รีวิวเที่ยว 5 วัน 4 คืน โทชิงิ มินามิโทโฮคุ ทริปสัมผัสหิมะสุดฟิน Tochigi – Fukushima Part 1

Tokyo-Tochigi Day1

เราเริ่มออกเดินทางจากโตเกียวมุ่งหน้าสู่จังหวัด Tochigi เพื่อเริ่มต้นทริป โทชิงิ มินามิโทโฮคุ กันเลย

Four Seasons Bamboo Forest Wakayama Farm

ป่าไผ่ใกล้โตเกียว ป่าไผ่ขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก หากเดินทางด้วยชินคันเซนก็ใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว

ป่าไผ่แห่งนี้มีขนาดใหญ่มากมีขนาดเท่ากัย 34 สนามฟุตบอล หรือ โตเกียวโดม 5 โตเกียวโดมเลย อยู่ทางตอนเหนือของเมืองอุสึโนะมิยะ จนทำให้เป็นแหล่งผลิตหน่อไม้ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเลยล่ะ และหน่อไม้ของที่นี่เมื่อผลิตออกมาแล้วก็จะถูกส่งไปยังตลาดในโตเกียว เพื่อนำไปไปขายต่ออีกที่ ขอบอกว่าคนญี่ปุ่นชอบทานหน่อไม้มากๆ

แต่นอกจากหน่อไม้แล้วไม้ไผ่ของที่นี่ก็ยังถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเฟอร์นิเจอร์ หรือ แฟชั่นสุดล้ำ อย่างกระเป๋าแบรนด์ดัง ก็ยังมีวัตถุดิบมาจากไม้ไผ่ด้วย รวมไปถึงจานชามเองไม้ไผ่ก็ยังสามารถนำไปแปรรูปเพื่อนำมาใช้จนเหมือนพลาสติกจริงๆ ได้อีกด้วย

ชื่อเสียงเรื่องไผ่ว่าโด่งดังอยู่แล้ว แต่ที่นี่ก็ยังมีชื่อเสียงเรื่องเกาลัดไม่แพ้กัน ถือได้ว่าถ้าอยากกินเกาลัดต้องมาที่นี่

เอาล่ะ เราไปเดินเที่ยวชมป่าไผ่กันเถอะ ด้วยความสวยงามของตัวป่าไผ่นั้น ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยม และถูกนำมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายโฆษณาและละครหลายเรื่อง บรรยากาศที่นี่สวยมากๆ

ภายในป่าไผ่มีคาเฟ่สไตล์แคมป์ปิ้ง ให้เราได้ปิ้งมาชเมลโล่ จิบชาร้อนๆ ทานขนมเกาลัดหวานกลมกล่อม อร่อยที่สุด

ชุดเครื่องดื่มชา อร่อยมาก ขนมเกาลัดคือดีสุดๆ พอกินหมดแล้วเราสามารถนำกระบอกไม้ไผ่กลับบ้านได้ด้วย

Four Seasons Bamboo Forest Wakayama Farm

เกี๊ยวซ่า ร้าน Utsunomiya gyoza Satsuki Tokujiro

เดินเที่ยวเล่นจนหิว มาต่อกันที่ร้านเกี๊ยวซ่า Satsuki ร้านเกี๊ยวซ่าชื่อดังแห่งเมือง Tochigi ร้านนี้มีเมนูเซ็ตเซิร์ฟ ที่ทั้งเซ็ตล้วนมาจากแป้งเกี๊ยว ไม่ว่าจะเป็นซุปเกี๊ยวซ่า เกี๊ยวซ่าย่าง สลัดเกี๋ยวซ่า และของหวานปิดท้ายจากแป้งเกี๊ยวซ่า

ตัวไส้เกี๊ยวซ่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเปลือกส้มยูสุ ทำให้ทุกคำที่กินเข้าไปหยุดกินไม่ได้เลยทีเดียว รสชาติไม่จัดมาก แต่สำหรับคนที่ชอบทานเกี๊ยวซ่าถูกใจร้านนี้แน่นอน

ส่วนเมนูของหวานนั้นเป็นแป้งเกี๊ยวซ่าสอดไส้แยมกีวี่หวานอมเปรี้ยว เป็นเมนูที่ไม่เคยกินมาก่อน แต่อร่อยถูกปากอย่างไม่น่าเชื่อเลย แนะนำให้จองร้านนี้ก่อนมา คนแน่นมาก

