คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
5%
10%
17%
Tokyo DisneyLand และ Tokyo DisneySea เป็นสวนสนุกชื่อดังก้องโลก ที่เป็นหนึ่งในพิกัดท่องเที่ยวในแพลนมาญี่ปุ่นของหลาย ๆ คน โดยเฉพาะใครที่เป็นแฟนคลับของ Disney ที่อยากมาสัมผัสความแฟนตาซีกันด้วยตัวเอง
และไม่ใช่แค่สวนสนุกเท่านั้นทาง Tokyo Disney ยังมีโรงแรมในเครือให้ได้จองเข้าพัก เพื่อสัมผัสความมหัศจรรย์แฟนตาซีกันอย่างเต็มรูปแบบ
โดยโรงแรมในเครือของ Disney Hotel มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่
ครั้งนี้ทาง Chill Chill Japan มีโอกาสได้ไปร่วมในงานเปิดตัวของโรงแรม Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดที่กำลังจะจะเปิดให้บริการในวันที่ 6 มิถุนายน 2024 เป็นครั้งแรกนั่นเองค่ะ โดยเราจะพาทุกคนไปชมทั้งบริเวณบรรยากาศภายในโรงแรม ห้องพัก และร้านอาหารในโรงแรมกันค่ะ
สามารถเดินทางมาได้ง่าย ๆ ด้วยการนั่งรถไฟสาย Disney Resort Line จากสถานี Resort Gateway Station มาลงที่สถานี Bayside Station ก็จะพบกับประตูทางเข้าของโรงแรม
บรรยากาศภายในของ Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel ถูกสร้างขึ้นมาในธีมที่ผสมผสานความแฟนตาซีเข้ากับพืชพรรณไม้ที่มีสีสันสดใส ให้ความรู้สึกอบอุ่น สดชื่นและสนุกสนาน และยังมีแรงบันดาลใจการดีไซน์มาจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องต่าง ๆ ของดิสนีย์
โดยบริเวณชั้น 1 ของโรงแรมจะเป็นพื้นที่ซึ่งเชื่อมกันกับสวนสนุก ตั้งอยู่ใกล้กับ Magical Springs ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Fantasy Springs โซนใหม่ของสวนสนุก Tokyo DisneySea แขกที่จะมาเข้าพักบริการในโรงแรมนี้จึงจะได้เห็นทิวทัศน์อันสวยงามของสวนสนุก
Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel มีห้องพักจำนวนทั้งหมด 475 ห้อง (ต้ังแต่ชั้น 3-9) แบ่งตึกห้องพักออกเป็น 2 ส่วน คือ Grand Chateau และ Fantasy Chateau เอาล่ะค่ะ ชมภาพบรรยกาศรอบนอกของบริเวณโรงแรมกันไปแล้ว ก็ขอพาทุกคนไปชมอาคารห้องพักทั้ง 2 ส่วนของโรงแรมแห่งนี้กันค่ะ
อาคารห้องพักส่วนแรกที่เราจะพาไปชมกันก็คือ Grand Chateau ที่ดีไซน์ภายในอาคารและห้องพักออกมาในสไตล์ Luxury ทำให้แขกผู้มาเข้าพักจะได้พักผ่อนในบรรยากาศหรูหรา สวยงาม และบริการชั้นเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของสวนสนุก Tokyo DisneySea โดยมองเห็นโซน Fantasy Spring จากภายในห้องพักอีกด้วย
ภายในโซนของอาคาร Grand Chateau จะมีทั้งเลานจ์ให้แขกผู้เข้าพักได้ใช้บริการ ซึ่งมีการตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราและสง่างาม ให้ฟิลเหมือนได้เข้าพักในพระราชวังของเจ้าหญิงดิสนีย์เลยทีเดียว
