ใครยังไม่ได้ตอนที่ 1 ไปอ่านกันได้ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว 4 วัน 3 คืน จองง่ายทุกจุด ฟินไม่สะดุดทั้งทริป ตอน 1
ไปอ่านกันเลย!!!
วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง 03.00 น. เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปขึ้นรถไฟรอบแรก ที่สถานี Yurakucho เวลา 04.30 น. ไปยังสถานี Ikebukuro
05.00 น. เราตรงไปยังห้องจำหน่าย Kawagoe Discount Pass สำหรับนักท่องเที่ยว Oneday Pass
โดยพาสประเภทนี้จะมี 2 แบบด้วยกัน คือ แบบ Kawagoe Discount Pass ราคา 700 เยน สามารถใช้โดยสารรถไฟไปยังคาวาโกเอะได้ และ Kawagoe Discount Pass Premium ราคา 950 เยน สามารถใช้โดยสารรถไฟและรถบัสไปและภายในคาวาโกเอะได้
ครั้งนี้เราเลือกแบบ Kawagoe Discount Pass เนื่องจากไปเช้ามาก รถบัสสำหรับท่องเที่ยวที่สามารถใช้พาสได้ยังไม่เปิดบริการ จึงใช้แค่รถไฟอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย
โดยรถไฟรอบแรกที่เราไปยังคาวาโกเอะนั้น เริ่มเปิดให้โดยสารกันตั้งแต่ 05.30 น. และจะไปถึงคาวาโกเอะเวลาประมาณ 06.00 น. โดยจุดหมายที่เราต้องการไปครั้งนี้คือ ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิกาวะ ที่โด่งดังเรื่องของการขอพรความรักเป็นอย่างมาก
เมื่อมาถึงสถานีคาวาโกเอะเราก็เดินออกมารถบัสยังป้ายหมายเลข 7 ที่เมื่อเดินลงไปแล้วจะเจอหมายเลข 6 แทน แต่ไม่ต้องตกใจยืนรออยู่ตรงนั้นได้เลย เนื่องจากเราเลือกพาสแบบธรรมดา เวลาขึ้นรถบัสเราจึงต้องใช้บัตร Suica IC Card ใบเดียวครอบจักรวาลใบนี้แทน โดยก่อนขึ้นรถบัสก็ให้แตะบัตรก่อนที่เครื่องแตะบัตร และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางให้กดกริ่ง และรอจนรถหยุดจึงจะสามารถแตะบัตรลงรถได้นั่นเอง
ในที่สุดเราก็มาถึงวัดแล้ว อย่ารอช้า!! วิ่งไปรับบัตรคิวรับเครื่องรางกันก่อน เราได้เป็นคิวที่ 16 โดยในแต่ละวันจะแจกแค่ 20 ชิ้นเท่านั้น ได้บัตรมาแล้วก็ไปหาอะไรกินรองท้องกันก่อน
แต่ถ้าใครที่ไม่หิวทางศาลเจ้าก็มีห้องไว้สำหรับให้นั่งรอไม่ต้องทนหนาวอยู่ด้านนอกด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่อยากนั่งเฉยๆ แล้วมาในช่วงซากุระพอดี เราแนะนำให้เดินออกไปทางด้านหลังศาลเจ้าก็จะเจอกับซากุระจำนวนหลายต้นที่ขึ้นอยู่ริมคลองบรรยากาศลมเย็นๆ โชยมาพร้อมกับซากุระที่พริ้วไหวไปตามแรงลมช่างโรแมนติกจริงๆ
หรือใครอยากเดินชมบรรยกาศในวัดและไหว้ศาลเจ้าแต่ละจุดก็ได้เช่นกัน
08.00 น. ก็จะมีคนจากศาลเจ้ามาเรียกรวมตัวทุกคนที่ได้รับบัตรไว้ให้มาเข้าแถวและอธิบายรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องรางที่จะได้รับ เมื่อเข้าใจตรงกันแล้วก็รับเครื่องรางมาเลย พอได้รับเครื่องรางมาแล้วก็อย่าลืมนำกลับมาดูแลให้ดี โดยเครื่องรางนี้จะนำพาให้ไปเจอเนื้อคู่ที่ถูกคนนั่นเอง และเมื่อเจอแล้วก็ให้นำเครื่องรางชิ้นนี้กลับมาคืนที่ศาลเจ้า
ที่อยู่ | 2-chōme-11-3 Miyashitamachi, 宮下町 Kawagoe, Saitama 350-0052 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจากสถานี Ikebukuro ไป 30 นาที แล้วนั่งรถบัสต่อไปอีก 10 นาที |