Utsunomiya gyoza Satsuki Tokujiro

Nikko Toshogu

มาสู่สถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก ซึ่งเป็นศาลเจ้าดก่าแก่กว่า 400 ปี ที่โด่งดังที่สุดในบรรดาวัดและศาลเจ้าบริเวณนิกโก้นี้ ตัวศาลเจ้ามีประวัติความเป็นมาที่น่าทึ่งมาก โดยตัวสถาปัตยกรรมนั้นได้รับอิทธิพลมาจากจีน ทำให้มีความคล้ายคลึงกับจีนไปบ้าง

ตัวเจดีย์ห้าชั้นมีหลังคาที่ขนาดเท่ากัน เพื่อให้มีความสามารถในการรองรับหิมะที่จะตกหนักได้ โดยในชั้นที่ 5 ตัวระแนงหลังคาจะมีดีไซน์ที่แตกต่างจากหลังคาชั้นอื่น โดยเป็นสไตล์จีนนั่นเอง

เดินผ่านประตูเข้ามาก็จะพบกับสถาปัตยกรรมโบราณอันเลื่องชื่อ

อาคารด้านในจะมีลวดลายประดับ อาคารนี้เป็นอาคารเก็บของในพระราชพิธี จะมีลวดลายประดับช้าง โดยช้างนี้เกิดขึ้นมาจากจินตนาการ “ช้างในจินตนาการ” คือช้างหูกลับ กับช้างสามหางนั่นเอง

ลวดลายช้างในจินตนาการ

ส่วนอาคารเลี้ยงม้านี้นจะมีลวดลายประดับลิง โดยมีความเชื่อว่าลิงจะสามารถรักษาได้ เป็นความเชื่อจากจีน โดนลวดลายต่างๆ จะเล่าเรื่องราวของชีวิตคนตั้งแต่เกิดจนโต เป็นการสอนธรรมอีกแบบ มิซารุ คิคาซารุ อิวาซารุ (ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดสิ่งที่ไม่ดี)

เอาล่ะเริ่มเข้าไปในศาลเจ้ากันเถอะ เดินมาถึงหน้าประตู Yomeimon เราจะเห็นลวดลายประดับมากมายสีสันสวยงาม โดยสีที่ทาด้านบนประตูนี้มีถึง 7 สีด้วยกันเลย โดยสีน้ำเงินเป็นสีที่แพงที่สุดเลย

หลังจากที่ Tokugawa Ieyasu เสียชีวิตไปแล้ว ได้เปลี่ยนชื่อให้เป็น Tosho Daigongen โดยที่แห่งนี้เป็นสุสานของ Tosho Daigongen นั่นเอง

อยากจะบอกว่าลวดลายต่างๆ บนกำแพงล้วนแล้วแต่บอกเรื่องราวของชีวต ตั้งแต่เด็กจนผู้ใหญ่

มาถึง “เนมุริเนโกะ” แมวนอนหลับอยู่กับนกกระจอก แสดงให้เห็นถึงความสันติสุขของสัตว์สองชนิดที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้แต่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เป็นเจตจำนงว่าอยากให้โลกนี้สงบสุข

ภายในศาลเจ้ามีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลชวนให้มาสัมผัสเองอยู่มากมาย หากมาแล้วอยากให้ลองเดินชมตามจุดต่างๆ จะมีกิมมิคเล็กๆ น่ารักที่แฝงคำสอนต่างๆ ไว้ด้วย

Nikko Toshogu

ยุบะมันจู Sakaeya ​​Fried Yubamanju – Tobu Nikko Station

หลังจากไปเดินทัวร์ทั่วมรดกโลกมาแล้ว เรามาแวะกินยูบะมันจูกันต่อ ยูบะมันจูคือมันจูที่ถูกห่อด้วยฟองเต้าหู้ เอาไปทอด กรอบอร่อยเค็มนิดๆ หวานๆ ถั่วแดง พอกินแล้ว อยากร้องขอเพิ่มอีกชิ้นเลย!

