ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ Motonosumi Inari Shrine เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi) ของญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงจากเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น โดยมีเสาโทริอิทั้งหมด 123 ต้นที่สร้างความตระการตา นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมาขอพรในเรื่องโชคลาภและความสำเร็จ การเยือน Motonosumi Inari Shrine จึงไม่เพียงแต่จะได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและความเชื่อของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง
ความโดดเด่นของ Motonosumi Inari Shrine
สิ่งที่โดดเด่นของ Motonosumi Inari Shrine คือการมี เสาโทริอิสีแดง 123 ต้น ที่เรียงรายอยู่ตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เสาโทริอิที่มีขนาดใหญ่และเรียงรายอย่างสวยงามมอบทิวทัศน์ที่ตระการตา และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเดินชมและถ่ายรูปเพื่อเก็บความทรงจำ นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์และเชื่อมโยงกับเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งโชคลาภและการเกษตร ทำให้ผู้คนมาขอพรในเรื่องโชคลาภและความสำเร็จ การขอพรในกล่องเหรียญกับการสักการะบนยอดโทริอิยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้การเยือนศาลเจ้าแห่งนี้มีความหมายลึกซึ้ง และยังทำให้คุณสามารถสัมผัสกับธรรมชาติท้องทะเลญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด
ตำนานของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)

ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้ง ในตำนานเล่าว่า ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อบูชาเทพอินาริ (Inari) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคดี ความเจริญรุ่งเรือง และความอุดมสมบูรณ์ โดยเทพอินาริมักจะได้รับการเคารพจากชาวนาและพ่อค้า เนื่องจากเชื่อกันว่าเทพองค์นี้จะช่วยให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตและกิจการค้าขายเป็นไปด้วยดี
ตำนานหนึ่งเกี่ยวกับศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ เล่าว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง และเขาได้เดินทางไปยังภูเขาเพื่อขอพรจากเทพอินาริ เพื่อให้กิจการค้าขายของเขาเจริญรุ่งเรือง และในขณะนั้น เทพอินาริได้ปรากฏตัวในรูปของสุนัขจิ้งจอก ซึ่งเป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับเทพอินาริ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เมื่อชายหนุ่มขอพร เทพอินาริได้แนะนำให้เขาก่อสร้างศาลเจ้าขึ้นในพื้นที่ใกล้ทะเล ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริในปัจจุบันนี้
ตามตำนานยังเล่ากันว่า ศาลเจ้านี้ได้รับการอวยพรจากเทพอินาริอย่างต่อเนื่อง และความเจริญรุ่งเรืองก็ได้มาเยือนกับผู้ที่มาขอพรที่นี่ โดยเฉพาะการขอพรเกี่ยวกับการเกษตรและการค้าขาย ดังนั้น ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ จึงเป็นที่ศรัทธาของผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นที่ต้องการขอพรในเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง
การที่ศาลเจ้ามีโทริอิ (Torii) สีแดงเรียงรายจำนวนมากก็สะท้อนถึงการเดินทางผ่านประตูแห่งความโชคดีที่เทพอินาริได้ให้พรแก่ผู้ที่มาบูชา ทำให้การเดินทางผ่านโทริอิแต่ละอันกลายเป็นการสัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์และการขอพรจากเทพเจ้าผ่านประตูสีแดงนี้
ตำนานของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริเป็นเรื่องราวของการขอพรจากเทพอินาริที่ช่วยเสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้ที่มาบูชา ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับการเกษตรและการค้าขาย ด้วยความเชื่อและตำนานที่ยาวนาน ศาลเจ้าแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนในญี่ปุ่น
จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวต้องสัมผัสที่ Motonosumi Inari Shrine
จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดของ Motonosumi Inari Shrine คือ เส้นทางโทริอิสีแดงที่ทอดยาวลงไปสู่ทะเล สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและสัมผัสความงามของธรรมชาติที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลงตัว
เสาโทริอิสีแดง 123 ต้น
