คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
15%
5%
17%

เริ่มจากสถานที่แรกที่เมือง Kobe กับงาน Kobe Luminarie ซึ่งจัดที่สวน Higashi Yuenchi โดยงานเทศกาล Kobe Kuminarie จัดมาแล้วถึง 30 ปี ( ยกเว้นช่วงโควิดที่ยกเลิกไป )
จุดเริ่มต้นของเทศกาลนี้นั้นมาจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เรียกว่าแผ่นดินไหวฮันชินในปีค.ศ. 1995 ทำให้ทางเมือง Kobe นั้นต้องการจุดประกายความหวังในการฟื้นฟูเมืองจากแผ่นดินไหวและกระตุ้นการท่องเที่ยวของเมือง ทำให้งานเทศกาล Kobe Luminarie ได้กำเนิดขึ้นในเดือนธันวาคมในปีเดียวกันนั่นเอง และเป็นการรำลึกถึงแผ่นดินไหวครั้งนั้นด้วย

โดยงาน Kobe Luminarie นั้นเมื่อนักท่องเที่ยวมาที่งานนั้นจะพบกับดวงไฟประดับนับพันดวง กำแพงที่ประดับไฟ ซึ่งมีความยาวถึง 78 เมตร สูง 22 เมตร และยังมีการประดับไฟแบบขนาดเล็กอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ดูกันซึ่งส่วนนี้จะประดับไฟที่อดีตนิคมชาวต่างชาติ ( Former Foreign Settlement )
ไฮไลท์ของงานอยู่ที่ อุโมงค์ซุ้มโค้ง ถ้าได้ตั้งกล้องถ่ายรูปตรงกลางอุโมงค์แล้วถ่ายรูปออกมา ถือว่าสวยสุดๆกันเลยทีเดียว
ถ้านักท่องเที่ยวไปชมการประดับไฟที่ Merikan ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และในช่วงวันศุกร์ – อาทิตย์นั้นจะเป็นช่วงที่คนมาเยอะที่สุด
สำหรับงาน Kobe Luminarie ปี 2026 นั้นได้มักำหนดจัดงานออกมาแล้วคือ วันที่ 30 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2026
Kobe Luminarie
| ที่อยู่ | 6 Chome-4 Kanocho, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0001 |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี Osaka – Umeda นั่งรถไฟ Hanshin มาลงสถานี Kobe – Sannomiya แล้วเดินอีก 10 นาที |
| เวลาทำการ | เทศกาลจัดวันที่ 30 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2026 ตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกดิน – 21.30 น. |
| ราคา | สำหรับใช้เข้า Merikan ซื้อตั๋วลองหน้าวันธรรมดา 500 เยน เสาร์ – อาทิตย์ 750 เยน |
| Website | https://kobe-luminarie.jp/ |

อีก 1 ไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดของการมา Osaka ในช่วงฤดูหนาว เทศกาลประดับไฟ Midosuji Illumination ที่จัดตั้งแต่สถานีรถไฟใต้ดิน แยก Hanshin Mae จนไปถึง Namba – Nishiguchi ครอบคลุมระยะทางถึง 4 กิโลเมตร
ในอดีตนั้นถนน Midosuji เปรียบเสมือนเส้นทางที่คอยหล่อเลี้ยงเมือง Osaka จนเป็นเมือง Osaka ที่เป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ดังนั้นแล้วทางเมือง Osaka จึงนำเสนอประวัติศาสตร์ของเมือง Osaka ทางด้านความพัฒนาของเมือง Osaka ผ่านการประดับไฟ
แต่สำหรับปีนี้นั้นเนื่องจาก Osaka ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2025 ทำให้งาน Midosuji Illumination ได้จัดตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 – 31 ธันวาคม 2025 เรียกได้ว่าจัดกันยาวๆเลยทีเดียว

ซึ่งสีของไฟที่ประดับที่ถนนแห่งนี้นั้นก็มีความหมายแตกต่างกัน
สำหรับไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดของเทศกาลนี้คือการถ่ายภาพช็อตแบบ Top – Down จาก Sky Lobby บนตึก Yodoyabashi ซึ่งถ้าใช้เลนส์แบบมุมกว้างก็จะได้ภาพที่สวยงามมาก
Midosuji Illumination
| ที่อยู่ | สถานที่จัดงานที่ถนน Midosuji ตั้งแต่แยก Hanshin Mae จนไปถึง Namba – Nishiguchi |
| วิธีเดินทาง | นั่สามารถเดินได้จากสถานี Namba หรือ Umeda ประมาณ 5 นาที |
| เวลาทำการ | งานจัดตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 – 31 ธันวาคม 2025 ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน จนถึง 01.00 น. |
| ราคา | ฟรี |
| Website | Midosuji Illumination |

