ขับรถเที่ยว “Kaneyama Town” ที่ ฟุกุชิมะ เมืองวิวสวย พร้อมกิจกรรมอัดแน่น!!

ทริป 2 วัน1 คืนนี้ เราจะไปตะลุยกันที่ Kaneyama Town ที่ตั้งอยู่ในเขต ฟุกุชิมะ เดินทางได้ง่ายมากโดยเริ่มจากสถานี Tokyo ด้วยชินคันเซ็นโทโฮขุ ไปลงที่สถานี Koriyama จากนั้นสามารถนั่งรถไฟโดยตรงต่อไปที่เมือง Aizuwakamatsu ก็ได้ (สำหรับคนมีพาสเดินทาง) หรือจะนั่ง Expressway bus ที่จอดอยู่หน้าสถานี Koriyama ตรงป้ายรถบัสหมายเลข 4 ก็ได้เช่นกัน ใช้เวลาพอๆกัน สามารถซื้อตั๋ว Expressway bus ได้ที่จุดรอรถบัสเลย มาดูรูทการเดินทางด้วยรถไฟกัน

เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองแห่งวิวธรรมชาติ ภูเขา แม่น้ำ เราเลยแนะนำให้เช่ารถยนต์ขับมาจากสถานี Aizuwakamatsu เลย เพื่อจะได้ดื่มด่ำกับวิวอย่างเต็มที่ ด้านหน้าสถานีก็มีบริษัทเช่ารถหลายแห่ง จากสถานี Aizuwakamatsu ขับขึ้นทางด่วนต่ออีกแค่ 1 ชั่วโมง( ขับแบบชิลๆชมวิวตลอดทาง) ขอบอกว่าถนนในเมืองโซนนี้ขับง่ายมาก รถน้อย คุ้มค่าที่จะเช่ารถขับที่สุดเพราะจอดตามรายทางตลอดทริป ฮ่าๆ กินและถ่ายรูปวนไป

ลงทางด่วนปุ๊บ ขับต่อมาสัก 20 นาที เราก็เจอจุดพักรถด้านขวา ขับเข้าไปจอดเลยจ้า ไม่ใช่เพราะหิวอาหาร แต่กระหายวิวสวย ทันทีที่เห็นต้องร้องว้าว! แม่น้ำสีเขียว กับวิวภูเขา ผาสูง ท้องฟ้าสีฟ้า มีสะพานทอดยาว สวยมากๆ เราเรียกจุดพักรถริมถนนแบบนี้ว่า Roadside Station หรือ Michi no Eki โดยที่จุดพักรถแบบนี้จะมีร้านขายของฝาก ร้านอาหาร หรือบางที่อาจจะมีจุดชมวิวด้วยนั่นเอง จุดสังเกตคือหลังจากลงทางด่วนที่ AIZUBANGEMACHI ให้ขับมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 252 ประมาณ 20 นาที ผ่านอุโมงค์มาแล้วจะเจอจุดพักรถริมถนนนี้ด้านขวามือ เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลย

ด้านหลังเป็นจุดชมวิว กรี๊ดดดดด สวยมาก

โตขนาดนี้ก็เก็บอาการไม่อยู่เหมือนเด็กๆ เลยค่ะ วิ่งไปเกาะราวเป็นลิงเลย ฮา

รายละเอียด Michi no Eki Ozekaidou Mishima Juku

ที่อยู่	969-7515 福島県大沼郡三島町大字川井字天屋原610
เวลาทำการ	8.00-18.00 (เวลาทำการร้านอาหาร 10:00 – 16:00) วันหยุด 1- 3 มกราคม
โทรศัพท์	0241-48-5677
Website	Michi no Eki Ozekaidou Mishima Juku

