จังหวัดนากาโน่ เดินทางได้ง่ายจากทั้งโตเกียว นาโกย่า โอซาก้า และเมืองใหญ่อื่นๆ เป็นประตูสู่จังหวัดน่าเที่ยวในชนบท และวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตั้งตระหง่านสวยงาม อยู่ใจกลางเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในด้านความงามของทิวทัศน์และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 ฤดูร้อนที่ค่อนข้างเย็นและฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะทําให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมตลอดทั้งปีจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ชวนทำความรู้จัก “นากาโน่” ก่อนออกเดินทาง
ความงามของภูเขาโดยรอบเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบของจังหวัดนี้ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวแล้วกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะมีมากมายจึงกลายเป็นสถานที่สำคัญในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1998 ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนากาโน่ก็ยังเป็นสวรรค์สำหรับคนชอบหิมะ เหมาะสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากเป็นจังหวัดที่หิมะตกสวยงามที่นี่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย มีศาลเจ้าท้องถิ่นและเป็นมีตำนานเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
วัฒนธรรมอาหารในนากาโน่ก็มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ผู้มาเยือนสามารถเลือกเมนูอร่อยได้มากมาย หรือจะมาพักผ่อนชมธรรมชาติรอบๆ ไม่ว่าจะฤดูกาลใดก็สวยงาม ด้วยวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่โอบกอดจังหวัดไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถมาช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ชั้นนำได้ด้วยความเพลิดเพลิน มีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในนากาโน่เอาไว้อย่างอบอุ่น มีน้ำพุร้อนคุณภาพดีหลายแห่ง มีฟาร์มผักและคลังวัตถุดิบชั้นเลิศที่ได้แร่ธาตุจากน้ำที่ไหลมาภูเขาแสนบริสุทธิ์ เรียกได้ว่านากาโน่เป็นสถานที่ตากอากาศที่ยอดเยี่ยมเหมาะกับทริปพักผ่อนที่คุณรอคอย
แนะนำที่เที่ยว “นากาโน่” ห้ามพลาด
เนื่องจากจังหวัดนากาโน่ รายล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันในนาม “หลังคาของประเทศญี่ปุ่น” ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในจังหวัดจะได้เห็นวิวภูเขาที่สวยไปตลอดทั้งการเดินทาง เป็นจังหวัดที่จะมอบประสบการณ์กลางแจ้งที่ดีที่สุดให้ คุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับความงามของธรรมชาติในฤดูกาลต่างๆ มีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลิน มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้แช่ จะพักในโรงแรมทันสมัย หรือในโรงแรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หรือจะนอนมองดาวสวยๆ ตลอดทั้งคืน นากาโน่ก็ตอบโจทย์การเดินทางของคุณได้ครบถ้วน ถึงเวลาที่เราจะมาเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางทำความรู้จักนากาโน่ด้วยกันเลย
ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
มาเริ่มต้นทำความรู้จักจังหวัดนากาโน่กันที่ปราสาทที่แค่มองจากภายนอกก็จะทำให้รู้สึกน่าทึ่ง ตั้งแต่ผนังและกระเบื้องหลังคาสีดำสนิทตัดกับภาพสะพานข้ามคูเมืองสีแดงสด ซึ่งเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้ ส่วนด้านในปราสาทยังคงอนุรักษ์คุณค่าทางประวัติศาสตร์เอาไว้ทุกอณู จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติของญี่ปุ่นด้วย ยิ่งในวันที่ท้องฟ้าสดใสเผยให้เห็นถึงฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่เห็นอยู่ไกลๆ เป็นปราสาทที่ยืนมองทัศนียภาพก็มีความสุดอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
ที่อยู่ | 4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873 |
วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจากสถานี Kita-Matsumoto หรือ ขึ้นบัส Town sneaker (North corse) จากสถานี Matsumoto มาลงที่ป้ายปราสาทมัตสึโมโต้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน |
เวลาทำการ | 8.30 –16.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 700 เยน, เด็ก 300 เยน |
Website | Matsumoto Castle |
สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park)
อุทยานแห่งนี้จะทำการมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ในการชมลิงป่าอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติของหุบเขาจิโกคุดานิ ในอุทยานนี้มีสระน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น แล้วเหล่าน้องลิงก็มารวมตัวกัน เมื่อมาที่อุทยานนี้ผู้เข้าชมจะได้พบกับลิงตามเส้นทางสู่สระน้ำแล้ว ลิงมีคุ้นเคยกับมนุษย์สามารถชมธรรมชาติของมันได้ในระยะใกล้ แต่ห้ามสัมผัสหรือให้อาหารลิงอย่างเด็ดขาด ที่นี่จะมีภาพที่สวยงามยิ่งขึ้นในช่วงที่หิมะตก โดยในภูมิภาคนี้จะตกตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม และช่วงเวลาที่ดีที่สุดสําหรับการเยี่ยมชมคือเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของทุกปี
สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park)
ที่อยู่ | 6845 Hirao, Yamanochi, Shimotakai District, Nagano 381-0401 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nagano นั่งรถบัสด่วน Shiga Kogen Express Bus มาลงป้าย Snow Monkey Park ใช้เวลา 45 นาที แล้วเดินต่ออีกประมาณ 35-40 นาที |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – ตุลาคม เวลา 8.30 –17.00 น. และเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม 9.00 – 16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 400 เยน |
Website | Jigokudani Monkey Park |
วัดเซ็นโคจิ (Zenkoji Temple)
วัดเซ็นโคจิแห่งนี้ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อราวๆ 1,400 ปีก่อน ตัววิหารหลักในปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ช่วงกลางยุคเอโดะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความใหญ่โตโอ่โถงทำจากไม้ ทางวัดมีการจัดพิธีที่เรียกว่าโอโคโมริ เป็นประจำมาจนถึงปัจจุบัน ผู้แสวงบุญหลายคนมาที่นี่เพื่อค้างแรมในวัดแล้วสวดมนต์ข้ามคืนร่วมกัน วัดเซ็นโคจิยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมบัติแห่งชาติในปีค.ศ.1953 และเป็นวัดที่มีชื่อเสียง ซึ่งคอยให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้คนโดยไม่แบ่งแยกนิกาย จนผู้คนจากทั่วประเทศเดินทางมานมัสการอยู่อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคเฮอันนู่นเลย
วัดเซ็นโคจิ (Zenkoji Temple)
ที่อยู่ | 491 Motoyoshicho, Nagano 380-0851 |
วิธีเดินทาง | สถานี Nagano มาที่ป้ายรถบัส Zenkoji Daimon ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 190 เยนแล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | 6.00 – 16.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี, ตั๋วเข้าสักการะภายในวิหารต่างๆ (สักการะอุโบสถ, เดินในทางเดินรับศีล, เข้าชมคลังพระสูตร, อาคารเก็บเอกสารประวัติศาสตร์วัดเซ็นโคจิ) ราคา 500 เยน |
Website | Zenkoji Temple |
คามิโคจิ (Kamikochi)
การได้ไปคามิโคจิสักครั้งในชีวิต ถือเป็นการเดินทางชมภูเขาที่สวยงามมากๆ ในชีวิตเลย ที่นี่เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชูบุซังกากุ คามิโคจิเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในระยะเวลาที่กำหนด คือตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน จนถึง 15 พฤศจิกายนของทุกปีเท่านั้น เนื่องจากในช่วงหน้าหนาวหิมะตกหนักและเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูจากการมาเยือนของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนั่นเอง สำหรับคามิโคจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับจากตัวเมืองมัตสึโมโต้ และทาคายามะ ใช้เวลาเดินเท้าชมธรรชาติอันอุดมสมบูรณ์ของภูเขาญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด หากคุณอยากสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาแอลป์ญี่ปุ่นต้องปักหมุดคามิโคจิให้ได้เลยนะ