นอกจากเลานจ์สวย ๆ บริเวณห้องพักก็สวยและหรูหราไม่แพ้กันค่ะ ระเบียงทางเดินไปยังห้องพักจะมีรูปภาพสวย ๆ จากภาพยนต์ดิสนีย์ประดับเอาไว้ให้เราได้เดินชมเพลิน ๆ ด้วย อย่างรูปนี้ก็เป็นภาพจากเรื่อง Tangled หรือราพันเซล
ห้องพักในสไตล์ Luxury ของโซนนี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 300,000 เยน โดยมีบรรยากาศห้องที่สวยงาม หรูหรา และเต็มไปด้วยความแฟนตาซีตามแบบฉบับบของดิสนีย์ จากระเบียงของห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวสวนสนุกในโซน Fantasy Springs ที่แสนสนุกสนาน สร้างความเพลิดเพลินให้คุณได้ตลอดการพักผ่อน
Grand Chateau มีห้องพักทั้งหมด 56 ห้อง ทุกห้องเป็นเตียงคู่ รับรองแขกเข้าพักได้สูงสุด 4 คน(ยกเว้นห้องประเภท Terrace Accessible Room 3 คน) ซึ่งห้องพักแบ่งบออกเป็น 6 ประเภทดังนี้
และห้องพักของ Grand Chateau ที่เราจะพาไปชมครั้งนี้คือประเภท Terrace & Alcove Room โดยที่ห้องนี้มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 341,000 เยนค่ะ
Terrace & Alcove Room รับรองแขกได้ทั้งหมด 4 คน ภายในห้องมีโซนพื้นที่นั่งเล่น โซนห้องนอน ห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำในตัว พร้อมระเบียงที่สามารถออกไปชมวิวสวย ๆ ด้านนอกได้ด้วยค่ะ
แน่นอนว่าจะต้องมี Amenities Limited Edition เฉพาะที่ทำขึ้นเพื่อให้บริการแขกผู้เข้าห้องในโรงแรมแห่งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชุดนอน ชุดคลุมอาบน้ำดีไซน์เฉพาะใช้สำหรับในโรงแรมแห่งนี้ รวมไปถึง Amenitiesที่สามารถนำกลับบ้านได้อย่างกระเป๋าผ้า โปสการ์ดลวดลายที่ออกแบบมาเฉพาะห้องพักของ Grand Chateau และรองเท้าสลิปเปอร์หนานุ่มใส่เดินในห้อง
โซนนั่งเล่นบริเวณนี้เราสามารถชม Disney Chanel จากทีวีภายในห้อง นั่งดื่มชา กาแฟหรือน้ำดื่ม พร้อมกาน้ำร้อนที่ทางโรงแรมมีให้บริการฟรี แน่นอนว่ามี WiFi ให้ใช้บริการด้วยเช่นกันค่ะ
จากในโซนนั่งเล่นภายในห้องสามารถเดินออกไปชมวิวสวย ๆ สูดอากาศสดชื่นภายนอกห้อง จากทางระเบียงของห้องได้เลย บริเวณระเบียงยังมีเซ็ตโต๊ะเก้าอี้ เหมาะกับการจิบชาชมชิลล์ ๆ ในช่วงกลางวัน และสัมผัสบรรยกาศโรแมนติกยามค่ำคืน
กลับเข้ามาชมในห้องพักกันต่อ บอกเลยว่าภายในดีไซน์ออกมาได้หรูหรา ราวกับห้องนอนของเจ้าหญิงเลยล่ะค่ะ โดยจะเป็นเซ็ตเตียงคู่ สำหรับจำนวนแขกที่มาเข้าพัก 4 คน ทางโรงแรมจะปรับเลื่อนเตียงในห้องออกมาเป็น 4 เตียงให้พร้อมสำหรับเข้าพักค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำก็มีดีไซน์ที่หรูราไม่แพ้กัน บอกเลยว่าหากได้มาเข้าพักสามารถถ่ายรูปสวย ๆ ไปอวดเพื่อนได้แน่นอนค่ะ