ร้านนี้แถวยาว ต้องต่อแถวเรียงคิวถึงจะได้ลิ้มลอง ร้านตั้งอยู่นห้าสถานี Tobu Nikko เลย หาง่ายมากๆ หากมาแล้วอย่าลืมไปลอง ของดีบอกต่อ

Sakaeya ​​Fried Yubamanju – Tobu Nikko Station

Kamakura Festival แห่ง Yunishigawa Onsen ที่ Heike No Sato

เราออกเดินทางตะลุยหิมะกันต่อไปที่ Kamakura Festival แห่ง Yunishigawa Onsen ที่จัดขึ้นช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เราไปดูกันที่ Heike No Sato

พอมาถึงลมหนาวก็ปะทะ หิมะก็โปรยปราย บรรยากาศโรแมนติก แต่หนาวจับใจ เราออกเท้าเดินเข้าไปด้านในก็พบกับความอบอุ่นใจ กับกระท่อมหิมะที่ถูกประดับไปแสงไฟ เรียงรายไปทั่วบริเวณ เราสามารถเดินดูโดยรอบ และซึบซับกับบรรยากาศได้เรื่อยๆ พร้อมฟังเพลงคลอเบาๆ

กระท่อมหิมะ ขนาดที่เราสามารถเข้าไปได้ ด้านในเป็นศาลเจ้า

Kamakura Festival แห่ง Yunishigawa Onsen ที่ Heike No Sato

Kinugawa Plaza Hotel

เดินทางกันต่อมาพักที่โรงแรม Kinugawa Plaza Hotel โรงแรมสไตล์เรียวกังออนเซ็น เรามาถึงก็เตรียมเก็บของเข้าที่พักแล้วตรงไปที่ห้องอาหารด้วยความหิว

ทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้าของที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทานไม่อั้น มื้อเช้าเลยเลือกทานแบบผสม แต่ส่วนมื้อเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์ชาบู ทานไม่อั้น แต่นอกจากชาบูยังมีเมนูข้างเคียงอื่นๆ ให้เลือกอีก อร่อยมาก ทานเพลินๆ แป๊บเดียวอิ่ม

ชาบูชาบู ดับหนาว

เทมปุระแสนอร่อย เติมแล้วเติมอีก

ภายในห้องพักเองวิวของห้องพักก็จะเป็นหิวแม่น้ำด้านข้างโรงแรมด้วย ตื่นเช้ามานั่งชมวิวชิลๆ ก่อนไปทานมื้อเช้า ฟินสุดๆ แต่มาที่นี่แล้วก็อย่าลืมไปแช่ออนเซ็นกันน้า ที่นี่มีห้องอาบน้ำออนเซ็นให้บริการด้วย แช่แล้วสบายสุดๆ ไปเลย

Kinugawa Plaza Hotel

Fukushima Day2

ออกเดินทางเที่ยว โทชิงิ มินามิโทโฮคุ กันต่อแต่เช้าเพื่อไปหมู่บ้านโบราณ Ouchijuku กัน

หมู่บ้าน Ouchijuku

เราเดินทางออกจากที่พัก ตรงมายังหมู่บ้าน Ouchijuku เดินท่ามกลางหิมะขาวโพลนนุ่มๆ ที่พึ่งตกไปเมื่อคืน หมู่บ้าน Ouchijuku เป็นหมู่บ้านโบราณสำคัญซึ่งถูกใช้เป็นเส้นทางการการค้าอาอิซุนิชิไคโดะ เชื่อมต่อเมืองอิซุกับนิกโก้ในช่วงสมัยเอโดะ และยังเป็นจุดพักของเหล่าพ่อค้าและโชกุนอีกด้วย

เป็นบ้านของบุคคลสำคัญ หรือบุคคลที่มีฐานะสูง จึงหันด้านยาว มีลักษณะแตกต่างจากบ้านหลังอื่น

จุดชมวิวจากด้านบนภูเขา

จุดเด่นของที่นี่คือบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบมุงหลังคายังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อรองรับหิมะหนาๆ ในฤดูหนาวแบบนี้ อาหารยอดนิยมคือบะหมี่โซบะที่ใช้ต้นหอมแทนตะเกียบนั่นเอง

หมู่บ้าน Ouchijuku

Ashinomaki Onsen Ookawaso

มาถึงเรียวกัง 5 ดาวที่ไม่มาไม่ได้ Ashinomaki Onsen Ookawaso เพราะมีความคล้่ายกับฉากตอนหนึ่งในอนิเมะชื่อดังอย่างดาบพิฆาตอสูร หากมาที่นี่แล้วมีโอกาสได้พักล่ะก็ อย่าลืมรอช่วงเวลา 18.00 น. เพื่อรอชมการแสดงซามิเซง เป็นฉากที่สร้างความประทับใจให้คนชอบอนิเมะและคนทั่วไปที่ได้ดูการแสดงนี้ ต่างประทับใจ ด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะ

ลองมาดูมุมใกล้ชิดกันบ้าง

บรรยากาศภายในโรงแรมอบอุ่นสบายน่าพัก

Ashinomaki Onsen Ookawaso

Takino

เราไปทานเมนูชื่อดังกันต่อ กับ Wappa rice เมนูข้าวกล่องไม้วัปปะ กับสามเมนูแสนอร่อยให้เลือก มีทั้งปลา เห็ด และเนื้อม้าสับ

โดยข้าวกล่องไม้นี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยอดีต เพราะคนสมัยก่อนจะต้องออกไปทำงานจึงได้เกิดการทำข้าวกล่องนี้ขึ้นมา เพื่อพกออกไปด้วยนั่นเอง

ส่วนตัวอาหารในข้าวกล่องนี้ เราเลือกทานเนื้อม้าสับ อยากบอกว่าไม่มีกินคาวสักนิด ทานไปเพลิดๆ แป๊บๆ หมดกล่อง อร่อยมาก ข้าวนุ่ม กับข้าวอร่อย ถูกปากคนไทยแน่นอน แต่ถ้าใครที่ยังไม่กล้าทานเนื้อม้าเราแนะนำให้ลองทานเมนูปลาแซลมอน หรือ เห็ดก่อน หรือใครที่ตัดสินใจเลือกไม้ได้ก็กินทั้งสามอย่างเลยก็ได้ มีหน้ารวมให้เลือกด้วย

ตักเข้าปากไปนึงคำ แล้วก็หยุดทานต่อไม่ได้อีกเลย

อันนี้เป็นหน้าปลาแซลมอนล่ะ

อันนี้เป็นหน้าเห็ด

Takino

Tsuruga Castle

ปราสาทหลังคาแดง ปราสาทไร้พ่าย เรียกอีกชื่อคือ ปราสาทวาคามัตสึ (Wakamatsu Castle) เป็นปราสาทที่ผ่านเหตุการณ์อะไรมาเยอะมากจริงๆ เรามาเดินชมปราสาทสึรุกะที่สุดจะแข็งแกร่งกัน ปราการของปราสาทสึรุกะมีทั้งหมด 5 ชั้น เด่นด้วยสีของหลังคากระเบื้องสีแดง ซึ่งมีเพียงที่เดียวในญี่ปุ่นเท่านั้น

ไม่ว่าจะแผ่นดินไหว ปราสาทนี้ก็ยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางภัยพิบัติ แต่ได้มีคำสั่งให้ทำลายปราสาทหลายแห่งในยุคปฏิรูปเมจิ และในช่วงที่ถูกทำลายไปในพื้นที่ของงปราสาทก็ถูกนำไปใช้ประโยซน์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งจักรยาน หรืออื่นๆ โดยหลังจากนั้นในปี 1965 ได้รับการสร้างใหม่ให้เหมือนกับรูปแบบปราสาทเดิมเมื่อศตวรรษที่ 17

หลังคาสีแดงสดนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำมาใช้กับปราสาทแห่งนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ทนทานต่อภัยพิบัติ และธรรมชาติทุกรูปแบบ ตัวปราสาทสวยโดดเด่นมาก

จริงๆ แล้วในตัวปราสาทนี้ยังมีความน่าสนใจอีกหลายอย่าง ทั้งทางด้านประวัติศาสต์ให้เราได้เที่ยวสนุกสนาน สำหรับใครที่ไปที่นี่ก็อย่าลืมไปตามหาหินนก กับหินหัวใจมาบอกรักกันด้วยนะ แต่นอกจากประวัติศาสต์ที่น่าสนใจ ความสวยงามเองก็ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในช่วงซากุระเบ่งบานจะสวยสุดๆ ไปเลย

Tsuruga Castle

Tadami Line

ทาดามิ ไลน์ จุดชมรถไฟที่โรแมนติกที่สุดในโลก หากเรามาถูกช่วงเวลาที่ตรงนี้เราจะได้เห็นขบวนรถไฟวิ่งผ่านสะท้อนกับพื้นน้ำ เป็นภาพที่งดงามมาก แต่ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีรถไฟวิ่งผ่านก็ตาม ภาพที่เห็นตรงหน้าก็สวยจนยากที่จะลืม

โดย รถไฟสายเจอาร์ทะดะมิ (JR Tadami Line) เป็นรถไฟท้องถิ่น (Local Train) เชื่อมการเดินทางระหว่างสถานีไอซุ-วากามัทสึ (Aizu-Wakamatsu Station) เมืองไอซุวากามัทสึ (Aizu-Wakamatsu) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) กับสถานีโคะอิเดะ (Koide Station) เมืองอุโอะนุมะ (Uonuma) จังหวัดนีงะตะ (Niigata)

