ทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวรอบเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) จ.นากาโนะ (Nagano) รวมจุดถ่ายรูปชมวิวสวย 

การเดินทางจากโตเกียวไปมัตสึโมโตะ (Matsumoto)

การเดินทางไปยังเมืองมัตสึโมโตะจากโตเกียวนั้นทำได้หลายทาง เช่น รถบัส รถไฟ หรือรถยนต์ วันนี้เราพาเพื่อนๆลองนั่งรถไฟสายยอดนิยมที่มาจากสถานีชินจูกุได้เลย นี่คือขบวน Azusa ซึ่งเป็นขบวนที่ต้องจองล่วงหน้า นั่งยาวมาลงที่สถานี Matsumoto เลยจ้า

รู้จัก Asama Onsen

ออนเซ็นอาซามะ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ขึ้นชื่อในด้านคุณสมบัติในการบำบัด ซึ่งที่นี่เป็นที่รักของคนญี่ปุ่นมาเป็นเวลายาวนาน โดยแวะเวียนมาใช้บริการแช่น้ำออนเซ็นตลอด 

ความน่ารักของที่นี่คือ มีออนเซ็นแช่เท้าแบบฟรีๆด้วยนะ ในระหว่างที่เราแช่เท้าก็เป็นช่วงเวลาที่เราอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆ เพราะได้สนทนาคุยกัน 

ถ้าเพื่อนๆหิว ก็สามารถเดินมาซื้อขนมท้องถิ่นนะ นี่คือร้าน Miyata Meisan เป็นร้านขนมและของฝากเก่าแก่ของย่านนี้เลยนะ 

ขนมมันจูที่มีหีบห่อบรรจุอย่างดี น่ารักมากๆ เป็นห่อสำหรับสีขาวและสีน้ำตาล ด้านในเป็นไส้ถั่ว จะซื้อแยกชิ้นหรือซื้อแบบกล่องก็ได้นะ 

หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นสำรวจหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ที่นี่ยังมีทั้งสวนสาธารณะและวัด ที่สามารถเดินชมความงามของสิ่งก่อสร้างแบบญี่ปุ่นได้ 

อาซามะออนเซ็นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึง 1,300 ปีหรือมากกว่านั้น หลังจากยุคเอโดะ บริเวณนี้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักประพันธ์ กวี และศิลปินชื่อดังมากมาย

เราชอบเดินเล่นไปเรื่อยๆ ชอบที่มีร้านเล็กๆวางขายผัก ผลไม้ตามฤดูกาลในราคาที่ไม่แพงด้วย 

ร้านไก่ทอด Kawasho

ถ้าเพื่อนๆหิว ก็ตามเรามาเลย เราจะพาไปกินไก่ทอดที่แสนอร่อยและมีชื่อเสียงมาก ไม่ต้องจองล่วงหน้าก็แวะมาได้ ทางเดินมาร้านก็ง่ายมากๆ 

ที่นี่จะทอดไก่แบบสดๆร้อนๆ ด้วยเทคนิคการทำแบบพิเศษของงร้านทำให้กินแล้วสดชื่นอร่อยมาก สามารถเลือกเนื้อต้นขาหรือหน้าอกได้ด้วย 

ร้านไก่ทอด Kawasho

ที่อยู่	1-17-32 Asamaonsen, Matsumoto-city, Nagano
วิธีการเดินทาง	จากสถานี Matsumoto bus terminal ลงรถบัสลงที่ป้าย Asama onsen Iriguchi
วันหยุด	อังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์
เวลาทำการ	11:30 – 13:30 น.
ราคา	ฟรี
Website	Kawasho

ดูแผนที่ ร้านไก่ทอด Kawasho

เพลิดเพลินกับที่ราบสูง Utsukushigahara ในฤดูหนาว

ครั้งนี้เราวางแผนที่จะพักที่ Utsukushigahara Kogen ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว เมื่อถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ก็จะกลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามสุดๆ
Utsukushigahara Kogen ตั้งอยู่บนเขาสูง ซึ่งครั้งนี้เราได้จองโรงแรมใน Utsukushigahara Kogen ไว้ เราก็เลยนั่งรถบัสของโรงแรมจากสถานี Matsumoto

การเดินทางไปโรงแรมนั้น ระหว่างทางเป็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาบนยอดเขาที่ระดับความสูง 2,034 เมตร คือ Utsukushigahara-Kogen Plateau รถเค้าจอดให้เราลงไปถ่ายรูปด้วย ดีใจมาก 