ใครจะเข้าไปทานอาหารหรือสำรวจด้านในก็ได้ แต่เราขอมุ่งหน้าเข้าเมืองก่อน เพราะเรารอที่จะผ่านถนนซิมโฟนี หรือถนนดนตรี ที่จะมีเสียงเพลงดังตอนที่ยางรถเสียดสีกับถนนช่วงนั้น นานราว 10 วินาที คือถ้าเห็นทางโค้งแบบนี้ให้รอฟังเลย แต่ภาพนี้คือเราผ่านโค้งมาปุ๊บ แล้วหาลานที่จอดรถได้ ก็จอดถ่ายรูปกัน สวยมั้ย

แค่เห็นลำธารเล็กๆตรงริมถนนยังให้ความรู้สึกชื่นใจเลย

ระหว่างทาง เจอรถไฟสวนมาบ้าง นำไปบ้าง ตลอดทางที่เราขับรถ นี่คือรถไฟสายดังของเมืองนี้เลยนะ Tadami Line

ขับรถต่อดีกว่า ท้องก็เริ่มหิวแล้ว วันนี้เราจะพาไปชิมอาหารพื้นเมืองญี่ปุ่น ที่ดังที่สุดในย่านนี้ เพราะมีคนมีชื่อเสียงแวะมาการันตีความอร่อย ถึงขนาดว่า มีกระดาษที่แจกลายเซ็นแปะตามฝาผนังของร้านเต็มไปหมด ร้านนี้ชื่อ Ofukuro อยู่ฝั่งด้านซ้ายมือ จอดรถได้ตรงหน้าร้านเลย

เข้ามาในร้าน บรรยากาศแบบมีเตาผิงและกาน้ำเลยจ้า หูยยย มีความเป็นพื้นเมืองมากๆ (นี่คือช่วงเมษายน) ภายในร้านดูสบายๆ เป็นกันเองมาก เจ้าของร้านยิ้มแย้มแจ่มใส เข้ามาทักทายทันที พร้อมให้เมนูภาษาอังกฤษ แน๊ๆ ทันสมัยมากๆ แต่ละภาพเมนูยังมีบอกด้วยว่าอันไหนใส่เนื้อหมู วัว หรือไก่

ด้วยความที่มากันหลายคน เลยสั่งกันคนละเมนูเลย มาดูหน้าตาเสบียงมื้อเที่ยงของเรากัน เมนูแรกคือแกงกะหรี่ราเมงทงคัตสึ ชื่อย๊าวยาว ฮ่าๆ เพราะมีอาหารสามอย่างในชามเดียวกัน! คือเมนูนี้ดังที่สุดในร้านเลยนะ ( Katsu Curry Mixed Ramen)

ถ้วยนี้เหมือนข้าวหมูย่างเหยาะซอสแมกกี้ หมูย่างหอมมาก ชอบอันนี้ที่สุด ( Char-Siu-Don ชาชูดง)

ต่อด้วยข้าวแกงกะหรี่หมูทอด จานเบิ้มๆ ( Katsu Curry)

ยัง ยังไม่หมด เมนูหมูทงคัตสึราดซอสออกหวานชื่อดังของเมือง จะพลาดได้อย่างไร(Sauce Katsu Don ซอส คัตสึ ดง)

ถ้วยนี้คือราเมง เส้นราเมงของโซนเมืองนี้จะเส้นใหญ่เหนียวนุ่ม ทานง่าย สั่งแบบเผ็ดเลยจ้า ( Red Chanpon)

สองถ้วยนี้ ปกติทำเฉพาะหน้าร้อน แต่วันนี้เราโชคดีได้ลองชิม เมนูนี้ชื่อ Hiyashi Chuka จุดเด่นคือหัวหอมซอย เข้ากันกับเส้นราเมงมาก เป็นบะหมี่เย็นนะ

ถ้วยนี้สีแดงสดใส ขายช่วงหน้าร้อน Karakuchi Hiyashi Chuka ทานแบบเย็นๆ เหมือนกัน

ส่วนเมนูนี้ ให้ความรู้สึกกลับไปตอนเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อยที่แม่จะป้อนข้าวเหนียวหมูทอดแล้ววางเป็นคำๆให้หยิบทานเองเลยค่ะ ฮ่าๆ ต้องสั่งพิเศษนะจ๊ะ ไม่มีในเมนู (ยื่นรูปให้เค้าดู) ข้าวนั้นเหนียวนุ่มมาก เหมือนข้าวเหนียวเลย