หนึ่งในจุดเด่นหลักของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายอยู่ตามทางเดินไปยังศาลเจ้า จำนวน 123 ต้น ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาโทริอิที่ตั้งเรียงรายนี้ทอดยาวไปตามชายฝั่งทะเล สร้างบรรยากาศที่สงบและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกถึงการเดินทางผ่านประตูแห่งโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองจากเทพอินาริ
เสาโทริอิแต่ละต้นถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและมีลักษณะเฉพาะ ทำให้กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ การเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงรายก็ช่วยเพิ่มประสบการณ์การสัมผัสกับธรรมชาติและจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนเมืองยามากุจิ (Yamaguchi)
วิวทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan)
อีกหนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือ วิวทะเลญี่ปุ่น หรือ Sea of Japan ที่สามารถมองเห็นได้จากศาลเจ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่งดงามบนชายฝั่งทะเล วิวทะเลที่นี่เป็นทิวทัศน์ที่น่าทึ่งและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทะเลที่มีน้ำสีฟ้าใสและคลื่นที่เบา ๆ กระทบชายฝั่ง สร้างบรรยากาศที่สวยงาม นอกจากนี้ การมองเห็นทะเลจากจุดที่มีเสาโทริอิสีแดงเรียงราย ก็ทำให้เกิดภาพที่งดงามและสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง
การเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงต่อเนื่องไปจนถึงจุดชมวิวทะเลยังทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและจิตวิญญาณของสถานที่ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สูงทำให้สามารถชมวิวทะเลได้ในมุมที่สวยงาม ทำให้การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงแค่สัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังได้เพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่
กล่องขอพรบนยอดโทริอิ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือ กล่องขอพรบนยอดโทริอิ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดของเสาโทริอิที่เรียงรายอยู่ทั่วศาลเจ้า นักท่องเที่ยวสามารถเขียนคำขอพรลงในแผ่นไม้หรือกระดาษและนำไปวางในกล่องขอพรที่ตั้งอยู่บนยอดโทริอิในบริเวณต่างๆ ของศาลเจ้า การวางคำขอพรในกล่องนี้เชื่อกันว่าจะช่วยให้พรของผู้ขอได้รับการตอบรับจากเทพอินาริ โดยเฉพาะในเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง
กล่องขอพรบนยอดโทริอิเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในการขอพรจากเทพแล้ว ยังเป็นประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและความเชื่อของญี่ปุ่น ทำให้การเยือนศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริเต็มไปด้วยความหมายและความประทับใจอย่างลึกซึ้ง
กิจกรรมที่ต้องทำที่ Motonosumi Inari Shrine
ขอพรในกล่องเหรียญที่ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือการ ขอพรในกล่องเหรียญ ซึ่งเป็นประเพณีที่นักท่องเที่ยวและผู้มาบูชาสามารถมีส่วนร่วมได้
กล่องเหรียญที่ศาลเจ้ามักจะตั้งอยู่ในบริเวณต่างๆ ของศาลเจ้า โดยการขอพรในกล่องเหรียญนี้จะเกี่ยวข้องกับการนำเหรียญใส่ลงในกล่องเพื่อขอพรจากเทพอินาริ ซึ่งเชื่อกันว่าเทพอินาริจะช่วยให้ความปรารถนาของผู้ขอพรเป็นจริง โดยเฉพาะในเรื่องโชคลาภ การเกษตร หรือการทำธุรกิจ
วิธีการขอพรในกล่องเหรียญ
- ผู้ที่มาขอพรจะต้องเตรียมเหรียญจำนวนเล็กน้อย เช่น เหรียญ 5 เยน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโชคดีในญี่ปุ่น
- จากนั้นให้ใส่เหรียญลงในกล่องขอพรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของศาลเจ้า
- หลังจากนั้นให้ทำการสวดภาวนา หรือละสายตาและตั้งจิตให้มั่นคงเพื่อขอพรในสิ่งที่ต้องการ
กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขอพรเพื่อสิ่งดีๆ ในชีวิต แต่ยังเป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมและความเชื่อของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ทำให้การเยือนศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ถ่ายรูปกับวิวสุดตระการตาที่ Motonosumi Inari Shrine
หนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเยือน ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือ การถ่ายรูปกับวิวสุดตระการตา ของทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) และเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามชายฝั่ง วิวจากศาลเจ้าทำให้มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามและงดงาม โดยเฉพาะการถ่ายรูปกับเสาโทริอิที่ทอดยาวไปจนถึงทะเล ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