แม้จะจอดให้แขกโรงแรมได้ถ่ายรูปวิวแค่ราวสิบนาที แต่บอกเลยว่าคุ้มมากๆ 

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงโรงแรมแล้ว น่ารักไหม ที่นี่มีห้องพักจำนวน 45 ห้อง ทันทีที่เราเข้าไปถึงหน้าโรงแรมก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมากๆ 

ห้องพักของเรา สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้ด้วยนะ เป็นพื้นเสื่อทาทามิและปูที่นอนด้วยฟูกนุ่มๆ ซึ่งพนักงานจะเข้ามาปูให้ตอนเราออกไปกินอาหารค่ำ 

เราชอบความพิเศษของบ่อออนเซ็นที่นี่คือ บ่อแช่ส่วนตัวนี้ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ถ้าห้องไหนว่างเมื่อไหร่ก็เข้าไปได้ ดังนั้นความสนุกคือการลุ้นว่าจะได้ห้องไหน เพราะมีตั้งสามห้อง 

ในช่วงหน้าร้อน เราสามารถลองเดินเล่นตามยอดเขาและชมธรรมชาติแบบเขียวขจี พอเข้าฤดูหนาว ก็เพลิดเพลินกับกิจกรรมรองเท้าเดินบนหิมะ และทัวร์สัมผัสประสบการณ์นั่งรถหิมะแบบนี้ เท่สุดๆ 

รถหิมะในฤดูหนาวนี่แหล่ะมันส์มากๆเลย เป็นกิจกรรมในฤดูหนาวที่ยอดฮิตมากๆสำหรับคนที่มาพักที่นี่ เพื่อนๆมาแล้วต้องลองมานั่งนะ 

เราไม่ต้องรอคิวนานเลย เพราะเค้าจะออกรอบบ่อย ขณะที่รถเราเพิ่งมาจอด รถอีกคันก็ออกไปพอดี หิมะปลิวฟุ้งเลยจ้า 

ไปดูบรรยากาศด้านในบ้าง ด้านหลังนั่งได้ประมาณ 6-8 คน ระหว่างที่นั่งไป ชมวิวไป ก็ได้รับความตื่นเต้นตลอดเส้นทางกับการขับของเจ้าหน้าที่  

รองเท้าเดินบนหิมะที่เราเช่ามาจากโรงแรม เราถือติดรถมาด้วยเพราะขากลับจากรถหิมะแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถจอดยังจุดที่เราต้องการให้ลงเดินเพื่อลองประสบการณ์เดินบนหิมะด้วยรองเท้าหิมะได้อีก

วิวยามเย็นนี่ สวยสุดคำบรรยายจริงๆ ที่โรงแรมก็ยังเหมาะสำหรับการนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินมากๆ 

วิวตอนเดินขึ้นไปโรงแรมว่าสวยมากๆแล้ว ตอนหันกลับไปมองนี่ยิ่งสวยกว่า ก็อดใจไม่ไหวตามเคย ถ่ายรูปรัวๆไปเลย 

ปรากฏการณ์ท้องฟ้าสีชมพู ซึ่งเกิดในช่วงพลบค่ำเป็นเวลาราวสิบนาทีก่อนจะค่อยๆจางลงและหายไปพร้อมกับความมืดลง 

และตอนนี้พอได้มองวิวภูเขาไฟฟูจิก็ยิ่งสวยมากๆ ช่างภาพส่วนใหญ่ที่มาพักโรงแรม จะพกเลนส์กล้องขนาดใหญ่มาถ่ายรูปด้วย รับรองความสวยของภาพเลยจ้า 

บรรยากาศช่วงค่ำหนาวสุดๆ ด้วยอุณหภูมิที่ติดลบ 9 องศาแบบว่า หนาวสุดๆ สะใจดีแท้ เพื่อนๆต้องเตรียมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นมาดีๆนะ 

หลังจากหนีความหนาวเหน็บจากด้านนอกมา ก็มารับเครื่องดื่มหลากหลาย แบบว่า รู้ใจมากๆ มีเครื่องดื่มอุ่นๆด้วย ถ้วยนี้คือ อามะสาเก หรือ สาเกหวานที่ไม่มีแอลกอฮอล์  ช่วยสร้างสมดุลในลำไส้ ·  บำรุงผิวพรรณให้สดใส และเพิ่มความสดชื่นให้สมอง 

อาหารค่ำก็น่ารักมากๆ โดยเฉพาะความใส่ใจต่อเมนู ที่มีภาพอาหารแบบจัดวางของจริงให้เหมือนในเมนูเลย 

