22 ที่เที่ยวสุดฮิตภูมิภาคโทไก (Tokai) ช่วงฤดูหนาวที่ไม่ควรพลาด

26/02/2025 (อัพเดทเมื่อ 10/03/2025)
ภูมิภาคโทไก (Tokai) ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ ไอจิ (Aichi), กิฟุ (Gifu), มิเอะ (Mie) และชิซุโอกะ (Shizuoka) โดยมีนาโกย่า (Nagoya) เป็นศูนย์กลาง ปีนี้เราจึงอยากให้ทุกคนลองมาท่องเที่ยวภูมิภาคโทไกในฤดูหนาวกันดูค่ะ

เพราะในช่วงฤดูหนาว ภูมิภาคโทไกนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายที่คุณจะได้สัมผัสเฉพาะในฤดูกาลนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์หิมะขาวโพลน บ่อน้ำพุร้อน หรือการประดับไฟสุดตระการตา

ภูมิภาคนี้ทอดตัวยาวตั้งแต่จังหวัดไอจิ (Aichi), กิฟุ (Gifu), มิเอะ (Mie) ไปจนถึงชิซุโอกะ (Shizuoka) ซึ่งอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็รับรองได้ว่าจะต้องเจอกับสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านชิราคาวาโก (Shirakawa-go) ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) คุณจะได้พบกับหมู่บ้านกัสโชสึคุริ (Gassho Zukuri - บ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมหลังคาชันคล้ายมือพนม) ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มีบรรยากาศราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝัน หรือที่ภูเขาทาคามิ (Mt. Takami) ในจังหวัดมิเอะ (Mie) คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันลึกลับที่หิมะปกคลุมต้นไม้ทั้งภูเขา นอกจากนี้ ในจังหวัดไอจิ (Aichi) และชิซุโอกะ (Shizuoka) ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ออนเซ็น (Onsen) หรือจุดชมดอกไม้ที่เริ่มบานในช่วงปลายฤดูหนาว เป็นต้น

ในบทความนี้ เราได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในภูมิภาคโทไก (Tokai region) ที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวมาให้ทุกคนแล้วเรียบร้อยแล้วค่ะ
Meiji Amino Collagen LP R1
Contents Index
  1. 1 จังหวัดกิฟุ (Gifu)
    1. 1.1 เมืองทาคายามะ (Takayama) ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)
    2. 1.2 เมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku)
    3. 1.3 เมืองมินะคะโมะ (Minokamo) รถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway)
    4. 1.4 เมืองทาคายามะ (Takayama) กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)
    5. 1.5 เมืองเกโระ (Gero) ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว (Osaka Winter Waterfall Tour)
    6. 1.6 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
  2. 2 จังหวัดมิเอะ (Mie)
    1. 2.1 เมืองโคโมโนะ (Komono) ภูเขาโกะไซโชะ (Mount Gozaisho)
    2. 2.2 เมืองทสึ (Tsu) สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden)
    3. 2.3 เมืองคุวานะ (Kuwana) การประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination)
    4. 2.4 เมืองนาบาริ (Nabari) น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย (Akame 48 Waterfalls)
  3. 3 จังหวัดไอจิ (Aichi)
    1. 3.1 เมืองนาโกย่า (Nagoya) โอเอซิส 21 (Oasis 21)
    2. 3.2 เมืองชิตาระ (Shitara) ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest)
    3. 3.3 เมืองโตโยต้า (Toyota) น้ำตกน้ำแข็งที่ลานน้ำพุยุซุย (Yusui Plaza Ice Falls)
    4. 3.4 เมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)
    5. 3.5 เมืองทาฮาระ (Tahara) สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden)
    6. 3.6 เมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)
  4. 4 จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)
    1. 4.1 เมืองคาวาสึ (Kawazu) ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura)
    2. 4.2 เมืองชิโมดะ (Shimoda) อุทยานธรรมชาติสึเมคิซากิ (Tsumekisaki Natural Park)
    3. 4.3 เมืองฟูจิ (Fuji) ดอกบ๊วยในสวนสาธารณะอิวาโมโตะยามะ (Iwamoto-yama Park)
    4. 4.4 เมืองชิซุโอกะ (Shizuoka) ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 223 (เรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ – Suruga Bay Ferry)
    5. 4.5 เมืองอาตามิ (Atami) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ (Atami Sea Fireworks Festival)
    6. 4.6 เมืองอิโตะ (Ito) สวนสัตว์ และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo)
  5. 5 เที่ยวภูมิภาคโทไก (Tokai) แบบจุใจด้วยบัตรโดยสารสุดคุ้ม !
  6. 6 ทัวร์แนะนำในพื้นที่โทไก

