รวมจุดถ่ายภาพวิวสวยแห่ง Kaneyama Town ฟุกุชิมะ อัญมณีแห่งโทโฮขุ

ที่แรกที่เราจะปักหมุดจอดรถถ่ายรูปนี้ คือ ที่พักรถริมถนนทั่วไป เรียกว่า Roadside Station หรือ Michi no Eki ตามคนญี่ปุ่นเรียกกัน จุดสังเกต หลังจากลงทางด่วนที่ AIZUBANGEMACHI แล้ว ก็ขับมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 252 ประมาณ 20 นาที ผ่านอุโมงค์มาเดี๋ยวจะเจอจุดพักนี้ด้านขวามือ เลี้ยวเข้าไปจอดเลย

มุมนี้ วิวสวยทั้งภูเขา แม่น้ำสีเขียว และสะพาน

พิกัด Michi no Eki Ozekaidou Mishima Juku

ที่อยู่	969-7515 福島県大沼郡三島町大字川井字天屋原610
เวลาทำการ	8.00-18.00 (เวลาทำการร้านอาหาร 10:00 – 16:00) วันหยุด 1- 3 มกราคม
โทรศัพท์	0241-48-5677
Website	Michi no Eki Ozekaidou Mishima Juku

จากนั้นเราก็ขับต่อมาทางถนนเดิม คือ เส้น 252 สักราว 20 นาที ก็จะมาเจอกับถนนซิมโฟนี หรือ ถนนแห่งเสียงดนตรี ช่วงนี้คือจะเข้าสู่เมือง Kaneyama เค้าแนะนำว่าเมื่อผ่านจุดนี้ ซึ่งจะมีป้ายสีขาวเล็กๆบอกด้านซ้ายมือว่า 金山町 อ่านว่า คาเนะยามะ-โจ แปลว่า เมืองคาเนยามะ แล้วเสียงดนตรีบนพื้นถนนที่มาจากการเสียดสีของยางรถยนต์กับผิวถนนที่มีลายเส้นก็จะดังเป็นดนตรีบรรเลงขึ้นทันที เค้าแนะนำให้ใช้ความเร็วที่ 50 กม./ชม. ในการขับช่วงนี้ ระยะทางของถนนเสียงเพลงจะยาว 277.8 เมตร

พอผ่านมาแล้ว ถึงจะเจอลานจอดรถโล่งด้านขวา จอดแล้วออกมายืนถ่ายภาพนี้ได้

มุมไหนก็สวย

พิกัด ถนนทางหลวง 252

ที่อยู่	Mizunuma, Kaneyama, Onuma District, Fukushima 968-0001 Japan

และเมื่อเข้าเมือง Kaneyama มาแล้ว ก็ต้องไม่พลาดมุมนี้จริงๆ เลยนะ เพราะนี่คือจุดถ่ายภาพแห่งปี ที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดฟุกุชิมะ เราเรียกตรงนี้ว่า จุดชมวิว คาเนยามะฟุเรไอฮิโรบะ かねやまふれあい広場 จุดนี้มีทางเว้าเข้ามาให้จอดรถได้ ตามภาพเลย

ลงมาแล้ว มองออกไปที่แม่น้ำ ก็จะได้วิวนี้มา อาจจะกรี๊ดสลบกับวิวนี้ได้เลยนะ นี่มันวิวยุโรปนี่นา

แต่ถ้ามีความอดทนรอต่ออีกนิด เราจะมาถ่ายภาพนี้พร้อมรถไฟสายวินเทจเก๋ๆกัน คือ Tadami line ที่จะวิ่งผ่านจุดนี้ตามเวลาดังนี้ ดูคำว่า Viewpoint คือรถไฟมาทั้งขาไป ขากลับ จะรอถ่ายตอนไหนก็ได้

พอรถไฟวิ่งมาเท่านั้นแหล่ะ กดชัตเตอร์รัวๆ 100 ใบ แล้วเลือกดีที่สุดมา 1 ใบคืออันนี้ ฮ่าๆ แต่สวยใช่ไหมล่ะ

