ประวัติความเป็นมาของ Hikone Castle
ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) สร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1622 โดยใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี โดยตระกูล Ii ( อ่าน อี ) ซึ่งสถานที่ตั้งของปราสาทนั้นเรียกได้ว่ามีความสำคัญมากในเชิงยุทธศาตร์เพราะตั้งใกล้ๆกับทะเลสาบ Biwa
ซึ่งการสร้างปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) นั้นเป็นไปตามคำสั่งของ Tokugawa Ieyasu เนื่องจากต้องการให้ปราสาทเป็นเสมือนป้อมปราการไว้ป้องกันไดเมียวฝ่ายตรงข้าม
โดยช่วงที่กำลังสร้างปราสาทนั้น ก็ได้มีการมอบให้ Ii Naomasa ซึ่งท่านมีฉายาว่านักรบปีศาจแดง หรือเกราะแดง เพราะท่านชอบใส่ชุดเกราะสีแดงดูแลและเป็นการตอบแทนผลงานของท่าน แต่ท่านได้เสียชีวิตซะก่อน ทำให้ปราสาทได้ตกไปสู่ตระกูล Ii หลายคน จนไปถึง Ii Naotaka ซึ่งก็สามารถสร้างปราสาทจนเสร็จ
ด้วยที่ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ดังนั้นแล้วรอบๆปราสาทจึงมีคูน้ำ กำแพงหิน ซึ่งเป็นแนวป้องกันให้ข้าศึกบุกโจมตีปราสาทได้ยากขึ้น
ในช่วงสมัยจักรพรรดิเมจิ ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) เป็น 1 ในปราสาทที่แสดงถึงสัญลักษณ์การปกครองระบอบโชกุนโทคุกาวะ จึงมีคำสั่งให้ทำลายทิ้งแต่ได้ถูกที่ปรึกษาที่ชื่อว่า Okuma Shigenobu ได้ทักท้วงไว้ ทำให้ปราสาทไม่ถูกทำลายและอยู่มาถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี จนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
***เกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ถ้าเพื่อนๆมายังปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) โดยรถไฟเมื่อออกจากสถานี Hikone แล้ว จะเห็นรูปปั้นนักรบท่านนึงที่สวมหมวกมีเขายาวๆ นั่นคือรูปปั้นของ Ii Naomasa
ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) มีมัตคอสประจำปราสาทเป็นแมวชื่อ Hikonyan ซึ่งเป็นแมวที่สวมหมวกมีเขาคล้ายๆกับหมวกของ Ii Naomasa
โครงสร้างและจุดเด่นของ Hikone Castle
Tenshu (หอคอยปราสาท)
หอคอยของปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) นั้นมีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน โดยตัวหลังคานั้นได้สร้างให้เป็นแบบปั้นหยา ซึ่งว่ากันว่าตัวหอคอยของปราสาทนั้น ได้ย้ายมาจากปราสาทโอทสึ ( Otsu )
โดยด้านในของตัวหอคอยปราสาทนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องถอดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกที่ทางปราสาทเตรียมไว้ให้ ซึ่งไม้จะค่อนข้างลื่นและมีบันไดที่ชันมาก แนะนำว่าถ้านักท่องเที่ยวคนใดใส่ถุงเท้า แนะนำให้ถอดถุงเท้าออกด้วยจะทำให้เดินขึ้นลงบันไดปลอดภัยยิ่งขึ้น
ซึ่งด้านในของหอคอยปราสาทนักท่องเที่ยวจะได้เห็นโครงสร้างไม้ดั้งเดิมของปราสาทว่าปราสาทสมัยก่อนนั้นซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รู้ว่าสมัยนั้นเขาทำโครงสร้างไม้ยังไงให้แข็งแรง และชั้นบนสุดนัั้นจะเป็นจุดชมวิว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทะเลสาบ Biwa ที่นี่ได้อย่างสวยงาม
ในปีค.ศ. 1952 ตัวหอคอยปราสาทได้ถูกจัดให้เป็นสมบัติของชาติ
ปัจจุบันนั้นได้มีการรีโนเวทหอคอยปราสาทเพื่อป้องกันแผ่นดินไหว แต่ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอยู่
บริเวณกำแพงหินและสะพานและป้อมปราการต่างๆ
ที่บริเวณปราสาทนอกจากตัวหอคอย ( Tenshu ) แล้วก็ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆที่น่าสนใจเช่นป้อมปราการ โดยเฉพาะป้อมปราการที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกของ Nishimomaru โดยป้อมปราการแห่งนี้ถือว่าเป็นป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของปราสาท โดยจะมีหน้าที่ป้องกันศัตรูที่บุกเข้ามาทางทิศตะวันตก และยังป้องกันศัตรูที่บุกเข้ามาทางทะเลสาบ Biwa อีกด้วย
