Golden route เที่ยวญี่ปุ่นเส้นทางใหม่ สนุกกับกิจกรรมหิมะ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ (ภาค2มิยางิ-ยามากาตะ)

โทชิงิ/มินามิโทโฮคุเป็นพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ โทชิงิ ฟุกุชิมะ มิยางิ และยามากาตะ จังหวัดโทชิงิอยู่ในภูมิภาคคันโตเช่นเดียวกับโตเกียว ส่วนฟุกุชิมะ มิยางิ และยามากาตะตั้งอยู่ในตอนใต้ของภูมิภาคโทโฮคุ จึงเรียก 3 จังหวัดนี้ว่าบริเวณมินามิโทโฮคุ ซึ่งแปลว่าโทโฮคุตอนใต้ 4 จังหวัดนี้มีหิมะตกหนักในฤดูหนาว นอกจากกินซังออนเซ็นในยามากาตะแล้ว แต่ละจังหวัดก็ยังมีแหล่งออนเซ็นมากมาย เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระก็จะผลิบานอย่างสวยงาม แต่เนื่องจากหลายพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่าโตเกียว จึงมีโอกาสจะได้ชมซากุระช้ากว่าโตเกียว ซึ่งตรงกับช่วงสงกรานต์พอดี บางช่วงเวลายังสามารถชมหิมะพร้อมซากุระได้ในบางพื้นที่ อีกทั้งฤดูใบไม้ร่วงในภูมิภาคนี้ยังมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอีกด้วย ที่สำคัญยังเดินทางสะดวกจากโตเกียวสู่ใจกลางของแต่ละจังหวัดด้วยชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษ

ทริปนี้เหมาะกับใคร Model course นี้เหมาะกับคนที่ยังเที่ยวโทโฮคุไม่ทั่ว เพราะเราแนะนำที่เที่ยวยอดฮิตในมิยางิและยามากาตะอย่างเซนได มัตสึชิมะ ปีศาจหิมะแห่งซาโอ กินซังออนเซ็น และอีกมากมาย ให้คุณสนุกกับหิมะและกิจกรรมต่างๆ พร้อมสัมผัสเสน่ห์แห่งโทโฮคุกันแบบจัดเต็ม ไปเที่ยวตาม Golden route ตะลุยที่เที่ยวชื่อดังแห่งมิยางิและยามากาตะกันเลย

วิธีเดินทางสู่เซนได

เนื่องจากการบินไทยยังงดให้บริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เซนไดจนถึงตอนนี้ (มีนาคม 2021) จึงสามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงได้ในเว็บไซต์ของการบินไทย

กรณีมาจากโอซาก้าหรือฟุกุโอกะ แนะนำให้นั่งเครื่องบินมาลงเซนได ส่วนใครมาจากโตเกียว ขอแนะนำวิธีเดินทางด้านล่างนี้ เลือกตามงบประมาณหรือตำแหน่งที่พักกันได้เลย

ชินคันเซ็น

เส้นทาง：Tokyo Station（Tohoku Shikansen Hayabusa / Hayate / Yamabiko）→ Sendai Station
เวลาที่ใช้：ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีขึ้นไป
ราคา：10,560 เยนขึ้นไป (ราคาจะต่างไปตามชนิดของชินคันเซ็นและคลาสของที่นั่ง)

บัสด่วน

เส้นทาง：Tokyo Station（Tohoku Express Bus เป็นต้น）→ Sendai Stion
เวลาที่ใช้：ประมาณ 5 ชั่วโมง-7 ชั่วโมง
เราคา：3100 เยนขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับบริษัทรถบัส）

พาสสุดคุ้ม

　JR EAST PASS（Tohoku Area）พาสสุดเหมาจ่ายคุ้มที่ใช้ขึ้นรถไฟ JR รวมถึงชินคันเซ็นในบริเวณโทโฮคุแบบไม่อั้นถึง 5 วัน หากเดินทางด้วยรถไฟ JR และชินคันเซ็นเป็นหลัก พาสนี้จะคุ้มมาก เข้าถึงเส้นทางท่องเที่ยวที่หลากหลาย
ผู้ใหญ่ (12 ขึ้นไป) 20,360 เยน
เด็ก (6 – 11 ปี) 10,180 เยน