รายละเอียด ร้าน Ofukuro

ที่อยู่	〒968-0011 福島県大沼郡金山町川口下町６０１
วิธีการเดินทาง	สามารถเดินมาได้จากสถานี Aizukawaguchi ราว 10 นาที
เวลาทำการ	11.00 – 17.00 วันหยุด วันพฤหัสบดี (ปกติ ในเดือนนึงจะหยุด 2 ครั้ง)
ราคา	880 – 1600 เยน
โทรศัพท์	0241-54-2429

จากนั้น เราก็ออกจากร้านด้วยสภาพหนังท้องตึง หนังตาหย่อน ( โหววว ไม่อยากเซลฟี่เลย ณ จุดๆ นี้) ขับรถมาต่อที่แหล่งน้ำแร่ชนิดมีฟองที่ผุดขึ้นมาจากบ่อใต้ดิน ที่ไปดูนี่ไม่ใช่เพราะแค่ของฟรีนะ ฮิๆ แต่เพราะมันแปลก! ในญี่ปุ่นมีไม่กี่ที่เท่านั้น ขับมาจนถึงป้ายนี้ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยเล้ย

ผ่านถึงหน้าโรงงาน Harves ที่ผลิตน้ำแร่ชนิดมีฟอง (หรือน้ำแร่โซดา)และผลิตภัณฑ์เสริมความงามให้ผิวหน้า จากนั้นก็หาที่จอดรถเลย

เดินเข้ามาที่บ่อนี้เลยจ้า ดูขลังดีเนอะ ตื่นเต้นๆ

ไหนๆ บ่อไหนของฟรี เอ๊ย บ่อไหนน้ำโซดาซู่ซ่าจ๊ะ บร๊ะ! มีแก้วเปล่าวางเรียงให้พร้อม แบบนี้ตั้งวงนั่งเมาท์กันยาว ความที่เป็นน้ำแร่ชนิดมีฟองหรือ sparking mineral water ถ้าหน้าหนาวน้ำเยอะ ก็จะเห็นความเป็นฟองผุดขึ้นชัด แต่ถ้าหน้าร้อน น้ำในบ่อจะลดลงครึ่งนึงเลยนะ แต่ว่ากันว่า รสชาติจะเข้มข้นขึ้นมานิดหน่อย

ประโยชน์ของน้ำแร่ชนิดมีฟองนี้ คือ ทำให้รู้สึกสดชื่น ลดความเหนื่อยล้า ยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในกลุ่มคนรักสุขภาพรุ่นใหม่ โดยนิยมดื่มกันในระหว่างมื้ออาหาร เพื่อคลายอาการท้องผูก เพราะฟองอากาศช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้น และยังช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และลดคอเลสเตอรอลได้ด้วย เอ๊า รู้อย่างนี้แล้ว เอาขวดเปล่ามากรอกน้ำกลับบ้านด่วน

เสี่ยวเอ้อ!! คอแห้ง เจ๊ขอน้ำโซดาแก้วนึง เสี่ยวเอ้อจัดการรินน้ำให้ซูสีไทเฮาอย่างไว (ต้องแก้วแดงด้วยนะ)

ใครที่ไม่อยากใช้แก้วของที่นี่ จะพกมาเอง หรือจะเอามือมากรอกใส่ปากอย่างแมนๆเค้าทำกันก็ย่อมได้ ถึงความซ่าจะไม่แรงเท่าน้ำโซดาปกติ แต่ก็มีรสชาตินุ่มละมุน ดื่มง่าย

พอได้ชิมอึกแรกแล้ว ฮ่าๆโอ้ย งง สับสนชีวิต เคยกินแต่น้ำแร่ผุด นี่เป็นทั้งน้ำแบบมีฟองซ่าด้วย ทึ่งเลยค่ะ (เดินเข้าไปในโรงงานผลิตได้นะ เค้ายินดีต้อนรับ) ในนี้ยังมีตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดีๆด้วย ทั้งโฟมล้างหน้า ทั้งครีมบำรุง มีวางจำหน่ายตรงจุดจอดพักรถแถบโซนนี้เท่านั้น ประมาณว่าเป็นสินค้าโอท็อปเลยล่ะ