Osaka Hikari Renaissance นั้นถือว่าเป็นเทศกาลประดับไฟ 1 ใน 2 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของ Osaka ร่วมกับ Midosuji Illumination
จุดประสงค์ของเทศกาลนี้ก็คือเพื่อให้ผู้คนได้รำลึกถึงรากฐานของเมือง Osaka ที่เป็นเมืองแห่งสายน้ำ ซึ่งภายในงานจะแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ๆคือ
ถนนประดับไฟ Nakanoshima ซึ่งในบริเวณ Nakanoshima นักท่องเที่ยวจะพบกับถนนที่ประดับไฟที่มีความยาวถึง 150 เมตร ที่ 2 ข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นเซลโคว่า
Marche Of Light ซึ่งเป็นโซนที่รวบรวมอาหารอร่อยของ Osaka มาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว
Osaka City Hall Projection Mapping สำหรับไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดของเทศกาลนี้ก็คือการฉายภาพศิลปะแบบ Projection Mapping ซึ่งฉายใส่ผนังของหอ Osaka City Hall โดยภาพที่ฮายนั้นก็มีทั้งศิลปะแบบตะวันตก, กราฟฟิคหรือ CG สมัยใหม่ รวมทั้งมีการบรรเลงดนตรีที่อลังการให้ชมกัน ซึ่งช่วงเวลาที่ฉายนั้นอยู่ที่เวลาประมาณ 17.00 น. – 21.00 น.
Osaka Hikari Renaissance
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Oebashi แล้วเดินอีก 5 นาที |
| เวลาทำการ | ครั้งล่าสุดจัดเมื่อวันที่ 14 – 25 ธันวาคม 2024 |
| ราคา | ฟรี |
| Website | Osaka Hikari Renaissance |

คราวนี้มาที่จังหวัดข้างๆ Osaka กันบ้าง กับงาน Kyoto Illumination ซึ่งจัดกันที่ Rurikei Onsen ซึ่งเป็นงานที่เปิดให้ชมตลอดทั้งปี
โดยภายในงานมีการประดับตกแต่งไฟจากศิลปินระดับแนวหน้าผสมผสานกับดนตรีทีไพเราะ เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาด้านในก็จะพบกับการประดับไฟที่แบ่งกันเป็นโซนต่างๆที่มความสวยงามแบบเฉพาะตัว อย่างเช่น
Spiral Light Tunnel โซนอุโมงค์แสงไฟที่ออกแบบโดยศิลปินอย่างคุณ Takayuki Tomoi เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในอุโมงค์จะให้มีความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในวังวนของแสงไฟ
Crystal Lake โซนนี้นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตะลึงกับดอกบัวที่ประดับไฟระยิบระยับบนผิวน้ำราวกับมีเวทมนต์
Stardust Forest ป่าแห่งแสงสว่างที่นักท่องเที่ยวมาเยือนแล้วจะรู้สึกถึงการเดินในป่าแล้วมีดวงดาวระยิบระนับคอยนำทาง
Aurora Experience *****นี่คือไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดของที่นี่เลย เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงโซนนี้นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความสวยงามที่น่าทึ่งของที่นี่ โดยเป็นการประดับไฟและยิงเลเซอร์ให้มีความเหมือนกับแสงเหนือที่งดงามและน่าทึ่ง
Kyoto Illumiere
| ที่อยู่ | CSonobecho Okawachi, Nantan, Kyoto 622-0065 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Nissei – Chuo 35 นาที |
| เวลาทำการ | เปิดตลอดปี ตั้งแต่เวลาตะวันตกดิน – 22.00 น. |
| ราคา | วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน วันหยุดนักขัตฤกษ์และเสาร์-อาทิตย์ ผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน คริสต์มาส ผู้ใหญ่ 1,800 เยน เด็ก 900 เยน สำหรับการจองล่วงหน้าทางเว็บไซส์จะมีส่วนลด https://www.asoview.com/channel/tickets/1qsmAtdoQe/?utm_source=ticket_direct |
| Website | Kyoto Illumiere |

