เราจึงขอแนะนำสถานที่เที่ยวสวยๆ พร้อมวิธีการเดินทางและพาสรถบัสสำหรับไปเที่ยว คามิโคจิ แบบคุ้มๆ ชนิดให้หมดหน้าตัก ไปดูพร้อมกันเลยว่าที่นี่มีอะไรรออยู่บ้าง
ช่วงเวลาเปิด-ปิดของอุทยานคามิโคจิ
ก่อนจะไปมาดูช่วงเวลาให้บริการของที่นี่กันก่อน ไม่ได้เปิดตลอดปีนะเออ จะไปอย่าลืมดูให้ดีๆ ก่อนนะ คามิโคจิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน – 15 พฤศจิกายนของทุกปี มีรถบัสให้บริการวิ่งเข้าไปถึงข้างในคามิโคจิเลย
ในส่วนของร้านค้า ช่วงอาทิตย์แรกที่เริ่มเปิดให้บริการนั้น ร้านค้าและโรงแรมอาจจะยังเปิดไม่ครบ แต่พอนักท่องเที่ยวเริ่มคึกคักหรือประมาณวันที่ 27 เมษายน ร้านรวงก็จะเปิดให้บริการกันพร้อมหน้า ใครที่หมายมั่นปั้นมือจะมาช้อปหรืออยากสัมผัสบรรยากาศครึกครื้นแนะนำให้มาในช่วงนี้
การเดินทาง & ตารางเวลารถบัส
กรณีเริ่มจาก Matsumoto Station
นั่งรถไฟ Alpico สาย Kamikochi Line มาลงปลายทาง Shin-Shimashima Station ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสไปคามิโคจิอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ตรงนี้ย้ำว่า Alpico ไม่ใช่รถไฟ JR และใช้พาส JR ใดๆไม่ได้เลยนะจ๊ะ
ดูตารางรถบัสได้ที่นี่ >>ตารางเวลารถไฟ/รถบัสมัตสึโมโตะ – คามิโคจิ (ไม่สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้)
นี่คือหน้าตาของ Shin-Shimashima Station ที่เป็นสถานีปลายทาง ลงสถานีนี้แล้วเปลี่ยนไปขึ้นบัสเข้าคามิโคจิกันเลย
กรณีที่เริ่มจาก โตเกียว/โอซาก้า/นากาโนะ
ไปขึ้นบัสได้ที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal หรือสถานีโตเกียว ชิบูย่า โอซาก้าบางเส้นทางจะมีไนท์บัสขึ้นรถตอนกลางคืนและมาถึงคามิโคจิตอนเช้า
ราคาขึ้นอยู่กับวันที่เดินทางและประเภทรถ (บางสายมีแบบที่นั่ง3แถวกับ4แถว) เช็คราคาได้ตอนกดจอง
>>ดูตารางเวลารถบัสท่ารถบัสชินจูกุ – คามิโคจิ
>>ดูตารางเวลารถบัสสถานีโตเกียว – คามิโคจิ
>>ดูตารางเวลารถบัสชิบุย่า – คามิโคจิ
>>ดูตารางเวลารถบัสเกียวโต/โอซาก้า – คามิโคจิ
>>ดูตารางเวลารถบัสนากาโนะ – คามิโคจิ
กรณีที่เลือกบัสแบบกรีนคาร์ (3 ที่นั่ง) หน้าตาจะต่างจากบัสทั่วไปที่คุ้นเคย เพราะจะแบ่งเป็นที่นั่ง 3 แถวแบบนี้ พื้นที่ระหว่างเบาะกว้างพอสมควร มีปลั๊กให้ชาร์จแบต ปรับเบาะและที่รองขาได้
แม้จะมีรถจากโตเกียว โอซาก้าและนากาโนะ แต่ต้องนั่งบัสเป็นระยะไกล อาจทำให้เหนื่อยเพลียหมดสนุกได้ เราขอให้นั่งรถไฟหรือรถบัสมาลงที่มัตสึโมโตะ แวะเที่ยวหนึ่งวันแล้วพักสักคืน แล้วค่อยไปต่อกันที่คามิโคจิ เดินทางสะดวก ไม่เหนื่อย แถมยังใช้เวลาได้คุ้ม
แนะนำพาส
มาเที่ยวทั้งทีจะแกร่วอยู่ที่เที่ยวก็เสียเที่ยว มาทำความรู้จักกับพาสที่ทำให้เราได้เที่ยวอย่างเต็มเที่ยวในราคาที่ประหยัดที่สุดก่อนดีกว่า เขามีครอบคลุมหลายแพลน ทั้งแบบ 2 วัน 4 วัน และพาสเที่ยวรอบจุดท่องเที่ยวยอดนิยมพาส 2 Day Free Passport