ปลาอายุย่าง ปลารสชาติแสนอร่อย  ที่พนักงานจะเดินเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะเลยจ้า แล้วบรรยากาศที่ว่าดีแล้ว เจอกิจกรรมย่างปลาและเดินแจกปลาตามโต๊ะต่างๆ ก็ยิ่งสนุกมากๆ ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวเรา

การเดินชมท้องฟ้า หรือถ่ายรูปดวงดาวยามค่ำคืนก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ แม้แต่มือถือก็ยังถ่ายได้เลยจ้า สวยอะไรขนาดนี้ ก่อนเวลารวมตัวกัน โรงแรมจะประกาศเสียงดังเลย ทุกคนจะออกจากห้องมารวมกัน เดินไปด้วยกัน มีคนบรรยายให้ชมดาวบนท้องฟ้า บรรยากาศอบอุ่นมาก 

จุดพักดื่มน้ำ ที่มีน้ำชาร้อนๆให้บริการในช่วงที่เราพักผ่อน ( ฤดูหนาว) เราชอบมากๆ เพราะแขกทุกคนจะมานั่งล้อมวงกัน คุยกันอย่างออกรส 

ตอนเช้า ก็รีบตื่นอีกแล้ว เพราะมีกิจกรรมที่ไม่อยากพลาดเลยนั่นคือการชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยมากๆ เราตื่นหกโมงเช้า รีบคว้ากล้องออกมาเลย 

ระหว่างที่รอ อากาศหนาวมากๆ โรงแรมก็รู้ใจสุดๆเปิดคาเฟ่ ชงกาแฟให้แขกแต่เช้าเลย หอมกรุ่นกันทั้งห้องเลยจ้า 

คนที่มารอถ่ายรูปล้วนแต่เป็นแขกที่มาพักที่โรงแรมทั้งนั้น ทุกคนมีอุปกรณ์การถ่ายรูปอย่างครบเลย แสงเช้ากำลังจะมา หนาวก็หนาว ตื่นเต้นแล้ว 

และแล้วพระอาทิตย์ก็ส่องสว่างพ้นขึ้นมาจากขอบของยอดเขา ตอนนี้ได้ยินแต่เสียงกดชัตเตอร์รัวๆ แสงยามเช้าสีส้มตัดกับสีขาวของหิมะ สวยมากๆ 

พอฝั่งนี้พระอาทิตย์ขึ้น แน่นอนว่าเราต้องรีบวิ่งไปถ่ายรูปอีกฝั่งที่แสงส่องช่วงบนยอดเขา เป็นความรีบที่สนุกมากๆ เพราะต้องแข่งขันกับเวลา 

จากนั้นกลับมาพักผ่อนก่อนจะมาห้องอาหารเช้าที่มีอาหารแสนอร่อยและรอยยิ้มจากพนักงานรออยู่ 

กินข้าวเช้าเสร็จ ก็มีเสิร์ฟกาแฟด้วย มุมนี้แหล่ะที่ถูกใจเรามากๆจนอยากจะนั่งต่อนานๆ เพื่อนๆเห็นยอดภูเขาไฟฟูจิไหม 

จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับกัน ขากลับเจ้าหน้าที่คนขับรถ จอดแวะระหว่างทางให้เราได้ลงไปดื่มด่ำกับวิวอลังการกันอีกครั้ง 

รถโรงแรมใช้เวลาราว 45 นาทีก็พาทุกคนมาถึงสถานีมัตสึโมโตะเหมือนเมื่อวานเลย จากที่นี่ เราก็ฝากกระเป๋าในสถานีก่อน แล้วเริ่มทริปต่อไปเลยจ้า 

Ougatou Hotel

ที่อยู่	8964 Iriyamabe, Matsumoto, Nagano 390-0222
วิธีเดินทาง	ฤดูร้อน: ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีโดยรถบัสร่วม Daiichi Kotsu จากทางออกทิศตะวันตกของสถานี Matsumoto ไปยัง Utsukushigahara Nature Conservation Center ค่าโดยสาร 1,000 เยนเที่ยวเดียว นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมถึงโอบ้ง ยังสามารถใช้รถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Utsukushigahara Kogen Art Museum โดย Alpico Kotsuได้ ฤดูหนาว: พักที่ Ougatou Hotel หรือ Yamamoto Goya และใช้รถบัสเฉพาะแขกเท่านั้น
Website	Ougatou Hotel