รายละเอียด Water Well of Oshino Natural Soda Water

ที่อยู่	〒968-0326 福島県大沼郡金山町大塩上ノ山5298
เวลาทำการ	24 ชั่วโมง ส่วนของโรงงาน เปิดทำการทุกวันธรรมดา 9.00 – 17.00
Website	Water Well of Oshino Natural Soda Water

อิ่มสบายท้องแล้ว ก็ไปที่พักกัน แต่ก่อนจะไปถึงที่พัก เราก็ขอแว๊บไปถ่ายรูปมุมๆ หนึ่งก่อน เค้าว่ากันว่า สวยราววิวในยุโรปเลยนะ แล้วที่ตรงนี้คือวิวที่ขึ้นปกปฏิทินญี่ปุ่นบ่อยที่สุด พอๆ กับวิวรถไฟสาย Tadami line ที่วิ่งผ่านบนสะพาน ให้เราจอดรถตรงนี้

ลงจากรถแล้ว กรีดร้องงงง …. อื้อหือ สวยมากกกก เป็นวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่เคยเห็นมา ภาพมีชีวิต มีวิถีชีวิตและมีบรรยากาศในตัวเอง ถ่ายรูปชื่นชมจนพอใจก็ไปต่อกันเล้ย

ใครอยากถ่ายติดรถไฟด้วย ดูตารางรถไฟผ่านได้ที่นี่นะ เค้าแปะไว้ให้แล้ว รถไฟมีทั้งไปและกลับ รูทไหนก็ได้ ดูที่คำว่า Viewpoint

รายละเอียด จุดชมวิว คาเนยามะฟุเรไอฮิโรบะ かねやまふれあい広場

ที่อยู่	〒968-0011 福島県大沼郡金山町川口

จากนั้นเราก็ขับรถไปที่พักกัน ที่พักสำหรับคืนนี้ คือเรียวกังอายุ 100 ปี (พึ่งครบรอบ 100 ปี ในปี 2019 นี่เลยนะ) ชื่อว่า Tamanashi Onsen Ryokan เป็นเรียวกังที่ดูแลกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จากคุณทวดของเจ้าของคนปัจจุบัน

ที่จอดรถต้องข้ามสะพานแดงแล้วถึงจะเจอลานจอดรถอยู่ด้านซ้ายมือ

ตรงลานจอดรถนี้ก็มีบ่อแช่ออนเซ็นอีกบ่อด้วยนะ ชื่อว่า Seseragisou แว๊บเข้าไปดูด้านในสักหน่อย เผื่อจะเดินมาแช่ที่นี่บ้าง

จากนั้น เราก็เดินกลับมาที่เรียวกัง มองด้านนอกคิดว่าเป็นเรียวกังเล็กๆ ริมแม่น้ำ แต่ด้านในมี ถึง 4 ชั้น คือชั้นที่เราเดินเข้าไปจากถนนคือชั้น 3 แล้ว ด้านล่างมีอีก 2 ชั้นคือห้องพักและออนเซ็น

ภายในเรียวกัง ค่อนข้างสะอาดเรียบร้อย

ทางเจ้าของเรียวกังก็แจกกุญแจประจำห้องให้ เราพลิกดูพวงกุญแจไปมา นอกจากมีเบอร์ห้องแล้ว เราก็เห็นอักษรคันจิจึงถามเค้าว่าคืออะไร เค้าบอกว่า อักษรทุกตัวบนพวงกุญแจแต่ละห้อง เอามาจากชื่อของสมาชิกในครอบครัวทุกคน อื้อหือ ล้ำลึก ขอคาราวะ