JR EAST PASS（Tohoku Area）

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

เมื่อมาถึงเซนได ก่อนอื่นขอพาไปยังมัตสึชิมะ ที่ติด 1 ใน 3 อันดับทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เกาะน้อยใหญ่กว่า 260 เกาะสร้างวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พาไปนั่งเรือชมอ่าว ต่อด้วยวัดซุยกันจิของนักรบสมัยเซ็นโกคุอย่างดาเตะ มาซามุเนะ และชิมของดีประจำถิ่นอย่างหอยนางรม มาดูกันว่าเด็ดขนาดไหน

DAY1 ชม 1 ใน 3 ทัศนียภาพแห่งญี่ปุ่นที่เกาะมัตสึชิมะ

การเดินทาง：จาก Sendai Station ถึง Matsushimakaigan Station นั่งรถไฟ Senseki Line ประมาณ 40 นาที

Matsushima Rikyu (Ume Love)

เริ่มต้นจาก Matsushima Rikyu ที่เดิน 1 นาทีจาก Matsushimakaigan Station เท่านั้น เรียกได้ว่ามีความสะดวกสบายสุดๆ

Matsushima Rikyu เพิ่งเปิดบริการในปี 2020 คือแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านขายของฝาก มุมให้ข้อมูลท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงเวิร์กช็อป ในตอนกลางคืน สวนที่อยู่ด้านข้างจะประดับไฟส่องสว่างสวยงาม มาเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นจุดถ่ายภาพได้สบายด้วยวิวที่สวย แถมยังมีร้านรวงบริการครบ

Matsushima Rikyu

Rental Kimono Ume Luv

ก็วิวรอบๆ สวยขนาดนี้ก็ต้องแต่งตัวให้เป๊ะ แนะนำร้าน Ume Luv ร้านเช่าชุดกิโมโนภายใน Matsushima Rikyu แต่ก่อนจะมาใช้บริการต้องจองล่วงหน้าทางเว็บไซต์ มาเช่ากิโมโนใส่ออกไปเดินเที่ยวที่ต่างๆ กันได้ แบบเข้าทีมได้ภาพสวยๆแน่นอน

Rental Kimono Ume Luv

โรงชา Kanrantei

ไปต่อกันที่โรงชา Kanrantei ที่อยู่ริมหาดมัตสึชิมะ กล่าวกันว่าเป็นห้องชาที่นักรบดาเตะ มาซามุเนะ ได้รับจากโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้สำเร็จราชการผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว

การเดินทาง：เดินประมาณ 5 นาที จากสถานี Matsushimakaigan Station

สถาปัตยกรรมตามสมัยโบราณประกอบกับวิวริมทะเลให้คุณได้สัมผัสสุนทรีย์แห่งชา ชมความงามของศิลปะที่เคียงคู่กับธรรมชาติ เข้าถึงญี่ปุ่นไปอีกขั้น

ดื่มชาเขียวพร้อมชมวิวสวยๆ ของมัตสึชิมะตรงหน้าได้เต็มตา ในเซ็ตมีขนมแบบโบราณหน้าตาสวยงาม สมเป็นญี่ปุ่นที่ขนมนั้นยังมีสุนทรีย์

Kanrantei

วัดซุยกันจิ / วัดเอ็นสึอิน

จิบชา ลิ้มรสขนมกันแล้วก็มุ่งหน้าไปยังวัดเอนสึอินที่รู้จักกันในฐานะวัดแห่งความรัก และวัดซุยกันจิของดาเตะ มาซามุเนะ วัดทั้งสองแห่งนี้มีผู้มาเยือนอย่างหนาแน่น เพราะมีชื่อเสียงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานคู่บ้านคู่เมือง

การเดินทาง：เดินประมาณ 6 นาที จาก Kanrantei

วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple) เป็นที่รู้จักในฐานะวัดแห่งความรักและจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บนเกาะมัตสึชิมะ มีชื่อเสียงเรื่องสวนญี่ปุ่นที่มีความเรียบง่ายทว่าภูมิทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ข้างวัดซุยกันจิ

