Motonosumi Inari Shrine โทริอิริมทะเล เส้นทางสีแดงแห่งโชคลาภ

10/04/2025
Motonosumi Inari Shrine เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองยามากุจิ ชมความงดงามของโทริอิสีแดงที่ทอดยาวกว่า 100 แห่ง บริเวณทางเดินไปยังทะเลที่งดงามและมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสักการะและขอพรความโชคดี
Meiji Amino Collagen LP R1
Contents Index
  1. 1 ความโดดเด่นของ Motonosumi Inari Shrine
    1. 1.1 ตำนานของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
  2. 2 จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวต้องสัมผัสที่ Motonosumi Inari Shrine
    1. 2.1 เสาโทริอิสีแดง 123 ต้น
    2. 2.2 วิวทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan)
    3. 2.3 กล่องขอพรบนยอดโทริอิ
  3. 3 กิจกรรมที่ต้องทำที่ Motonosumi Inari Shrine
    1. 3.1 ขอพรในกล่องเหรียญที่ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
    2. 3.2 ถ่ายรูปกับวิวสุดตระการตาที่ Motonosumi Inari Shrine
    3. 3.3 เดินเล่นชมธรรมชาติที่ Motonosumi Inari Shrine
  4. 4 ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม Motonosumi Inari Shrine
    1. 4.1 ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน)
    2. 4.2 ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
    3. 4.3 ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
  5. 5 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
    1. 5.1 Tsuno Island (เกาะสึโนะ)
    2. 5.2 Senjojiki Plateau
    3. 5.3 สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)
  6. 6 สรุป

ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ Motonosumi Inari Shrine เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi) ของญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงจากเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น โดยมีเสาโทริอิทั้งหมด 123 ต้นที่สร้างความตระการตา นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมาขอพรในเรื่องโชคลาภและความสำเร็จ การเยือน Motonosumi Inari Shrine จึงไม่เพียงแต่จะได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและความเชื่อของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง

ความโดดเด่นของ Motonosumi Inari Shrine

สิ่งที่โดดเด่นของ Motonosumi Inari Shrine คือการมี เสาโทริอิสีแดง 123 ต้น ที่เรียงรายอยู่ตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เสาโทริอิที่มีขนาดใหญ่และเรียงรายอย่างสวยงามมอบทิวทัศน์ที่ตระการตา และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเดินชมและถ่ายรูปเพื่อเก็บความทรงจำ นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์และเชื่อมโยงกับเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งโชคลาภและการเกษตร ทำให้ผู้คนมาขอพรในเรื่องโชคลาภและความสำเร็จ การขอพรในกล่องเหรียญกับการสักการะบนยอดโทริอิยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้การเยือนศาลเจ้าแห่งนี้มีความหมายลึกซึ้ง และยังทำให้คุณสามารถสัมผัสกับธรรมชาติท้องทะเลญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด

ตำนานของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)

ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้ง ในตำนานเล่าว่า ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อบูชาเทพอินาริ (Inari) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคดี ความเจริญรุ่งเรือง และความอุดมสมบูรณ์ โดยเทพอินาริมักจะได้รับการเคารพจากชาวนาและพ่อค้า เนื่องจากเชื่อกันว่าเทพองค์นี้จะช่วยให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตและกิจการค้าขายเป็นไปด้วยดี

ตำนานหนึ่งเกี่ยวกับศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ เล่าว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง และเขาได้เดินทางไปยังภูเขาเพื่อขอพรจากเทพอินาริ เพื่อให้กิจการค้าขายของเขาเจริญรุ่งเรือง และในขณะนั้น เทพอินาริได้ปรากฏตัวในรูปของสุนัขจิ้งจอก ซึ่งเป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับเทพอินาริ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เมื่อชายหนุ่มขอพร เทพอินาริได้แนะนำให้เขาก่อสร้างศาลเจ้าขึ้นในพื้นที่ใกล้ทะเล ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริในปัจจุบันนี้

ตามตำนานยังเล่ากันว่า ศาลเจ้านี้ได้รับการอวยพรจากเทพอินาริอย่างต่อเนื่อง และความเจริญรุ่งเรืองก็ได้มาเยือนกับผู้ที่มาขอพรที่นี่ โดยเฉพาะการขอพรเกี่ยวกับการเกษตรและการค้าขาย ดังนั้น ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ จึงเป็นที่ศรัทธาของผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นที่ต้องการขอพรในเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