ในห้องแบบญี่ปุ่นสำหรับนอนคนเดียว ( ที่นี่พักได้สูงสุด 5 ท่าน เด็กเล็กแค่ไหนก็รับ) มีคนมาปูที่นอนให้ด้วยนะ

ในห้องแบบตะวันตกเป็นที่นอนเตียง มีห้องน้ำ มีที่ล้างหน้า กาใส่น้ำ ขนม ชุดยูกาตะ ผ้าขนหนูและทีวี

ชุดยูกาตะที่ให้ใส่เดินในเรียวกัง ชุดสีสวยมาก ดูเท่ดี

ออนเซ็นที่นี่ เป็นน้ำที่มีส่วนผสมโซดา ช่วยให้ความดันลดลง หัวใจเต้นเป็นจังหวะดีขึ้น ผ่อนคลาย ดังนั้นสีของน้ำออนเซ็นจะไม่ใช่แบบใสเหมือนที่อื่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของที่นี่ แต่ผิวลื่นดีมากๆ ที่สำคัญไม่ร้อนจนเกินไป และยังเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ช่างดีงาม

เวลาเสิร์ฟอาหารค่ำคือ 18.00 -19.30 น. ที่ห้องอาหาร ทางเรียวกังจะนัดเวลากันกับเรา ที่นี่เป็นอาหารพื้นเมืองแท้ๆ ดูจากซุปเลยค่ะ ใส่ปลาอายูย่างด้วย ถ้าเราลืมเวลานัดทานข้าว เค้าจะโทรมาเรียกที่ห้องด้วยนะ

ทานข้าวเสร็จ ก็พักผ่อน คืนนี้เราจองทำกิจกรรมงานฝีมือไว้ ใครสนใจต้องแจ้งโรงแรมล่วงหน้าเลย วันนี้เราจะทำพวงกุญแจที่ทำมาจากเปลือกของต้นไม้กัน(ว่ากันว่า ศิลปะงานสานเปลือกต้นไม้ประเภทนี้คือหนึ่งในงานยากที่สุดของประเภทงานฝีมือญี่ปุ่นเลยนะ) ต้นไม้นี้ เรียกว่า Matatabi (Silver vine) โดยเราไปทำงานฝีมือกันที่ห้องสำหรับทำกิจกรรมของเรียวกัง

วันนี้เราได้รับเกียรติจากคุณครู Ishikawa Satomi จะเป็นผู้สอนและถ่ายทอดงานฝีมือญี่ปุ่นให้แก่เราในคืนนี้ น่ารักมาก

มาทาทาบิ คือเถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าเจ้าแมวจะชอบแทะไม้ชนิดนี้มาก คุณครูบอกว่า ต้องเดินเข้าไปในป่าเพื่อไปตัดต้นนี้ ครูเจอหมีบ่อยครั้งเลย ฮ่าๆ แต่ครูก็รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง คุณครูค่อยๆ สอนไป อย่างอารมณ์ดี ระหว่างที่สานไปก็ต้องเอาน้ำมาแตะๆให้เปลือกไม้มันนิ่มด้วยนะ ใครว่าง่ายเนี่ย

สำเร็จแล้ว! เย้ น่ารักมาก ผลงานนี้มีชิ้นเดียวในโลก มีสามคน คนละชิ้นเลย

นอกจากเรียวกังที่นี่จะอายุ 100 ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาเจอภาพวาดของแท้ของ อ.Mizuki Shigeru นักวาดการ์ตูนชื่อดัง GeGeGe no Kitaro ที่นี่ด้วย เพราะอาจารย์และครอบครัวเคยมาพักที่นี่ และได้นั่งคุยกับเจ้าของเรียวกังจนถูกคอ พอทราบว่าที่นี่เคยมีเรื่องเล่าว่า ที่แม่น้ำจะมีตัวกัปปะ ( เป็นผีญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในจำพวกพรายน้ำ ) ออกมาเดินตอนมืดๆ พอหลังจากจบทริปไปแล้ว ท่านก็วาดภาพแล้วส่งมาให้ น่าประทับใจมาก

