหรับคนรักกล้อง คู่รัก ไปจนถึงการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง

แหลมมิยาซากิโนะฮานะ (Miyazaki no Hana)

ดูแผนที่ แหลมมิยาซากิโนะฮานะ (Miyazaki no Hana)

[ขับรถชมวิวท่ามกลางเมืองแห่งส้มมิคัง] ถนนอาริดะมิคังไคโด (Arida Mikan Kaido)

ถนนอาริดะมิคังไคโด (Arida Mikan Kaido) เป็นเส้นทางชมวิวที่มองเห็นทั้งทะเลและสวนส้มมิคังตลอดทาง จุดชมวิวหลายแห่งสามารถมองออกไปเห็นชายฝั่งเมืองอาริดะและสวนส้มบนเนินเขาได้กว้างไกล โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว ต้นส้มที่ออกผลสีส้มสดเต็มต้นจะส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณ เหมาะกับการเดินเล่นและถ่ายภาพ แม้การปั่นจักรยานบนเส้นทางลาดชันนี้อาจเหนื่อยบ้าง แต่ก็คุ้มค่ากับการได้สัมผัสทิวทัศน์แบบวาคายามะที่ผสมผสานทะเลกับทุ่งนาอย่างลงตัว

ถนนอาริดะมิคังไคโด (Arida Mikan Kaido)

ดูแผนที่ ถนนอาริดะมิคังไคโด (Arida Mikan Kaido)

[ลิ้มรสความอร่อยจากวัตถุดิบท้องถิ่น] คาเฟ่มิคัง โนะ คิ (CAFE Mikan no Ki) & เทสติโมเน่ (TestiMone)

คาเฟ่ มิคังโนะคิ (CAFE Mikan no Ki)

คาเฟ่ มิคังโนะคิ (CAFE Mikan no Ki) ซึ่งบริหารโดยบริษัทท้องถิ่น อิโตะ โนเอ็น (Ito Noen) เป็นคาเฟ่ที่ใส่ใจในส้มมิคังอย่างเต็มที่ ภายในตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เมนูต่าง ๆ ดึงรสเปรี้ยวสดชื่นและหวานหอมของส้มมิคังออกมาได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นมิคังเบอร์เกอร์ ไก่คาราอาเกะ หรือข้าวห่อไข่ บนเคาน์เตอร์ยังมีขวดน้ำผลไม้สีสันสดใสเรียงราย ทำให้ที่นี่เป็นจุดพักผ่อนที่ทั้งอร่อยและน่ามอง

คาเฟ่ มิคังโนะคิ (CAFE Mikan no Ki)

ดูแผนที่ คาเฟ่ มิคังโนะคิ (CAFE Mikan no Ki)

เทสติโมเน่ (TestiMone)

เทสติโมเน่ (TestiMone) ตั้งอยู่บนยอดเขาตามเส้นทางอาริดะมิคังไคโด (Arida Mikan Kaido) เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมวิวกว้างไกลของช่องแคบคิอิ บรรยากาศหรูหราและเงียบสงบ นอกจากร้านอาหาร ยังมีห้องพักให้บริการเพียง 2 ห้อง ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ลับที่เหมาะกับการใช้เวลาพิเศษอย่างเป็นส่วนตัว

เทสติโมเน่ (TestiMone)

ดูแผนที่ เทสติโมเน่ (TestiMone)

 [การผสมผสานระหว่างศิลปะ และธรรมชาติ] แกลเลอรี่ ซิกมา (Gallery SIGMA.)