ต่อมาเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินมายังหอคอยปราสาท จะพบกับสะพานไม้เก่าๆที่เชื่อมระหว่างประตูปราสาท Otemon กับประตู Omete ซึ่งบริเวณนี้เรียกว่า Tenbinyakura โดยสะพานไม้แห่งนี้จะมีหน้าที่คล้ายๆกับดักชนิดหนึ่ง เมื่อข้าศึกบุก ทางปราสาทก็จะทำลายสะพานทิ้งทำให้ข้าศึกจะไม่สามารถเข้ามายังตัวปราสาทได้ นอกจากจะต้องปีนกำแพงหินขึ้นมาเท่านั้น
เมื่อข้ามสะพานมาแล้วนักท่องเที่ยวจะพบกับประตู Taikomon ซึ่งประตูนี้เป็นประตูที่ทำหน้าที่ป้องกันทางเข้าหลักของปราสาท และด้วยที่ชื่อว่าประตู Taikomon ทำให้ประตูนี้มีหน้าที่อีกอย่างก็คือ คอยตีกลองเพื่อเป็นสัญญาณให้คนในปราสาทได้รับรู้ถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอีกด้วย
สวนและพื้นที่โดยรอบปราสาท
สวน Genkyuen
หลังจากที่เดินชมหอคอยปราสาทเสร็จ ใกล้ๆหอคอยปราสาทจะมีทางสำหรับเดินลงไปยังสวน Genkyuen สวนแห่งนี้สร้างขึ้นมาในปีค.ศ. 1677 ในสมัย Edo โดยมีจุดเด่นก็คือมีสระน้ำขนาดใหญ่ และมีเกาะ 4 เกาะอยู่ในสระน้ำอีกด้วย ซึ่วัตถุประสงค์ของการสร้างสวนแห่งนี้คือเป็นที่สวนหลังบ้านของ Tsukigoten ซึ่งเป็นขุนนางท้องถิ่นได้ใช้พักผ่อน
ที่สวนยังมีแท่นสำหรับใช้ในพิธีชงชาอีกด้วย และที่ต้องห้ามพลาดคือที่สวนมีจุดถ่ายรูปปราสาทได้สวยงามมากอยู่จุดนึง โดยจะเป็นที่ปราสาทที่เบื้องล่างเต็มไปด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี
โดยต้นไม้และดอกไม้ในสวนนี้ จะมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ฤดูกาล
สิ่งที่น่าสนใจภายใน Hikone Castle Museum
พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle Museum ) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 1987 โดยดัดแปลงมาจากอาคาร Omote Goten ซึ่งด้านในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้มากกว่า 45,000 ชิ้น อย่างเช่น
ข้าวของเครื่องใช้ของตระกูล Ii งานศิลปะและเอกสารประวัติศาสตร์
ข้าวของเครื่องใช้ของตระกูล Ii นั้นจะจัดแสดงสิ่งของเช่น ภาพเขียน เอกสารทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกเรื่องราวต่างๆของตระกูล งานหัตถกรรม อาวุธต่างๆ แต่ที่เป็นไฮไลท์คือชุดเกราะสีแดง ที่เป็นที่มาของฉายานักรบเกราะแดงหรือปีศาจสีแดงนั่นเอง
การแสดงศิลปะดั้งเดิม เช่น ดนตรีญี่ปุ่น
ภายในพิพิธภัณฑ์นอกจากดาบ ชุดเกราะ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆแล้วก็ยังมีเครื่องดนตรีโบราณ อย่างเช่นเครื่องดนตรีประเภท เพอร์คัสชั่น Gagaku, เครื่องดนตรีประเภทเป่า ( Sho ) ที่ทำมาจากไม้ไผ่ 17 ชิ้น, เครื่องดนตรีประเภทสายเช่น Akikaze
นอกจากเครื่องดนตรีแล้วที่ยังมีอุปกรณ์สำหรับการแสดงละครโนะอีกด้วย อย่างเช่นหน้ากาก เสื้อผ้าชุดแต่งกายสำหรับละครโนะ อีกด้วย
วิธีการเดินทางมายังปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle )
- จาก Nagoya นั่งรถไฟชินคันเซนมาลงสถานี Maibara จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสาย Biwako Line นั่งมาลงสถานี Hikone แล้วเดินอีก 10 นาที
- จาก Osaka นั่งรถไฟสาย Kyoto Line จากสถานี Shin Osaka มาลงสถานี Hikone แล้วเดินอีก 10 นาที
- จาก Kyoto นั่งรถไฟสาย Biwako Line จากสถานี Kyoto มาลงสถานี Hikone แล้วเดินอีก 10 นาที
ตารางข้อมูล
ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle )
ที่อยู่ | 1-1 Konkicho, Hikone, Shiga 522-0061 |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.30 น. – 17.00 น. |