Website | Kawagoe Hikawa Shrine |
หลังจากเรารับเครื่องรางกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตรงกลับมายังโตเกียวเพื่อไปทานอาหารที่ชินจูกุ ในห้าง Keio
โดยเราจะไปทานเต้าหู้ไคเซกิที่ร้านโทฟูคิชิสะ โดยเมนูที่เสิร์ฟให้ทานนั้นล้วนแล้วแต่ทำมาจากเต้าหู้ แต่รสชาติดีถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน
ที่อยู่ | ญี่ปุ่น 〒160-8321 Tōkyō-to, Shinjuku City, Nishishinjukui |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Shinjuku ไปยังห้าง Keio แล้วขึ้นไปยังชั้น 8 ก็จะเจอ |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 21.30 น. |
โทรศัพท์ | +81 3-5321-8137 |
เมื่อท้องอิ่ม พลังมาเต็ม เราก็ไปต่อกันที่ Tokyo Joypolis สาขาโอไดบะ โดยที่นี่เป็นสวนสนุกในร่มที่รวบรวมกิจกรรมสนุกๆ น่าสนใจให้เข้าร่วมมากมาย
เราสามารถรับตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเลย ที่นี่เราสามารถสนุกไปกับเครื่องเล่นและเกมต่าง ๆ ทั้งยังสามารถเข้าออกสวนสนุกได้ตลอดวันโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งอีกด้วย
มีทั้งตู้คีบตุ๊กตา และเครื่องเล่นเกมอื่นๆ ให้ได้สนุกกันมากมาย
เครื่องเล่นแต่ละเครื่องเล่นนั้นน่าสนใจไม่น้อย เพราะทุกเครื่องเล่นนั้นมีความไฮเทค และยังมีเครื่องเล่น VR ด้วย
สวนสนุกแห่งนี้อยู่ใกล้กับ โอเอโดะออนเซ็นด้วย สามารถนั่งรถไฟต่อไปอีกสองสถานีก็ถึงแล้ว อีกทั้งยังมีรถบัสรับส่งฟรีไปส่งที่ชินากาวะด้วย ซึ่งออนเซ็นแห่งนี้เราสามารถซื้อตั๋วเข้าได้ตั้งแต่ในไทยเช่นกัน แต่ต้องไปรับบัตรเข้าที่สนามบินนั่นเอง
สามารถซื้อบัตรเข้าออนเซ็นผ่าน Klook ได้ด้วยนะ
ที่อยู่ | 〒135-0091 Tōkyō-to, Minato City, Daiba, 1-chōme−6−1 3F~5F DECKS Tokyo Beach |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Tokyo Teleport Station ประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 22.00 น. |
โทรศัพท์ | +81 3-5500-1801 |
Website | Tokyo Joypolis |
เมื่อเราเล่นเครื่องเล่นกันจนเหนื่อยแล้ว ก็ไปเดินเล่นชมซากุระกันที่ นากะ เมงุโระ ซึ่งอยู่ในช่วงฟลูบลูม และมีการเปิด Ligth up อีกด้วย คนเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องของการล้วงกระเป๋าด้วย
ที่อยู่ | 2-chōme-6 Nakameguro, Meguro City, Tōkyō-to 152-0000 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Naka – Meguro ได้เลย แม่น้ำจะอยู่ด้านล่างสถานี |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
โทรศัพท์ | +81 3-5722-9621 |
Website | Naka – Meguro |
ส่วนมื้อเย็นเรามาทานกันที่โรบอทเรสเตอรอง โดยซื้อแพ็กเกจพร้อมเบนโตะ ที่โรบอทเรสเตอรองนี้คุณสามารถชมการแสดงที่ตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกับรับประทานอาหารไปด้วยได้
โชว์แต่ละโชว์นั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแสดงถึงความเป็นญี่ปุ่น รับรองว่าคุณจะต้องสนุกสนามไปกับแสงสีเสียง และเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่ถูกกนำมาใช้อย่างแน่นอน