แกลเลอรี่ ซิกมา (Gallery SIGMA.) ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนส้มมิคังในเมืองอาริดะ บรรยากาศภายในหรูหราราวกับแกลเลอรี่ศิลปะ เค้กหลากสีถูกจัดเรียงอย่างประณีตจนเหมือนงานศิลป์ ผลไม้ที่ใช้คัดสรรจากทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจได้ทั้งความสวยงามและรสชาติที่ไม่ผิดหวัง จุดเด่นอีกอย่างคือความคุ้มค่า เค้กส่วนใหญ่ราคาเพียง 800–900 เยนเท่านั้น เมนูแนะนำคือเรดชีสเคกรูปพุดดิ้งโปะด้วยเมล่อนฉ่ำ ๆ ที่ผสานรสหวานละมุนของผลไม้กับชีสนุ่มละมุนได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีพื้นที่คาเฟ่ที่ต้องจองล่วงหน้า ตกแต่งด้วยไม้และแสงไฟอบอุ่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศสงบสบาย เป็นร้านขนมหวานที่ไม่ควรพลาดระหว่างการเดินทาง

แกลเลอรี่ ซิกมา (Gallery SIGMA.)

ดูแผนที่ แกลเลอรี่ ซิกมา (Gallery SIGMA.)

[ผ่อนคลายกายและใจด้วยออนเซ็น] อาริดะกาวะ ออนเซ็น อะยุชายะ โฮเต็ล ซันไชน์ (Aridagawa Onsen Ayuchaya Hotel Sunshine)

อาริดะกาวะ ออนเซ็น อะยุชายะ โฮเต็ล ซันไชน์ (Aridagawa Onsen Ayuchaya Hotel Sunshine) ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาและแม่น้ำ บรรยากาศเงียบสงบใกล้ชิดธรรมชาติ ที่นี่มีบริการทั้งแช่น้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับและการเข้าพักค้างคืน ภายในมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ บ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง และห้องซาวน่า ให้ผ่อนคลายได้เต็มที่ ไฮไลท์คือร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ “อะยุชายะ” (Ayuchaya) ที่เสิร์ฟอาหารทะเลและวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล ทำให้โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานธรรมชาติ อาหารรสเลิศ และออนเซ็นในแบบฉบับวาคายามะ

Aridagawa Onsen Ayuchaya Hotel Sunshine

ดูแผนที่ Aridagawa Onsen Ayuchaya Hotel Sunshine

 [เส้นทางเดินป่าประวัติศาสตร์และธรรมชาติ] ทางข้ามเขาอิโทกะ (Itoga Pass)

ทางข้ามเขาอิโทกะ (Itoga Pass) เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางโบราณคุมาโนะ (Kumano Kodo) ที่เชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านอิโทกะ เหมาะสำหรับการเดินป่าแบบเบา ๆ ระหว่างทางมีต้นส้มมิคังเรียงรายสองข้าง ส่งกลิ่นหอมอบอวลในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้ได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ บนยอดเขาเคยมีร้านน้ำชาเก่าแก่ที่ต้อนรับนักเดินทาง พร้อมประเพณีเสิร์ฟส้มมิคังเย็น ๆ ซึ่งถูกบันทึกไว้ในหนังสือ “คิอิโนะคุนิ เมโชะ สุเอะ” (Kii no Kuni Meisho Zue) เส้นทางนี้ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม เหมาะกับผู้ที่อยากเริ่มต้นเดินป่าในบรรยากาศสบาย ๆ

ทางข้ามเขาอิโทกะ (Itoga Pass)

ดูแผนที่ ทางข้ามเขาอิโทกะ (Itoga Pass)

 [ช่วงเวลาสุดหรูกับมื้ออาหารแสนพิเศษ] เรียวกังทาจิบานะยะ (Tachibana-ya Ryokan)

เรียวกังทาจิบานะยะ (Tachibana-ya Ryokan) เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1903 โดดเด่นด้วยบรรยากาศดั้งเดิมและการต้อนรับแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ พร้อมอาหารไคเซกิ (Kaiseki) ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างพิถีพิถัน เมนูพิเศษที่ไม่ควรพลาดคือ “ชาบูชาบูปลาดาบ” และ “ไก่คิโนะคุนิมิคัง” ที่เลี้ยงด้วยส้มมิคังคิชู รวมถึงเมนูดั้งเดิมอย่างเต้าหู้งาและมิโสะคินซันจิ ที่นี่เปิดทั้งแบบเข้าพักค้างคืนและบริการร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงของบริษัทท้องถิ่นและการแข่งขันโชกิ (Shogi) ระดับภูมิภาคคันไซ เรียวกังแห่งนี้จึงไม่เพียงมอบประสบการณ์พักผ่อนที่อบอุ่น แต่ยังสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นอันน่าประทับใจ