พิกัด จุดชมวิว คาเนยามะฟุเรไอฮิโรบะ かねやまふれあい広場

ที่อยู่	〒968-0011 福島県大沼郡金山町川口

จากจุดนี้ เราก็ไปเข้าโซนภูเขาบ้าง โดยรูทนี้เกิดมาจากการขับรถเล่นไปเรื่อยๆ ตามทาง จนมาเจอถนนสายหนึ่งที่มีบ้านคนประปรายริมสองข้างทาง ด้านขวาเป็นแม่น้ำ Nojiri River คู่กันมากับถนนที่เราขับผ่าน คือพอเป็นวิวที่มีแม่น้ำแบบนี้ เราก็พอรู้แล้วว่าหนทางข้างหน้าต้องมีจุดให้เราจอดถ่ายรูปได้แน่นอน ซึ่งก็ตามนั้นเลย จอดจ้าจอด

แค่สายน้ำไหล ยังดูงดงามขนาดนี้เลย

พิกัด Nojiri River

ที่อยู่	日本、〒968-0014 福島県大沼郡金山町玉梨 国道400号

พอเราขับรถไปต่อ ระหว่างทางนั้น เราก็จะเจอวิวทั้งขาไปและขากลับแบบนี้เลย โอ๊ยสวยมาก อดไม่ไหว ลงมาถ่ายรูปอีกรอบ

หิมะละลายกลายเป็นสายน้ำไหลลงมาด้านล่าง * เดือนเมษายน

ที่เมืองนี้ เราจะเห็นนาข้าวแบบขั้นบันไดเยอะมาก เป็นวิวข้างทาง

ขากลับออกจากเมืองนี้ ก็ยังได้เก็บภาพในขณะนั่งอยู่บนรถมาด้วยนะ ฮ่าๆ ดูเอาว่าวิวสวยๆมีเยอะแค่ไหน วางกล้องไม่ได้เลย

เราขับรถต่อมาถึงจุดนี้และหยุดถ่ายภาพนานมาก เพราะสวยสะกดจิต สีของน้ำในแม่น้ำเป็นสีเขียว ตัดกับสีของหินผาสีน้ำตาล ดูเป็นความแตกต่างอย่างคลาสสิกที่ลงตัวมากๆ

ซูมเข้าไปอีกนิดๆ ขุ่นพระ ใจละลาย ถ้าช่วงกลางปี คือ พฤษภาคม – ตุลาคม ฝั่งด้านล่างตรงข้ามนั้น จะมีบริการเรือนั่งล่องแม่น้ำนี้ด้วยนะ โดยที่เรือ 1 ลำจะบรรทุกผู้โดยสารได้ 4 คน ราคาต่อรอบ 5000 เยน ใช้เวลาล่องเรือนาน 30 นาที แต่ถ้าใครจะเหมานั่งคนเดียว ก็จัดไปจ้า

นี่ก็ซูมเกิน เห็นแต่กิ่งไม้ เอาน่ะมันอาจจะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างความเป็นติสต์ กับ ความรก

เดินออกมาส่องที่สะพาน ส่วนรถยนต์ก็จอดที่เดิม กรีดร้องอีกรอบ สวยกว่าดิชั้นก็วิวด้านล่างนี้เลยจ้า

สวยไม่ปราณีใครเลยจริงๆ

สวยที่สุดในซอยแม่เอ๊ย

วิวนี้ ถ้าไปบอกเพื่อนว่ามาเที่ยวยุโรปก็เชื่อนะเนี่ย

จะมองจากฝั่งไหนจากด้านบนสะพานก็สวยงาม

รายละเอียด ตำแหน่งจอดรถได้ สังเกตว่าเมื่อเราขับรถมาตามถนน สาย 252 แล้วเลี้ยวขวาข้ามสะพานมา เมื่อสุดทางสะพาน ให้เลี้ยวขวาอีกที แล้วตรงไปต่อ จะเจอทางตัน ตรงนั้นคือจุดจอดรถได้ และเดินมาถ่ายวิวนี้ได้