Entsuin Temple

วัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) วัดของนักรบชื่อดังสมัยเซ็นโกคุอย่างดาเตะ มาซามุเนะ วัดนี้สร้างขึ้นในปี 828 จนเมื่อถึงสมัยเซ็นโกคุ ดาเตะ มาซามุเนะก็ได้บูรณะวัดขึ้นใหม่ ภายในวัดทำให้รู้สึกถึงความสุนทรีย์ของดาเตะ มาซามุเนะในทุกที่ โดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวครั้งอดีต มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์ ชมวัด นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว บริเวณใกล้เคียงยังมีร้านอาหารและร้านขายของฝากอีกด้วย

Zuiganji Temple

Matsushima Yuransen Pleasure Boats

ด้วยความที่มีพื้นที่ติดทะเล ดังนั้นไฮไลท์ของมัตสึชิมะคงหนีไม่พ้นการล่องเรือสำราญไปชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งมีความโดดเด่นจนติด 1 ใน 3 ทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว การล่องเรือนั้นก็ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศ ชมความสวยงามแบบใกล้ชิด

การเดินทาง：เดินประมาณ 5 นาทีจาก Zuiganji Temple

นั่งเรือสำราญชมเกาะน้อยใหญ่และวิวทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของมัตสึชิมะ แบบที่ชมจากชายฝั่งไม่ได้ จุดขึ้นเรืออยู่ข้าง Matsushima Tourist Information Center ที่ห่างจาก Matsushimakaigan Station ไปเพียง 300 เมตร มีบริการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ สะดวกสบายมากๆ

Yuransen Pleasure Boats（Niomaru）

หอยนางรมของดีมัตสึชิมะ

(c)Miyagi Prefectural Government Tourism Division

มาถึงมัตสึชิมะ ก็ต้องไม่พลาดของเด็ดของดี ที่นี่มีของอร่อยมากมาย แต่ที่ขาดไม่ได้คือหอยนางรม ซึ่งมึตสึชิม่านั้นขึ้นชื่อเรื่องหอยนางรมสดอร่อยสดๆ

(c)Miyagi Prefectural Government Tourism Division

ด้วยความที่มัตสึชิมะล้อมรอบด้วยชายฝั่งและภูเขา น้ำจึงอุดมไปด้วยแร่ธาตุและทำให้หอยนางรมรสชาติดี แม้จะตัวเล็กกว่าที่อื่น แต่รสชาติเข้มข้นและหวานมันเป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าจะกินสดแกล้มเลมอน หรือย่างหอมๆ ก็ฟินสุดๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูให้เลือกมากมาย โดนใจคนชอบหอยและอาหารทะเลสดๆ แน่นอน

Matsushima Onsen

ออนเซ็นบนเกาะวิวแจ่มอย่างมัตสึชิมะ เปิดในปี 2008 มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพน้ำออนเซ็นดีต่อผิวและความงาม ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้ดี เหมาะเป็นที่พักหลังจากการเดินทางท่องเที่ยว ปรนนิบัติตัวเองหลังทริปอันหนักหน่วง มีที่พักหลายแห่งให้เลือกตามความชอบ ใครสนใจที่พัก ดูในลิ้งก์ได้เลย

Matsushima Onsen

DAY2 Zao Onsen Ski Resort และไลท์อัพปีศาจหิมะ

การเดินทาง：จาก Matsushimakaigan Station ถึง Sendai Station นั่งรถไฟ Senseki Line ประมาณ 40 นาที
จาก Sendai Station ถึง Zao Onsen Bus Terminal นั่งบัสด่วนประมาณ 90 นาที (รถบัสตรงจากเซ็นได ถึง ซาโอะออนเซ็นบริการแค่นในฤดูหนาวเท่านั้น)

Zao Onsen Ski Resort / ไลท์อัพปีศาจหิมะ

มาถึงวันที่ 2 แล้ว เราขอพาคุณ ไปเล่นสกีกันเลยดีกว่าที่ Zao Onsen Ski Resort รีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สามารถชมปีศาจหิมะสีขาว ที่บางช่วงจะมีความระยิบระยับกลายเป็นสีเงิน ท่ามกลางฟากฟ้าสวย และวิวเทือกเขาซาโอได้แบบพาโนรามา

ที่นี่มีคอร์สสกีให้เลือกถึง 26 คอร์ส เยอะจนเล่นไม่หมดในวันเดียว เหมาะสำหรับระดับการเล่นสกีขอ แต่ละคน เรียกได้ว่าครอบคลุม พร้อมลิฟต์ให้บริการถึง 36 ตัว ทั้งยังมีออนเซ็นอีกด้วย มาสัมผัสสเน่ห์ของซาโออย่างเต็มอิ่มได้ที่นี่