คามิโคจิ (Kamikochi)
ที่อยู่ | Azumi, Matsumoto, Nagano 390-1516 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Matsumoto ชานชาลาหมายเลข 7 นั่งรถไฟสายคามิโคจิ (Kamikochi line) เป็นเวลา 30 นาทีไปลงที่ปลายทางสถานี Shin-Shimashima แล้วนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงคามิโคจิ |
เวลาทำการ | 5.00 – 19.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Kamikochi |
คารุอิซาวะ (Karuizawa)
เวลาพูดถึงคารุอิซาวะ ภาพของบ้านพักตากอากาศวิวภูเขาสวยงามก็ถูกนึกถึงขึ้นมาทันที ที่นี่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่สูงทำให้มีสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดปี แม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนก็ตาม ที่นี่รายล้อมด้วยย่านชอปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่น่านั่งมากมาย ชวนมาสูดอากาศที่แสนบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ขี่จักรยานเล่น ชมถนนที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้ หรือไปเยี่ยมชมบึงน้ำและน้ำตกอันแสนเงียบสงบได้ เดิมทีคารุอิซาวะเป็นทางผ่านที่เชื่อต่อการเดินทางจากโตเกียว นักเดินทางมักจะแวะพักที่เมืองนี้ก่อนเดินทางต่อ ที่นี่จึงกลายเป็นที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับผู้คนที่หลีกหนีอากาศร้อนและความวุ่นวายที่เมืองหลวงมาที่นี่กันเป็นประจำ
คารุอิซาวะ (Karuizawa)
ที่อยู่ | Chome-21 Takanawa, Minato City, Tokyo 108-0074 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงยังสถานี JR Takanawa Gateway |
เวลาทำการ | 9:00-18:00 น |
ราคา | ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน |
Website | Karuizawa |
หมู่บ้านนาราอิจูกุ (Narai-juku)
หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหุบเขาอันเงียบสงบของนากาโน่ เป็นย่านที่พักยอดนิยมมาตั้งแต่สมัยเอโดะ หมู่บ้านนาราอิจุกุนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางนากะเซ็นโดสายเก่า ซึ่งเป็นเส้นทางจากเอโดะและเกียวโต ที่นี่เองเรียงรายด้วยอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม มีตั้งแต่เรียวกัง บ้านเก่าของเหล่าพ่อค้าในอดีต ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายงานฝีมือให้เลือกซื้อเป็นของขวัญของฝากสำหรับการมาเยือนที่หมู่บ้านแห่งนี้ด้วย นอกจากนั้นในหมู่บ้านยังมีจุดถ่ายรูป และร้านขนมแบบดั้งเดิมที่แนะนำให้ต้องลอง
หมู่บ้านนาราอิจูกุ (Narai-juku)
ที่อยู่ | Narai, Shiojiri, Nagano 399-6303 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nagoya ต่อด้วยรถไฟ JR สาย Chuo Line มาลงที่สถานี Narai ใช้เวลาอีกประมาณ 1.40 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Narai-juku |
ชิงะโคเก็น (Shiga Kogen)
ยินดีต้อนรับสู่อีกสถานที่สวยงามมากอีกแห่งในจ.นากาโน่ ที่ชิงะโคเก็นแห่งนี้เป็นสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดและอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ช่วงฤดูหนาวที่นี่มีพาวเดอร์สโนว์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ในช่วงฤดูอื่น ที่นี่เป็นพิกัดเดินป่าที่แนะนำเช่นกัน ท่ามกลางภูเขาสวยและเงียบสงบ สามารถเดินจบคอร์สที่จัดไว้ได้อย่างง่ายดายโดยใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่งเพียงเท่านั้น ทัศนียภาพของที่ราบสูงแห่งนี้จะทำให้คุณประทับใจภูเขา และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในญี่ปุ่นมากขึ้นอย่างแน่นอน
ชิงะโคเก็น (Shiga Kogen)
ที่อยู่ | 7148 Hirao, Yamanochi, Shimotakai District, Nagano 381-0401 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี JR Nagano หรือสถานี Yudanaka มาลงที่ป้าย Yama no Eki จากนั้นจึงแยกไปที่ราบสูง Okushiga Kogen |
