Jogasaki Coast ชายฝั่งโจกาซากิกับวิวธรรมชาติอันงดงามของคาบสมุทรอิซุ

ชายฝั่งโจกาซากิทอดตัวยาวประมาณ 9 กิโลเมตร มอบทัศนียภาพอันน่าทึ่งระหว่างหน้าผาสูงชัน หินภูเขาไฟ และมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินป่าตัวยง ผู้ชื่นชอบธรรมชาติ หรือเพียงแค่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ ชายฝั่งโจกาซากิก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจเหล่านี้ให้ พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงความงามที่ไม่เหมือนใครของแนวชายฝั่งทะเลในประเทศญี่ปุ่น

ความน่าสนใจของชายฝั่งทะเลในคาบสมุทรอิซุ

ชายฝั่งโจกาซากิมีชื่อเสียงในด้านภูมิประเทศอันสวยงาม ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟราวๆ 4,000 ปีก่อน ประกอบกับการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟโอมูโระที่อยู่ใกล้เคียง โดยมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจ และมีลาวาที่ไหลออกมาจากการปะทุครั้งนี้ จนทำให้เกิดหน้าผาหินและหินรูปร่างต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ยังคงอยู่ในพื้นที่แห่งนี้จวบจนปัจจุบัน ชายฝั่งโจกาซากิเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีวิทยาคาบสมุทรอิซุซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือน ได้มาสัมผัสกับประวัติศาสตร์ภูเขาไฟที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้อีกด้วย

นอกจากนี้แล้วชายฝั่งโจกาซากิไม่เพียงแต่เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ น่านน้ำของชายฝั่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด รวมถึงปลาหายากและชุมชนปะการังหลากสี ระบบนิเวศเฉพาะตัวของพื้นที่นี้ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งผู้รักธรรมชาติและเหล่านักวิจัยจากทั่วทุก มุมโลก

สิ่งที่น่าสนใจบริเวณชายฝั่งโจกาซากิ

แนวชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรอิซุแห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่อิซุโคเก็น ห่างจากใจกลางเมืองอิโตะไปทางใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร ดึงดูดผู็คนด้วยเส้นทางเดินป่าที่ทอดยาวเกือบสิบกิโลเมตร พร้อมทัศนียภาพที่สวยงามและเต้มไปด้วยความน่าสนใจ

วิวชายฝั่งที่โดดเด่นด้วยหน้าผาหินลาวา

ชายฝั่งโจกาซากิเป็นแหล่งรวมของสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาลในการปะทุของภูเขาไฟ ลักษณะเด่นบางประการที่ว่านี้มีตั้งแต่ ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจโดยที่ลาวาที่เย็นตัวลงก่อตัวเป็นเสาหินรูปหกเหลี่ยมหรือแม้แต่กลุ่มหินรูปร่างเฉพาะตัวที่เกิดขึ้นเมื่อลาวาแข็งตัวภายในปล่องภูเขาไฟ ทำให้ตลอดแนวชายฝั่งเต็มไปด้วยหินและหน้าผาที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ซึ่งเกิดจากการไหลของลาวาและการกัดเซาะนับล้านปี สุดท้ายเลยคือพอสะสมเป็นระยะเวลานานเข้า พร้อมการกัดเซาะของน้ำทะเลจนกลายเป็นถ้ำและอ่าวจำนวนมากตามแนวชายฝั่ง ก่อให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาแตกต่างจากที่อื่น

สะพานแขวนคาโดวากิ (Kadowakitsuri Bridge)

สะพานแขวนคาโดวากิ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดของชายฝั่งโจกาซากิ สะพานนี้ มีความยาว 23 เมตรและสูงจากพื้นน้ำ 48 เมตรทำให้มองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของหน้าผาและมหาสมุทรโดยรอบได้อย่างชัดเจน ใกล้ๆ กันมีประภาคารคาโดวากิซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแนวชายฝั่งแบบพาโนรามา และในวันที่อากาศแจ่มใส ยังสามารถชมทัศนียภาพของเกาะอิซุโอชิมะได้อีกด้วย

เส้นทางเดิน Jogasaki Picnical Course

ชายฝั่งโจกาซากิมีเส้นทางเดินป่าที่ได้รับการดูแลอย่างดี หลายเส้นทาง ซึ่งช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความงามตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เส้นทางหลักยาวประมาณ 9 กิโลเมตรโดยมีเส้นทางต่างๆ ให้เลือกตามความชอบและระดับความฟิตที่แตกต่างกัน ส่วนเส้นทางเดินป่าที่แนะนำคือเส้นทางปิกนิกโจกาซากิเป็นเส้นทางเดินป่าตามแนวชายฝั่งโจกาซากิ มีความยาวรวม 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นเส้นทางที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับสะพานแขวนคาโดวากิและประภาคารคาโดวากิซากิอย่างช้าๆ  โดยเส้นทางนี้มุ่งเน้นไปที่พืชพรรณ สัตว์ และคุณลักษณะทางธรณีวิทยาของพื้นที่ โดยมีป้ายบอกข้อมูลตลอดเส้นทาง