ปีศาจหิมะ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Snow Monster ช่วงที่สวยที่สุดอยู่ในช่วงกุมภาพันธ์ สามารถชมทิวทัศน์ของปีศาจหิมะอย่างใกล้ชิดได้จากด้านบนสุดของลานสกี เมื่อขึ้นโรปเวย์ไปจนเกือบถึงยอดเขา จะได้ชมวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา ตอนกลางคืนยังมีไลท์อัพอีกด้วย

Zao Onsen Ski Resort

ซาโอออนเซ็น (Zao Onsen)

หลังจากสนุกกิจสกี และเล่นหิมะออกกำลังแล้ว ก็ต้องพักผ่อนกายให้สมบูรณ์แบบ ซาโอออนเว็นเองก็มีความพิเศษไม่แพ้ที่ไหน ไอร้อนจากออนเซ็นกรุ่นไปทั่วบริเวณ ในบริเวณใกล้กันมีโรงแรมและเรียวกังหลายสิบหลัง น้ำมีคุณสมบัติเป็นกรด ซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณทางความงาม ช่วยกระตุ้นเลือดลม บำรุงผิว จึงรู้จักในชื่อ “ออนเซ็นแห่งความงาม” มาแต่ไหนแต่ไร มาแช่บ่อรวมกันได้ในราคาเบาๆ เพียง 200 เยนเท่านั้น มีให้เลือก 3 แห่ง ได้แก่ Kamiyu Shimoyu และ Kawarayu ใช้บริการได้ตั้งแต่ 6.00-22.00 น.

ดูที่พักในซาโอออนเซ็นในลิ้งก์ต่อไปนี้

DAY3 เนื้อโยเนซาวะ กินซังออนเซ็น และเทนโดออนเซ็น

การเดินทาง：จาก Zao Onsen Bus Terminal ถึง Yamagata Station นั่งบัสประจำทางประมาณ 40 นาที

สนุกกับสกีกันแล้ว ในวันที่ 3 ไปเที่ยวชิลๆ กันต่อ อร่อยกับเนื้อโยเนซาวะและผ่อนคลายร่างกายไปกับออนเซ็นในหมู่บ้านชื่อดังที่ใครหลายคนต้องการมาเยือน

ฟินกับเนื้อโยเนซาวะ

มาถึงมายามากาตะ ต้องไม่พลาดเนื้อโยเนซาวะ หรือเนื้อวากิวโยเนซาวะ ที่ได้รับการกล่าวขานจากทั่วประเทศว่าเป็นแบรนด์เนื้อชั้นดี ที่ต้องไม่พลาดในการลิ้มลอง เนื้อมาจากวัวที่ เลี้ยงเป็นเวลานานมากกว่า 32 เดือน ในพื้นที่รูปแอ่งล้อมรอบด้วยภูเขา จึงมีอุณหภูมิสูงสุดและต่ำสุดต่างกันมาก ได้ออกมาเป็นเนื้อชั้นเยี่ยมที่มีไขมันแทรกเป็นริ้วๆ ให้อาหารด้วยฟางแห้ง จึงมีเอกลักษณ์ตรงที่ไม่มีกลิ่นเหม็น

คุณภาพของเนื้อเกิดจากการที่ได้รับการเพาะเลี้ยงอย่างพิถีพิถัน จึงมีความนุ่มและมีลายไขมันสวยงาม ไขมันชั้นดีละลายในอุณหภูมิต่ำ เนื้อจึงแทบละลายในปากอร่อยลิ้นให้เนื้อสัมผัสที่ดีงาม รอบสถานียามากาตะมีร้านเนื้อโยเนซาวะหลายร้าน ลองดูกันได้ ที่พิกัดร้านเหล่านี้

กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen)

กินซังออนเซ็นคือ พิกัดเที่ยวยอดฮิตประจำยามากาตะ นับเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

การเดินทาง：Yamagata Station → Oishida Station นั่งชินคันเซ็นประมาณ 30 นาที
Oishida Station → Ginzan Onsen นั่งบัสประจำทางประมาณ 40 นาที

