Wakayama Castle ปราสาทที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของชาววากะยามะ

ถ้าเพื่อนๆ กำลังอยากเดินทางท่องเที่ยวไปในเมืองรอง ดินแดนที่อยู่ด้านล่างงสุดของเกาะฮอนชู เดินทางจากสนามบินคันไซสุดแสนสะดวก เราอยากชวนไปยังจ.วากะยามะ ซึ่งถือเป็นอีกจังหวัดในญี่ปุ่นที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบครบครัน ทั้งภูเขา และทะเล มีออนเซ็นธรรมชาติริมชายฝั่งทะเลสวยงาม เป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่มีวัฒนธรรมอันเฟื่องฟูในยุคสมัยหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

โดยเฉพาะที่ปราสาทแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองวากะยามะ เป็นปราสาทที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาสวยงาม ในอดีตเป็นที่พักอาศัยของตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากโชกุนโทกุงาวะที่เคยปกครองญี่ปุ่นแม้ว่าบางส่วนของปราสาทถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้เหมือนเดิม สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของทางจังหวัดด้วย ดังนั้นการได้ศึกษาประวัติและบุคคลสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับปราสาทจากที่นี่ จะทำให้คุณได้สัมผัสเรื่องราวของจังหวัดนี้มากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง

ประวัติของ Wakayama Castle

ย้อนเวลากลับไป “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ” เป็นผู้ริเริ่มในการก่อสร้างปราสาทวากะยามะแห่งนี้ โดยฮิเดโยชิก็คือผู้ปกครองแคว้นคิชู (วากะยามะในปัจจุบัน) เขาสั่งให้น้องชายสร้างปราสาทขึ้นบนเนินเสือหมอบในปี ค.ศ 1585 หลังจากนั้นปราสาทถูกส่งต่อไปยังตระกูลอาซาโนะ แล้วก็เปลี่ยนมือมาที่ลูกชายคนที่ 10 ของโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสุ ซึ่งเข้ามารวบรวมแคว้นคิชูให้เป็นปึกแผ่นเดียวกันในปีค.ศ. 1619 โดยแต่ละยุคก็มีการขยายปราสาทเพิ่มเติม ส่งผลให้กำแพงหินรอบตัวปราสาทมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด 

จากการก่อสร้างแบบง่ายๆ จนค่อยๆ ก่อสร้างจนมีความสวยงามมากขึ้นเข้ากับรูปร่างของเนินเขานี้ โดยหลังจากการฟื้นฟูเมจิในปี ค.ศ. 1868 ตัวปราสาทก็ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ แต่หลังจากนั้นตัวอาคารของปราสาทมาถูกทำลายด้วยเพลิงไฟในช่วงสงครามแปซิฟิก แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้เหมือนเดิมมากที่สุดในช่วงปี ค.ศ. 1950 แล้วปราสาทแห่งนี้ก็ตั้งตระหง่านยิ่งใหญ่อย่างที่เห็นตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา 

สิ่งที่น่าสนใจในปราสาทวากะยามะ

มาออกสํารวจจุดที่น่าสนใจของปราสาทวากะยามะ พร้อมจุดถ่ายรูป เคล็ดลับ และเรื่องราวในอดีตที่ซ่อนอยู่ในสถานที่สําคัญทางประวัติศาสตร์อัน เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดแห่งนี้กัน

หอคอยหลัก (Tenshukaku) และจุดชมวิว

หอคอยปราสาทเป็นไฮไลท์ที่ปฏิเสธไม่ได้ของปราสาทแห่งนี้ แนะนำให้มาเริ่มต้นสำรวจปราสาทจากที่นี่ ตัวอาคารสีขาวของหอคอยปราสาทที่มองเห็นในระยะใกล้นั้นโดดเด่นและมีความสวยงามมาก โดยหอคอยนี้มีอาคารหลักและอาคารรองจำนวน 3 หลัง ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน หากมองจากด้านบนลงมาก็จะเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยม เป็นปราสาทที่มีโครงสร้างแปลกตาอย่างที่เรียกกันว่า Renritsushiki Tenshukaku หรือปราสาทที่มีการเชื่อมอาคารต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม  นอกจากปราสาทวาคายามะแล้วในประเทศญี่ปุ่นก็มีปราสาทเพียงไม่กี่แห่งที่มีโครงสร้างเช่นนี้ เช่น ปราสาทฮิเมจิ ปราสาทมัตสึยามะ และปราสาททาคาโทริ