จอดรถตรงนี้ได้

เรามีอีกจุดหนึ่งที่น้อยคนนักจะได้เห็นวิวนี้ และครั้งนี้เราก็ได้คนในพื้นที่เป็นคนแนะนำมา สวยงามมาก เราเห็นสะพานสองอันเคียงคู่ซ้อนกันอยู่ในตอนที่เราถ่ายภาพ ด้านล่างก็เป็นลำธาร เป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนพฤศจิกายนนั้น ต้นไม้ที่นี่จะเป็นสีแดงส้มเลยนะ

เสียงน้ำไหลดังตลอดเวลา

เพิ่งสังเกตว่ามีน้ำตกเล็กๆด้านข้างด้วย

มุมที่ยืนถ่ายรูปจะเป็นแบบนี้ เวลายืนถ่ายต้องใช้แขนเกี่ยวสายกล้องดีๆนะ ส่วนจุดจอดรถคือใกล้ๆกันกับที่ยืนถ่ายภาพนี้ คือตรงต้นสะพานทางโน้น จะมีบ้านเก่าซ้ายมือ ตรงนั้นมีซอยให้เลี้ยวซ้าย หลบข้างทางจอดรถได้ไม่อันตราย แล้วค่อยเดินย้อนมาถ่ายภาพ

พิกัด Miyashita Arch Sankyodai Bridges

ที่อยู่	〒969-7511 福島県大沼郡三島町宮下水尻

ระหว่างจะออกจากเส้นทางนี้ ก็จะเห็นขบวนรถไฟสาย Tadami วิ่งผ่านไปมาเรื่อยๆ

จากนั้น ก่อนที่เราจะกลับไปคืนรถ จุดหนึ่งที่เราไม่ควรพลาดคือจุดพักรถ ทานข้าว ช้อปปิ้ง ชื่อว่า Ikoi no yakata Hotto in Yasaizu

ด้านในมีของฝาก ของที่ระลึก ขนม เครื่องดื่ม อาหารและมีบ่อออนเซ็นแบบแช่เท้าด้วยนะ ที่สำคัญคือ ฟรี วั้ยชอบๆ ตามป้ายนี้ลงไปเล้ย

บ่อออนเซ็นแช่เท้าด้านใน

บ่อออนเซ็นแช่เท้าด้านนอก แช่เพื่อคลายความเมื่อยล้า ก่อนจะเดินออกไปเก็บภาพสวยๆกันต่อ

Ikoi no yakata Hotto in Yasaizu ( 憩の館 ほっとinやないづ )

ที่อยู่	日本、〒969-7201 福島県河沼郡柳津町柳津下平乙１５１−１
เวลาทำการ	เดือนเมษายน – พฤศจิกายน 9:00 – 18:00 เดือนธันวาคม – มีนาคม 9:00 – 17:00 ออนเซ็นแช่เท้า 9.00 – 16.00 หยุดทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 และ 4 ของเดือน ร้านอาหาร 11.00 – 14.00 หยุดทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 และ 4 ของเดือน (เสาร์ อาทิตย์ เปิดถึง 15.00 ) /td>
โทรศัพท์	+81 241-41-1077
Website	Ikoi no yakata Hotto in Yasaizu

เรายังคงจอดรถไว้ที่เดิม แต่เราเดินมาถ่ายภาพที่ตรงแม่น้ำด้านข้าง โอ้ว สวยอีกแล้ว

มีขอบรั้วสีแดงสดใส

เดินตามรั้วสีแดงมาอีกฝั่งนี้ ก็จะเป็นจุดที่มายืนถ่ายภาพนี้จากบนสะพานได้

มองไปรอบๆจะเจอมุมนี้ ด้านหน้าคือวัดที่ถือกำเนิดในสมัยยุคเฮอันอายุเก่าแก่กว่า 1200 ปีเชียวนะ ชื่อว่า วัด Enzoji เค้าให้สังเกตว่าลักษณะวัดแห่งนี้คล้ายกับวัดน้ำใสหรือ Kiyomizudera ที่เกียวโตเลย