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวที่ชายฝั่งโจกาซากิ

ชายฝั่งโจกาซากิทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามา 360 องศา  ในวันที่อากาศปลอดโปร่งจะมองเห็นเกาะอิซุเจ็ดเกาะและเทือกเขาอามาจิ นอกจากทิวทัศน์อันงดงามแล้ว ยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าคุณจะมาที่นี่ในฤดูกาลใดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป

ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูกาลแนะนำสำหรับการมาเยือนที่นี่ คือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นสภาพอากาศที่น่าพอใจที่สุดสําหรับการเดินป่า รวมทั้งท้องฟ้าสดใสเหมาะแก่การบันทึกภาพที่สวยงามเก็บไว้

ฤดูร้อนและฤดูหนาว

เส้นทางคดเคี้ยวไปตามชายฝั่งโดยมีบางส่วนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ให้ร่มเงาต้อนรับในฤดูร้อน นอกจากนั้นคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไฮเดรนเยียในเดือนมิถุนายน เดย์ลิลลี่ ดอกลิลลี่สควอชในเดือนกรกฎาคม  ส่วนฤดูหนาวก็มีทิวทัศน์ที่ชัดเจน แต่อาจหนาวเย็น ดังนั้นควรแต่งกายให้อบอุ่นเข้าไว้

ชายฝั่งโจกาซากิ (Jogasaki Coast)

ดูแผนที่ Jogasaki Coast

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

ไปเที่ยวชายฝั่งสวยงามมากๆ มาแล้วไปกันต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ที่เดินทางถึงกันได้ภายในวันเดียว และสามารถเที่ยวเพลินได้ทั้งครอบครัว

ที่ราบสูงอิซุ (Izu-Kōgen Highlands)

ที่นี่อยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซึ่งไม่สามารถเทียบได้กับที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น โดยมีภูเขาไฟฟูจิอยู่ด้านหนึ่งและมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้านหนึ่ง ทำให้บริเวณนี้มีทัศนียภาพอันงดงาม มีบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมมากมาย ถือเป็นอีกสถานที่ที่เหมาะสําหรับการผ่อนคลายและเติมพลัง นอกจากนั้นพื้นที่อันน่าทึ่งแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจเหมาะแก่การมาพักผ่อนด้วยกันทั้งครอบครัว

ที่ราบสูงอิซุ (Izu-Kogen Highlands)

ดูแผนที่ Izu-Kogen Highlands

ภูเขาโอมุโระ (Mt.Omuroyama)

เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรอิซุ ทางทิศใต้ของเมืองอิโตะ มีลักษณะเหมือนชามข้าวคว่ำอยู่ เป็นภาพที่สวยงามเมื่อเกิดแสงและเงา โดดเด่นตรงที่เป็นภูเขาเปลี่ยนสีได้ 4 สีตลอดปี ส่วนเส้นทางเดินรอบปากปล่อง สามารถเดินรอบเขาได้โดยใช้เวลาเดินเท้าราวๆ 30 นาที และพื้นที่ด้านในปล่องเป็นลานยิงธนูที่เปิดให้นักท่องเที่ยวลงไปทำกิจกรรมบริเวณนี้ได้ นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซึ่งคนในท้องถิ่นนิยมมาขอพรกันในเรื่องความรักอีกด้วยนะ

ภูเขาโอมุโระ (Mt.Omuroyama)

ดูแผนที่ Mt.Omuroyama

สวนสัตว์อิซุซาโบเต็น (Izu Shaboten Zoo) 

สวนสัตว์อิซุซาโบเต็นเป็นแหล่งกําเนิดของบ่อน้ำพุร้อนคาปิบาระดั้งเดิม ซึ่งได้กลายเป็นประเพณีฤดูหนาวของอิซุและมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนปีถัดมา การได้เห็นคาปิบาราแช่ตัวในห้องอาบน้ำกลางแจ้งทําให้ผู้มาเยือนจํานวนมากรู้สึกสงบสุขตามไปด้วย นอกจากที่นั้นยังมีสัตว์อีกหลายชนิดให้ชมเหมาะกับการมาเยือน

สวนสัตว์อิซุซาโบเต็น (Izu Shaboten Zoo) 

ดูแผนที่ Izu Shaboten Zoo

สรุป

การมายังชายฝั่งโจกาซากิจะเป็นการผจญภัยที่คุณสามารถดื่มด่ำกับความงามอันน่าหลงใหลและประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาคนี้ ลองนึกภาพตามว่าถ้าคุณกำลังยืนอยู่บนหน้าผาแล้วทอดสายตาไปยังท้องทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตา นอกจากนั้นคุณจะได้สํารวจภูมิประเทศที่สวยงาม ได้ค้นพบพันธุ์พืชแปลกๆ และเหล่าสัตว์หลากหลายชนิด ที่นี่จะมอบประสบการณ์ที่น่าสนใจ และเหมาะสําหรับผู้ที่แสวงหาการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นสวมรองเท้าให้แน่น แล้วมาเตรียมพร้อมผจญภัยไปกับชายฝั่งโจกาซากิแห่งนี้กัน