นอกจากความสวยงามแล้วทางโรงแรมยังมี Amenities ของใช้พร้อมให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟัน หวี แก้วน้ำ ที่โกนหนวด คอตตอนบัต ไดร์เป่าผม รวมถึงผ้าขนหนูพร้อมใช้ ถ้าหากใครมาเข้าพักพร้อมเด็กหรือเด็กเล็ก ทางโรงแรมก็มีอุปกรณ์สำหรับเด็ก ๆ เตรียมไว้ให้ใช้บริการด้วยค่ะ
ใครอยากแช่น้ำให้สบายตัว หลังจากเที่ยวเล่นเครือ่งเล่นในสวนสนุกมาทั้งวัน ในห้องอาบน้ำก็มีอ่างน้ำพร้อมแช่ให้หายเหนื่อย แชมพู ครีมนวด สบู่ก็มีพร้อม
ห้องน้ำก็เป็นระบบ Washlet มาตรฐานอย่างดีตามแบบฉบับของญี่ปุ่นด้วยนะคะ
ขอพาทุกคนไปชมอาคารห้องพักอีกโซนหนึ่งอย่าง Fantasy Chateau กันต่อค่ะ จะขอแนะนำโซนนี้ผ่านอีกหนึ่งทางเข้าของโรงแรมที่เรียกว่า Main Entrace ซึ่งทางเข้าส่วนนี้จะเหมาะกับลูกค้าที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมายังโรงแรมค่ะ (ทางโรงแรมสามารถจอดรถได้ถึง 400 คันเลยทีเดียว)
บริเวณทางเข้าฝั่งนี้ยังมีโซนสวนที่มีรูปปั้นหินเป็นตัวคาแร็กเตอร์ดิสนีย์น่ารัก ๆ อย่างมิกกี้หรือมินนี่ ให้เราได้ไปถ่ายรูปด้วย
ทางโรงแรมตกแต่งโซนทางเข้าไว้อย่างสวยงามและแฟนตาซีสุด ๆ ไม่ว่าจะโคมไฟดอกไม้ที่มีลายละเอียดน่ารัก ๆ ทั้งยังมีพนักงานต้อนรับของทางโรงแรมที่มายืนต้อนรับตั้งแต่ต้นทาง
Fantasy Chateau เป็นโซนอาคารห้องพักสไตล์ Deluxe ที่แตกต่างภายในลวดลายของพืชและสัตว์ชนิดต่าง ๆโดยมีแรงบันดาลจากภาพยนตร์อนิเมชั่นในเครือดิสนีย์ สร้างความแฟนตาซีให้คุณเพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของ Fantasy Springs
หลังจากเดินเข้ามาภายในตัวโรงแรมในโซน Fantasy Chateau แล้ว ก่อนจะไปถึงโซนห้องพักเราก็จะได้พบกับ Fantasy Chateau Lounge ที่เป็นส่วน Reception หรือประชมสัมพันธ์ของทางโรงแรมที่ตกแต่งด้วยธีมดอกไม้และพืชพรรณที่สวยงาม พร้อมยังมีพื้นที่ให้แขกผู้เข้าพักได้นั่งพักผ่อน
ก่อนจะเข้าไปถึงโซนห้องพักขอพาเพื่อน ๆ แวะไปชมบริเวณสวย ๆ ที่อยู่ในส่วนของ Fantasy Chateau กันก่อนนะคะ สำหรับโซนนี้จะเป็นส่วน Terrace ที่เราสามารถมายืนชมวิวสวย ๆ ภายในบริเวณโรงแรม ซึ่งสามารถมองเห็นวิวไปได้ถึงส่วน Fantasy Springs ของสวนสนุกเลยค่ะ
หากเดินต่อไปตามระเบียงทางด้านซ้ายจะพบกับส่วนที่สวยมาก ๆ ส่วนหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้ก็คือ สวนกุหลาบ Rose Court ที่สร้างขึ้นโดยเอาซีนสวย ๆ ในเรื่อง Beauty and the Beast มาแกะสลักเป็นหิน พร้อมน้ำพุ ล้อมรอบด้วยพืชพรรณและดอกไม้สวย ๆ
บอกเลยว่าทางโรงแรมเขาทำออกมาได้สวยมาก ๆ จนเหมือนตัวละครในอนิเมชั่นหลุดออกมาในโลกแห่งความจริงเลยค่ะ ถูกใจคนที่ชอบ Beauty and the Beast แน่นอน