ภูมิภาคโทไก (Tokai) ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย อาทิ เมืองทาคายามะ (Takayama) และหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) 

ซึ่งในช่วงฤดูหนาว สถานที่เหล่านี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนดูงดงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย  ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการประดับไฟหลากสีสันตระการตาในหลายๆ แห่ง เป็นบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกแบบที่หาดูได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น  

สำหรับฤดูหนาวนี้ อยากให้ทุกคนลองมาสร้างความทรงจำอันแสนพิเศษ ด้วยการไปเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศ หรือถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันดูค่ะ !

จังหวัดกิฟุ (Gifu)

จังหวัดกิฟุ (Gifu) ในฤดูหนาว เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพอันงดงามของหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน หรือจะเป็นเมืองเก่าทาคายามะ (Takayama) ที่ถูกแต่งแต้มด้วยหิมะสีขาวราวกับภาพวาด นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนคลายร่างกายและจิตใจในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดัง เช่น บ่อน้ำพุร้อน “เกโระออนเซ็น” (Gero Onsen) ได้อีกด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดกิฟุ (Gifu) ยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมกีฬาฤดูหนาวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสกี (Ski) หรือสโนว์บอร์ด (Snowboard) รับรองว่าจะได้สัมผัสกับความสนุกแบบเต็มพิกัดในฤดูหนาวที่กิฟุค่ะ

เมืองทาคายามะ (Takayama) ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)

ในฤดูหนาว ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji) เมืองทาคายามะ (Takayama) จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้บ้านเรือนโบราณที่เรียงรายอยู่สองข้างทางดูสวยงาม และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืนที่มีการเปิดประดับไฟ แสงไฟจะส่องสว่างไปทั่วบริเวณ กลายเป็นบรรยากาศราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ ดึงดูดผู้คนที่มาเยือนให้หลงใหลไปกับความแสนโรแมนติกของย่านแห่งนี้

เมืองทาคายามะ (Takayama) ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)

ที่อยู่Kami-Sannomachi, Takayama City, Gifu Prefecture
วิธีเดินทางจาก “สถานีทาคายามะ” (Takayama Station) โดยสารรถไฟสาย
JR Takayama Main Line ไปยังย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)
จากนั้นเดินต่อ 9 นาที
Websiteเมืองทาคายามะ (Takayama) ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)

ดูแผนที่ เมืองทาคายามะ (Takayama) ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)

เมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku)

ช่วงฤดูหนาวที่หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku) ในเมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) จะเต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล ด้วยภาพของถนนปูด้วยหินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ตัดกับทิวทัศน์ของสถาปัตยกรรมบ้านไม้แบบดั้งเดิมที่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลเฮียวเซ็ทสึ โนะ โท มัทสึริ “Hyousetsu no Tou Matsuri” หรือ “เทศกาลแสงไฟบนน้ำแข็งและหิมะ” ที่จัดขึ้นในทุกปี ซึ่งจะมีการประดับประดาด้วยเทียนน้ำแข็งที่ทำขึ้นด้วยมือ ส่องสว่างไปทั่วทั้งหมู่บ้าน สร้างบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย 

นอกจากนี้ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่คุณจะได้สัมผัส พร้อมๆ กับการดื่มด่ำไปกับบรรยากาศย้อนยุคอันแสนคลาสสิกของหมู่บ้านแห่งนี้

เมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku)

ที่อยู่Magome, Nakatsugawa City, Gifu Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) นั่งรถไฟด่วนพิเศษ
“ชินาโนะ” (Shinano) บนเส้นทางสาย JR Chuo Main Line
ไปลงที่สถานีนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa Station) (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที)
จากนั้น นั่งรถบัสคิตะเอนะ โคทสึ บัส (Kita-Ena Kotsu Bus) สาย “มาโกเมะ”
(Magome Line) ไปลงที่ป้ายสุดท้าย “มาโกเมะ” (Magome) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
Websiteเมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku)