ตื่นเช้าวันนี้ รับอาหารเช้าแบบเบาๆ เมื่อคืนนอนหลับสบายเลย

ลูกบ๊วย ไว้ทานเล่นๆ อาหารที่นี่เป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้มาก

ถ่ายภาพริมแม่น้ำ ถ่ายจากด้านในเรียวกังก่อนกลับ( แถวนี้ซากุระบานช่วงต้นพฤษภาคม)

ได้ยินเสียงแม่น้ำไหลตลอดเวลา ใครที่นอนห้องแบบญี่ปุ่นจะเป็นวิวติดแม่น้ำเลยนะ

ข้อมูลที่พัก
– พักได้สูงสุดต่อห้องคือจำนวน 5 คน
– ไม่กำหนดอายุเด็กเล็ก /ถ้าเป็นเด็กประถม จ่ายแค่ครึ่งราคา แต่ถ้าไม่รับอาหาร ก็สามารถนอนฟรีเลย

การจอง
จองผ่านเอเย่น เช่น Rakuten / Jalan / JTB โทรศัพท์ หรือ อีเมล์ [email protected]

รายละเอียด Tamanashi Onsen Ryokan

ที่อยู่	〒968-0014　福島県大沼郡金山町玉梨横井戸2786-1
เวลาทำการ	Check in 15.00 / Check out 10.00
โทรศัพท์	0241-54-2743 / มือถือ 090-4318-6523 / Fax 0241-54-2120
Website	Tamanashi Onsen Ryokan

ทานข้าวเช้าแล้ว ก็เตรียมตัวขับรถออกมาจากเรียวกัง ชมนกชมไม้ไปตลอดทาง เราสังเกตบ้านเมืองแถวนี้จะมีหลังคาสูงมาก มีสีแดงและสีฟ้าเยอะ สอบถามคนในพื้นที่ได้ความว่า ภายใต้หลังคาสูงคือหลังคาหญ้า (คล้ายหมู่บ้านชิราคาวาโกะ) คือเค้าแค่มุงหลังคาครอบเพิ่มอีกชั้นไว้เฉยๆ ส่วนสีสันสดใสบนหลังคานั้นมาจากสีหลังคาปกติของร้านขายเท่านั้นเอง ฮา

กำลังจะผ่านร้านเต้าหู้ร้านนี้ เอ๊ะ สวยสะดุดตา ขอแวะหน่อย (ที่จอดรถตรงลานด้านข้างร้าน) ร้านนี้มีชื่อว่า Tamanashi Toufu Chaya เป็นร้านเก่าแก่ถึง 100 ปี ผลิตเต้าหู้โดยใช้น้ำจากธรรมชาติและถั่วที่คัดสรรมาอย่างดี

ภายในร้าน แปลกตาที่สุด เหมือนห้องลึกลับ ไฟสลัวๆ แล้วเห็นโคมไฟ เตาผิง เก้าอี้ไม้

ใกล้ๆ โต๊ะมีบ่อน้ำ มีสวิงช้อนปลา เอ่อ ไหนปลาคะ? เห็นแต่เต้าหู้ ฮ่าๆ อ๋อ เอาไว้ตักช้อนเต้าหู้ขึ้นมาตอนเลือกซื้อ

เราสั่งเต้าหู้จากเมนูภาพมาทาน ให้อารมณ์โอชินตอนพักเหนื่อยจากทำงานบ้านจริงๆ สิ่งพิเศษของเต้าหู้ที่นี่คือการทำด้วยมือ เนื้อเต้าหู้แน่น เข้มข้นอร่อยมาก

มีกาแฟร้อนๆ ด้วยนะ รสชาติดีทีเดียว คุณป้าเจ้าของร้านเป็นคนชงให้

จ่ายเงินแล้วออกไปเที่ยวต่อ เอ๊ะ เสาแปลกๆ วั้ย ด้านในมีเมล็ดถั่วจ้า เก๋กู๊ดมากๆ

รายละเอียด Tamanashi Toufu Chaya

ที่อยู่	〒968-0014 福島県大沼郡金山町玉梨居平363
เวลาทำการ	ทุกวัน 9.00-16.00
ราคา	Dinner￥2,000～￥2,999, Lunch:￥1,000～￥1,999
โทรศัพท์	0241-54-2743
Website	Tamanashi Toufu Chaya