ดูแผนที่ Ougatou Hotel

เรียนรู้เดินทางด้วย Town sneaker

เพื่อนๆที่รักเดินทางแต่ก็ไม่อยากซื้อตั๋วบ่อยๆทั้งเข้าสถานที่และรถบัส หนึ่งในทางเลือกคือ การใช้แอพพลิเคชัน Town Sneaker ในการเดินทางที่นี่ มีภาษาอังกฤษด้วยนะ ลองโหลดเลยจ้า จ่ายค่าตั๋วผ่านบัตรเครดิต สามารถใช้มือถือเครื่องเดียว ซื้อตั๋วเผื่อสมาชิกคนอื่นๆที่ไปด้วยกันได้ 

ปราสาทมัตสึโมโตะ

เรานั่งรถบัสจากป้ายด้านหน้าสถานีมัตสึโมโตะ พาเรามาจอดใกล้ปราสาทมัตสึโมโตะ เราใช้แอพพลิเคชันโชว์กับเจ้าหน้าที่ ก็ได้เข้ามาชมด้านในปราสาทเลย 

ปราสาทมัตสึโมโตะ เป็นหนึ่งในปราสาทที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น พร้อมทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์

มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการมีทั้งหอปราสาทรองและป้อมปืนติดกับตัวปราสาทหลัก โครงสร้างปราสาทผสมผสานกับกรุผนังสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และสุขุม

ปราสาทมัตสึโมโตะ

ที่อยู่	4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873
เว็บไซต์	https://www.matsumoto-castle.jp/
เวลาทำการ	ปกติ 8:30 – 17:00 น.(ยกเว้นช่วงฤดูกาล ปิด 29 -31 ธันวาคม )
การเดินทาง	จากสถานีMatsumoto เดิน 15 นาที / รถบัส Town sneaker ลงป้าย Matsumotojo/ รถบัสประจำทางของเมือง

ดูแผนที่ ปราสาทมัตสึโมโตะ

พิพิธภัณ์เมืองมัตสึโมโตะ

จากที่ปราสาทมัตสึโมโตะ หากอยากเดินเล่นไปเรื่อยๆตามถนนในเมือง ก็สามารถเดินมาที่พิพิธภัณฑ์เมืองมัตสึโมโตะได้ ที่นี่มีงานศิลปะสวยๆที่เป็นงานฝีมือญี่ปุ่นแท้ๆ รวมถึงการแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองที่ทรงคุณค่ามากๆ 

นอกจากจะได้ชมงานสวยๆแล้ว เค้ายังวางเปียโนไว้ ให้ใครก็ได้ที่รักเสียงดนตรีและลองเล่นเปียโนได้ เองนะ ตอนที่เราไปก็มีคนมาเล่นให้ฟัง เพลินมาก ถือเป็นมุมพักผ่อนของชาวเมืองเลย 

พิกัด พิพิธภัณ์เมืองมัตสึโมโตะ

ที่อยู่	3-2-21 Ote, Matsumoto City, Nagano Prefecture 390-0874
Website	https://matsumoto-city-museum.jp/
เวลาทำการ	ชั้น 1 เวลา 9:00-21:00 น. / ชั้น 2 เวลา 9:00-17:00 น.
วันหยุด	1F: วันอังคารที่ 3 ของทุกเดือน (ในกรณีเป็นวันหยุด จะหยุดในวันธรรมดาถัดไป)  2F/3F Exhibition Room, 1F Children’s Experience Plaza Asoviva! : ทุกวันอังคาร　 　(ในกรณีเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดในวันธรรมดาถัดไป)  1F, 2F, 3F: วันหยุดสิ้นปีและปีใหม่ (29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคมของปีถัดไป) *อาจมีการปิดให้บริการชั่วคราว

ดูแผนที่ พิพิธภัณ์เมืองมัตสึโมโตะ

อาหารเที่ยงร้าน Shinmiyoshi 

เที่ยงนี้เราจะพาเพื่อนๆมากินข้าวที่ร้านชินมิโยชิ ร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อม้าให้เราได้ลองชิมดู หน้าร้านมีสัญลักษณ์ม้าอยู่ 

ด้านในแบ่งโต๊ะออกเป็นโซนที่นั่งอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ตกแต่งผนังและรอบๆ เกี่ยวกับม้าทั้งสิ้น 

เมนูเนื้อม้าสเต็ก เป็นเมนูเซ็ทมื้อเที่ยงที่อิ่มเลย เนื้อม้านุ่มมากๆ ปรุงรสด้วยน้ำซอสที่เข้ากันได้ดีมาก และยังมีเครื่องเคียงอื่นๆด้วย ร้านอยู่ไม่ไกลจากสถานีมัตสึโมโตะ เดินมาก็สะดวกมากๆ 

