6 ออนเซ็น ทั่วจูบุ แช่ดี วิวเด่น คุณภาพเน้นๆ

1. อาตามิ ออนเซ็น (Atami Onsen)

อาตามิ ออนเซ็น ตั้งอยู่ในเขตคาบสมุทรอิซุ (Izu) จังหวัดชิซุโอกะ ทางทิศใต้ของโตเกียว มีบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่และมีชื่อเสียงโด่งดังมานานกว่า 200 ปี อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สุดยอดรีสอร์ทออนเซ็นของญี่ปุ่นอีกด้วย เนื่องจากเป็นแหล่งออนเซ็นติดทะเล จึงมีทั้งโรงแรมและเรียวกังเรียงรายอยู่หลายสิบแห่ง และยังมีออนเซ็นที่สามารถใช้บริการแบบไปเช้า-เย็นกลับอีกเป็นจำนวนมาก จึงมีผู้คนแวะเวียนกันมาเที่ยวตลอดปี
เหมาะกับการพักผ่อนในช่วงวันหยุดจริงๆ เลยล่ะ

นอกจากออนเซ็นแล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องอาหารทะเลที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย หลังแช่ออนเซ็นแล้ว อย่าลืมมาลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ กันนะ พุดดิ้งของอาตามิก็ขึ้นชื่อมากๆ บอกเลยว่าอร่อยสมคำร่ำลือทุกอย่าง

cr:atami onsen
cr:atami onsen
ถัดออกไปจากแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้ไม่ไกลนักก็จะได้พบกับชายหาดสวยๆ อย่าง อาตามิซันบีช ที่คนนิยมลงไปเล่นน้ำสัมผัสทะเลกันเป็นจำนวนมาก ในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟไลท์อัพอย่างสวยงามให้ได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีงานอีเว้นต์ตามฤดูกาลด้วยนะ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในตัวเมืองอาตามิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้คุณได้ไปเปิดประสบการณ์อีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าคิโนมิยะ (Kinomiya Shrine) ปราสาทอาตามิ (Atami Castle) พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA (MOA Museum of Art) หรือจะไปช้อปปิ้งที่ย่านร้านค้าอาตามิกินซ่า (Atami Ginza) ก็ได้นะ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบครันแบบนี้ มาที่ อาตามิ สิ บอกเลยว่าตอบโจทย์สุดๆ

อาตามิ ออนเซ็น (Atami Onsen)

ที่อยู่	Atami Onsen, Atami, Shizuoka 413-0012
วิธีเดินทาง	จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงที่สถานี Atami ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
Website	Atami Onsen (ภาษาอังกฤษ)

2. เกะโระ ออนเซ็น (Gero Onsen)

เกะโระ ออนเซ็น คือแหล่งน้ำพุร้อนในเมืองเกโระ จังหวัดกิฟุ เป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นในสมัย
เอโดะ มีโรงอาบน้ำสาธารณะในเมืองถึง 3 แห่ง และมีห้องอาบน้ำกลางแจ้ง (Rotenburo) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทาง
ทิศใต้ของปลายสะพานเกโระ ที่สามารถลงแช่ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ที่นี่ไม่ได้ฮิตเฉพาะเมื่อก่อนนะ แต่ยังฮิตติดชาร์ตมาจนถึงทุกวันนี้เลย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของ “น้ำพุร้อนแห่งความงาม” ที่เก่าแก่กว่า 100 ปี โดยเฉพาะน้ำแร่ที่เป็นน้ำบริสุทธิ์ที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง สีใส อ่อนโยนต่อผิว ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น บรรเทาความเหนื่อยล้า และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ดูเปล่งปลั่ง หลังแช่ผิวจะเนียนนุ่ม
น่าสัมผัส ถูกใจสายออนเซ็นแน่นอน

cr:gero onsen
cr:gero onsen
ใครอยากดื่มด่ำกับน้ำแร่คุณภาพพรีเมี่ยมของที่นี่ แนะนำให้ซื้อ “Yumeguri Tegata” หรือที่เรียกว่า “ตั๋วออนเซ็นเหมาจ่าย” ในราคาสุดคุ้มเพียง 1,300 เยน หาซื้อได้ทั่วเมืองเกโระ เรียวกัง ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งมีสิทธิพิเศษคือสามารถแช่น้ำแร่ฟินๆ ที่โรงอาบน้ำสาธารณะและเรียวกังได้ถึง 3 แห่ง แถมใช้เสร็จแล้วยังสามารถไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