แค่ตัวอาคารก็ว้าวแล้ว จุดชมวิวด้านบนสุดนั้นเป็นจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมที่สามารถมองเห็นเมืองวากะยามะได้แบบ 360 องศา ส่วนภายในหอคอยปราสาทนั้นเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่ทำการจัดแสดงสิ่งของมีค่ามากมายที่เกี่ยวข้องกับปราสาท โดยเฉพาะสิ่งของที่เป็นของตระกูลโทกุงาวะ

สวนนิชิโนะมารุเทเอ็น (Nishi no Maru Teien)

สถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของชาววากะยามะที่กว้างขวางแห่งนี้ เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิก็จริง แต่ก็สามารถเพลิดเพลินได้เมื่อมาเยือนในฤดูใบไม้ร่วงเช่นกันเดียวกัน สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณสวนของปราสาทเป็นสวนที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถานที่ที่สวยงามบนเนินเขา มีสระน้ำและน้ำตกให้ชม โดยสวนแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสวนศักดินาที่ดีที่สุดที่มีอายุตั้งแต่ยุคเอโดะตอนต้น ในสมัยนั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวนมีเวทีแสดงละครโนห์ให้ชมด้วย และสวนยังมีอีกชื่อว่าสวนโมมิจิดานิ-เทเอ็น (แปลว่าสวนแห่งหุบเขาใบไม้เปลี่ยนสี) เนื่องจากสวนแห่งนี้มีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ในแต่ละปีสามารถชมใบไม้สีทองและสีแดงเข้มที่สะท้อนจากพื้นผิวของสระน้ำในสวนได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ช่วงเวลานี้เองจะมีนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นมาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย

เรือนน้ำชาโคโชอัน (Koshoan Teahouse)

ภายในสวนของปราสาทวาคายามะ มีเรือนน้ำชาโคโชอัน ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบอีกแห่งหนึ่งของปราสาทเลยก็ว่าได้ ที่นี่จะทำการถยังเก็บบรรยากาศอันเงียบสงบของเรือนน้ำชาแบบดั้งเดิมแห่งนี้ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเรือนน้ำชาแห่งนี้สะท้อนให้เห็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มัตสึชิตะ โคโนะสุเกะ ชาวเมืองวากายามะซึ่งรู้จักกันในนาม “เทพแห่งการค้าขาย” ได้บริจาคเงินเพื่อรำลึกถึงการสร้างสวนแห่งนี้ในปีค.ศ. 1973 ส่งผลให้ร้านน้ำชาแห่งนี้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมของปีถัดมา ผู้เยี่ยมชมสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับชาเขียวมัทฉะและขนมหวานระหว่างการเที่ยวชมปราสาทได้

สะพานโอฮาชิโรกะ (Ohashi Roka Bridge)

เมื่อเดินเข้าไปในสวนนิชิโนะมารุเทเอ็นจะพบกับสะพานลาดเอียงทำจากไม้แห่งนี้ ที่นี่ถูกบูรณะขึ้นให้เหมือนกับสะพานแบบเดิมในสมัยเอโดะ และผู้ครองแคว้นในยุคนั้นก็ไม่ต้องการเปิดเผยชีวิตส่วนตัวเท่าใดนัก ทำให้สะพานนี้มีผนังพร้อมหลังคามิดชิดอย่างที่เห็น แต่ในปัจจุบันสามารถถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปด้านในได้ ตัวพื้นมีความลาดชันทำจากไม้ให้มีความขรุขระป้องกันการลื่นล้ม สามารถเดินข้ามสะพานฟีลผู้ครองแคว้นเดินชมดอกไม้ได้อย่างสบายใจ นอกจากที่นี่จะเป็นจุดชมซากุระแล้ว ช่วงใบไม้ร่วงก็เป็นจุดชมยอดนิยม มีช่างภาพมาเก็บภาพความงดงามที่บริเวณนี้จำนวนมาก