ถึงเวลาที่จะพาทุกคนไปดูห้องพักในโซนของ Fantasy Chateau กันแล้วค่ะ เมื่อเดินกลับมาที่บริเวณ Fantasy Chateau Lounge แล้วเดินเข้าไปในส่วนของโซนห้องพักจะพบกับการตกแต่งที่สวยงามของโซนนี้ด้วย นกยูงที่ทำขึ้นจากดอกไม้
แล้วไปถึงพืชพรรณสวย ๆ ที่ทางโรงแรมจัดตกแต่งเสริมบรรยากาศให้เข้ากับฤดูกาลต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ในส่วนของห้องพัก มีให้บริการทั้งหมด 419 ห้อง รองรับแขกเข้าพักได้ตั้งแต่ 4-5 คน
ห้องพักในสไตล์ Deluxe ของโซนนี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 63,500 เยน เยน โดยมีบรรยากาศห้องที่เต็มไปด้วยความแฟนตาซีตกแต่งภายในด้วยธีมตัวละครดิสนีย์จากโซน Fantasy Springs ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ พืชพรรณและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ในบรรยากาศที่สดใส สดชื่นและน่ารัก ซึ่งห้องพักแบ่งบออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
Bay Area Side : ตั้งอยู่ทางด้านข้างโรงแรม Tokyo Disney Resort Official Hotels
Hotel Entrance : ตั้งอยู่ทางด้านข้างทางเข้าหลักของโรงแรม
Rose Court Side : ตั้งอยู่ด้านข้างของสวนกุหลาบ Rose Court ซึ่งเป็นโซนที่มีห้องที่มองเห็นวิวบางส่วนของสวนสนุก
Springs Side : ตั้งอยู่ด้านข้างของ Fantasy Springs ของ Tokyo DisneySea จะมีห้องพักที่มองเห็นสวนสนุกโดยตรงและเห็นเพียงบางส่วนของสวนสนุก
ระเบียงทางเดินที่จะไปยังแต่ละห้องพัก ตกแต่งไว้อย่างสวยงามและแฟนตาซี พร้อมทั้งยังมีรูปภาพองเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์สวย ๆ ติดที่กำแพงบริเวณหน้าห้องพักด้วย อย่างรูปที่เห็นนี้เป็นรูปสวย ๆ ของเจ้านิทราจากเรื่อง Sleeping Beauty นั่นเอง
และสำหรับในครั้งนี้ห้องพักในโซน Fantasy Chateau ที่เราจะพาไปชมกันก็คือห้องประเภท Superior Alcove Room เป็นห้องเซ็ตเตียงคู่ มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัว ถึงแม้ว่าห้องอาจจะดูกระทัดรัดขึ้นมาหน่อย แต่ก็สามารถเตรียมพร้อมรับรองแขกได้สูงสุดถึง 4 คน
ภายในห้องนอกจากจะตกแต่งโดยมีธีมจากอนิเมชั่นของดิสนีย์แล้ว ยังนำคาแร็กเตอร์สัตว์ตัวน้อยจากในอนิเมชั่นมาใส่ไว้ในการตกแต่งภายในห้องด้วย อย่างบริเวณหัวเตียงที่มีเจ้ากิ้งก่า Pascal จากเรื่อง Tangled บริเวณกำแพงที่มีเจ้ากวางน้อยแบมบี้และเพื่อนตัวน้อยอย่าง Thumper จากเรื่อง Bambi
หรือบริเวณโซฟาที่เปลี่ยนเป็นเตียงนอนได้ตรงนี้ก็ตกแต่งด้วยลวดลายจากเรื่องราวของเจ้าหญิงราพันเซลหรือ Tangled ด้วยนะคะ
ทางโซน Fantasy Chateau เองก็มี Amenities Limited Edition เฉพาะที่ทำขึ้นเพื่อให้บริการเช่นเดียวกัน อย่าง กระเป๋าผ้า โปสการ์ดและสลิปเปอร์ดีไซน์น่ารัก ๆ ตามสไตล์ดิสนีย์ที่สามารถนำกลับบ้านไปเป็นที่ระลึก