พูดถึงกินซังออนเซ็น ก็ต้องนึกถึงภาพหิมะโปรยปรายและเมืองแบบญี่ปุ่นโบราณใต้แสงจากตะเกียง เป็นออนเซ็นที่มีเอกลักษณ์มาก หลายคนน่าจะเคยเห็นรูป และขอบอกถ้าหากได้มาเยือนจะไม่ผิดหวังเพราะบรรยากาศราวกับออกมาจากภาพวาด ซึ่งที่นี่มีพิกัดเที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิ

Warashi-yu

เดินเล่นพร้อมพักที่ชิลล์ แช่เท้าที่บ่อหน้าแม่น้ำกินซัง อยู่ใกล้สะพานชิโรกาเนะที่เชื่อมกับทางเข้าเมืองเรียวกังของกินซังออนเซ็น น้ำในบ่อคือน้ำจากแหล่งน้ำร้อน แช่ได้ฟรีๆ จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว

Shirogane Park

สวนสาธารณะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติเลียบลำธาร เดินมาจากเมืองออนเซ็นได้สบายๆ

น้ำตกชิโรกาเนะ

น้ำตกชิโรกาเนะอยู่ในสวนสาธารณะชิโรกาเนะ อยู่บริเวณทางเข้าเส้นทางชมธรรมชาติ เดินทางสะดวก มีจุดชมวิวอยู่ 2 ฝั่ง ชมความอลังการของน้ำตกได้เต็มตา เที่ยวง่ายได้ครบครส เดินทางสะดวก เต็มอิ่มกับธรรมชาติ

Ginzan Onsen Tourist Information Center

เทนโดออนเซ็น (Tendo Onsen)

ด้วยความที่กินซังออนเซ็นคือที่เที่ยวยอดฮิต การจองที่พักเลยอาจจองค่อนข้างยาก ใครจองไม่ได้ ขอแนะนำเทนโดออนเซ็นที่อยู่ใกล้กันแทน

การเดินทาง：จากกินซังออนเซ็นถึง Oishida Station นั่งรถประจำทางประมาณ 40 นาที
　　　　　จาก Oishida Station ถึง Tendo Station นั่งรถไฟ JR ประมาณ 35 นาที

เมืองเทนโดคือเมืองที่ผลิตชิ้นส่วนหมากรุกญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 ในประเทศ และยังรู้จักกันดีในฐานะแหล่งผลิตสาลี่พันธุ์ La France เทนโดออนเซ็นมีที่พักหลายแบบ ตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงเรียวกังแบบญี่ปุ่นแท้ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองและเดินทางสะดวก น้ำมีคุณสมบัติเป็นอัลคาไลน์อ่อนๆ ดีต่อผิว ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ออนเซ็นญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในออนเซ็นที่เป็นตัวแทนของยามากาตะก็ว่าได้

เทนโดออนเซ็นมีที่พักมากมาย ใครยังไม่มีที่พักในใจ ดูในลิ้งก์ได้

Tendo Onsen

หมู่บ้านสตรีทฟู้ด Toyokocho

หากมาพักที่เทนโดออนเซ็น อย่าลืมออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านแห่งสตรีทฟู้ด Toyokocho กันด้วย หมู่บ้านสตรีทฟู้ดเปิดใหม่ในเทนโดออนเซ็น แหล่งรวมร้านแผงลอยที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น มาอร่อยกับอาหารและสาเกกันได้มีร้านอาหารหลากหลาย รวมถึงอาหารท้องถิ่นของยามากาตะ เหมาะสำหรับแวะกินมื้อเย็นหลังกลับจากเที่ยว และซื้อหาของฝาก

Toyokocho

DAY4 ชมวิววัดยามาเดระและเดินเล่นในเซนได

การเดินทาง：Tendo Station → Yamagata Station นั่งรถไฟ JR ประมาณ 20 นาที
Yamagata Station → Yamadera Station นั่งรถไฟ JR ประมาณ 20 นาที

วัดยามาเดระ (Yamadera Temple)