การที่ศาลเจ้ามีโทริอิ (Torii) สีแดงเรียงรายจำนวนมากก็สะท้อนถึงการเดินทางผ่านประตูแห่งความโชคดีที่เทพอินาริได้ให้พรแก่ผู้ที่มาบูชา ทำให้การเดินทางผ่านโทริอิแต่ละอันกลายเป็นการสัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์และการขอพรจากเทพเจ้าผ่านประตูสีแดงนี้

ตำนานของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริเป็นเรื่องราวของการขอพรจากเทพอินาริที่ช่วยเสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้ที่มาบูชา ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับการเกษตรและการค้าขาย ด้วยความเชื่อและตำนานที่ยาวนาน ศาลเจ้าแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนในญี่ปุ่น

จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวต้องสัมผัสที่ Motonosumi Inari Shrine

จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดของ Motonosumi Inari Shrine คือ เส้นทางโทริอิสีแดงที่ทอดยาวลงไปสู่ทะเล สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและสัมผัสความงามของธรรมชาติที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลงตัว

เสาโทริอิสีแดง 123 ต้น

หนึ่งในจุดเด่นหลักของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายอยู่ตามทางเดินไปยังศาลเจ้า จำนวน 123 ต้น ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาโทริอิที่ตั้งเรียงรายนี้ทอดยาวไปตามชายฝั่งทะเล สร้างบรรยากาศที่สงบและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกถึงการเดินทางผ่านประตูแห่งโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองจากเทพอินาริ

เสาโทริอิแต่ละต้นถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและมีลักษณะเฉพาะ ทำให้กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ การเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงรายก็ช่วยเพิ่มประสบการณ์การสัมผัสกับธรรมชาติและจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนเมืองยามากุจิ (Yamaguchi)

วิวทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan)

อีกหนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือ วิวทะเลญี่ปุ่น หรือ Sea of Japan ที่สามารถมองเห็นได้จากศาลเจ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่งดงามบนชายฝั่งทะเล วิวทะเลที่นี่เป็นทิวทัศน์ที่น่าทึ่งและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทะเลที่มีน้ำสีฟ้าใสและคลื่นที่เบา ๆ กระทบชายฝั่ง สร้างบรรยากาศที่สวยงาม นอกจากนี้ การมองเห็นทะเลจากจุดที่มีเสาโทริอิสีแดงเรียงราย ก็ทำให้เกิดภาพที่งดงามและสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง

การเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงต่อเนื่องไปจนถึงจุดชมวิวทะเลยังทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและจิตวิญญาณของสถานที่ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สูงทำให้สามารถชมวิวทะเลได้ในมุมที่สวยงาม ทำให้การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงแค่สัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังได้เพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่

กล่องขอพรบนยอดโทริอิ

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือ กล่องขอพรบนยอดโทริอิ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดของเสาโทริอิที่เรียงรายอยู่ทั่วศาลเจ้า นักท่องเที่ยวสามารถเขียนคำขอพรลงในแผ่นไม้หรือกระดาษและนำไปวางในกล่องขอพรที่ตั้งอยู่บนยอดโทริอิในบริเวณต่างๆ ของศาลเจ้า การวางคำขอพรในกล่องนี้เชื่อกันว่าจะช่วยให้พรของผู้ขอได้รับการตอบรับจากเทพอินาริ โดยเฉพาะในเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

กล่องขอพรบนยอดโทริอิเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในการขอพรจากเทพแล้ว ยังเป็นประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและความเชื่อของญี่ปุ่น ทำให้การเยือนศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริเต็มไปด้วยความหมายและความประทับใจอย่างลึกซึ้ง

กิจกรรมที่ต้องทำที่ Motonosumi Inari Shrine

ขอพรในกล่องเหรียญที่ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)

หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ของ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือการ ขอพรในกล่องเหรียญ ซึ่งเป็นประเพณีที่นักท่องเที่ยวและผู้มาบูชาสามารถมีส่วนร่วมได้