หอประวัติศาสตร์วากะยามะ (Wakayama History Center)

อาคาร 2 ชั้นที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของปราสาทไว้เป็นอย่างดี โดยชั้น 1 เป็นพื้นที่ของร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งอาหารและขนมขึ้นชื่อของทางจังหวัด นอกจากนั้นยังมีงานฝีมือให้ช้อปติดไม้ติดมือกลับบ้านกัน ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นที่จัดแสดงเรื่องราวของปราสาทในอดีต จุดกำเนิดของจังหวัด รวมไปถึงบุคคลสำคัญที่มีบทบาทกับจังหวัดนี้ ที่น่าสนใจคือสามารถชมวีดิโอเสมือนจริง เกี่ยวกับประวัติของปราสาท ซึ่งมีคำบรรยายภาษาอังกฤษให้ด้วย 

เรื่องลึกลับที่สลักอยู่บนกําแพงหินของปราสาทแห่งนี้

อีกหนึ่งความสนุกของการมาเยือนที่นี่คือการเดินชมกําแพงหินภายในบริเวณปราสาทจำนวนมากกว่า 2,100 ก้อนนี้ ซึ่งจะพบกับการแกะสลักเป็นเครื่องหมายต่างๆ โดยเชื่อกันว่าการแกะสลักเหล่านี้เป็นตัวแทนของตราตระกูล อักขระย่อ ทิศทาง วันที่ และชื่อของบุคคลสำคัญในตอนนั้น แม้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงยังคงเป็นปริศนา แต่บางเรื่องราวก็บอกว่าอาจถูกใช้เพื่อระบุสัญลักษณ์ประจำตระกูลของช่างก่อหิน บ่งบอกถึงคุณภาพของหิน หรือแม้กระทั่งทําหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ในการปัดเป่าความชั่วร้าย 

เป็นปราสาทที่สามารถมาชมดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี

นอกจากทัศนียภาพปราสาทแล้วยังเพลิดเพลินไปกับดอกไม้สวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดอกนาร์ซิสซัส ชมได้บริเวณ Ninomaru และพื้นที่โดยรอบ ปลายเดือนมีนาคม ดอกซากุระบานบริเวณรอบๆ ปราสาท ต้นเดือนเมษายน ดอกโกลบฟลาวเวอร์ญี่ปุ่น บานบริเวณ Tsuru no Tani Valley ปลายเดือนเมษายน  ดอกโบตั๋น มีให้ชมบริเวณ Ninomaru จนถึงช่วงต้นพฤษภาคม ดอกทสึสึจิเริ่มบานเวลานี้เช่นกัน ชมได้บริเวณรอบสวนสัตว์ และคูเมืองทางทิศใต้ ไปต่อกันที่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ดอกไฮเดรนเยียบาน บริเวณ Tsuru no Tani Valley และมีต้นเมเปิ้ลสีเขียวให้ชม บริเวณ Ninomaru ปลายพฤศจิกายน ต้นแปะก๊วยสีเหลืองสวยบริเวณคูเมืองทางทิศใต้ และช่วงต้นเดือนธันวาคม ต้นเมเปิ้ลจะแต่งแต้มให้บริเวณรอบปราสาทสวยงาม มีให้ชมบริเวณ Ninomaru อย่าลืมแวะไปชมตามจุดแนะนำต่างๆ กันนะ

กิจกรรมพิเศษในปราสาท

พื้นที่อันกว้างใหญ่ของปราสาทวากะยามะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ที่คุณสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มากับเพื่อน หรือครอบครัว จึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในจังหวัดนี้เลย