ปิดท้ายทริปยามากาตะด้วย วัดยามาเดระ (Yamadera Temple) หรือชื่อทางการคือโฮจุซัง ริชชาคุจิ (Houjusan Risshaku-ji Temple) เมื่อเดินขึ้นภูเขาไปตามบันไดก็จะพบกับวิวทิวทัศน์สวยงามอลังการ บันไดหิน 1015 ขั้นที่ทอดไปยังโอคุโนะอินคือเส้นทางที่นิยมใช้ขึ้นไปสักการะกันมากที่สุด กล่าวกันว่าการขึ้นบันไดหินแต่ละขั้นจะช่วยขจัดกิเลสให้จิตใจผ่องใส ระหว่างทางยังมีศิลาอนุสรณ์และสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ รวมถึงทิวทัศน์สวยงามให้ชม เพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ และได้ความรู้ไปพร้อมกัน นอกจากการสักการะสิงศักดิ์สิทธิ์แล้ว แถบนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยามาเดระจิคาระคอนยัคคุ ซอฟต์ครีมเชอร์รี่ ดาชิโซบะ และอื่นๆ

Yamadera Temple

เดินเล่นและช้อปปิ้งที่ถนนโจเซ็นจิโดริ

กลับมาจบทริปที่เซนได บริเวณใจกลางเซนไดมีถนนโจเซ็นจิโดริ (Jozenji-dori Avenue)　ที่มีต้นเคยากิเรียงไปตามสองฝั่งทางเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเซนไดเลยก็ว่าได้ มีการจัดงานต่างๆ ตลอดทั้งปี เดินเล่นพร้อมถ่ายรูปไปตามทางก็สนุกแล้ว ที่นี่คือที่สุดท้ายแล้ว หลายคนคงอยากช้อปปิ้งของฝากกัน สองข้างทางมีคาเฟ่สวยๆ กับร้านค้ามากมาย

Sendai Mediatheque คืออาคารกระจกที่โดดเด่นมากในถนนโจเซ็นจิโดริ ชั้น 1 มี KANEIRI Museum Shop 6 ที่ขายงานฝีมือ หนังสือ เครื่องเขียน เครื่องประดับ และสินค้าอื่นๆ จาก 6 จังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ ข้างๆ คือคาเฟ่ Crepuscule Cafe ที่มีเบียร์ Belgian หลายสิบชนิดให้ลิ้มลอง รวมถึงวาฟเฟิลเบลเยี่ยม แกงกะหรี่ พาสต้า และหลากเมนูมื้อกลางวัน เหมาะสำหรับแวะมาพัก

ข้อสรุป

เรียกได้ว่าจบทริปเส้นทางท่องเที่ยวทองคำของโทชิงิ มินามิโทโฮคุอย่างลงตัว มีความโดดเด่นครบรส ยิ่งหากมาเส้นทางนี้ในฤดูหนาวนั้นยิ่งมีความโดดเด่น หวังว่าเส้นทางที่เราจัดให้จะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจในเส้นทางท่องเที่ยวเหล่านี้ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านภาค 1 ติดตามได้ที่บทความนี้

Golden route พิกัดเด็ดเที่ยวญี่ปุ่น สนุกกับกิจกรรมหิมะในเส้นทางใหม่ สายโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ (ภาค1โทชิงิ-ฟุกุชิมะ-มิยางิ)

หนาวนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวญี่ปุ่น เล่นหิมะสุดฟินในโซนใหม่น่าสนใจ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ พร้อมแนะนำตัวอย่างเส้นทางเที่ยวที่ไม่ควรพลาด นับเป็น Model route ที่รวมเอาพิกัดเด็ดๆ ที่มาทั้งทีต้องมาเยือนเอาไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นนิกโก้ ไอสึวากามัตสึ อุระบันได และอื่นๆ ชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามของโทชิงิและฟุกุชิมะ รวมถึงสนุกกับไปกิจกรรมหิมะ เพลิดเพลินกับสวนสัตว์ในมิยางิที่มีจิ้งจอกให้ชมเพียงที่เดียวในญี่ปุ่น ยิ่งหากนำไปรวมแพลนกับ Golden route อีกเส้นทางก็จะได้ตะลุยครบทั้งโทชิงิ ฟุกุชิมะ มิยางิ และยามากาตะ เป็นเส้นทางทองคำแห่งภูมิภาคโทชิงิ-มินามิโทโฮคุฉบับสมบูรณ์! พร้อมข้อมูลพิกัดและแผนที่ครบถ้วน ใครอยากกลับมาอ่านประกอบการจัดทริปครั้งหน้า แชร์ไว้ก่อนได้นะ