นอกจากแช่ออนเซ็นแล้ว อย่าพลาดที่จะสวมชุดยูคาตะไปเดินเล่นในเมืองเกโระด้วยนะ เพราะที่นี่ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุดๆ

เกะโระ ออนเซ็น (Gero Onsen)

ที่อยู่	Gero Onsen, Gero, Shizuoka 509-2207
วิธีเดินทาง	จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟ JR Limited Express Wide View Hida ไปลงที่สถานี Gero ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หลังจากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
Website	Gero Onsen (ภาษาญี่ปุ่น)

3. สึกิโอกะ ออนเซ็น (Tsukioka Onsen)

cr:tsukioka onsen
สึกิโอกะ ออนเซ็น ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนที่มีความเข้มข้นของกรดซัลเฟอร์คุณภาพดีอันดับต้นๆ ของประเทศ ตั้งอยู่ในเมืองชิบาตะ จังหวัดนีงาตะ น้ำพุร้อนของที่นี่ถือว่าหายากมากๆ เนื่องจากมีสีเขียวมรกตและอุดมด้วยซัลเฟอร์ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ออนเซ็นเสริมความงาม” และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง

น้ำพุร้อนที่นี่อ่อนโยนต่อผิว เพราะมีค่าด่างอ่อนๆ หลังแช่จะทำให้รู้สึกว่าผิวเต่งตึง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการ
ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ช่วยผ่อนคลายความปวดเมื่อยร่างกาย บำบัดโรคผิวหนัง บาดแผลต่างๆ และโรค
เบาหวาน เป็นออนเซ็นชั้นเยี่ยมที่มีคุณสมบัติครบครันเลยทีเดียว

cr:tsukioka onsen
ช่วงเย็นถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินเล่นเป็นอย่างมาก ทั้งเมืองอบอวลไปด้วยกลิ่นของซัลเฟอร์
จากสึกิโอกะ ออนเซ็น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแสงไฟสว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง บรรยากาศดีงามมากๆ
ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจจะได้เห็นเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ เดินผ่านไปผ่านมา ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างของญี่ปุ่น
ที่น่าค้นหาจริงๆ

cr:tsukioka onsen
แนะนำให้ค้างคืนสัก 1 คืนนะ จะได้ซึมซับบรรยากาศญี่ปุ๊นญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ ที่นี่มีที่พักให้เลือกมากมาย
ทั้งโรงแรมขนาดใหญ่ เรียวกังสไตล์เก๋ไก๋ หรือเกสต์เฮ้าส์สไตล์ท้องถิ่น และยังมีกิจกรรมมากมายให้ทำ เช่น
จิบสาเกที่บาร์ท่ามกลางบรรยากาศออนเซ็น ลิ้มลองอาหารแสนอร่อย ซื้อของที่ระลึก นั่งแช่เท้า เป็นต้น

สึกิโอกะ ออนเซ็น (Tsukioka Onsen)

ที่อยู่	Tsukioka Onsen, Shibata, Niigata 959-2338
วิธีเดินทาง	จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ Joetsu Shinkansen มาลงที่สถานี Niigata จากนั้นนั่งรถไฟ JR สาย Hakushin มาลงที่สถานี Toyosaka แล้วต่อด้วยรถ Shuttle Bus ไปยัง Tsukioka Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที
เวลาทำการ	Reception 09.30 – 18.00 น.
Website	Tsukioka Onsen (ภาษาอังกฤษ)

4. ชิบุ ออนเซ็น (Shibu Onsen)

ชิบุ ออนเซ็น หมู่บ้านออนเซ็นชื่อดังที่ตั้งอยู่ในเมืองยามาโนะอุจิ จังหวัดนากาโนะ เป็นหนึ่งในเมืองออนเซ็นเก่าแก่ที่มีมีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี ในหมู่บ้านมีบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะถึง 9 แห่ง โดยผู้ที่เข้าพักในเรียวกังของเมืองนี้จะได้รับกุญแจสำหรับเข้าไปแช่ออนเซ็นสาธารณะทั้ง 9 แห่งนี้แบบฟรีๆ เลย หากสะสมแสตมป์ด้วยการประทับตราลงบนผ้าให้ครบก็จะได้รับของที่ระลึกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งไอเดียดีๆ ที่จะสร้างความทรงจำ
ให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