ดูแผนที่ เมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku)

เมืองมินะคะโมะ (Minokamo) รถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway)

สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในฤดูหนาว ด้วยการนั่งรถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway) ชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำนาการะ (Nagaragawa River) ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน

ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณเลือกนั่งรถไฟท่องเที่ยว “นาการะ” (Nagaragawa) คุณจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น พร้อมๆ กับชมวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลผ่านทางหน้าต่างรถไฟ

และในขณะที่รถไฟแล่นผ่านสะพาน รถไฟจะชะลอความเร็วลง เพื่อให้คุณได้ชมความใสสะอาดของแม่น้ำนาการะได้อย่างใกล้ชิด  จะเป็นประสบการณ์การเดินทางที่แสนประทับใจแน่นอน

เมืองมินะคะโมะ (Minokamo) รถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway)

ที่อยู่Ota-machi, Minokamo City, Gifu Prefecture
วิธีเดินทางวิธีที่ 1 จากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) โดยสารรถไฟสาย
JR Tokaido Main Line มุ่งหน้าไปยังสถานีกิฟุ (Gifu Station)
จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Takayama Main Line
และลงรถที่สถานีมิโนโอตะ (Mino-Ota Station) ใช้เวลาประมาณ 70 นาที
วิธีที่ 2 จากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) โดยสารรถไฟสาย
JR Chuo Main Line มุ่งหน้าไปยังสถานีนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa Station)
ลงรถที่สถานีทาจิมิ (Tajimi Station) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Taita Line
และลงรถที่สถานีมิโนโอตะ (Mino-Ota Station)
ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
วิธีที่ 3 จากสถานีนาโกย่า (Meitetsu Nagoya Station) โดยสารรถไฟสาย
Meitetsu Inuyama Line มุ่งหน้าไปยังสถานีชินอุโนะมะ (Shin-Unuma Station)
จากนั้นเดินไปยังสถานี JR Unuma Station เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย
JR Takayama Main Line และลงรถที่สถานีมิโนโอตะ (Mino-Ota Station)
Websiteเมืองมินะคะโมะ (Minokamo) รถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway)

ดูแผนที่ เมืองมินะคะโมะ (Minokamo) รถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway)

เมืองทาคายามะ (Takayama) กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)

กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway) เป็นกระเช้าสองชั้นแห่งเดียวในญี่ปุ่น ที่จะพาคุณขึ้นไปยังสถานีนิชิโฮทากะกุจิ (Nishihotakaguchi Station) ที่ความสูง 2,156 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศา ของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ (Northern Japanese Alps) ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน โดยเฉพาะวิวจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่งดงามเกินคำบรรยาย

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่คุณสามารถสนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่น ทัวร์เดินบนหิมะด้วยรองเท้าตะลุยหิมะ (Snowshoes) ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะ

เมืองทาคายามะ (Hida) กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)

ที่อยู่710-7 Kamizaka, Okuhida Onsengo, Takayama City, Gifu Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีทาคายามะ (Takayama Station) โดยสารรถไฟสาย
JR Takayama Main Line จากนั้นต่อรถบัสด่วนพิเศษโนฮิบัส
(Nohi Bus) มุ่งหน้าไปยัง “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ”
(Shinhotaka Ropeway)
Websiteเมืองทาคายามะ (Hida) กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)

ดูแผนที่ เมืองทาคายามะ (Hida) กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)

เมืองเกโระ (Gero)  ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว (Osaka Winter Waterfall Tour)

“ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว” (Osaka Winter Waterfall Tour) เป็นทัวร์พร้อมไกด์นำเที่ยว ที่จัดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ในเมืองโอซากะ (Osaka Town) เมืองเกโระ (Gero) จังหวัดกิฟุ (Gifu)  