หรือหากสนใจเส้นทางท่องเที่ยวอื่นๆ ของ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ อ่านได้ที่บทความเหล่านี้

สัมผัสฤดูหนาว เส้นทางใหม่ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ เที่ยวสุดพรีเมียม ครบรส(ภาค 1 โทชิงิ-ฟุกุชิมะ)

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโซนใหม่น่าสนใจ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ ผ่านการนำเสนอตัวอย่างเส้นทางเที่ยวเมืองแห่งหิมะ Model route ที่เหมาะสำหรับสายเที่ยว Unseen Japan ที่ต้องการความสะดวก แบบพรีเมี่ยม ที่จะพาคุณไปสัมผัสฤดูหนาว หิมะ ภูเขา และวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัดและศาลเจ้าแห่งนิกโก้ เทศกาลหิมะในหุบเขา แถบโทชิงิ-ฟุกุชิมะ พร้อมข้อมูลพิกัดและแผนที่ครบถ้วน พร้อมแนะนำบริการเช่ารถพร้อมคนขับอีกหนึ่งตัวเลือกสุดสะดวก ใครอยากกลับมาอ่านประกอบการจัดทริปครั้งหน้า แชร์ไว้ก่อนได้นะ

ทริปสัมผัสฤดูหนาวโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ เส้นทางใหม่ เที่ยวสะดวก ครบรส (ภาค 2 มิยางิ-ยามากาตะ)

ขอแนะนำโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ ที่เที่ยวโซนใหม่น่าสนใจ พร้อมเส้นทางท่อง Model route ที่เหมาะสำหรับสายเที่ยว Unseen Japan พาคุณไปสัมผัสฤดูหนาว หิมะ ภูเขา และวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็น ปีศาจหิมะแห่งซาโอ กินซังออนเซ็น และสถานที่วิวสวยมากมาย และยังแนะนำกิจกรรมที่หาได้ที่นี่เท่านั้นอย่างพบปะกับเกอิชาตัวเป็นๆ และอื่นๆ พร้อมข้อมูล การเดินทาง แนะนำบริการอำนวยความสะดวกสำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบสะดวกพรีเมี่ยม พิกัดและแผนที่ครบถ้วน ใครอยากกลับมาอ่านประกอบการจัดทริปครั้งหน้า แชร์ไว้ก่อนได้นะ

ตะลุยแดนหิมะ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ พาเที่ยวโทชิงิ-ฟุกุชิมะ-มิยางิ พิกัดถ่ายรูปจัดเต็ม!

โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ ที่เที่ยวโซนใหม่น่าสนใจ มาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ไม่เล่นหิมะคงไม่ได้ ขอแนะนำตัวอย่างเส้นทางเที่ยวเมืองแห่งหิมะ สำหรับบทความนี้จะแนะนำ Model route รวมที่เที่ยวและพิกัดน่ารักๆ พร้อมของหวาน ถูกใจสาวๆ และสายคาเฟ่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นนิกโก้ ไอสึวากามัตสึ อุระบันได ซาโอ เซนได และอื่นๆ ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามของโทชิงิ ฟุกุชิมะและมิยางิ รวมถึงสนุกกับไปหลากกิจกรรมหิมะ พร้อมข้อมูลพิกัดและแผนที่ครบถ้วน ใครอยากกลับมาอ่านประกอบการจัดทริปครั้งหน้า แชร์ไว้ก่อนได้นะ

ทริปครอบครัวฤดูหนาว เปิดเส้นทางใหม่ สายโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ ตระเวนเที่ยวยามากาตะ-มิยางิ

เที่ยวโซนใหม่ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ เปิดทริปครอบครัวฤดูหนาว เที่ยวเมืองหิมะ ตั้งแต่เซนได มิยางิ ไปจนถึงยามากาตะ ไปเที่ยวสัมผัสสัตว์อย่างใกล้ชิด เก็บผลไม้ที่สวน พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น เก็บความทรงจำดีๆ ไปเป็นที่ระลึก ให้เที่ยวตามได้อย่างง่าย พร้อมบอกข้อมูลพิกัดและแผนที่ สำหรับใครที่มีแผนจะเที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวรอบหน้า เก็บไว้อ่านเป็นแนวทางทำทริปได้เลย