การถ่ายรูปในจุดนี้จะได้ภาพที่มีทั้งความสวยงามของธรรมชาติและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ ทำให้ผู้ที่มาเยือนสามารถเก็บภาพความทรงจำที่น่าประทับใจจากการสัมผัสกับทั้งวัฒนธรรมและวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมได้อย่างเต็มที่
เดินเล่นชมธรรมชาติที่ Motonosumi Inari Shrine
การ เดินเล่นชมธรรมชาติ ที่ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามเส้นทาง ซึ่งจะนำพาไปสู่ทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลญี่ปุ่นและธรรมชาติที่รายล้อมรอบศาลเจ้า การเดินเล่นในพื้นที่นี้ทำให้ได้สัมผัสกับความสงบและความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของภูมิประเทศและทะเลที่ทอดยาวได้อย่างเต็มที่
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม Motonosumi Inari Shrine
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน)
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชม ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เพราะในช่วงนี้อากาศจะเย็นสบายและอากาศบริสุทธิ์ การเดินชมเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามชายฝั่งจะได้รับการเสริมด้วยทัศนียภาพที่งดงามของต้นซากุระที่บานสะพรั่ง เพิ่มความงดงามให้กับบรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้า ช่วงฤดูใบไม้ผลิยังเป็นช่วงที่ธรรมชาติเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูปในทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของปี
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ที่ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นและมีแสงแดดจัด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสัมผัสกับบรรยากาศสดใสและอากาศร้อนของญี่ปุ่น โดยช่วงนี้จะมีความเขียวขจีของธรรมชาติและทะเลที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมเสาโทริอิที่เรียงรายท่ามกลางวิวทะเลญี่ปุ่นที่สดใสได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่กิจกรรมทางน้ำต่างๆ สามารถทำได้ เช่น การเดินเล่นริมชายหาด หรือชมวิวทะเลจากศาลเจ้าที่มีทัศนียภาพสวยงาม
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ที่ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบาย ในฤดูนี้อากาศจะเย็นและแห้ง ทำให้การเยี่ยมชมศาลเจ้าริมทะเลมีความโรแมนติกและสงบเงียบมากขึ้น การเดินชมเสาโทริอิที่เรียงรายไปตามชายฝั่งในอากาศเย็นก็จะเพิ่มความรู้สึกพิเศษ และสามารถหลีกเลี่ยงฝูงชนได้ ทำให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวทะเลในบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามในช่วงฤดูหนาวได้อย่างดี
Motonosumi Inari Shrine
ที่อยู่ | 1211-4 Oaza Motonosumi, Mine, Yamaguchi 749-3600, Japan |
วิธีเดินทาง | – จาก สถานี Shin-Yamaguchi (Shinkansen) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์หรือแท็กซี่ – สามารถเดินทางด้วยรถบัสจากสถานีรถไฟ Mine ไปยังศาลเจ้าได้ (ประมาณ 30-40 นาที) |
เวลาทำการ | ศาลเจ้าเปิดให้เข้าชมทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ไม่มีค่าเข้าชม (การเยี่ยมชมศาลเจ้าฟรี) แต่สามารถบริจาคหรือขอพรในกล่องเหรียญที่ศาลเจ้าได้ |
Website | Motonosumi Inari Shrine |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ใกล้ Motonosumi Inari Shrine ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น เกาะสึโนะ (Tsuno Island) ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม, Senjojiki Plateau ที่มีวิวทะเลและภูเขาอันน่าตื่นตาตื่นใจ, และสะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge) สะพานไม้โบราณที่โดดเด่นและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
Tsuno Island (เกาะสึโนะ)
Tsuno Island (เกาะสึโนะ) เป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลญี่ปุ่นที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ และเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อมโยงกับศาสนาในท้องถิ่น เกาะนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ที่น่าสนใจ
Tsuno Island
ที่อยู่ | Tsuno Island, Mine City, Yamaguchi Prefecture, Japan |