เวลาทำการ | 8.30 – 17.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Shiga Kogen |
ฮาคุบะ วัลเลย์ (Hakuba Valley)
หุบเขาฮาคุบะ ตั้งอยู่ที่เชิงเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น พื้นที่นี้ปกคลุมไปด้วยหิมะแบบละเอียดและมีความระยิบระยับสวยงามสุดแสนอัศจรรย์ หุบเขาฮาคุบะตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางตะวันตกเพียง 3 ชั่วโมง เป็นจุดหมายปลายทางสําหรับนักเล่นสกีทั่วโลก เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท 10 แห่ง ผู้ที่นิยมเล่นสกีมักจะเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์สนุกสนานและตื่นเต้นช่วงฤดูหนาวที่นี่ ส่วนช่วงฤดูร้อน หุบเขาฮาคุบะจะกลายเป็นโอเอซิสสําหรับทั้งผู้ที่ชื่นชอบกีฬาและผู้ที่ต้องการเติมพลัง และผ่อนคลายกับวิวธรรมชาติราวกับสวรรค์ของหุบเขาแห่งนี้
ฮาคุบะ วัลเลย์ (Hakuba Valley)
ที่อยู่ | Kitaazumi District, Nagano |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nagano นั่งรถบัสด่วน ALPICO จากป้ายรถเมล์หมายเลข 26 ที่อยู่ทางด้านตะวันออกของสถานี ใช้เวลาประมาณ 75 นาทีเพื่อไปยังสถานี Hakuba Happo |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Hakuba Valley |
ออนเซ็นโนซาวะ (Nozawa Onsen)
หมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณภูเขาทางตอนเหนือของนากาโน่ เป็นออนเซ็นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ และเป็นออนเซ็นยอดนิยมของจังหวัด น้ำออนเซ็นจากธรรมชาติจะไหลไปยังเรียวกังและโรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้ นอกจากน้ำออนเซ็นจะมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว ชาวเมืองยังนิยมนำไปต้มผักด้วย นอกจากเป็นเมืองออนเซ็น ผู้คนยังนิยมมาเล่นสกีและสโนว์บอร์ดจำนวนมากขึ้นทุกปี จึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมในช่วงฤดูหนาว และในปีค.ศ.1998 ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนากาโน่ด้วย ทำให้และชื่อเสียงของออนเซ็นแห่งนี้แพร่กระจายไปทั่วโลกเลย
ออนเซ็นโนซาวะ (Nozawa Onsen)
ที่อยู่ | 7653 Toyosato, Nozawaonsen, Shimotakai District, Nagano 389-2502 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Iiyama Line ลงสถานี Togari Nozawa Onsen แล้วนั่งรถบัส 20 นาที |
เวลาทำการ | 8.00 – 16.30 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Nozawa Onsen |
คารุอิซาวะ ปรินซ์ ชอปปิ้ง พลาซ่า (Karuizawa Prince Shopping Plaza)
คารุอิซาวะ ปรินซ์ ชอปปิ้ง พลาซ่า ถือเป็นหนึ่งในปลายทางการท่องเที่ยวหลักๆ ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังเมืองคารุอิซาวะ เป็นที่ตั้งของร้านค้าที่มีมากถึง 240 ร้าน รายล้อมด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบท่ามกลางผืนหญ้าสีเขียวกว้างขวาง และสระน้ำขนาดใหญ่ในฤดูร้อน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการมาช้อปปิ้ง และรวมไปถึงการได้แวะมาพักผ่อนของบรรดานักท่องเที่ยวอีกด้วย
คารุอิซาวะ พรินซ์ ช้อปปิ้ง พลาซ่า (Karuizawa Prince Shopping Plaza)
ที่อยู่ | Karuizawa, Kitasaku District, Nagano 389-0102 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Karuizawa เดินต่ออีก 5 นาที |
เวลาทำการ | ร้านค้า 10.00.- 19.00 น. , ร้านอาหาร 10.00 – 19.00 น. |
ราคา | ค่เข้าชมฟรี |
Website | Karuizawa Prince Shopping Plaza |
เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route)
เส้นทางอัลไพน์ทาเตยามะคุโรเบะเป็นเส้นทางหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่ง เส้นทางนี้สร้างเสร็จในปีค.ศ. 1971 เพื่อเชื่อมต่อเมืองโทยามะในจังหวัดโทยามะกับเมืองโอมาจิในจังหวัดนากาโน่ ตลอดเส้นทางนี้เองนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในฤดูกาลต่างๆ ของปีได้ แต่เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของมิดากาฮาระและมุโรโดะจะก่อตัวเป็นกําแพงหิมะสูงถึง 20 เมตร ส่วนหนึ่งของทางเดินหิมะรอบๆ มุโรโดะ ซึ่งเปิดให้เดินชมตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน- 25 มิถุนายนของทุกปี นอกจากนั้นยังเป็นเส้นทางยอดนิยมของเหล่านักปีนเขามืออาชีพและมือสมัครเล่นอีกด้วย
เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route)
ที่อยู่ | Tateyama, Nakaniikawa District, Toyama 930-1414 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถ Tateyama Tunnel Trolley Bus ไปลงที่ป้าย Murodo จากนั้นเดิน 5 นาที |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Tateyama-Kurobe Alpine Route |
ศาลเจ้าโทกาคุชิ (Togakushi Shrine)
ศาลเจ้าโทกาคุชิ ตั้งอยู่ที่เชิงเขาศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาโทกาคุชิ ประกอบด้วยศาลเจ้าห้าแห่ง ได้แก่ โอคุฉะ ชูชา โฮโคฉะ คุซุริยุชา และฮิโนะมิโคฉะ เป็นสถานที่ประดิษฐานของเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับประตูสวรรค์ ถือเป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ยังคงถูกสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันอีกทั้งยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมบนเส้นทางแสวงบุญในสมัยเฮอัน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่ากับภูเขาโคย่าซันและภูเขาฮิเอซันในสมัยคามาคุระอีกด้วย ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชอบการเดินป่าจาริกแสวงบุญพร้อมเพลิดเพลินไปกับความงามตามธรรมชาติของภูเขาโทกาคุชิและโบราณสถานของศาสนาชินโตในเวลาเดียวกัน
ศาลเจ้าโทกาคุชิ (Togakushi Shrine)
ที่อยู่ | Chūsha-3506 Togakushi, Nagano, 381-4101 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nagano นั่งรถบัสหมายเลข 70 มาลงที่ศาลเจ้า Togakushi Shrine ได้ |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Togakushi Shrine |
ฟาร์มวาซาบิไดโอะ (Daio Wasabi Farm)
ฟาร์มวาซาบิแห่งนี้ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอะซูมิโนะ จังหวัดนากาโน่ ที่นี่มีกิจกรรมน่าสนุกๆ เกี่ยวกับวาซาบิมากมายให้ทำ มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกพักผ่อน สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กๆ และทุกคนในครอบครัว ได้รู้จักกับวาซาบิวัตถุดิบสำคัญสำหรับคนญี่ปุ่นเต็มอิ่มอย่างแน่นอน! นอกจากนั้นที่นี่ถือเป็นฟาร์มวาซาบิเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุด เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยววาซาบิที่น่าสนใจมากๆ อีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ความน่าสนใจของฟาร์มแห่งนี้คือปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของจังหวัดโดยฟาร์มแห่งนี้ประกอบด้วยต้นวาซาบิ และลําธารเล็กๆ รายล้อมพร้อมการดูแลอย่างพิถีพิถัน
ฟาร์มวาซาบิไดโอะ (Daio Wasabi Farm)
ที่อยู่ | 15-7, Saiwaicho, Kawagoe-shi, Saitama, 350-8601 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Hotaka ต่อรถแท็กซี่อีก 10 นาที หรือปั่นรถจักรยาน 15 นาที |
เวลาทำการ | 8.45.–17.30 น.(เมษายน – ตุลาคม) , 9.00–16.30 น. (พฤศจิกายน – มีนาคม) |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Daio Wasabi Farm |
ศาลเจ้าสุวะไทฉะ (Suwa Taisha)
สุวะไทฉะถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตามที่ปรากฏในเอกสารโบราณมากมาย เทพสุวะดึงดูดความเชื่อของผู้คน และปัจจุบันมีศาลเจ้าสาขาสุวะมากกว่า 10,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น ประกอบด้วยกลุ่มศาลเจ้า 4 แห่ง โดยแบ่งเป็นศาลเจ้าส่วนบน และศาลเจ้าส่วนล่างของทะเลสาบสุวะ นอกจากนี้เทศกาลอนบะชิระของที่นี่จัดขึ้น ทุกๆ เจ็ดปี และเป็นที่รู้จักทั่วไปในญี่ปุ่น เป็นงานเทศกาลที่ทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างอยากมาร่วมงานเทศกาลนี้สักครั้ง
ศาลเจ้าสุวะไทฉะ (Suwa Taisha)