กล่องเหรียญที่ศาลเจ้ามักจะตั้งอยู่ในบริเวณต่างๆ ของศาลเจ้า โดยการขอพรในกล่องเหรียญนี้จะเกี่ยวข้องกับการนำเหรียญใส่ลงในกล่องเพื่อขอพรจากเทพอินาริ ซึ่งเชื่อกันว่าเทพอินาริจะช่วยให้ความปรารถนาของผู้ขอพรเป็นจริง โดยเฉพาะในเรื่องโชคลาภ การเกษตร หรือการทำธุรกิจ

วิธีการขอพรในกล่องเหรียญ

  1. ผู้ที่มาขอพรจะต้องเตรียมเหรียญจำนวนเล็กน้อย เช่น เหรียญ 5 เยน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโชคดีในญี่ปุ่น
  2. จากนั้นให้ใส่เหรียญลงในกล่องขอพรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของศาลเจ้า
  3. หลังจากนั้นให้ทำการสวดภาวนา หรือละสายตาและตั้งจิตให้มั่นคงเพื่อขอพรในสิ่งที่ต้องการ

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขอพรเพื่อสิ่งดีๆ ในชีวิต แต่ยังเป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมและความเชื่อของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ทำให้การเยือนศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ถ่ายรูปกับวิวสุดตระการตาที่ Motonosumi Inari Shrine

หนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเยือน ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) คือ การถ่ายรูปกับวิวสุดตระการตา ของทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) และเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามชายฝั่ง วิวจากศาลเจ้าทำให้มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามและงดงาม โดยเฉพาะการถ่ายรูปกับเสาโทริอิที่ทอดยาวไปจนถึงทะเล ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

การถ่ายรูปในจุดนี้จะได้ภาพที่มีทั้งความสวยงามของธรรมชาติและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ ทำให้ผู้ที่มาเยือนสามารถเก็บภาพความทรงจำที่น่าประทับใจจากการสัมผัสกับทั้งวัฒนธรรมและวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมได้อย่างเต็มที่

เดินเล่นชมธรรมชาติที่ Motonosumi Inari Shrine

การ เดินเล่นชมธรรมชาติ ที่ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามเส้นทาง ซึ่งจะนำพาไปสู่ทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลญี่ปุ่นและธรรมชาติที่รายล้อมรอบศาลเจ้า การเดินเล่นในพื้นที่นี้ทำให้ได้สัมผัสกับความสงบและความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของภูมิประเทศและทะเลที่ทอดยาวได้อย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม Motonosumi Inari Shrine

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน)

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชม ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เพราะในช่วงนี้อากาศจะเย็นสบายและอากาศบริสุทธิ์ การเดินชมเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายไปตามชายฝั่งจะได้รับการเสริมด้วยทัศนียภาพที่งดงามของต้นซากุระที่บานสะพรั่ง เพิ่มความงดงามให้กับบรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้า ช่วงฤดูใบไม้ผลิยังเป็นช่วงที่ธรรมชาติเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูปในทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของปี

ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)

ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ที่ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นและมีแสงแดดจัด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสัมผัสกับบรรยากาศสดใสและอากาศร้อนของญี่ปุ่น โดยช่วงนี้จะมีความเขียวขจีของธรรมชาติและทะเลที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมเสาโทริอิที่เรียงรายท่ามกลางวิวทะเลญี่ปุ่นที่สดใสได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่กิจกรรมทางน้ำต่างๆ สามารถทำได้ เช่น การเดินเล่นริมชายหาด หรือชมวิวทะเลจากศาลเจ้าที่มีทัศนียภาพสวยงาม

ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)

ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) ที่ ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบาย ในฤดูนี้อากาศจะเย็นและแห้ง ทำให้การเยี่ยมชมศาลเจ้าริมทะเลมีความโรแมนติกและสงบเงียบมากขึ้น การเดินชมเสาโทริอิที่เรียงรายไปตามชายฝั่งในอากาศเย็นก็จะเพิ่มความรู้สึกพิเศษ และสามารถหลีกเลี่ยงฝูงชนได้ ทำให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวทะเลในบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามในช่วงฤดูหนาวได้อย่างดี

Motonosumi Inari Shrine

ที่อยู่1211-4 Oaza Motonosumi, Mine, Yamaguchi 749-3600, Japan
วิธีเดินทาง– จาก สถานี Shin-Yamaguchi (Shinkansen) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์หรือแท็กซี่
– สามารถเดินทางด้วยรถบัสจากสถานีรถไฟ Mine ไปยังศาลเจ้าได้ (ประมาณ 30-40 นาที)
เวลาทำการศาลเจ้าเปิดให้เข้าชมทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาไม่มีค่าเข้าชม (การเยี่ยมชมศาลเจ้าฟรี) แต่สามารถบริจาคหรือขอพรในกล่องเหรียญที่ศาลเจ้าได้
WebsiteMotonosumi Inari Shrine