การแสดงซามูไรและนินจา

ที่ปราสาทแห่งนี้มีโอโมเตะนาชินินจา ที่คอยต้อนรับและดูแลเหล่านักท่องเที่ยว โดยจะช่วยอำนวยความสะดวก อย่างเช่นบริการนำทาง ล่าม ช่วยถ่ายภาพที่ระลึก หรือช่วยเข็นรถสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น รวมทั้งรถเข็นเด็กบนทางลาดชัน โดยเจ้าหน้าที่จะแต่งกายด้วยชุดนินจา รอต้อนรับอยู่บริเวณเนินทางเข้าและออกที่มุ่งหน้าไปยังป้อมปราสาท และบริเวณทางเข้าออกป้อมปราสาททำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการบริการเที่ยวชมปราสาทวากะยามะมากยิ่งขึ้นไปอีก

ประสบการณ์การสวมชุดย้อนยุค

ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวที่ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์วากะยามะ คุณสามารถเช่าชุดโบราณราวกับว่าเป็นเจ้าแห่งปราสาทหรือเจ้าหญิงเดินเล่นรอบๆ บริเวณปราสาทได้ โดยมีตั้งแต่ชุดเกราะซามูไร เครื่องแต่งกายสําหรับขุนนาง เจ้าหญิง และนินจา (ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน และมีค่าธรรมเนียม) เป็นอีกกิจกรรมที่จะทำให้ได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตของบุคคลที่อาศํยอยู๋ที่ปราสาทในอดีตที่แท้จริง

งานเทศกาลชมดอกซากุระ (Sakura Festival)

ปราสาทวากะยามะรายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 600 ต้นที่บานสะพรั่งไปทั่วบริเวณปราสาทด้วยกลีบสีชมพูอ่อนทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิ โดยปกติจะบานในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมและสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน นอกจากนั้นช่วงค่ำเหล่าต้นซากุระจะถูกประดับไฟในตอนกลางคืน ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีทัศนียภาพที่แปลกตา นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของปราสาทและบริเวณโดยรอบทั้งเวลากลางวันและกลางคืนได้ในช่วงเวลานี้

สวนสัตว์ปราสาทวากะยามะ (Wakayama Castle Zoo)

เป็นสวนสัตว์ที่แตกต่างจากสวนสัตว์ทั่วประเทศ เพราะตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทของเมืองเลย โดยสวนสัตว์แห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ยุคไทโชโน่น แม้ว่าจะเป็นสวนสัตว์ขนาดเล็กในสไตล์ย้อนยุคโชวะ แต่ก็มีชื่อเสียงในด้านบรรยากาศสบายๆ และเต็มไปด้วยครอบครัวและผู้มาเยือนปราสาทวากะยามะในวันหยุด ค่าเข้าชมฟรีอาจช่วยทําให้เป็นที่นิยมมากขึ้นเช่นกัน ในบรรดาสัตว์ทั้งหมดหมีดําเป็นที่นิยมมากที่สุด นอกจากนั้นน้องสุนัขคิชูสองพี่น้องที่มีขนสีขาวบริสุทธิ์ก็เป็นดาวเด่นของที่นี่ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการให้อาหารกวาง อัลปาก้า แพะ แกะ และม้าได้ สำหรับใครที่เดินเที่ยวปราสาทหนำใจแล้ว ไปเที่ยวสวนสัตว์ที่นี่กันต่อได้เลย

ปราสาทวากะยามะ (Wakayama Castle)

ดูแผนที่ Wakayama Castle

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

เที่ยวปราสาทกันเต็มอิ่มแล้ว ในตัวเมืองวากะยามะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำและเดินทางไม่ไกลจากตัวปราสาทอีกหลายจุด เราขอแนะนำไว้ในเรื่องนี้ทีเดียวเลย

วัดคิมิอิเดะระ (Kimiidera Temple)