นอกจากนั้นยังมีชา กาแฟและน้ำดื่ม พร้อมมินิบาร์ที่มีแก้วน้ำและแก้วชาพร้อมให้บริการ
รวมไปถึงชุดนอนและชุดคลุมอาบน้ำดีไซน์เฉพาะที่จะสามารถใช้ได้ภายในโรงแรมโซนนี้เท่านั้น และหากแขกผู้เข้าพักมากับเด็กหรือเด็กเล็กก็จะมีอุปกรณ์สำหรับเด็ก ๆ ให้บริการด้วยค่ะไม่ต้องห่วง
มาดูในส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำกับบ้างค่ะ โซนอ่างล้างหน้าตรงนี้มีการตกแต่งตัวละครสัตว์จากดิสนีย์ที่บริเวณกระจกไว้ด้วย นั่นก็คือเจ้าเรย์หิ่งห้อยใจดีจากเรื่อง The Princess and the Frog
แปรงสีฟัน หวี แก้วน้ำ ที่โกนหนวด คอตตอนบัต ไดร์เป่าผม รวมถึงผ้าขนหนูมีเตรียมไว้พร้อมในดีไซน์น่ารัก ๆ น่าใช้ตามจำนวนแขกที่เข้าพักเลย
ห้องอาบน้ำและห้องน้ำยังมีการตกแต่งด้วยภาพวาดดอกไม้น่ารัก ๆ ทั้งยังมีแชมพู ครีมนวดและสบู่เตรียมไว้ให้ใช้บริการค่ะ
หลังจากชมห้องพักทั้งสองตึกของโรงแรมแห่งนี้กันไปแล้ว นอกจากห้องพักทาง Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotels ยังมีภัตตาคารที่พร้อมเสิร์ฟอาหารแสนอร่อยให้บริการอีกด้วยค่ะ จะมีเมนูอะไรบ้างตามไปดูกันเลย
เลานจ์แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่าง Fantasy Chateau และ Grand Chateau แขกผู้เข้าพักสามารถมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมทิวทัศน์สวย ๆ ของ Fantasy Springs จากหน้าต่างบานใหญ่ของเลานจ์แห่งนี้
แล้วยังสามารถสั่งของหวานและเครื่องดื่มมารับประทานได้อีกด้วย อย่างเมนูเซ็ตของหวาน เมนูเค้กเซ็ตที่จะได้อร่อยกับทั้งเค้กและเครื่องดื่มตามเมนูที่มีให้เลือก หรือฟาเฟ่ต์ช็อกโกแลตน่าอร่อย เลานจ์แห่งนี้รองรับแขกมากถึง 70 ที่นั่ง ให้บริการตั้งแต่ 12:00-22:00 น. ค่ะ
La Libellule คือภัตตาคารอาหารสไตล์ฝรั่งเศสสุดหรู ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ในโซนของ Grand Chateau เดินผ่าน Grand Chateau Lounge เข้าก็จะเจอกับภัตตาคารฝรั่งเศสที่ตกแต่งเอาไว้อย่างงดงาม
ซึ่งถือว่าเป็นภัตตาคารฝรั่งเศสแท้ ๆ แห่งแรกที่เปิดให้บริการใน Tokyo Disney Resort โดยการตกแต่งยังหรูหรา สวยงามราวกับกำลังรับประทานอาหารภายในพระราชวังในเรื่อง Beauty and the Beast เลยทีเดียว
หากเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ก็จะสามารถชมวิวทิวทัศน์ของสวนสนุกไปพร้อม ๆ กับการชิมอาหารฝรั่งเศสรสชาติอร่อยไปพร้อมกันได้ด้วยค่ะ
สำหรับเมนูอาหารฝรั่งเศสที่ให้บริการนั้นคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเชฟฝีมือดีของทางโรงแรม โดยจะมีทั้งอาหารฝรั่งเศสดั้งเดิมอย่าง “Pâté en Croûte” แล้วยังมีเมนูที่น่าลิ้มลองอีกหลายจานที่สร้างสรรค์ขึ้น