***หมายเหตุเทศกาลนี้จัดขึ้นล่าสุดปี 2021 ปัจจุบันยังไม่มีการจัดขึ้นอีกหลังจากปี 2021 นักท่องเที่ยวอาจจะต้องเช็คทางเว็บไซส์อีกทีว่าจะมีการจัดขึ้นอีกทีเมื่อไร ปัจจุบันนั้นจะมีภาคเอกชนนั้นมาประดับไฟ ตามกำหนดการของภาคเอกชนนั้นๆ
ป่าไผ่ Arashiyama 1 ในแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยวในการมาเที่ยว Kyoto ซึ่งที่นี่ก็มีการประดับประดาไฟเช่นเดียวกัน
โดยเทศกาล Arashiyama Hanatouro นั้นมักจะจัดในช่วงเดือนธันวาคม เป็นระยะเวลา 10 วัน โดยการประดับไฟนั้นครอบคลุมตั้งแต่วัด Tenryuji สะพานTogetsukyo และวัด Horinji จนไปถึงป่าไผ่
ไฮไลท์ที่จะต้องเก็บรูปให้ได้จะอยู่ที่บริเวณป่าไผ่ ซึ่งจัดแสดงไฟ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟแบบเซรามิค หรือโคมไฟกระดาษ ซึ่งทำให้บรรยากาศในยามค่ำคืนนั้นเหมือนกับเข้าไปอยู่ในแดนนิยายเลยทีเดียว
หากนักท่องเที่ยวมาช่วงหลัง 20.30 น. คนจะเริ่มเบาบางลง นักท่องเที่ยวก็จะสามารถถ่ายรูปลง IG ได้สวยงาม
Arashiyama Hanatouro
| ที่อยู่ | Sagaogurayama Tabuchiyamacho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8394 |
| วิธีเดินทาง | เดิน 15 นาทีจากสถานี Arashiyama |
| เวลาทำการ | จัดครั้งสุดท้ายในปี 2021 |
| ราคา | ฟรี |
| Website | Arashiyama Hanatouro |

งานประดับไฟแห่งเมือง Nara ที่ครอบคลุมพื่นที่สวนสาธารณะ Nara, วัด Todaiji, วัด Kofukuji และศาลเจ้า Katsugataisha ซึ่งในช่วงงานเทศกาลนั้นวัดและศาลเจ้าทั้ง 3 แห่ง ได้เปิดให้คนเข้าชมในช่วงกลางคืนเป็นพิเศษด้วย
ซึ่งมักจะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์โดยปีนี้ก็เพิ่งจัดไปในวันที่ 8 – 14 กุมภาพันธ์ 2025 โดยบรรยากาศงานในช่วงกลางคืนนั้น ต่างจากในช่วงกลางวันอย่างสิ้นเชิง ภายในงานนั้นได้มีการประดับไฟสีฟาที่สวยงามทั่วบริเวณ ซึ่งสีฟ้านั้นเป็นสีของหินรูริ ซึ่งในอดีตนั้นชาว Nara ได้หวงหินชนิดนี้มาก
เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้ามาในงาน ก็จะสัมผัสบรรยากาศที่ไม่ต่างจากโลกแห่งแฟนตาซี สำหรับไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดคือ การเดินชม Garden Illumination ที่ตั้งอยู่ใน Nara Kasugano International Forum Iraka ซึ่งภายในสวนนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับไฟประดับนับไม่ถ้วนที่สร้างบรรยากาศแบบฟินน์สุดๆให้แก่ผู้มาเยือน และนักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อกระดาศรูปดอกไม้พร้อมกับเขียนคำอธิฐานลงไปแล้วนำไปแขวนที่ต้นไม้แห่งความปรารถนา ( Wish Tree ) ได้อีกด้วย
การชม Garden Illumination นั้นจะมีค่าใช้จ่ายคือ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน
และวันที่สุดท้ายของเทศกาลก็จะมีการแสดงจุดดอกไม้ไฟที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ดูกันด้วย
Nara Rurie
| วิธีเดินทาง | เดิน 25 นาทีจากสถานี Nara |
| เวลาทำการ | ล่าสุดงานเทศกาลมีเมื่อวันที่ 8 – 14 กุมภาพันธ์ 2025 |
| Website | Nara Rurie |