วิธีเดินทาง | จาก Motonosumi Inari Shrine – ขับรถประมาณ 10 นาที (ระยะห่างประมาณ 5 กิโลเมตร) ไปยังท่าเรือที่สามารถนั่งเรือไปยังเกาะสึโนะได้ จากสนามบินหรือสถานีรถไฟหลัก – หากคุณเดินทางมาจาก สนามบินยามากุจิ หรือ สถานีรถไฟ Shin-Yamaguchi ให้เดินทางโดยรถยนต์หรือแท็กซี่ไปยัง ท่าเรือ ที่สามารถข้ามไปยัง Tsuno Island ได้ ระยะทางจากสถานีรถไฟ Shin-Yamaguchi ไปยังท่าเรือประมาณ 1 ชั่วโมง จากท่าเรือ – จากท่าเรือในเมือง Mine หรือท่าเรือที่ใกล้เคียง คุณสามารถใช้บริการเรือข้ามไปยัง Tsuno Island ได้ ระยะเวลาการเดินทางโดยเรือประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับท่าเรือและสภาพอากาศ |
เวลาทำการ | ไม่มีเวลาทำการเฉพาะ แต่การเดินทางโดยเรือขึ้นอยู่กับตารางเวลาของท่าเรือ |
ราคา | ค่าข้ามเรือไปยังเกาะสึโนะอาจแตกต่างกันตามท่าเรือและช่วงเวลา ค่าบริการประมาณ 500-1000 เยน |
Website | Tsuno Island |
Senjojiki Plateau
Senjojiki Plateau ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากุจิ เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีทิวทัศน์ภูเขาที่งดงามและทุ่งหญ้ากว้าง เหมาะแก่การเดินป่าและชมวิวทะเลญี่ปุ่นจากมุมสูง จุดเด่นของที่นี่คือการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และการสัมผัสกับความสงบของธรรมชาติ
Senjojiki Plateau
ที่อยู่ | Senjojiki Plateau, Mine City, Yamaguchi Prefecture, Japan |
วิธีเดินทาง | จาก Motonosumi Inari Shrine – หากคุณเดินทางจาก Motonosumi Inari Shrine ไปยัง Senjojiki Plateau สามารถขับรถได้ประมาณ 40 นาที (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร) จากสถานี Shin-Yamaguchi หรือสถานีรถไฟหลัก – จาก สถานี Shin-Yamaguchi หรือ สถานี Mine ให้เดินทางโดยรถยนต์หรือแท็กซี่ไปยัง Senjojiki Plateau ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร) การเดินทางโดยรถบัส – บางครั้งจะมีบริการรถบัสจากสถานีรถไฟในเมือง Mine ไปยังพื้นที่ต่างๆ รวมถึง Senjojiki Plateau ควรตรวจสอบตารางเวลาบริการล่วงหน้า |
เวลาทำการ | เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน แต่แนะนำให้ไปในช่วงกลางวันเพื่อชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุด |
ราคา | การเข้าชมพื้นที่ธรรมชาติไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Website | Senjojiki Plateau |
สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)
สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge) เป็นสะพานไม้โบราณที่มีชื่อเสียงในเมืองอิโคมิ (Iwakuni) จังหวัดยามางุจิ สะพานนี้สร้างขึ้นในปี 1673 มีการออกแบบที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ โดยมีโครงสร้างที่เป็นรูปโค้งที่น่าประทับใจ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่น
สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)
ที่อยู่ | Chome-21 Takanawa, Minato City, Tokyo 108-0074 |
วิธีเดินทาง | จาก Motonosumi Inari Shrine – จาก Motonosumi Inari Shrine ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร) ไปยังสะพาน Kintaikyo จากสนามบินหรือสถานีหลัก – หากเดินทางจาก สนามบินยามากุจิ (Yamaguchi Ube Airport) หรือ สถานีรถไฟ Shin-Yamaguchi สามารถนั่งรถบัสหรือแท็กซี่ไปยัง สะพาน Kintaikyo ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง – หากเดินทางจาก สถานี Iwakuni (สถานีใกล้ที่สุด) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีโดยรถบัสหรือแท็กซี่ การเดินทางโดยรถบัส – จาก สถานี Iwakuni หรือสถานีใกล้เคียง จะมีรถบัสบริการที่พาผู้โดยสารไปยัง สะพาน Kintaikyo ซึ่งมีความสะดวกและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว |
เวลาทำการ | สะพานเปิดให้เข้าชมตลอดเวลา แต่การเยี่ยมชมพื้นที่และสะพานจะดีที่สุดในช่วงกลางวัน |
ราคา | ค่าข้ามสะพานประมาณ 300 เยน (สำหรับผู้ใหญ่) และ 150 เยน (สำหรับเด็ก) |
Website | สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge) |
สรุป
Motonosumi Inari Shrine เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนจังหวัดยามากุจิ ด้วยความงดงามของเสาโทริอิสีแดงที่ทอดยาวไปตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังได้ชมวิวทะเลที่สวยงามและกิจกรรมขอพรที่หลากหลาย เช่น การขอพรในกล่องเหรียญและการเดินชมธรรมชาติรอบศาลเจ้า การเยือน Motonosumi Inari Shrine จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและเต็มไปด้วยความหมายความเชื่อของญี่ปุ่น