ซึ่งการให้บริการอาหารแต่ละมื้อก็จะมีเมนูที่แตกต่างกันอย่างเช่น ในอาหารมื้อเช้าแขกผู้เข้าพักสามารถเลือกอาหารจานหลักและจะมีอาหารจานอื่น ๆ มาสไตล์ในสไตล์บุฟเฟ่ต์
ในส่วนของมื้อเย็นจะเสิร์ฟทั้งอาหารเรียกน้ำย้อย อาหารจานหลักที่มีวัตถุดิบเป็นปลา จานหลักจากเนื้อสัตว์และของหวาน ซึ่งการรับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้ หากสั่งเมนูที่อยู่ในเงื่อนไขเราจะได้ไปถ่ายรูปคู่กับตัวละครมาสคอร์ตของดิสนีย์ด้วยค่ะ
Fantasy Springs Restaurant ตั้งอยู่ในฝั่งของ Fantasy Chateau ให้บริการอาหารในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์ตลอดทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น เรียกได้ว่าเป็นภัตตาคารอาหารบุฟเฟ่ต์แบบ All day ถูกใจสายบุฟเฟ่ต์แน่นอนค่ะ
ภายในภัตตาคารแห่งนี้ตกแต่งในธีมของภาพยนตร์อนิเมชั่นดิสนีย์อีกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะจากเรื่อง Tangledm Snow White รวมไปถึง Slepping Beauty
สามารถรับรองแขกได้ถึง 270 คน โดยแต่ละมื้อจะมีระยะเวลาให้บริการดังนี้ค่ะ
ผู้ใหญ่ราคา 4,000 เยน เด็ก (7-12 ปี) 2,500 เยน เด็กเล็ก (4-6 ปี)1,800 เยน
ผู้ใหญ่ราคา 5,800 เยน เด็ก (7-12 ปี) 3,800 เยน เด็กเล็ก (4-6 ปี) 2,000 เยน
ผู้ใหญ่ราคา 7,000 เยน เด็ก (7-12 ปี) 4,200 เยน เด็กเล็ก (4-6 ปี) 3,000 เยน
ในไลน์บุฟเฟ่ต์จะมีทั้งอาหารคาวหวาน พร้อมเครื่องดื่มแบบรีฟิวล์ที่จัดเรียงเอาไว้สวยงามและละลานตา ซึ่งเราสามารถไปหยิบ หรือไปตักเพิ่มเองได้ตามสไตล์บุฟเฟ่ต์
มีเพียบพร้อมไปทั้งอาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น Seafood Paella, Roast beef , สตู, สลัดจากผักสดใหม่
อาหารแต่ละจานทำออกมาสดใหม่ทุกวัน พร้อมให้บริการ ชอบจานไหนเลือกตักกันได้เลย
ขอบอกเลยว่าอาหารของภัตตาคารนี้น่ารับประทานมาก ๆ เห็นแล้วเลือกตักไม่ถูกกันเลยทีเดียว
จากของคาวก็ขอพาไปชมของหวานกันบ้างค่ะ ทางภัตตาคารจัดเตรียมไว้ทั้งขนมปังชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังบาร์เก็ต เดนิสเมล่อนและชนิดอื่น ๆ
นอกจากนั้นยังมีเค้กน่าอร่อยอีกหลายแบบให้ได้ลิ้มลอง ใครชอบกินขนมหวาน อย่าเพิ่งกินอาหารคาวจนแน่นท้องไปซะก่อนนะคะ
นอกจากเค้กแล้วก็ยังมีขนมหวานในสไตล์มูสอร่อย ๆ อย่างมูสไวค์ช็อกโกแลต หรือคาราเมลเป็นต้น
ทาง Chill Chill Japan เองมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติอาหารบุฟเฟ่ต์ของภัตตาคารนี้ในส่วนหนึ่งค่ะ บอกเลยว่านอกจากหน้าตาจะสวยงามแล้วยังมีรสชาติอร่อยทุกอย่างเลย ใครได้มาเข้าพักที่นี่ อยากให้มาลองชิมดูนะคะ