ออกเดินทางต่อมาได้แค่ 5นาที เอ๊าวิวสวย จอดๆ เลยลูกพี่ ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยขนาดไหนนะ

ทริปเต่าของเรา ก็ขับต่อมาอีกราว 20 นาที เพื่อมาเยี่ยมชมโรงเรียนประถมในอดีต ชื่อ Kuimaru ที่นี่มีชื่อเสียงเพราะถือกำเนิดขึ้นในยุคโชวะปีที่ 12 (ระหว่าง ค.ศ. 1926 และสิ้นสุดใน ค.ศ. 1989) ขับรถเลี้ยวเข้ามาตามป้ายนี้เลย

โรงเรียนเด่นตระหง่านสวยงามตามแบบญี่ปุ่น คุณครูท่านแรกของที่นี่ ปัจจุบันยังคงมีชีวิตอยู่ และยังมีสุขภาพแข็งแรงมีอายุถึง 99 ปีแล้วจ้า เป็นคุณครูผู้หญิง ชื่อคุณครู Fumino

วันนี้เรามีเจ้าหน้าที่หนุ่มรูปหล่อ คุณ Kamata ช่วยพาเดินชมด้วย ที่นี่ปิดทุกวันจันทร์ และวันอังคารนะ นอกนั้นในวันธรรมดาก็เข้ามาชมได้ตลอด นี่คือธงประจำโรงเรียน

บนชั้นสองจะเป็นห้องเรียน เด็กๆจะเรียนรวม 2 ชั้นเรียนในห้องเดียวกัน เช่น ป.1 และป.2

ห้องเรียนในอดีต โต๊ะและเก้าอี้ไม้ในตำนาน โต๊ะยังสวยสะอาดสะอ้านไม่มีรอยสลักชื่อใดๆ เลยค่ะ ฮา

เตาให้ความร้อนสมัยก่อนที่ตั้งอยู่ในห้องเรียน สมัยนี้เป็นแก๊สฮีทเตอร์กันหมดแล้ว ว่ากันว่ายามหน้าหนาวก็หนาวสะท้านทรวง เคยหนาวที่สุดถึง -20 องศาเซลเซียส และหิมะก็ตกหนามากสูง 1 ชั้นของบ้านเลย สังเกตที่พื้นตรงที่วางเตา จะทำให้ทนความร้อนได้เป็นพิเศษ

นกไม้หน้าห้องสมุด เด็กๆ เป็นคนทำ

ห้องสมุดยังมีหนังสือเรียนเก็บไว้อยู่ เด็กๆ เค้าเขียนบันทึกกัน

พอเห็นกระดานดำและชอล์ค เราเลยเขียนวันที่ภาษาไทยในฐานะเคยเป็นรองหัวหน้าห้องป.3/1 เมื่อหลายสิบปีก่อน ฮ่าๆ เพื่อนคนญี่ปุ่นเห็นก็เอาบ้าง สนุกสนานกันใหญ่

ครูประถมส่วนใหญ่ต้องเล่นเปียโนได้ ถือเป็นเครื่องดนตรีประจำห้องเลยนะ

วิวนอกหน้าต่าง

ภาพนี้วาดเมื่อปี ค.ศ.1960 โดยเด็กประถมสมัยนั้น

ภาพถ่ายหมู่ของชั้นเรียน

วันนี้ เราได้มาเห็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นปลูกฝังกันมาตั้งแต่หลายร้อยปีที่แล้ว โรงเรียนคือจุดกำเนิดสำคัญที่จะพัฒนาเยาวชนน้อยๆของเค้ากัน รู้สึกดีมากๆเลยค่ะ แม้ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะปิดตัวลงไปแล้ว เหตุผลเพราะจำนวนเด็กน้อยลดลงไปมาก แต่เค้ายังคงเก็บรักษาโครงสร้างและสิ่งของในอดีตไว้ให้ลูกหลานและผู้มาเยี่ยมเยือนได้มาเห็นและสัมผัสบรรยากาศไปด้วยกัน