ที่อยู่ | 1 Nakasumiyayama, Suwa-shi, Nagano |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดิน JR สาย Chuo line ถึง Kami-Suwa Station เดิน 7 นาที |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Suwa Taisha |
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto City Museum of Art)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองมัตสึโมโต้เลยก็ว่าได้ โดยการจัดแสดงส่วนใหญ่เน้นไปที่ผลงานของคุณยาโยอิ คุซามะ ซึ่งที่นี่คือบ้านเกิดของเธอ การได้ชมผลงานของคุณคุซามะในระยะใกล้ ถือเป็นความสุขของแฟนๆ ที่ติดตามผลงานของเธอเลยก็ว่าได้ นอกจากจะมีผลงานศิลปะให้ชมหลากหลายรูปแบบแล้ว ยังมีมุมของฝาก ของที่ระลึกเกี่ยวกับศิลปินด้วย เรียกว่ามาที่พิพิธภัณฑ์นี้ก็ฟินแล้ว
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto City Museum of Art)
ที่อยู่ | 4 Chome-2-22 Central, Matsumoto, Nagano 390-0811 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Matsumoto หรือสถานีรถบัส Matsumoto เดิน 12 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ |
ราคา | ผู้ใหญ่ 700 เยน, นักศึกษา 350 เยน |
Website | Matsumoto City Museum of Art |
ทะเลสาบสุวะ (Lake Suwa)
ทะเลสาบสุวะมีชื่อเสียงในด้านน้ำพุร้อน ที่มาจากน้ำที่มีต้นกําเนิดในทะเลสาบสุวะ รายล้อมด้วยที่พักหลากหลายสไตล์ พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนที่ยอดเยี่ยมสําหรับนักท่องเที่ยว มีอาหารท้องถิ่นแนะนำได้แก่ปลาไหลน้ำจืด มิโซะ สาเก สตรอเบอร์รี่ และบะหมี่โซบะ พื้นที่โดยรอบ เต็มไปด้วยภูเขาและทุ่งนาที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติ เหมาะสําหรับการเที่ยวชมวิถีชีวิตในชนบทของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสวรรค์ของนักผจญภัย สามารถปั่นจักรยานและทำกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ได้ตามเส้นทางบนภูเขาและบริเวณโดยรอบทะเลสาบ มีสถานีรถไฟหลัก 4 สถานีที่อยู่รอบทะเลสาบ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงที่นี่ และได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครจากนากาโน่ในมุมนี้
ทะเลสาบสุวะ (Lake Suwa)
ที่อยู่ | Chome-21 Takanawa, MiLake Suwa, Suwa City, Nagano |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Kami-Suwa เดินประมาณ 9 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Lake Suwa |
วงแหวนเซ็นโจจิคุ (Senjojiki Cirque)
ทัศนียภาพของที่นี่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งที่ไหลอย่างช้าๆ เมื่อราวๆ 20,000 ปีที่แล้ว ทำให้เกิดเป็นแอ่งตรงกลางของภูเขาขึ้น เหล่านักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางมาที่นี่ในช่วงฤดูร้อน นอกจากจะมีทุ่งหญ้าเขียวขจีแล้ว ยังเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าและดอกไม้บนภูเขาสูง และจะยิ่งมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ภูเขานี้จะพรมหลากสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำให้มาเยือนตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งสวรรค์แห่งธรรมชาตินี้สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างง่ายดายด้วยกระเช้าลอยฟ้า ที่จะพาคุณขึ้นสู่พื้นที่สูง 2,600 เมตร เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันสวยงามของเทือกเขาที่ล้อมรอบไปด้วยยอดเขาด้านบนเป็นภาพชวนตราตรึงใจสุดๆ
วงแหวนเซ็นโจจิคุ (Senjojiki Cirque)
ที่อยู่ | 1 Akaho, Komagane-shi, Nagano |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR Iida Line มาลงที่สถานี Komagane จากนั้นนั่งรถบัสต่อไปลงที่ป้าย Komagatake Ropeway ราวๆ 50 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Senjojiki Cirque |
หมู่บ้านอิยามะ (Iiyama City)
เมืองอิยามะตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของจังหวัด เป็นหมู่บ้านที่สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี มีกิจกรรมมากมายให้ทำ สามารถทำให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วง ฤดูหนาวที่นี่มีหิมะตกหนักเป็นประจําทุกปี ทําให้พื้นที่นี้เป็นดินแดนมหัศจรรย์สําหรับคนรักกีฬาหิมะ และฤดูร้อน ภาพภูเขาเขียวชอุ่มตามธรรมชาติ พรั่งพร้อมด้วยอาหารจากน้ำบริสุทธิ์ของหิมะที่ละลาและอาหารท้องถิ่นจากป่าแสนอร่อย สามารถเดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หรือใครอยากสัมผัสประสบการณ์การอาบป่า (Shinrinyoku) ที่หมู่บ้านนี้ก็มีนักบําบัดป่าที่มีใบอนุญาตรอให้บริการคุณอยู่นะ
หมู่บ้านอิยามะ (Iiyama City)
ที่อยู่ | Iiyama City, Nagano 389-2253 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Iiyama เดินประมาณ 15 นาที |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Iiyama City |
ทะเลสาบโนจิริ (Lake Nojiri)
ทะเลสาบโนจิริ เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 70,000 ปีก่อน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัด เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามตามธรรมชาติอันน่าทึ่ง และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตรวมทั้งวัฒนธรรมอันยาวนาน ทะเลสาบอันบริสุทธิ์แห่งนี้ล้อมรอบด้วยป่าเขียวขจี เนินเขา และหมู่บ้านที่มีเสน่ห์ ทําให้เป็นที่หลีกหนีจากความเร่งรีบและวุ่นวายของชีวิตในเมืองที่สมบูรณ์แบบ และสามารถทำกิจกรรมตามสถานที่ท่องเที่ยวได้หลากหลาย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทําไมทะเลสาบแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสําหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ทะเลสาบโนจิริ (Lake Nojiri)
ที่อยู่ | Shinano, Kamiminochi District, Nagano |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nagano นั่งรถบัสมาลงที่สถานี Kurohime |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Lake Nojiri |
สถานีรถไฟคิโซ – ฟุคุชิมะ (Kiso-Fukushima Station)
เป็นจุดท่องเที่ยวแนะนำอีกแห่งในจังหวัด นอกจากจะเป็นสถานีที่รถไฟทุกขบวนรวมทั้งรถไฟด่วนพิเศษหยุดจอด เป็นสถานีที่มีความสะดวกครบครัน ด้านหน้าสถานีมีป้ายรถเมล์ ป้ายแท็กซี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านเช่ารถ ฯลฯ มีรถจักรไอน้ำที่เก็บรักษาไว้ให้ชม นอกจากนั้นหากเดินเท้าไปรอบๆ สถานีก็มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิ วัดโคเซนจิ (Kozenji) คฤหาสน์โบราณ (Yamamura Daikan) คาเฟ่ และร้านโซบะท้องถิ่น ก็แนะนำให้แวะสัมผัสบรรยากาศดู
สถานีรถไฟคิโซ – ฟุคุชิมะ (Kiso-Fukushima Station)
ที่อยู่ | Fukushima, Kiso, Nagano |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Nagano มาลงที่สถานี Kiso-Fukushima |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Kiso-Fukushima Station |
การเดินทางภายใน “นากาโน่”
การเดินทางมายังนากาโน่นั้นมีวิธีที่งานมากๆ เลยคือการนั่งชินคันเซนจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชั่วโมง เท่านั้น เป็นวิธีการที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด
ข้อมูล | รายละเอียด |
รถไฟ | เป็นอีกวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดในญี่ปุ่น เพราะรวดเร็ว และยังสามารถกะเวลาได้อย่างชัดเจน |
รถบัส | นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟแล้วก็มีรถบัสก็เป็นวิธียอดนิยมที่จะพาเดินทางไปยังสถานที่ที่รถไฟไปไม่ถึงได้ |
JR Pass ที่แนะนำใน “นากาโน่”
ข้อมูล | ราคา | จำนวนวัน | รายละเอียด |
บัตร JR East Pass Nagano Niigata Area | ฿ 5,960 | 5 วันติดต่อกัน | สำหรับนากาโนะและนีงาตะ |
สภาพอากาศใน “นากาโน่”
นากาโน่เป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็น โดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ 27 องศา และต่ำสุดอยู่ที่ -6 องศาโดยเฉพาะในช่วงที่มีหิมะตกเยอะๆ คนจะนิยมมาทำกิจกรรมฤดูหนาวอย่างเช่นเล่นสกี เดินป่าลุยหิมะ และในฤดูร้อนเป็นจังหวัดที่ผู้คนนิยมมาเดินป่าชมธรรมชาติและภูเขาแอลป์ญี่ปุ่นกัน
การแต่งตัวท่องเที่ยวใน “นากาโน่”