แนะนำส่วนต่าง ๆ ของทางโรงแรมกันไปจนหมดทุกที่แล้ว นอกจากบรรยากาศสวย ๆ แล้ว เราขอแนะนำสิทธิพิเศษและบริการพิเศษที่แขกผู้เข้าพักจะได้รับให้ได้ทราบกันค่ะ
ทางโรงแรมสามารถเช็คอินทางระบบออนไลน์ได้ เมื่อเช็คอินและลงทะเบียนกับระบบแล้วจะสามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจห้องได้เลย และสามารถเช็คเอาท์ผ่านทาง TV ในห้องพักได้โดยไม่ต้องผ่านฟร้อนของโรงแรม โดยมีเวลาเช็คอิน 15:00 เช็คเอาท์
แต่สำหรับใครที่ไม่ได้เช็คอินออนไลน์มาก็จะได้รับกุญแจห้องหน้าตาน่ารัก ๆ แบบนี้ไว้ใช้ตอนเข้าพักด้วยนะคะ
ทางโรงแรมมีบริการรับขนส่งสัมภาระจากชั้น 2 ของ Tokyo Disney Resort Welcome Center ข้างสถานี Maihama station จนถึงห้องในโรงแรม และยังมีบริการส่งไปยังสถานีโตเกียวหรือสนามบินฮาเนดะด้วย
สำหรับครอบครัวที่มาเข้าพักห้องเด็กและเด็กเล็กทางโรงแรมนั้นมีบริการสำหรับเด็ก ๆ เตรียมพร้อมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นชุดนอน หรือแม้แต่เครื่องใช้ เตียงน้อยสำหรับเด็กเล็ก
มีบริการสั่งอาหารส่งถึงห้องตั้งแต่เวลา 9:00-17:00 น.
สามารถส่งเสื้อผ้าของคุณไปซักรีดกับทางโรงแรมได้ รวมทั้งยังสามารถใช้บริการห้องซักผ้าได้ด้วยตัวเองที่บริการชั้น 1 ของอาคาร Fantasy Chateau (มีค่าบริการ)
อย่างที่ได้เกริ่นไปว่าหนึ่งในสิทธิพิเศษของผู้ที่เข้าพักในโรงแรม Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotels ก็คือการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกซึ่งจำหน่ายเฉพาะในโรงแรมแห่งนี้เท่านั้น
โดยจะมีทั้งกรอบรูปที่มีรูปภาพมิกกี้ยืนต้อนรับคุณอยู่ภายในโรงแรมโซน Grand Chateau โดยจะส่วนที่ให้คุณได้เลือกสลักชื่อ วันเข้าพักของคุณหรือบทความที่ต้องการได้ตามใจ
และยังมีพวงกุญแจอันนี้สวยงามที่สร้างขึ้นมาด้วยธีมของ โซน Grand Chateau ซึ่งเป็นของที่ระลึกให้คุณได้หวงคิดถึงวันที่ได้มาพักผ่อนในโรงแรมแห่งนี้ได้นั่นเอง สำหรับกรอบรูปและพวงกุญลิมิเต็ทตามภาพนี้จะสามารถซื้อได้เฉพาะผู้ที่เข้าพักในโรงแรมโซน Grand Chateau เท่านั้น
และยังมีสินค้าอีกสองชิ้นที่ไม่ว่าจะเข้าพักโซนไหนในโรงแรมก็สามารถซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้เช่นเดียวกันนั่นก็คือ กระเป๋าผ้าอย่างดีที่ออกแบบมาในธีมของโรงแรม รวมไปถึงกระเป๋าถือใบเล็กสุดน่ารักที่มาเป็นเซ็ตสีชมพูมุ้งมิ้งให้กับคนที่สนใจอยากสะสมเป็นที่ระลึกค่ะ
สามารถจองห้องพักผ่านทางเว็บไซต์ของ Tokyo Disney Resort
การจองในช่วงที่โรงแรมเริ่มเปิดวันแรก ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนจนถึง 6 กรกฎาคม 2024 จะขึ้นอยู่กับวันที่แพลนจะเข้าพักดังนี้ค่ะ
= เริ่มเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 13:00 น.