กลับมาที่ Osaka อีกครั้ง ซึ่งงานต่อไปที่ผมแนะนำก็คือ German Christmas Market Osaka ที่สวน Tennoji ซึ่งผมจะขอเรียกง่ายๆว่า ตลาดเยอรมัน
ตลาดเยอรมันนั้นเป็นอีก 1 ไฮไลท์ในฤดูหนาวของ Osaka โดยจำลองบรรยากาศคริสต์มาสแบบดั้งเดิมของเยอรมัน โดยภายในงานมีไฮไลท์อยู่ที่ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ประดับไฟ และเป็นจุดถ่ายรูปที่สำคัญ ี่ต้องห้ามพลาด
นอกจากเรื่องถ่ายรูปแล้วที่ตลาดเยอรมันก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ตั้งแต่เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ จนไปถึงเครื่องดื่มแบบมีแอลกอฮอล์ และอาหารอย่างเช่น ขนมปังเยอรมัน ไส้กรอกเยอรมันเป็นต้น นอกจากนั้นแล้วยังมีของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของกิน อย่างเช่นของเล่นสไตล์เยอรมัน มาจำหน่ายด้วย
German Christmas Market Osaka
| ที่อยู่ | 5-55 Chausuyamacho, Tennoji-ku, Osaka, Osaka |
| วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาทีจากสถานี Tennoji |
| เวลาทำการ | งานมักจะจัดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 21.00 น. กำหนดการของปี 2025 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซส์ |
| ราคา | ฟรี |
| Website | German Christmas Market Osaka |

งานประดับไฟประจำปีของเมือง Kobe ซึ่งจัดที่ KOBE Fruit Flower Park Ozo ที่จัดขึ้นทุกปี โดยในปีนี้นั้นจะมีความพิเศษมากกว่าปีอื่นๆ
เนื่องจากเป็นโอกาสที่ครบรอบ 15 ปีของการจัดงาน ทำให้ปีนี้ จึงมีคอนเซปที่เรียกว่า Kids Illuminage เป็นครั้งแรก โดยจะให้เด็กๆ มารังสรรค์ผลงานการประดับไฟจากไอเดียความคิดของพวกเด็กๆ
โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ก็คือ เพื่อให้เด็กๆได้มีความฝัน และจินตนาการ นั่นเอง
นอกจาก Kids Illiminage แล้ว ในวาระครบรอบ 15 ปีของเทศกาลนี้ ทางงานได้จัดธีมที่มีชื่อว่า Garden Dream ซึ่งจะเน้นไปในการประดับไฟแบบแฟนตาซี อย่างเช่นธีม Starlight Dream ซึ่งเป็นธีมที่เกี่ยวกับท้องฟ้าและอวกาศ, ธีม Ice Palace ซึ่งเน้นเกี่ยวกับโลกน้ำแข็ง
สำหรับเทศกาล Kobe Illuminage ในปี 2025 นั้นจะจัดตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2025 – 1 กุมภาพันธ์ 2026 ตั้งแต่เวลา 17.30 น. – 21.30 น.
Kobe Illuminage
| ที่อยู่ | Kamiozo-2150 Ozocho, Kita Ward, Kobe, Hyogo 651-1522 |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี Sannomiya นั่งรถบัส Shinki หมายเลข 38 ประมาณ 35 นาที |
| เวลาทำการ | ในปี 2025 นั้นจะจัดตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2025 – 1 กุมภาพันธ์ 2026 ตั้งแต่เวลา 17.30 น. – 21.30 น. |
| ราคา | สำหรับราคานั้นราคาของปีที่แล้ว ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน ปีนี้นักท่องเที่ยวอาจจะต้องเช็คผ่านเว็บไซส์แบบทางการของผู้จัดงาน |
| Website | Kobe Illuminage |

สำหรับ Lightscape in Rokko นั้นจัดขึ้นที่จุดชมวิว Rokko Shidare Observatory ภูเขา Rokko ที่เมือง Kobe โดยจุดเด่นของที่นี่คือ โดมไม้ ที่เด่นสง่า
ซึ่งโดมไม้แห่งนี้จะประดับไฟแล้วเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลของภูเขา Rokko โดยเป็นการแสดงผ่านทางสีของแสงไฟอย่างเช่น ถ้าภูเขา Rokko ช่วงนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี โดมไม้แห่งนี้ก็เปลี่ยนสีไปทางโทนที่เกี่ยวข้องกับความเขียวขจี เป็นต้น
ซึ่งห้ามพลาดในการเก็บภาพเด็ดขาด นอกจากนั้นยังสามารถถ่ายรูปวิวเมือง Kobe แบบพาโนราม่า ได้อีกด้วย
อย่างในปัจจุบันนั้นไฟที่ประดับโดมไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง โดยสีเหลืองนั้นเป็นตัวแทนของดอกลิลลี่สีเหลืองที่บานในฤดูร้อน ซึ่งธีมไฟสีเหลืองนั้นจะมีตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2025
Lightscape in Rokko – Rokko Shidare Observatory
| ที่อยู่ | Gosukeyama-1877-9 Rokkosancho, Nada Ward, Kobe, Hyogo 657-0101 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Kobe Sannomiya มาลงที่สถานี Rokko จากนั้นเปลี่ยนมานั่งรถที่สถานี Hankyu Rokko มาลงที่สถานี Rokko Cable Shita แล้วนั่งกระเช้าไปลงที่สถานี Rokko Sanjo จากนั้นนั่งรถบัสมาลงที่ Rokko Terrace Garden จากนั้นเดินอีก 5 นาที |
| เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 20.30 น. |
| ราคา | ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน |
| Website | Lightscape in Rokko – Rokko Shidare Observatory |