วัดแห่งนี้อยู่ห่างจากปราสาทวากะยามะราวๆ 6.8 กิโลเมตร ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในตัวเมืองวากะยามะ วัดคิมิอิเดระสร้างขึ้นในปีค.ศ. 770 เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาพุทธที่งดงามตระการตา ภาพของอาคารสีแดงสดรายล้อมด้วยภูเขาเขียวขจีแสนดึงดูดสายตา ความสวยงามของที่นี่ทำให้จักรพรรดิหลายพระองค์เดินทางมาเยี่ยมเยือน นอกจากนั้นที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องต้นซากุระอายุหลายร้อยปีบานสะพรั่งสวยงามมากอีกแห่งของจังหวัด ยังมีเจ้าแม่กวนอินพันกรหรือเทพีแห่งความเมตตาทำจากไม้ถมรักปิดทองมี​ความสูง 13 เมตรเป็นรูปแกะสลักจากไม้ซุงสองท่อนนำมาประกบกันด้านซ้ายกับด้านขวา​บาลานซ์​เป๊ะ มีขนาดยักษ์ที่มีสีหน้าสงบงดงาม และอย่าพลาดวิหารโชจูอินว่ากันว่าที่นี่เด่นดังเรื่องสะเดาะเคราะห์ ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

วัดคิมิอิเดะระ (Kimiidera Temple)

ดูแผนที่ Kimiidera Temple

ตลาดคุโรชิโอะ (Kuroshio Market)

พิกัดท่องเที่ยวนี้อยู่ห่างจากปราสาทวากะยามะราวๆ 10 กิโลเมตร เป็นอีกจุดแนะนำของเมืองวากะยามะที่ต้องเตรียมพุงไว้ให้ดีๆ นอกจากจะเป็นตลาดที่มีโชว์แล่ปลามากุโร่สดๆ ให้ชมแล้ว ยังเป็นตลาดปลาริมทะเลสุดแสนที่คึกคัก จำหน่ายอาหารทะเลที่เพิ่งจับกันมาสดๆ เพลิดเพลินกับซาชิมิ ปลาย่างบนเตาถ่านที่ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ นอกจากนั้นยังมีวัตถุดิบแสนอร่อยของจังหวัด อาทิ ขนม สาเก อุเมะชุ ผลไม้ตามฤดูกาล วางเรียงรายให้เลือกช้อปเลือกชิมแบบสาแก่ใจไปเลย 

ตลาดคุโรชิโอะ (Kuroshio Market)

ดูแผนที่ Kuroshio Market

วากะยามะมารีน่าซิตี้ (Wakayama Marina City)

อยู่ห่างจากปราสาทวากะยามะราวๆ 9.8  กิโลเมตรเป็นเกาะเทียมที่เกิดจากการถมทะเลขนาด 49 เฮกเตอร์ บริเวณอ่าววากาอุระ แบ่งโซนไว้หลายพื้นที่ พร้อมกับมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลิน คุณสามารถสนุกสนานได้ที่สวนสนุก Porto Europe ซึ่งออกแบบตามเมืองท่าเมดิเตอร์เรเนียน หรือสํารวจตลาดคุโรชิโอะ ซึ่งเป็นตลาดปลาในธีมปลาทูน่า อีกทางเลือกหนึ่งคือคุณสามารถผ่อนคลายก็คือคิชูคุโรชิโอะออนเซ็น เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

วากะยามะ มารีน่าซิตี้ (Wakayama Marina City)

ดูแผนที่ Wakayama Marina City

สรุป

Wakayama Castle เป็นศูนย์กลางชีวิตของผู้คนมากว่า 400 ปีนับตั้งแต่สร้างเสร็จ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองประวัติศาสตร์วากะยามะแห่งนี้ตลอดมา บริเวณสวนสาธารณะรอบปราสาทวากะยามะนั้นเป็นสถานที่สําหรับประชาชนในการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับจุดท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่ด้านใน ซึ่งที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจํานวนมากในช่วงฤดูดอกซากุระบานและช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี เป็นอีกพิกัดท่องเที่ยวห้ามพลาดในตัวเมืองวากะยามะ