จุดที่เราไปเป็นจุดชมวิว A แต่จุดชมวิวนี้จะมีจุดสังเกตการณ์ย่อยๆ อีก โดยมีด้วยกันทั้งหมด 4 จุด คือ A B C และ D จุดชมวิวแต่ละที่ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป มีมุมมองความสูงที่แตกต่างกัน

จุดชมวิว Tadami Line

Shibuki-gori ทะเลสาบ Inawashiro

ที่สุดท้ายของวันเราเดินทางมาที่ทะเลสาบ Inawashiro เพื่อชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ น้ำแข็งชิบุกิ (Shibuki-Gori) ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ โดยเป็นน้ำแข็งที่เกาะตัวกับหญ้าหรือต้นไม้ริมน้ำจนเกิดเป็นรูปร่างที่สวยงาม

สามารถชมได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ในทุกปีตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. ถึงกลางเดือน ก.พ. น้ำแข็งชิบุกิที่ก่อตัวขึ้นจากน้ำถูกพัดด้วยลมตะวันตกที่รุนแรงและเกาะตัวบนต้นไม้ข้างทะเลสาบนั้นถือได้ว่าเป็นศิลปะที่สร้างขึ้นจากธรรมชาติเลยทีเดียว

โดยใช้เวลาเดินจากจุดจอดรถเพียง 15 นาที ระหว่างเดินก็ชมธรรมชาติความสวยงามของป่าที่ถูกหิมะปกคลุมไปด้วย และนี่เป็นแผนที่บริเวณรอบๆที่จะเกิดก้อนน้ำแข็งที่รูปร่างสวยงามในช่วงฤดูนี้ค่ะ

วิวระหว่างทางเดินทำให้วอกแวกแวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง

Shibuki-gori ทะเลสาบ Inawashiro

Urabandai lake resort

เดินฝ่าลมหิมะกันมาทั้งวัน วันนี้เรามาพักกันที่ Urabandai Lake Resort พอเข้ามาถึงห้องพักก็รู้สึกหายเหนื่อย อยากกระโดดขึ้นเตียงพักผ่อน แต่ไม่ได้ ที่พักแห่งนี้มีออนเซ็นกลางแจ้ง ท่ามกลางหิมะ นอกจากนี้ยังมีมื้อเย็นแบบบุฟเฟ่ต์รอเราอยู่ เราเดินตรงไปที่ห้องอาหารเย็นก่อนเลย พอว่าอาหารอลังการมาก ไม่ว่าจะเมนูญี่ปุ่น หรือตะวันตก ไอศครีม ของหวานเค้ก จัดเต็มไปเลย พนักงานที่นี่น่ารักมาก สังเกตว่าเราเป็นคนไทย ก็พูดไทยกับเราด้วยคำง่ายๆ ด้วย

หลังจากนั้นเราก็ไปผ่อนคลายแช่ออนเซ็น กลางหิมะ ฟินๆ สบายๆ แล้วเข้านอนเตรียมตัวสำหรับการเดินทางวันถัดไปกัน

Urabandai lake resort

สรุป

ทริป โทชิงิ มินามิโทโฮคุ ตะลุยแดนหิมะ สุดฟิน อินทั้งเที่ยว จัดเต็มทั้งเรื่องกิน บอกเลยว่าทริปนี้ต้องถูกใจชาวเที่ยวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเที่ยวตามง่าย เข้าสู่แลนด์มาร์ดเด่นดัง ที่พักก็ดีงาม ต้องบอกต่อ แถมของกินที่โรงแรมก็ดีจนอยากเพิ่มกระเพาะ ส่วนที่เที่ยวก็ดีต่อใจ สวยทั้งความทรงจำ ถ่ายรูปยังสวยอีก ใครมองหาทริปเที่ยวไม่ง่ายๆ จากโตเกียว อยู่โซน โทชิงิ มินามิโทโฮคุ ต้องดูทริปนี้แล้วเที่ยวตาม!

อย่าลืมอ่านบทความต่อ พาร์ท 2 กันนะทุกคน

5 วัน 4 คืน โทชิงิ มินามิโทโฮคุ ทริปสัมผัสหิมะสุดฟิน เที่ยว Yamagata – Miyagi (Sendai) Part 2

ไปอ่านต่อเลย