เรียวกังทาจิบานะยะ (Tachibana-ya Ryokan)

ดูแผนที่ เรียวกังทาจิบานะยะ (Tachibana-ya Ryokan)

 [ประสบการณ์เก็บส้มมิคังแบบต้นตำรับ] สวนผลไม้โซวะ (Souwa orchard) คาเฟ่คะจู โตะ คาจิตสึ (Kaju to Kajitsu)

คาเฟ่คะจู โตะ คาจิตสึ (Kaju to Kajitsu) ดำเนินการโดยสวนผลไม้โซวะ ฟาร์มท้องถิ่นในเมืองอาริดะ ที่นี่มีทั้งคาเฟ่และร้านค้าให้ชิมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากส้มมิคัง ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ เยลลี่ แยม หรือขนมต่าง ๆ ที่ทำจากส้มซึ่งปลูกเองและรวบรวมจากเกษตรกรใกล้เคียง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับซื้อเป็นของฝาก เมนูยอดนิยมคือ “พาร์เฟต์ส้มมิคัง” (Mikan Parfait) ที่จัดเต็มด้วยส้มมิคังทั้งลูก ไอศกรีมสูตรพิเศษ และชิปส์ส้ม รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นช่วยคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ไฮไลท์อีกอย่างคือการแสดงระดับความหวานของส้มที่ใช้ทำน้ำผลไม้ เพิ่มทั้งความรู้และความสนุกในการมาเยือน ที่นี่จึงเป็นคาเฟ่และร้านค้าเฉพาะทางที่สะท้อนความรักในส้มมิคังของคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง

สวนผลไม้โซวะ (Souwa orchard)

ดูแผนที่ สวนผลไม้โซวะ (Souwa orchard)

 [ผจญภัยบนเกาะร้าง] เกาะจิโนะชิมะ (Jinoshima)

เกาะจิโนชิมะ (Jinoshima) เกาะร้างนอกชายฝั่งเมืองอาริดะ (Arida) เป็นจุดหมายยอดนิยมในฤดูร้อน เดินทางสะดวกด้วยเรือข้ามฟากเพียง 7 นาที เกาะแห่งนี้โดดเด่นด้วยทะเลใสสะอาด หาดทรายกว้าง และกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลาย ทั้งบาร์บีคิว แคมปิ้ง และการพายแพดเดิลบอร์ด (SUP) น้ำทะเลบริเวณนี้สงบและมีทุ่นลอยเพิ่มความปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น การพาย SUP เลียบแนวโขดหินและชายฝั่งจะทำให้ได้สัมผัสทะเลอย่างใกล้ชิด เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เหมาะกับการมาเป็นกลุ่มหรือผู้ที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง และรับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งวันพิเศษที่น่าจดจำ

เกาะจิโนะชิมะ (Jinoshima)

ดูแผนที่ เกาะจิโนะชิมะ (Jinoshima)

สรุป

เมืองอาริดะ (Arida) จังหวัดวาคายามะ (Wakayama) เป็นเมืองเงียบสงบที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและบรรยากาศผ่อนคลาย แตกต่างจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย ทั้งสวนส้มมิคัง ทิวทัศน์ทะเล และถนนโบราณ เหมาะสำหรับสร้างคอนเทนต์ลง Instagram หรือ YouTube นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินได้ทั้งอาหารท้องถิ่น บ่อน้ำพุร้อน และกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ เมืองอาริดะจึงเหมาะทั้งการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือพักค้าง 1–2 วันเพื่อซึมซับบรรยากาศอย่างเต็มที่ ที่นี่คือจุดหมายสำหรับการพักผ่อนที่ช่วยปลดปล่อยความเครียดและเติมพลังให้จิตใจได้อย่างแท้จริง