・ขึ้นลงได้ไม่จำกัด ใช้ได้ 2 วันติดต่อกัน รวมรถไฟจาก Matsumoto Station มา Shin-Shimashima Station
・สามารถเที่ยวคามิโคจิ มัตสึโมโต้ โนริคุระและชิราโฮเนะออนเซ็น
・ราคา 6,000 เยน / ถ้าเพิ่มเวลาใช้งานเป็น 3 วันราคา 7,000 เยน (เด็กครึ่งราคา)
・ที่ไทยซื้อได้ที่ H.I.S / ที่ญี่ปุ่นซื้อได้ที่ Matsumoto Bus Terminal และ Shin-Shimashima Station
>>ดูรายละเอียดพาสเพิ่มเติม
พาส 4 Day Alps WIDE Free Passport
・ขึ้นลงได้ไม่จำกัด ใช้ได้ 4 วันติดต่อกัน รวมรถไฟจาก Matsumoto Station มา Shin-Shimashima Station
・สามารถเที่ยวคามิโคจิ มัตสึโมโตะ โนริคุระ ชิราโฮเนะออนเซ็น ทาคายามะ ชิราคาวาโกะ ชินโฮทากะโรปเวย์ ฮิดะฟุรุคาว่า และ เกโระออนเซ็น
・ราคา 10,290 เยน / ซื้อรวมตั๋วขึ้นลงชินโฮทากะโรปเวย์ราคา 12,000 เยน (เด็กครึ่งราคา)
・ที่ไทยซื้อได้ที่ H.I.S / ที่ญี่ปุ่นซื้อได้ที่ท่ารถบัสมัตสึโมโตะ ท่ารถบัสทาคายามะและชิราคาวาโกะ
>>ดูรายละเอียดพาสเพิ่มเติม
พาส Alps Crossing Ticket (Kamikochi-type)
・ใช้ได้ 4 วันติดต่อกัน รวมรถไฟจาก Matsumoto Station มา Shin-Shimashima Station
・สามารถใช้เดินทางขาเดียวจากมัตสึโมโตะไปคามิโคจิ จากคามิโคจิไปทาคายามะ และจะใช้กลับกันโดยเริ่มจากทาคายาม่าไปมัตสึโมโตะก็ได้ (เส้นสีเทา)
・ราคา 5,000 เยน (เด็กครึ่งราคา)
・ที่ไทยซื้อได้ที่ H.I.S. / ที่ญี่ปุ่นซื้อได้ที่ท่ารถบัสมัตสึโมโตะและทาคายามะ
>>ดูรายละเอียดพาสเพิ่มเติม
แนะนำเส้นทางเดินชมธรรมชาติ
ได้พาสแล้วก็ไปเที่ยวอย่างสบายใจกันได้ ถึงไหนถึงกัน รถบัสทุกสายที่วิ่งไปคามิโคจิจะผ่านป้าย K-28 Taisho Pond วิวสวยมาก แนะนำให้ลงมาเก็บภาพบึงไทโชกับเทือกเขาโฮทากะกันก่อน เรามีพาสอยู่ในมือแล้ว ขึ้นลงได้ตามใจชอบ
ลงมาแล้วจะเจอสะพานไม้แบบนี้ หามุมดีๆ ได้ภาพสวยเยอะนะ เดินชมนกชมไม้ไปจนถึงทางแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็น River Course ซึ่งเราเลือกทางนี้
แล้วเราก็จะเจอกับ บึงทาชิโระ (Tashiro Marsh) บึงใสสะอาด สีแปลกดี ดูแล้วสงบใจ
เดินต่อมาเรื่อยๆ ตามทางจะเจอกับทัศนียภาพอลังการนี้ พอถึงตรงนี้ก็อย่าลืม…ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป! เสร็จแล้วข้ามสะพานไปทางซ้าย
เดินมาเรื่อยๆ ตะวันเริ่มสูง ท้องก็เริ่มหิวพอดี แวะทานอาหารเที่ยงที่โรงแรม Lemeiesta ซะเลย
เมนูตัวอย่าง ข้าวหน้าเนื้ออบ 2,500 เยน ข้าวหน้าฟัวกราส์และเป็ดรมควัน 2,000 เยน พาสต้าประจำวันก็มี สนนราคาที่ 1,800 เยน หรูไปอีก แต่ราคาเอื้อมถึงอยู่นะ
นอกจากนี้ยังมีเมนูคอร์สกลางวันที่มีซุป จานหลัก ข้าว/ขนมปัง สลัด ขนมหวาน ในราคา 3,000 เยน ใครหิวมากก็จัดได้เลย
แถมตอนเที่ยง จะสามารถสั่งเมนูอาหารบางอย่างออกมาทานที่ระเบียงด้านนอกของโรงแรมได้ ชมบรรยากาศกินไปเพลินๆ เจริญอาหารมาก
ท้องอิ่มแล้วก็มีแรงไปเที่ยวกันต่อ
เดินต่อไปตามสะพาน วิวทิวทิศน์สวยมากจริงๆ ภูเขาที่โอบล้อม ต้นไม้เขียวขจีื น้ำใสไหลเอื่อย และลมเย็นๆ พัดมาให้ชื่นใจ