รายละเอียด โรงเรียนประถม Kuimaru (Former Kuimaru Elementary School) 旧喰丸小学校

ที่อยู่	〒968-0212 福島県大沼郡昭和村喰丸宮前1374
เวลาทำการ	9.00 – 17.00 วันหยุด วันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดทั่วไป (เสาร์ อาทิตย์ วันเทศกาล)
ราคา	ฟรี และไม่ต้องนัดล่วงหน้า
โทรศัพท์	0241-57-2117

เที่ยงพอดี เดินทางหาข้าวเที่ยงทานกันต่อ ระหว่างเดินทาง ออกมาได้แป๊บเดียวก็เจอวิวนี้ข้างทางเลยหยุดรถเพื่อถ่ายรูป ด้านล่างเป็นนาข้าว คิดว่าหน้าร้อนอาจจะสีเหลืองทองสวยอร่ามเลย

วิวในเมืองเงียบๆ นี้ก็ยังสวยคลาสสิกเลยนะ

เมืองแห่งสะพานสวย มีหลายจุดที่เราขับผ่านและได้กดชัตเตอร์รัวๆ

สวยแบบสะพรึงๆ ดึงโทนภาพมาสู่กล้องฟิล์มยุค 60

ก่อนจะจบทริป และกลับไปคืนรถที่เมือง Aizuwakamatsu เราแวะทานข้าวเที่ยงที่จุดพักรถ Michi no Eki Oku Aizu Kaneyama

ด้านในมีมุมขายของฝากมากมาย

มีน้ำสลัดเยอะมาก ใครชอบทานสลัดต้องลอง

สำหรับของฝากขึ้นชื่อในโซนนี้มีมากมาย ราเมงก็อร่อยนะ

ที่นี่มีร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ Kobushikan ต้องกดซื้อคูปองที่อยู่ด้านหน้าร้านก่อน มีรูปถ่ายแปะไว้ทุกเมนู พอได้คูปองแล้วก็เอาไปยื่นให้พนักงานด้านในเลย

บรรยากาศและวิว สวยสงบมาก

หม่ำๆ กัน น่าทานทั้งนั้น เมนูนี้เป็นโซบะเย็น หัวไชเท้าขูดฝอยไว้เทใส่ในถ้วยน้ำซอส ก่อนจะคีบเส้นโซบะจุ่มลงไปพอดีคำแล้วค่อยคีบขึ้นมาทาน

เมนูนี้เป็นหมูชุบเกล็ดขนมปังทอด ราดไข่ อร่อยเลยทีเดียว

รายละเอียด Michi no Eki Oku Aizu Kaneyama

ที่อยู่	〒968-0006 福島県大沼郡金山町中川上居平９４９−１
เวลาทำการ	9.00 – 18.30 (เดือน พฤศจิกายน – มีนาคม ปิด 17.30) เวลาทำการร้านอาหาร 11.00 – 15.00 เปิดบริการทุกวัน
โทรศัพท์	0241-55-3334
Website	awomb

ขากลับเราก็ยังจอดรถเพื่อแวะเก็บภาพสวยๆ ต่อจนขึ้นทางด่วนกลับไปเพื่อคืนรถ บ๊ายบาย Kaneyama town แล้วเราจะมาเยี่ยมอีกนะ

ข้อสรุป

Kaneyama Town เป็นเมืองสวย วิวงดงาม เรียวกังทรงคุณค่า มีอาหารอร่อย แวะถ่ายรูปตลอดทางจนแบตกล้องหมดก็ยังไม่พอ เป็นเมืองเล็กๆ ที่ซ่อนเอกลักษณ์และวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างดี ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือนและได้ภาพสวยๆ เก็บกลับไปเป็นของที่ระลึกให้ตัวเองที่แสนจะประทับใจตลอดไป