แต่สำหรับใครที่มาเที่ยวแบบไปกลับในวันเดียว สามารถแช่ออนเซ็นได้ที่โรงอาบน้ำหมายเลข 9 Oyu Public Bath ถึงจะแช่ได้แค่ที่เดียว แต่ก็สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศออนเซ็นได้ไม่แพ้ทั้ง 9 แห่งเลยล่ะ



สรรพคุณของน้ำพุร้อนในหมู่บ้านออนเซ็นแห่งนี้จะแตกต่างกันไปตามที่ ให้ได้เพลิดเพลินไปกับน้ำพุร้อน
หลากหลายชนิด ทั้งช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยบำบัดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเกี่ยวกับ
ระบบลำไส้ โรคกระเพาะอาหาร โรคผิวหนัง โรคเก๊าท์ โรคทางระบบประสาทต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย

ใครเดินถ่ายรูปเล่นจนเมื่อยแล้ว ที่นี่ยังมีบ่อน้ำร้อนสาธารณะสำหรับแช่เท้าอีกหลายจุดให้แวะมาแช่เท้าคลาย
ความหนาวกันได้ด้วยนะ หากคุณชอบออนเซ็นแนวดั้งเดิม วิวสวย บรรยากาศสดชื่น เงียบสงบหน่อยๆ ขอแนะนำ
ที่นี่เลย รับรองว่าจะหลงรักอย่างแน่นอน

ชิบุ ออนเซ็น (Shibu Onsen)

ที่อยู่	Shibu Onsen, Yamanouchi, Shimotakai, Nagano 381-0401
วิธีเดินทาง	จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ Hokuriku Shinkansen มาลงที่สถานี Nagano จากนั้น ขึ้นรถไฟ Nagano Electric Railway Express มาลงที่สถานี Yudanaka Station แล้วขึ้นรถบัสไปยัง Shibu Onsen (รถบัสออก 2 รอบ/ชม.) หรือนั่งแท็กซี่ไปก็ได้
เวลาทำการ	06.00 – 22.00 น. **สำหรับผู้ที่มาเที่ยวแบบไปกลับในวันเดียว สามารถใช้บริการแช่ออนเซ็นได้ที่โรงอาบน้ำ หมายเลข 9 Oyu Public Bath เท่านั้น ใช้ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น.
Website	Shibu Onsen (ภาษาอังกฤษ)

5. วาคุระ ออนเซ็น (Wakura Onsen)

วาคุระ ออนเซ็น แหล่งน้ำพุร้อนเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ตั้งบนคาบสมุทรโนโตะ (Noto Peninsula) บริเวณ
ริมอ่าวนานาโอะ (Nanao Bay) จังหวัดอิชิกาวะ เป็นน้ำพุร้อนเพียงแห่งเดียวในเขตโฮคุริคุที่ตั้งอยู่ติดทะเล
และสามารถมองเห็นอ่าวนานาโอะ

แหล่งออนเซ็นแห่งนี้มีโรงอาบน้ำพุร้อนคุณภาพสูงที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่เป็น
จำนวนมากติดต่อกันหลายปี ที่นี่มีออนเซ็นหลายแบบมากๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำอุ่น หรือแบบร้อนมาก แบบยืนแช่
อ่างกลางแจ้ง อ่างส่วนตัว อ่างแช่น้ำธรรมดา หรือซาวน่าก็มีนะ เยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลย บ่อน้ำร้อนอุ่นๆ
กับความสดชื่นจากภูเขาและทะเลจะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายไปทั้งร่างกายและจิตใจ


cr:wakura onsen
น้ำพุร้อนของที่นี่เป็นน้ำพุร้อนจากทะเล จึงมีคุณสมบัติจากแร่ธาตุโซเดียมที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียบนผิวหนัง
ให้สะอาดสดชื่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดตามไขข้อ และเส้นประสาท รวมถึงโรคที่มักเกิด
ในผู้หญิง

อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจคือออนเซ็นสาธารณะสำหรับแช่เท้าฟรี อย่าง Yuttari Park ที่สามารถแช่ไปด้วยชมวิวทะเลไปด้วย และอย่าลืมไปลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ และอาหารท้องถิ่นของที่นี่กันด้วยนะ หรือจะไปเที่ยว
สวนสาธารณะ วัด ศาลเจ้า ตลาดเช้าในบริเวณนี้ก็ได้เช่นกัน ใกล้ชิดติดธรรมชาติแบบนี้ หาจากไหนไม่ได้แล้วนะ

วาคุระ ออนเซ็น (Wakura Onsen)

ที่อยู่	Wakura Onsen, Wakura, Nanao, Ishikawa 926-0175
วิธีเดินทาง	จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงที่สถานี Maibara ต่อด้วยนั่งรถไฟด่วนสาย Shirasagi มาลงสถานี Kanazawa แล้วต่อรถไฟสาย Noto Kagaribi มาลงสถานี Wakuraonsen ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
เวลาทำการ	เวลาทำการของสำนักงาน 8.30 – 17.30 น. **ดูเวลาทำการของออนเซ็นแต่ละแห่งได้ในเว็บไซต์ของแต่ละที่
Website	Wakura Onsen (ภาษาอังกฤษ)

6. อาวาระ ออนเซ็น (Awara Onsen)

อาวาระ ออนเซ็น แหล่งน้ำพุร้อนเก่าแก่ของภูมิภาคจูบุ ตั้งอยู่ที่เมืองอาวาระ จังหวัดฟุกุอิ เมืองออนเซ็นแห่งนี้
ได้ชื่อว่าเป็นสปาชั้นเลิศของจังหวัดฟุกุอิและภูมิภาคโฮคุริคุ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเยียวยาสุขภาพที่แนะนำต่อๆ กันมา
นักต่อนัก และที่สำคัญ น้ำพุร้อนของที่นี่มีแร่ธาตุนานาชนิดกว่า 74 ประเภท จึงทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจาก
นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก

บ่อที่ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นมากที่สุดคือ Yuwaku Dori นอกจากนี้ยังว่ากันว่าน้ำพุร้อนของที่นี่นั้น
มีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อ ช่วยบำบัดโรคไขข้ออักเสบ โรคภูมิแพ้ และโรคผิวหนังเรื้อรังได้เป็นอย่างดี

cr:awara onsen
cr:awara onsen
ที่นี่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ อาคารบ้านเรือนที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคไปในสมัยโบราณของญี่ปุ่น ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นนึ้ ทำให้ได้รับเลือกให้เป็นเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ที่นี่
มีชื่อเสียงและกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

สามารถเดินทางมาเที่ยวแบบค้างคืนหรือไปกลับก็ได้นะ เพราะมีการจำหน่ายตั๋วไม้ ยูเมะกุริทาเกตะ (Yumeguri Tegata) ซึ่งใช้เข้าโรงอาบน้ำสาธารณะได้ถึง 3 แห่งใน 1 วัน ราคาก็เป็นมิตรสุดๆ เพียงแค่ 1,500 เยน อีกทั้งยังมีร้านอาหารทะเลสดๆ และเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อให้ได้ลิ้มลองกันด้วย แล้วมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันมีค่ากันได้ที่
อาวาระ ออนเซ็น แห่งนี้

อาวาระ ออนเซ็น (Awara Onsen)

ที่อยู่	Awara Onsen, Awara, Fukui 919-0632
วิธีเดินทาง	จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen มาลงที่สถานี Maibara จากนั้นนั่งรถไฟ JR สาย Hokuriku มาลงที่สถานี Awaraonsen
เวลาทำการ	ดูเวลาทำการของออนเซ็นแต่ละแห่งได้ในเว็บไซต์ของแต่ละที่
Website	Awara Onsen (ภาษาญี่ปุ่น)

ข้อสรุป

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากออนเซ็นอีกหลายแห่งทั่วภูมิภาคจูบุที่เราเลือกมาเท่านั้น ยังมีออนเซ็นอีกหลายแห่งให้มาสัมผัส แต่ออนเซ็นทั้ง 6 แห่งที่เราเลือกมาแนะนำนี้ สามารถเดินทางจากโตเกียวได้ง่ายและสะดวกสุดๆ เลยล่ะ รับรองว่าการแช่ออนเซ็นของคุณในครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าลืมมาเติมความสุขที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ และออนเซ็นร้อนๆ กันได้ที่นี่นะ ภูมิภาคจูบุ!