Shinmiyoshi

ที่อยู่	1-7-17 Chuo, Matsumoto 390-0811 Nagano Prefecture
Website	http://sinmiyoshi.com/
เวลาทำการ	มื้อเที่ยง 11:30～14:00（LO 13:30） มื้อค่ำ 17:00～22:00（LO 21:30） ไม่มีวันหยุด
TEL	0263-39-0141
ราคา	เริ่มต้น 1100 เยน

ดูแผนที่ Shinmiyoshi

ถนน NAWATE STREET และ NAKAMACHI STREET  

หลังจากกินข้าวแล้ว มาเดินเล่นย่อยอาหารกันก่อน ที่ถนน NAWATE STREET และ NAKAMACHI STREET  ที่รวมร้านขายของที่ระลึกและขนมกินเล่นไว้

มาถึงที่นี่แล้วก็ไม่ลืมที่จะมาไหว้ขอพรต่อกันที ศาลเจ้าโยฮาชิระ ที่บางครั้งก็มีร้านค้าเล็กๆมาเปิดชั่วคราวถ้าเป็นช่วงเทศกาล

ถนนนาวาเตะ ตั้งอยู่เลียบแม่น้ำ เมะโตบะ (Metoba river) เป็นแม่น้ำขนาดเล็กที่ไหลผ่านกลางเมืองมัตสึโมโตะ ถือเป็นจุดชมวิวที่น่ามาพักผ่อนแห่งหนึ่งเลยล่ะ 

จุดเด่นของถนนนี้คือ สามารถหาของกินเล่นอร่อยๆได้เรื่อยๆ วันนี้เราเลยลองชิมซอฟต์ครีมรสคาราเมลดู เพลินมากเลย 

จากนั้น เราเดินเล่นกันไปเรื่อยๆจนมาโผล่ที่ ถนนนาคามาจิ ถนนนี้มีชื่อเสียงมาจากโกดังแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าคุระ ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งโดดเด่นด้วยผนังลายกากบาทสีขาวดำ 

ถนนที่สวยงามแห่งนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่เราสามารถซื้องานหัตถกรรมญี่ปุ่น เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเขิน และงานฝีมือไม้ มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านโซบะมากมาย

ประสบการณ์ทำจานรองแก้วจากกระดาษสาญี่ปุ่น ร้าน Kamiyakata Shimayu 

ก่อนจบทริป เพื่อนอาจจะลองเปลี่ยนบรรยากาศมาลองทำงานฝีมือแบบญี่ปุ่นกันดู วันนี้เราได้มาลองทำจานรองแก้ว ทำมาจากกระดาษสาลวดลายญี่ปุ่น ที่ร้าน Shimayu 

เจ้าหน้าที่ของร้านจะพาเราขึ้นไปทำเวิร์คช็อปที่ชั้นสอง ให้เลือกกระดาษสาญี่ปุ่น ลายต่างๆ 4 แผ่น แจกอุปกรณ์และอธิบายขั้นตอนอย่างง่ายๆ คนที่ไม่เคยทำก็สามารถทำได้ง่ายๆ 

ใช้เวลาทำกิจกรรมราว 2 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องรอให้กาวแห้งดีๆ อาจต้องเผื่อเวลามากกว่านี้นะ จากนั้นก็จะได้งานฝีมือจานรองแก้วแบบสวยไม่ซ้ำใครเลยจ้า ของจริงน่ารักมาก จากที่นี่ เราสามารถเดินต่อไปสถานีมัตสึโมโตะก็ราวสิบนาทีนิดๆเอง 

Kamiyakata Shimayu

ที่อยู่	2-chome-4-1 Asama, Fujiyoshida, Yamanashi 403-0031
Website	https://shimayu.co.jp/
ราคา	1500 เยน
เวลาทำการ	10:00 – 18:30 น.
จอง	info@shimayu.co.jp  (หยุดวันพุธ) จองล่วงหน้าอย่างน้อยสามวัน

ดูแผนที่ Kamiyakata Shimayu

สรุป 

เมืองมัตสึโมโตะ ไม่ได้มีที่เที่ยวแค่ปราสาทเท่านั้น แต่เรายังสามารถเที่ยวมุมอื่นๆได้ด้วย ได้กินอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นอร่อยๆ ได้พักผ่อนแช่ออนเซ็น ถ่ายรูปวิวสวยๆ ได้ลองทำกิจกรรมท่ามกลางหิมะและทำงานฝีมือญี่ปุ่น แบบคุ้มค่าและให้ความทรงจำที่ดีมากๆ ใครที่อยากได้ข้อมูลและหาวิธีการเดินทางเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ของเมือง https://visitmatsumoto.com/th/ และช่องยูทูป https://www.youtube.com/@visitmatsumotoofficial6465

บทความที่เกี่ยวข้อง