ที่อยู่ | 〒160-0021 Tōkyō-to, Shinjuku City, Kabukichō, 1-chōme−7−7 新宿ロボットビル B2F |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Shinjuku ประมาณ 5 นาที |
โทรศัพท์ | +81 3-3200-5500 |
Website | Robot Restaurant |
รุ่งเช้าวันสุดท้ายในโตเกียว… เรามุ่งหน้าไปฝากกระเป๋าไว้ที่ Locker ฝากกระเป๋า สถานี Keisei Skyliner ที่อุเอโนะ หลังจากนั้นเราจึงไปต่อกันที่สถานี Asakusa เพื่อชมซากุระยามเช้าที่สวนสุมิดะ พร้อมวิว Tokyo Skytree
ระหว่างที่เดินชมซากุระ เราก็จะเห็นผ้าใบที่ถูกปูเอาไว้สำหรับการมานั่งทานอาหารพร้อมชมซากุระไปด้วย
แต่นอกจากสวนนี้เรายังมีสวนลับใกล้ๆ กัน เป็นจุดชมซากุระที่ไม่ควรพลาด เพราะซากุระที่นี่เมื่อบานแล้วก็จะกลายเป็นอุโมงค์ให้เราได้เดินชมกัน โรแมนติกมากๆ
ที่อยู่ | 7-chōme-1 Asakusa, Taito City, Tōkyō-to 111-0032 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Asakusa อยู่ฝั่งตรงข้ามเลย |
โทรศัพท์ | +81 3-5246-1321 |
Website | Sumida Park |
เดินชมกันแป๊บเดียวเวลาก็ล่วงเลยมาจนเที่ยง เราจึงกลับมาทานอาหารกันที่บริเวณสถานีอุเอโนะ ที่ร้าน Guenpin Fugu เพื่อทานปลาปักเป้า อาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ควรลองสักครั้ง เมื่อเข้ามาในร้านก็โชว์ใบจองผ่านทางโทรศัพท์ได้เลย
เมนูแรกที่มาเสิร์ฟคือ ซาชิมิหนังปลาปักเป้านึ่งกึ่งสุก เมนูนี้ถูกใจหลายๆ คนมาก ตัวหนังปลาให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกินหนังหมูอยู่ก็ว่าได้ แต่เมื่อกินคู่กับโชยุแล้วรสชาติดีมากเลยทีเดียว
เสิร์ฟต่อไม่รอแล้วนะ กับเมนูซาซิมิปลาปักเป้าสไลซ์บาง ให้คุยได้ลิ้มลองรสชาติจากธรรมชาติแท้ เพราะสดมากๆ
ต่อด้วยปลาปักเป้าหม้อไฟ ที่พนักงานจะทำให้คุณทานและสอนวิธีใส่เนื้อปลาลงไปด้วย เมื่อคุณทานกันหมดแล้วก็อย่าพึ่งอิ่ม เรียกพนักงานมาทำเมนูต่อไปได้เลย
เมนูโจ๊กญี่ปุ่นที่ได้จากน้ำซุปในหม้อชาบูที่ทานกันไปเมื่อสักครู่ เมนูนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย
แล้วอย่าลืมจบด้วยของหวาน คือไอศครีมถั่ว หรือเชอร์เบทยูสุ ที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นหลังมื้ออาหารอย่างแน่นอน
ที่อยู่ | 7-1-19 Hyogo prefecture Kobe city Chuo Ward Isogami-dori |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟ Ueno ประมาณ 6 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 12.00-22.30 |
โทรศัพท์ | +81 3-5812-2429 |
Website | Guenpin Fugu |
ท้องอิ่มและก็เตรียมกลับไทย เราเดินต่อมาอีกนิดที่สถานี Keisei Skyliner เพื่อเอากระเป๋าที่ฝากล็อกเกอร์ไว้ และรับตั๋วเพื่อขึ้นรถไฟไปสนามบินนาริตะนั่นเอง
ทริปนี้ก็จบไปแล้ว ทั้งสนุก และคุ้มสุดๆ แถมยังคุมงบได้อย่างดีกับ Klook ที่ให้เราสามารถซื้อตั๋ว พาส หรือจองคิวร้านอาหารล่วงหน้าตั้งแต่ยังอยู่ที่ไทยเลย ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่งบน้อย จะได้คุมงบได้ในแบบของคุณเอง
จองตั๋วผ่าน Klook
ใครยังไม่ได้ตอนที่ 1 ไปอ่านกันได้ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว 4 วัน 3 คืน จองง่ายทุกจุด ฟินไม่สะดุดทั้งทริป ตอน 1
ไปอ่านกันเลย!!!
สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวโตเกียวในแบบไม่เหมือนใคร สามารถตามรอยเราได้เลยนะ บอกเลยว่าแต่ละที่นั้น ทั้งสนุก และน่าสนใจมากๆ เลย อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการจองตั๋วต่างๆ ผ่าน Klook ก่อนจะเดินทางมาญี่ปุ่นแล้ว ทำให้การท่องเที่ยวของเรายิ่งสนุกขึ้นไปอีกล่ะ
จบไปแล้วกับทริปนี้ คุณสามารถมีทริปท่องเที่ยวสนุกๆแบบนี้ได้ จากข้อมูลที่เรามีให้คุณพิกัดใหม่สำหรับสายชิลล์ ทริปง่ายๆจะมีที่ไหนบ้าง ลองดูบทความนี้กัน
เที่ยวโตเกียว 10 พิกัดใหม่ ไม่ซ้ำใคร เอาใจสายชิลล์
อย่าเพิ่งบอกว่าเบื่อ เที่ยวโตเกียว ถ้าคุณยังไม่เคยไปสถานที่เหล่านี้ เรารวบรวม ที่เที่ยว ลับ โตเกียว จุดเช็คอินใหม่ๆ ที่แม้ไม่คุ้นตาแต่ก็มีความเก๋ชิค น่าเที่ยวไม่น้อยกว่าที่เที่ยวสุดฮิต ได้ภาพสวย สนุกกับกิจกรรมดี เที่ยวชิลล์แบบแปลกใหม่ ไม่แมส พร้อมพิกัดและการเดินทางให้ไปได้แบบสะดวก
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวที่น่าประทับใจ ลองกดอ่านเพิ่มเติมกัน
เที่ยวโตเกียว เสน่ห์เมืองหลวง ตื่นตากับเทคโนโลยี เที่ยวสนุกช้อปเพลิน
เที่ยวโตเกียว มหานครแห่งความรุ่งเรืองของญี่ปุ่น ล้ำสมัยด้วยนวัตกรรม เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหา การเดินทางแสนสะดวกสบาย ท่องเที่ยวง่ายดายปลอดภัย ชิลล์กันได้แม้เดินทางไปเป็นครั้งแรก สัมผัสตึกรามสุดทันสมัย วัฒนธรรมสุดป๊อป กิน เที่ยว ช้อปปิ้งแบบจัดเต็ม สนุกสนานกันได้ทั้งวัน และกิจกรรมสุดน่าสนใจที่เมืองสุดชิค
Blogger : ALISA
มนุษย์ชอบกิน ชอบเที่ยว มีคติว่า ถ้าเที่ยวต้องเที่ยวให้สุด กับเรื่องกินก็เช่นกัน เรื่องอะไรที่คนอื่นไม่เคยทำ เราต้องได้ทำ เต็มที่กับทุกอย่าง ไปให้สุดแล้วหยุดที่หมดตัว แต่รวยประสบการณ์ รักการเรียนรู้ และสนใจญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ชอบการพูดคุยกับชาวบ้าน หรือได้พบเจออะไรใหม่ๆ เสมอ
159 Posts
โอคาวาโซ – Ookawaso ไอสึวาคามัตสึ ตามรอยดาบพิฆาตอสูร! โรงแรมหรูสไตล์ญี่ปุ่น
โรงแรมโอคาวาโซ (Okawaso : 大川荘) โรงแรมหรูในฝันที่ใครๆก็คิดว่าจะต้องมาพักสักครั้...
10 ที่เที่ยวฟูจิ เปิดพิกัดที่เที่ยวแบบใหม่ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
Kitaguchi-hongu Fuji Sengen Shrine ศาลเจ้าที่อุดมไปด้วยพลังงานของขุนเขา คิตะกุ...
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...
นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...
7%
15%
ส่วนลด 5%
เที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี อากาศเป็นไง ครบข้อมูลเตรียมเที่ยวเลย
10/03/2021 | Japan
รีวิว ตึกม่วง ทาเคยะ ปิดกี่โมง มีกี่สาขา ซื้ออะไรดี คำตอบครบจบในที่เดียว
08/04/2020 | Tokyo
ตลาดคุโรมง เที่ยวตลาดปลาโอซาก้า กับ 9 ร้านเด็ด กิน ช้อป ฟินสุดใจ
11/11/2021 | Japan
ร้านอาหาร ชินจูกุ 10 พิกัดอร่อยในย่านเด็ดที่ต้องลอง
07/01/2019 | Japan
เหล้าบ๊วยญี่ปุ่น 7 อันดับ รสเยี่ยม ที่ต้องห้ามพลาด
23/02/2017 | Japan
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-5285-8088
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
03-5789-2449
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
06-6262-9226-7
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
092-686-8775
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุ๊กกี้ของเราผ่านทาง นโยบายความเป็นส่วนตัว