ดูแผนที่ Motonosumi Inari Shrine

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

ใกล้ Motonosumi Inari Shrine ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น เกาะสึโนะ (Tsuno Island) ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม, Senjojiki Plateau ที่มีวิวทะเลและภูเขาอันน่าตื่นตาตื่นใจ, และสะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge) สะพานไม้โบราณที่โดดเด่นและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

Tsuno Island (เกาะสึโนะ)

Credit picture from : Yamaguchi Travel Guide

Tsuno Island (เกาะสึโนะ) เป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลญี่ปุ่นที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ และเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อมโยงกับศาสนาในท้องถิ่น เกาะนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ที่น่าสนใจ

Tsuno Island

ที่อยู่Tsuno Island, Mine City, Yamaguchi Prefecture, Japan
วิธีเดินทางจาก Motonosumi Inari Shrine
– ขับรถประมาณ 10 นาที (ระยะห่างประมาณ 5 กิโลเมตร) ไปยังท่าเรือที่สามารถนั่งเรือไปยังเกาะสึโนะได้

จากสนามบินหรือสถานีรถไฟหลัก
– หากคุณเดินทางมาจาก สนามบินยามากุจิ หรือ สถานีรถไฟ Shin-Yamaguchi
ให้เดินทางโดยรถยนต์หรือแท็กซี่ไปยัง ท่าเรือ ที่สามารถข้ามไปยัง Tsuno Island ได้
ระยะทางจากสถานีรถไฟ Shin-Yamaguchi ไปยังท่าเรือประมาณ 1 ชั่วโมง

จากท่าเรือ
– จากท่าเรือในเมือง Mine หรือท่าเรือที่ใกล้เคียง คุณสามารถใช้บริการเรือข้ามไปยัง Tsuno Island ได้
ระยะเวลาการเดินทางโดยเรือประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับท่าเรือและสภาพอากาศ
เวลาทำการไม่มีเวลาทำการเฉพาะ แต่การเดินทางโดยเรือขึ้นอยู่กับตารางเวลาของท่าเรือ
ราคาค่าข้ามเรือไปยังเกาะสึโนะอาจแตกต่างกันตามท่าเรือและช่วงเวลา ค่าบริการประมาณ 500-1000 เยน
WebsiteTsuno Island

ดูแผนที่ Tsuno Island

Senjojiki Plateau

Senjojiki Plateau ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากุจิ เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่มีทิวทัศน์ภูเขาที่งดงามและทุ่งหญ้ากว้าง เหมาะแก่การเดินป่าและชมวิวทะเลญี่ปุ่นจากมุมสูง จุดเด่นของที่นี่คือการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และการสัมผัสกับความสงบของธรรมชาติ

Senjojiki Plateau

ที่อยู่Senjojiki Plateau, Mine City, Yamaguchi Prefecture, Japan
วิธีเดินทางจาก Motonosumi Inari Shrine
– หากคุณเดินทางจาก Motonosumi Inari Shrine ไปยัง Senjojiki Plateau
สามารถขับรถได้ประมาณ 40 นาที (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร)

จากสถานี Shin-Yamaguchi หรือสถานีรถไฟหลัก
– จาก สถานี Shin-Yamaguchi หรือ สถานี Mine ให้เดินทางโดยรถยนต์หรือแท็กซี่ไปยัง
Senjojiki Plateau ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร)

การเดินทางโดยรถบัส
– บางครั้งจะมีบริการรถบัสจากสถานีรถไฟในเมือง Mine ไปยังพื้นที่ต่างๆ รวมถึง Senjojiki Plateau
ควรตรวจสอบตารางเวลาบริการล่วงหน้า
เวลาทำการเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน แต่แนะนำให้ไปในช่วงกลางวันเพื่อชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุด
ราคาการเข้าชมพื้นที่ธรรมชาติไม่เสียค่าใช้จ่าย
WebsiteSenjojiki Plateau

ดูแผนที่ Senjojiki Plateau

สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)

สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge) เป็นสะพานไม้โบราณที่มีชื่อเสียงในเมืองอิโคมิ (Iwakuni) จังหวัดยามางุจิ สะพานนี้สร้างขึ้นในปี 1673 มีการออกแบบที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ โดยมีโครงสร้างที่เป็นรูปโค้งที่น่าประทับใจ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่น

สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)

ที่อยู่Chome-21 Takanawa, Minato City, Tokyo 108-0074
วิธีเดินทางจาก Motonosumi Inari Shrine
– จาก Motonosumi Inari Shrine ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
(ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร) ไปยังสะพาน Kintaikyo

จากสนามบินหรือสถานีหลัก
– หากเดินทางจาก สนามบินยามากุจิ (Yamaguchi Ube Airport) หรือ
สถานีรถไฟ Shin-Yamaguchi สามารถนั่งรถบัสหรือแท็กซี่ไปยัง สะพาน Kintaikyo
ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
– หากเดินทางจาก สถานี Iwakuni (สถานีใกล้ที่สุด) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีโดยรถบัสหรือแท็กซี่

การเดินทางโดยรถบัส
– จาก สถานี Iwakuni หรือสถานีใกล้เคียง จะมีรถบัสบริการที่พาผู้โดยสารไปยัง สะพาน Kintaikyo
ซึ่งมีความสะดวกและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว
เวลาทำการสะพานเปิดให้เข้าชมตลอดเวลา
แต่การเยี่ยมชมพื้นที่และสะพานจะดีที่สุดในช่วงกลางวัน
ราคาค่าข้ามสะพานประมาณ 300 เยน (สำหรับผู้ใหญ่) และ 150 เยน (สำหรับเด็ก)
Websiteสะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)

ดูแผนที่ สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)

สรุป

Motonosumi Inari Shrine เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนจังหวัดยามากุจิ ด้วยความงดงามของเสาโทริอิสีแดงที่ทอดยาวไปตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังได้ชมวิวทะเลที่สวยงามและกิจกรรมขอพรที่หลากหลาย เช่น การขอพรในกล่องเหรียญและการเดินชมธรรมชาติรอบศาลเจ้า การเยือน Motonosumi Inari Shrine จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและเต็มไปด้วยความหมายความเชื่อของญี่ปุ่น

Contents Index
  1. 1 ความโดดเด่นของ Motonosumi Inari Shrine
    1. 1.1 ตำนานของศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
  2. 2 จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวต้องสัมผัสที่ Motonosumi Inari Shrine
    1. 2.1 เสาโทริอิสีแดง 123 ต้น
    2. 2.2 วิวทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan)
    3. 2.3 กล่องขอพรบนยอดโทริอิ
  3. 3 กิจกรรมที่ต้องทำที่ Motonosumi Inari Shrine
    1. 3.1 ขอพรในกล่องเหรียญที่ศาลเจ้าโมโตโนซุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
    2. 3.2 ถ่ายรูปกับวิวสุดตระการตาที่ Motonosumi Inari Shrine
    3. 3.3 เดินเล่นชมธรรมชาติที่ Motonosumi Inari Shrine
  4. 4 ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม Motonosumi Inari Shrine
    1. 4.1 ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน)
    2. 4.2 ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
    3. 4.3 ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
  5. 5 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
    1. 5.1 Tsuno Island (เกาะสึโนะ)
    2. 5.2 Senjojiki Plateau
    3. 5.3 สะพาน Kintaikyo (Kintai Bridge)
  6. 6 สรุป
Kintetsu Line LP R3
บัวลินน์

Blogger : บัวลินน์

สวัสดีค่ะ หนึ่งนะคะ ☺️ เป็นคนที่หลงรักประเทศญี่ปุ่นสุดหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม อาหารที่แสนอร่อย หรือผู้คนที่อบอุ่นและเป็นมิตร ทุกครั้งที่ได้ไปท่องเที่ยวและสัมผัสยิ่งทำให้ตกหลุมรักญี่ปุ่นมากขึ้น ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของหนึ่งนะคะ หวังว่าจะได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปด้วยกันค่ะ!

8 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • ถ้า Chill Chill Japan จะเปิดเพจอนิเมะ... ทุกคนคิดว่าเพจนี้ควรใช้ชื่อว่าอะไรดี? ช่วยกันโหวตหน่อยน้า~

    View Results

    Loading ... Loading ...
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x