ราคา | ปราสาท + สวน Genkyuen ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็ก 300 เยน พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle Museum ) ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็ก 350 เยน แบบเป็นเซ็ทปราสาท + สวน + พิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 1500 เยน เด็ก 550 เยน ค่าเข้าสวน Genkyuen ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 150 เยน |
Website | ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle )
ทุ่งเซกิงาฮาระ ( Sekigahara )
Tokugawa Ieyasu และเจ้าของชุดเกราะสีแดงอย่าง Ii Naomasa ต่างก็เคยร่วมรบกันในสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่อย่าง Battle Of Sekigahara หากไม่พูดถึงสถานที่นี้ก็คงไม่ได้
ที่ Sekigahara นั้นในอดีตเคยเป็นสนามรบมาก่อน ซึ่งที่นี่ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์สงคราม Sekigahara, ฐานที่มั่นของฝ่าย Ieyasu และของฝ่าย Mitsunari รวมถึงสถานที่ที่ใช้ในการฝังศีรษะ หรือล้างศีรษะของผู้ที่เสียชีวิตก็มี รวมถึงคอร์สสำหรับตามรอยนักรบที่คุณชื่นชอบก็มีให้ตามรอยกัน
ถ้าใครที่กำลังอินกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว หลังจากศึกษาประวัติของตระกูล Ii เสร็จแล้วก็สามารถมาเที่ยวที่นี่ต่อได้เลย
ทุ่ง Sekigahara
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Hikone มาเปลี่ยนขบวนที่สถานี Maibara เป็นสาย Tokaido Line มาลงสถานี Sekigahara |
Website | ทุ่ง Sekigahara |
วัดเรียวทันจิ ( Ryotanji Temple )
วัดแห่งนี้เป็นวัดประจำตระกูล Ii โดยตั้งอยู่ใกล้ๆกับซากปราสาท Sawayama เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงทางเข้าของวัดแห่งนี้จะพบกับรั้วไม้ไผ่ที่เรียงรายอยู่บริเวณทางเข้า ที่พำนักเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย Edo โดยที่ประตูบานเลื่อนนั้นมีภาพวาด 104 ภาพบนประตู และได้ถูกกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเมือง และด้านหลังของวัดยังมีสุสานของแม่ของ Ii Naotsuke อีกด้วย
และที่วัดแห่งนี้ว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวิชาจัดสวน ที่พระสงฆ์สร้างขึ้นมาเพื่อฝึกตน
วัดเรียวทันจิ ( Ryotanji Temple )
ที่อยู่ | 1104 Furusawacho, Hikone, Shiga 522-0007 |
วิธีเดินทาง | เดิน 25 นาทีจากสถานี Hikone |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 150 เยน |
Website | วัดเรียวทันจิ ( Ryotanji Temple ) |
Yume Kyobashi Castle Road
ถนนช็อปปิ้งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) โดยอาคารต่างๆนั้นตั้งเรียงรายอยู่ริมถนน ได้สร้างขึ้นมาแนวย้อนยุค โดยมีผนังสีขาว หลังคามีสีดำ และประตูแบบไม้ระแนง ซึ่งที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขางขาย มากมาย ซึ่งหากนักท่องเที่ยวสามารถมาเดินช็อปที่นี่ได้ทั้งก่อนและหลังเที่ยวปราสาทเสร็จ
Yume Kyobashi Castle Road
ที่อยู่ | Honmachi, Hikone, Shiga 522-0064 |
วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากสถานี Hikone |
Website | Yume Kyobashi Castle Road |
สรุป
หากเพื่อนๆเป็นสายท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ ปราสาทฮิโกเนะ ( Hikone Castle ) เป็นสถานที่ที่จะต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต เนื่องจากสภาพของตัวหอคอยปราสาทค่อนข้างสมบูรณ์และสามารถเข้าไปชมด้านในซึ่งจะได้โครงสร้างไม้ได้แบบชัดๆ และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทที่เล่าเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับตระกูล Ii ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาอีกด้วย