ชวนชมหมู่บ้านโออุจิ “Ouchi-juku” หมู่บ้านโบราณหลังคาฟางแห่งจังหวัดฟุคุชิมะ

มารู้จัก “หมู่บ้านโบราณโออุจิ (Ouchi-juku) ” กันสักนิด

หมู่บ้านโออุจิ (Ouchi-juku) เป็นหมู่บ้านโบราณที่อยู่ในจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์และบรรยากาศของยุคเอโดะ (1603-1868) ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ หมู่บ้านแห่งนี้เดิมเป็นจุดพักแรมที่สำคัญบนถนน Aizu Nishi Kaido เส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่าง Aizu-Wakamatsu และ Nikko ผู้คนที่เดินทางระหว่างสองเมืองใหญ่มักแวะพักที่นี่เพื่อพักผ่อนและเติมเสบียง อีกทั้งถนน Aizu Nishi Kaido เคยเป็นเส้นทางการค้าขายหลักในยุคเอโดะอีกด้วย

Ouchi-juku ได้รับการอนุรักษ์เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลที่บ้านโบราณมุงหลังคาฟางถูกประดับด้วยแสงไฟ

หลังจากที่เส้นทางรถไฟเข้ามาแทนที่เส้นทางเดินทางแบบดั้งเดิมในยุคสมัยใหม่ หมู่บ้านแห่งนี้ค่อยๆ เสื่อมถอยลง แต่ได้รับการฟื้นฟูในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพื่อรักษาวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมโบราณให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส ปัจจุบันบ้านโบราณหลายหลังได้รับการบูรณะ และเปิดให้บริการเป็น พิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก

สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจ

ชมบ้านเรือนโบราณหลังคามุงจากยุคสมัยเอโดะ 

อาจเรียกได้ว่า “บ้านมุงหลังคาฟาง” สไตล์ญี่ปุ่นโบราณนี้ คือจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเราได้ดีเลยทีเดียว โดยลักษณะเด่นของหมู่บ้านคือบ้านโบราณที่มีหลังคามุงด้วยฟางอย่างหนา ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่อนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์ที่สำคัญในปี 1981

ที่เราเห็นในภาพนี้ คือบ้านเรือนมากกว่า 30 หลังในหมู่บ้านโออุจิแห่งนี้ โดยทุกบ้านมีหลังคามุงจากหนาเพื่อช่วยป้องกันความหนาวและรักษาความเย็นในฤดูร้อนซึ่งช่วยรักษาความอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน การสร้างบ้านลักษณะนี้สะท้อนถึงภูมิปัญญาชาวบ้านในอดีตอีกด้วย

บ้านบางหลังที่เสื่อมสภาพจนอยู่อาศัยไม่ได้ เขาก็จะถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงเครื่องมือทำเกษตรและเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน

ศาลเจ้าทะคะคุระ (Takakura Shrine)

ศาลเจ้าเล็กๆ ตั้งอยู่ด้านบนเนินเขาในหมู่บ้าน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในอดีตมาสักการะเพื่อขอพรให้การเดินทางปลอดภัย หรือเรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน

ขึ้นชมจุดชมวิวมุมสูงของหมู่บ้าน (Ouchi-juku View Point)

ปลายถนนหลักของหมู่บ้านโออุจิจูคุ คุณจะพบกับบันไดหินที่นำขึ้นไปยังวัด Koyasu Kannondo บันไดค่อนข้างชันและแคบ ประมาณนี้เลย เดินสวนกันด้วยนะประเด็น

แต่พอขึ้นมาข้างบนแล้วเราก็จะเจอกับวัดเล็กๆ พร้อมกับจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์มุมสูงของหมู่บ้านโออุจิจูคุได้อย่างชัดเจน

เมนูโซบะ “Negi Soba”

Negi Soba หรือ โซบะต้นหอม เมนูเส้นโซบะที่โรยหน้าด้วยหัวไชเท้าขูดและปลาโอแห้งขูดฝอย โดยเมนูนี้จะมีจุดเด่นคือ เป็นหนึ่งในเมนูที่นิยมทานต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง ตัวซุปเคี่ยวค่อนข้างข้นและมีรสออกไปทางหอมหวาน อีกทั้งเป็นเมนูเด็ดประจำหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย

อีกหนึ่งจุดที่สร้างกิมมิคเล็กๆให้กับเมนูโซบะจานนี้คือ เขาจะใช้ต้นหอมเป็นตะเกียบ ! ก็คือใช้แทนตะเกียบไปเลย นี่ละโซบะต้นหอมถึงรากถึงโคนเลย

ของฝากประจำหมู่บ้าน

ระหว่างที่เราเดินชมหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับของฝากที่โดยมากจะเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านของญี่ปุ่น อย่างเช่น ตะเกียบ เครื่องปั้นดินเผา ตุ๊กตาไม้โบราณ ของที่ระลึกในสไตล์ยุคเอโดะ เช่น พัดกระดาษและภาพวาดหมึก