แวะทักทายสัตว์โลกน่ารัก
วิวสวยขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่จะมีคนมาวาดรูปเก็บความสวยงามไว้ในกระดาษ บางคนถึงกับขนผ้าใบขาตั้งมาวาดกันเลยทีเดียว
และนี่ก็คือ สะพานคัปปะ อันเป็นสัญลักษณ์ของคามิโคจิ เห็นเจแปนแอลป์ได้ใกล้ชิด มาถึงจุดนี้ก็แน่นอนว่าทุกคนยกกล้องขึ้นโดยพร้อมเพรียง บอกเลยว่าถ่ายด้วยกล้องอะไรก็ออกมาสวย มาตอนเที่ยงคนจะแน่นหน่อย ช่วงเวลาแนะนำคือก่อน 9 โมงเช้าและหลังบ่าย 3 โมงครึ่ง
ใกล้ขนาดนี้เลย?! เปล่า เราใช้เลนซูม (ฮา) เทือกเขาโฮทากะ หน้าหนาวจะเป็นสีขาวโพลนเลย
เปลี่ยนมุมสักหน่อย ได้ภาพเก๋ขึ้นอีกเยอะ
อิ่มอกอิ่มใจกับธรรมชาติแล้วก็ถึงเวลา…ของฝาก! เห็นขวดน่ารักๆ มีกัปปะแบบนี้ นี่คือไวน์นะจ๊ะ
เนื้อม้าก็มา! ใครอยากลองก็ซื้อโลด
วกกลับมาศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใกล้ๆ ท่ารถบัส เดินจากสะพานแค่ 5 นาที มีข้อสงสัยอะไรหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็เข้าไปถามกันได้เลย
แหะๆ ของกินอีกแล้ว เพิ่งกินมาก็กินอีก! ซาลาเปาเนื้อ ซาลาเปาถั่วแดงร้อนๆ ยิ่งช่วงนี้หนาวๆ อร่อยเป็นสองเท่า
เที่ยวจนพอใจแล้ว ขึ้นรถบัสจากท่ารถบัสคามิโคจิ ถ้าไปเที่ยวที่อื่นแล้วไปรอขึ้นรถบัสกลางทางอาจจะไม่มีที่นั่ง เพราะส่วนใหญ่ก็จะเต็มตั้งแต่ต้นทางนี้แล้ว
ส่วนใหญ่ที่คนอื่นรีวิวจะเป็นภาพบรรยากาศช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่นอกจากช่วงนี้แล้ว อีกช่วงที่น่าเที่ยวก็คือช่วงหลังจากหยุดยาวโกลเด้นวีค ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงกำลังเปลี่ยนจากฤดูใบไม้ผลิเข้าฤดูร้อนที่อากาศเย็นสบาย ฝนไม่ค่อยตก ยังเหลือหิมะบนยอดเขาให้ชม ที่สำคัญคือคนไม่เยอะ แบบที่เราเอามาให้ชมกันในคราวนี้เลย
อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในคามิโคจิเพิ่มเติมได้ที่นี่ข้อสรุป
มาทริป คามิโคจิ นี้อาจจะต้องใช้กำลังขากันนิดหนึ่งเพราะเดินค่อนข้างไกล แต่ถามว่าคุ้มไหม ตอบเลยว่าคุ้มมาก วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ แบบนี้ต้องได้มาสัมผัสสักครั้งในชีวิต! แถมเรายังมีพาสดีๆ ให้ได้ตะลุยเที่ยวแหลกแบบสะใจอีกต่างหาก ถ้าใครมีโอกาสได้มาแนะนำให้ใช้ มันคุ้มจริงๆ สำหรับใครที่อยากหาสถานที่วนใจอ่านๆ ของนากาโนะลองอ่านบทความนี้ดู
สุดยอดสถานที่วิวสวยแห่งนากาโนะ EP 2 ฮาคุบะ ธรรมชาติที่คุณต้องหลงรัก
“ฮาคุบะ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ของ นากาโนะที่เราอยากแนะนำ ที่จริงแล้วสถานที่นี้มีความโด่งดังไม่แพ้ คามิโคจิ เป็นจุดมุ่งหมายของคอสกีเพราะ มีหิมะคุณภาพดีแบบสโนว์พาวเดอร์ ทั้งยังเคย เป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 1998 แต่ ฮาคุบะไม่ได้มีเสน่ห์เพียงหน้าหนาว และเราจะพาคุณไปพบกับความงดงามของฤดูร้อน และ ใบไม้ร่วงที่มีเสน่ห์ น่าเที่ยวไม่แพ้กัน