Universal Studio Japan สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักกันดี ซึ่งในช่วงคริสต์มาสนั้น จะเป็นช่วงที่ผู้พลุกพล่านมาที่สุดช่วงหนึ่ง สำหรับปีนี้ยังไม่มีกำหนดวันที่แน่นอนในการจัดงาน No Limit! Chrismas แต่ส่วนใหญ่มักจะเริ่มช่วงวันที่ 19 พฤศจิกายน ข้ามปีไปถึงต้นเดือนมกราคมกันเลยทีเดียว
สำหรับจุดถ่ายรูปที่ต้องห้ามพลาดสำหรับ No Limit! Chrismas นั้นก็คือ ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ ซึ่งมีจุดเด่นก็คือในแต่ละปีทาง Universal Studio Japan จะจัดต้นคริสต์มาสใหม่ทุกปี และแต่ละปีก็จะทำลายสถิติต้นไม้ที่ประดับไฟมากที่สุดในโลกของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่จะต้องเก็บรูปให้ได้
และสิ่งที่ต้องห้ามพลาดในการเก็บรูปสวยๆ นั่นก็คือปราสาท Hogwarts ในยามที่ตัวปราสาทนั้นกำลังสะท้อนตรงผิวน้ำ ซึ่งเป็นอะไรที่สวยงามมาก
NO LIMIT! Christmas – USJ
| ที่อยู่ | 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Osaka นั่งรถไฟสาย Osaka Loop Line มาลงสถานี Nishikujo จากนั้นเปลี่ยน เป็นสาย Yumesaki Line แล้วนั่งมาลงที่สถานี Universal City |
| เวลาทำการ | เทศกาลมักจะมีช่วงวันที่ 19 พฤศจิกายน ข้ามปีไปถึงต้นเดือนมกราคม |
| ราคา | สามารถเช็คได้ที่เว็บไซส์ https://www.usjticketing.com/ |
| Website | NO LIMIT! Christmas – USJ |

แล้วก็จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับบทความ 10 จุดถ่ายรูป Illumination คันไซ ที่สาย IG ห้ามพลาด ซึ่งจะเห็นได้ว่าในภูมิภาคคันไซนั้นก็จะมีการจัดงานประดับไฟหลายงานด้วยกัน บางงานก็จะจัดแค่ไม่กี่วัน หรือบางงานจัดข้ามปีกันเลยทีเดียว โดยจุดเด่นในแต่ละเทศกาลตามที่แนะนำไปในบทความเพื่อนๆ ก็สามารถตามไปเก็บรูปสวยๆได้เลย และที่สำคัญในแต่ละสถานที่ก็สามารถเดินทางไปได้ไม่ยาก สามารถใช้บริการรถสาธารณะไปได้ ถ้าใครต้องการรูปสวยๆไว้ลง IG หรือ Social Media ต่างๆ ห้ามพลาด 10 สถานที่นี้โดยเด็ดขาด

Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
109 Posts

รีวิว “Eslead Hotel Osaka Shinsaibashi” ที่พักสไตล์เหมือนพักที่บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางโอซาก้า
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คือที่พัก ครั้งนี้เร...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...

Kintetsu Department Store Uehommachi ห้างติดสถานีรถไฟใจกลางโอซาก้า กับส่วนลดสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว
ห้าง Kintetsu Department Store, Uehommachi Kintetsu Department Store Ueh...

รีวิวเที่ยวโอซาก้า เที่ยวชมเมืองกับ OSAKA SKY VISTA และ “Tempozan Harbor Village” ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต Kaiyukan
“Osaka Sky Vista” บัสแบบไร้หลังคาที่จะพาเรานั่งชมแหล่งท่องเที่ยวรอบเมืองโอซาก้...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515