เทศกาลหิมะโออุจิจูคุ

หนึ่งในไฮไลท์ที่สร้างความแตกต่างออกไปในช่วงฤดูหนาว โดยเทศกาลหิมะนี้โดยปกติจะจัดในวันเสาร์และอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์

ตัวหมู่บ้านจะประดับด้วยแสงไฟจากโคมไฟกระดาษ ท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมบ้านเรือน มีการแสดงดนตรีพื้นบ้านและการเต้นรำแบบโบราณ และมีการแสดงพลุในตอนกลางคืนที่ทำให้หมู่บ้านดูโรแมนติกอีกด้วยนะ

Ouchi-juku

ดูแผนที่ Ouchi-juku

วิธีการเดินทาง

หากเพื่อน ๆ เริ่มเดินทางจากโตเกียว วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟ โดยขึ้นจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุ (Tohoku Shinkansen) ไปยังสถานีโคริยามะ (Koriyama Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย JR Ban-Etsu West Line ไปยังสถานีไอซุ-วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Station) อีก 1 ชั่วโมงจากสถานีไอซุ-วากามัตสึ ให้นั่งรถไฟสาย Aizu Railway ไปยังสถานียูโนะคามิออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) จากนั้นก็นั่งรถบัสซารุยุโก (Saruyu-go) ประมาณ 20 นาที หรือแท็กซี่ประมาณ 15 นาที ไปยังหมู่บ้านโออุจิจูคุ

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

1. Tsuruga Castle

Tsuruga Castle

ปราสาทไอซุ วะกะมะทสึ ( Aizu Wakamatsu Castle ) หรืออีกชื่อหนึ่งคือปราสาททสึรุงะ (Tsuruga Castle ) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาเมื่อปีค.ศ. 1384 โดยปราสาทแห่งนี้เปลี่ยนมือผู้ครอบครองมาหลายครั้ง จนกระทั่งในสงครามโบชิน ( สงครามกลางเมืองระหว่างราชสำนักจักรพรรดินำโดยจักรพรรดิเมจิ กับฝ่ายสนับสนุนโชกุนนำโดย Tokugawa Yoshinobu ) ปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นป้อมปราการที่สำคัญแ หนึ่งของซามูไรฝ่ายที่จงรักภักดีต่อรัฐบาลโชกุน Tokugawa และเป็นป้อมปราการแห่งสุดท้าย ก่อนที่ปราสาทจะถูกทำลายลงในปีค.ศ. 1868 และปราสาทแห่งนี้ก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยใช้คอนกรีต และในปี 2011 ได้มีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาจากสีเทาเป็นสีแดง

ดูแผนที่ Tsuruga Castle

2. Ookawaso

โรงแรมโอคาวาโซ (Ookawaso) เป็นโรงแรมหรูและชื่อเสียงโด่งดังมากในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) แถมยังเป็นต้นแบบในฉากการ์ตูนชื่อดังที่พวกเรารู้จักกันดี เรื่องดาบพิฆาตอสูร หรือ Kimetsu no Yaiba มีจุดเด่นคือใจกลางโรงแรมจะมีการแสดง “ซามิเซ็ง” เป็นการแสดงเครื่องดนตรีโบราณของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและหาชมได้ยาก และมีบ่อออนเซ็นสุดสบายพร้อมวิวธรรมชาติญี่ปุ่นสุดสวยงาม

Ookawaso

ดูแผนที่ Ookawaso

3. Sazaedo Temple

วัดซะซะเอโดะ (Sazaedo Temple) หนึ่งในวัดเก่าแก่แห่งเมืองไอซุวะกะมัตสึ จังหวัดฟุคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดพุทธที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นและประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1796 วัดนี้มีความสูงประมาณ 16.5 เมตร และมีโครงสร้างเป็นเจดีย์ไม้สามชั้น ลักษณะพิเศษของวัดคือการออกแบบทางเดินภายในที่เป็นเกลียวคู่ (double-helix) ทำให้ผู้ที่เดินขึ้นและลงไม่ต้องสวนทางกัน

Sazaedo Temple

ดูแผนที่ Sazaedo Temple

สรุป

หมู่บ้านโบราณโออุจิแห่งนี้ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนหมู่บ้านโบราณอื่น ๆ ซึ่งถือว่าหาได้ยากในญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน คือว่าหมู่บ้านหลายแห่งอาจสร้างแบบจำลองขึ้นใหม่ด้วยสภาพที่เก่า และอาจถูกไฟไหม้มาหลายแห่ง หากแต่ว่าหมู่บ้านโออุจิแห่งนี้ยังคงเป็นของแท้ดั้งเดิมไม่ได้ปรับปรุงภายนอกใหม่มากเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีโซบะต้นหอมที่เป็นกิมมิคและเทศกาลหิมะให้เราได้เพลิดเพลินใจแบบครบรส