ภาพมุมกว้างมองเห็นแม่น้ำทาดามิสีเขียวมรกตสวยงาม

มีทางเดินสีแดงสดสวย แต่เราจะไม่เดินตรงนี้ เราจะขับรถขึ้นไปจอดด้านบนของวัดดีกว่า แล้วค่อยเดินเที่ยวชมวัด

บริเวณด้านในของวัดยังมีรูปปั้นวัวหินที่เก่าแก่มาก เราเชื่อว่า ถ้าลูบวัวตรงจุดที่อยากให้บรรลุความสำเร็จหรืออยากขอสิ่งใดก็ลูบตรงนั้น เช่น อยากให้เรียนเก่งทำข้อสอบได้ก็ลูบถูที่หัวของวัว ถ้าปรารถนาให้ร่างกายแข็งแรงก็ลูบที่ลำตัว เป็นต้น

และที่วัดแห่งนี้เอง ก็คือเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของวัวสีแดงน่ารักๆ ที่เรียกว่า Akabeko และเห็นได้ทั่วไปในเขตไอสุและรอบๆโซนนี้ เล่ากันมาว่า วัวสีแดงตัวนี้ ได้ถวายตัวมาช่วยสร้างวัดนี้ให้สำเร็จขึ้นมาใหม่ เนื่องจากวัดเสียหายหนักจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อ 400 ปีก่อน ได้ช่วยขนวัสดุหนักๆขึ้นมาจนถึงเนินเขาแห่งนี้ จนสำเร็จมาเป็นวัดปัจจุบัน ตัวนี้เค้าชื่อว่า คุณแม่ มิทสึโกะ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองไอสุไปแล้ว

แม้ว่า Akabeko จะถือกำเนิดขึ้นที่เมืองYanaizuนี้ก็ตาม แต่เรากลับพบเจ้าตัวนี้เป็นของที่ระลึกและเป็นสัญลักษณ์ประจำตามสถานที่ต่างๆในเมืองAizuwakamatsu มากกว่า นั่นเป็นเพราะในสมัยที่มีโชกุนปกครองอยู่ ทางเจ้านายต่างๆที่อยู่ในปราสาทใช้เจ้าAkabekoเป็นของขวัญ ของที่ระลึกกันอย่างแพร่หลาย ดังนั้นทางโซนโน้นถึงได้รับความนิยมมากกว่า

ดูความเป็นประวัติศาสตร์ ทำมาจากไม้ทั้งอาคารเลย ยังคงความสวยงามอยู่มาก แม้จะมีการปรับปรุงและซ่อมแซมมาตลอด แต่ครั้งล่าสุดที่ได้ทำการทำนุบำรุงอาคารไม้หลักคือช่วงยุคเอโดะเชียวนะ

เก็บภาพถ่ายด้านล่างจากวิวด้านบนระเบียงของวัด สวยงามมากมาย ได้รับความสุขก่อนกลับบ้าน

Enzoji Temple (圓蔵寺)

ที่อยู่	〒969-7201 福島県河沼郡柳津町柳津寺家町甲１７６
เวลาทำการ	6:00 – 17:00 ( ธันวาคม – กุมภาพันธ์ เปิดถึง 16.30 , พฤษภาคม – สิงหาคม เปิดถึง 17.30)
ราคา	ฟรีและมีที่จอดรถ
โทรศัพท์	+81 241-42-2002
Website	Enzoji Temple

ข้อสรุป

Kaneyama Town เป็นเสมือนเมืองที่ยิ่งกว่าน่าค้นหา มีเสน่ห์ มีความงามที่ซ่อนเอาไว้มากมายและบางมุมอาจยังไม่เคยได้มีใครนำภาพออกมาให้เราได้ชมเลย การที่เราได้เดินทางไปด้วยตัวเอง นอกจากเราจะได้รูทการเดินทางใหม่ๆ เห็นธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคโทโฮขุแล้ว ภาพของเราอาจจะไม่ซ้ำใครและเป็นภาพเดียวในโลกก็ได้ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง ญี่ปุ่นยังมีอีกหลายแห่งที่เราไม่รู้อีกเยอะ มาค้นหากัน