*ในช่วงวันที่นี้ห้องพักถูกจองเต็มหมดแล้ว จะมีการขายห้องพักที่ถูกยกเลิกการจองในวันที่ 18 เมษายน 2024 เวลาบ่ายโมง
=เริ่มเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2024 ตั้งแต่เวลา 13:00 น.
=เริ่มเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2024 ตั้งแต่เวลา 13:00 น.
=เริ่มเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 ตั้งแต่เวลา 13:00 น.
=เริ่มเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2024 ตั้งแต่เวลา 13:00 น.
=เริ่มเปิดจองตั้งแต่เวลา 11:00 น. ใน 4 เดือนล่วงของวันเข้าพักจริง
เช่นเข้าพักวันที่ 31 ตุลาคม เว็บไซต์จะเปิดรับจองตั้งแต่เวลา 11:00 น. ของวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้น
สามารถจองห้องพักได้สูงสุด 5 คีน ในจำนวน 3 ห้อง ตามวันที่ซึ่งแสดงในระบบการจองของเว็บไซต์
ราคาห้องพักในแต่ละวันจะแตกต่างกับตามวันที่เข้าพักและรูปแบบของห้องพัก
สำหรับใครที่ต้องการโรงแรมพร้อมตั๋วสวนสนุกดิสนีย์ละก็แนะนำให้จองแบบ Tokyo Disney Resort Vacation Packages ที่จะรวมทั้งห้องพักของโรงแรมในดิสนีย์ ตั๋วสวนสนุกตามจำนวนวันที่เข้าพักในโรงแรม และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมายอาทิเช่น
รายละเอียดเพิ่มเติมของแพ็กเก็จนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของ Tokyo Disney Resort Vacation Packages เลยค่ะ
Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel
ที่อยู่ | 1-2 Maihama, Urayasu, Chiba 279-8526 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Disney Resort Line จากสถานี Resort Gateway Station มาลงที่สถานี Bayside Station |
Website | Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel |
Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel ที่เต็มไปด้วยความแฟนตาซีแห่งนี้ มีทั้งโซนที่หรูหรา สง่างาม แล้วยังมีโซนที่สดใสน่ารัก สำหรับใครที่ชื่นชอบหรือเป็นแฟนคลับของดิสนีย์ บอกเลยว่าต้องลองจองมาพักผ่อนกันที่โรงแรมแห่งนี้สักครั้ง จะได้มาสัมผัสความมหัศจรรย์ แฟนตาซี สิทธิพิเศษสุดลิมิเต็ทในรูปแบบของดิสนีย์ด้วยตัวคุณเองค่ะ
Blogger : aripan
บล็อกเกอร์สาวที่ใช้ชีวิตยาว ๆ อยู่ในญี่ปุ่น รักในการท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่ก็ยังช็อปยังชิม คอยตามหาร้านกาแฟและขนมอร่อย ๆ หาพิกัดเที่ยวใหม่ ๆ ในญี่ปุ่น ☕
18 Posts
รีวิว “Eslead Hotel Osaka Shinsaibashi” ที่พักสไตล์เหมือนพักที่บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางโอซาก้า
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คือที่พัก ครั้งนี้เร...
10 ที่เที่ยวฟูจิ เปิดพิกัดที่เที่ยวแบบใหม่ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
Kitaguchi-hongu Fuji Sengen Shrine ศาลเจ้าที่อุดมไปด้วยพลังงานของขุนเขา คิตะกุ...
วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...
พยากรณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2025
อัพเดทพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น มาให้ดูกันล่วงนี้ เอาไว้จองตั๋วมาเที่ยวญ...
จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515