เมื่อไปเยือนจังหวัดนากาโน่ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว การสวมเสื้อผ้าหลายชั้นถือเป็นสิ่งสำคัญมาก แนะนำให้เตรียมชุดกันหนาว อาทิ เสื้อแจ็คเก็ตขนแกะ ขนเป็ดที่สามารถป้องกันน้ำได้ เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และอย่าลืมสิ่งของจำเป็น เช่น รองเท้ากันน้ำ ถุงเท้าขนสัตว์ หมวก ผ้าพันคอ และถุงมือ สำหรับเดือนที่อากาศอบอุ่น ฤูดใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ควรเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน และควรสวมหมวกและแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดด อย่าลืมเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตหรือเสื้อสเวตเตอร์บางๆ ไปด้วยสำหรับช่วงเช้าและเย็นที่อากาศเย็น
อาหารขึ้นชื่อของดีต้องลองของ “นากาโน่”
เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและของว่างที่อร่อยที่สุดจากทั่วนากาโน่ โดยไล่ตั้งแต่เมนูอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ไปจนถึงผลไม้ และสาเกที่ใช้น้ำบริสุทธิ์จากภูเขา ขอยกตัวอย่างอาหารขึ้นชื่อซึ่งมีดังต่อไปนี้
บาซาชิ (Basashi)
เมนูแนะนำเมื่อมาถึงถิ่นนากาโน่ จังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเล นั่นคือซาชิมิเนื้อม้าดิบ ที่เสิร์ฟมาแบบหั่นบางๆ โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ว่ากันว่ารสชาติของเนื้อม้าดิบนั้นคล้ายกับเนื้อวัวแบบสุก ซึ่ง เนื้อม้าดิบนั้นพบว่ามีไขมันน้อยกว่าเนื้อประเภทอื่นๆ รสชาติโดดเด่นของเนื้อม้าที่มีความนุ่นนวลละลายในปาเมื่อรับประทานคู่กับซอสถั่วเหลืองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่นทำให้เมนูซาชิมิเนื้อม้าอร่อยสุดๆ
ไก่ทอดซันโซคุยากิ (Sanzoku-yaki)
เมนูอร่อยที่พบได้ทั่วไปในร้านอาหารท้องถิ่นของจังหวัดโดยชื่อเมนูซันโซคุยากินั้นแปลว่า “อาหารสไตล์โจรภูเขา” ทำจากน่องไก่หรือเนื้ออกทั้งชิ้นหมักกับโชยุและกระเทียมให้เข้าเนื้อก่อนจะนำมาชุบแป้งทอด จนได้เนื้อไก่ที่มีความชุ่มฉ่ำ เป็นเมนูอร่อยที่เหมาะกับการรับประทานแกล้มเบียร์ เมนูนี้มักมีเครื่องเคียงเป็นกะหล่ำปลี
ชินชูโซบะ (Shinshu Soba)
ชินชู (ชื่อเดิมของจังหวัดนากาโน่)เส้นโซบะชนิดนี้ทำมาจากแป้งบัควีท แตกต่างจากเส้นอุด้งแบบสั้นและหนากว่า นอกจากรูปลักษณ์และสัมผัสที่แตกต่างกันแล้ว ส่วนประกอบของเส้นโซบะยังทำให้เส้นมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่แตกต่างกันด้วย คุณจะพบผู้ผลิตเส้นโซบะทั่วทั้งจังหวัดนากาโนะ และมีร้านอาหารจำนวนมากที่จำหน่ายเส้นโซบะเช่นกัน
โอยากิ (Oyaki Dumplings)
โอยากิเป็นหนึ่งในอาหารที่ต้องแนะนำอีกเมนูเลย เพราะมีประวัติอันยาวนาน ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคโจมงโน่น เป็นเมนูเกี๊ยวนากาโน่แบบดั้งเดิม ที่นำผักภูเขามายัดไส้แสนเรียบง่าย แต่มีความอร่อยกลมกล่อม ตัวแป้งทําจากข้าวสาลี ลูกเดือย บัควีท ข้าว ก่อนจะนำไปอบหรือทอด จนออกมาที่มีสัมผัสกรุบกรอบและเคี้ยวหนึบเป็นอีกเมนูท้องถิ่นแสนภาคภูมิใจ และเหมาะสำหรับคนที่รับประทานมังสวิรัติอีกด้วย
แอปเปิลนากาโน่ (Shinshu Apple)
รองจากแอปเปิ้ลอาโอโมริก็แอปเปิลพันธุ์ชินชูนี่แหละที่ร่ำลือกันในหมู่คนญี่ปุ่นว่าอร่อย เนื่องด้วยแสงแดดที่ส่องยาวนาน ช่วงเวลากลางวันทำให้มีอากาศอบอุ่นและช่วงเวลากลางคืนมีอากาศเย็นสบาย จังหวัดนากาโน่จึงมีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ ด้วยแร่ธาตุจากหิมะที่ละลายจากภูเขายิ่งส่งผลให้ผลไม้มีรสชาติอร่อยและชุ่มฉ่ำน้ำมากๆ นั่นเอง
ข้อสรุป
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองนากาโน่ จะได้พบกับภูมิภาคที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์แตกต่างจากหลายจังหวัดในญี่ปุ่น นากาโน่เป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นหลายแห่งซึ่งส่วนใหญ่จะมีความยิ่งใหญ่และทอดยาวผ่านแนวเขาอันสวยงามตระการตาหลายลูก นอกจากธรรมชาติที่สวยงามในแต่ละฤดูกาลแล้ว สภาพอากาศที่เย็นสบายนี่แหละที่ทำให้เป็นเสน่ห์ของจังหวัดนี้ ที่อยากแนะนำให้ทุกคนมาสัมผัส