เราจะได้เดินป่าท่ามกลางหิมะหนาๆ ด้วยรองเท้าตะลุยหิมะ (Snow Trekking) ไปยังน้ำตกสูง 20 เมตร ที่กลายเป็นน้ำตกน้ำแข็ง (Icefall) จะได้เห็นแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ กว้างถึง 50 เมตร เรียงรายต่อเนื่องกัน เป็นภาพสุดตระการตาที่เราจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกันเลยทีเดียว

หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย น้ำแข็งจับตัวกันมั่นคงแข็งแรง และมีความปลอดภัยเพียงพอ  ไกด์จะพาเราไปยังจุดชมวิวพิเศษด้านหลังม่านน้ำตกน้ำแข็ง ซึ่งเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่หาโอกาสชมได้ยากมาก

ทัวร์นี้จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน

เมืองเกโระ (Gero) ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว (Osaka Winter Waterfall Tour)

ที่อยู่38-8 Ochiai, Osaka-machi, Gero City
วิธีเดินทางขึ้นรถไฟสาย JR Takayama Line ไปยังสถานีฮิดะโอซากะ (Hida-Osaka Station)
จากนั้นนั่งแท็กซี่ไปยังจุดนัดพบ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ระยะเวลาจัดกิจกรรมวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 – วันอาทิตย์ 2 มีนาคม 2025
ระยะเวลาทัวร์เวลานัดพบ 8:00 น. / สิ้นสุดทัวร์ 17:00 น. (อย่างช้าที่สุด)
*รวมเวลาเดินทางโดยรถยนต์ไปยังทางขึ้นเขา (ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)
ค่าธรรมเนียม16,500 เยน/คน (รวมภาษี)
จำนวนผู้เข้าร่วม2-7 ท่าน
*เป็นการเข้าร่วมทัวร์รวมกับกรุ๊ปอื่น
*สามารถจองแบบเหมาส่วนตัวได้โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 30,000 เยน/กรุ๊ป
ข้อควรระวังทัวร์ชมน้ำตกฤดูหนาวเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การปีนเขา 
เส้นทางไป-กลับน้ำตกน้ำแข็งมีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร
มีความสูงต่างระดับ 300 เมตร เส้นทางค่อนข้างขรุขระเป็นเนินขึ้นลง 
ดังนั้น ผู้ร่วมทัวร์ควรมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง พร้อมสำหรับการเดินบนหิมะ
และควรเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจให้พร้อมรับกับเส้นทาง  
เพื่อความปลอดภัย กรุณาเตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อมก่อนเข้าร่วมทัวร์
ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ ของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า และการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
ก่อนวันเดินทาง
Websiteเมืองเกโระ (Gero) ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว (Osaka Winter Waterfall Tour)

ดูแผนที่ เมืองเกโระ (Gero) ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว (Osaka Winter Waterfall Tour)

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

ฤดูหนาวของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน สร้างภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการจัดงานประดับไฟ ซึ่งจัดขึ้นในระยะเวลาจำกัด จะได้เห็นภาพของบ้านกัสโชสึคุริ (Gassho Zukuri – บ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมหลังคาชันคล้ายมือพนม) ท่ามกลางหิมะขาวโพลน ประกอบกับแสงไฟประดับที่ส่องสว่าง จะสร้างทัศนียภาพที่งดงามตระการตา ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาเยือน

นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็น (Onsen) และลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแบบดั้งเดิม เพื่อสัมผัสประสบการณ์อันแสนอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเย็นได้อีกด้วย

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

ที่อยู่Ogimachi, Shirakawa Village, Ono District, Gifu Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station):
ขึ้นรถบัสด่วนพิเศษ “Shirakawago Line” จากศูนย์รถบัสเมเท็ตสึ
(Meitetsu Bus Center) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที
จากสถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station):
ขึ้นรถบัสด่วนพิเศษ “Shirakawago-Kanazawa Line” จากประตูทางออก
ฝั่งตะวันออกของสถานีคานาซาวะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
จากสถานีทาคายามะ (Takayama Station):
ขึ้นรถบัสจากศูนย์รถบัสโนฮิ ทาคายามะ (Nohi Takayama Bus Center)
ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
Websiteหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

ดูแผนที่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

จังหวัดมิเอะ (Mie)

ฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะ (Mie)  มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจลองให้เราไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการประดับไฟอันตระการตา หรือการผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน

เช่น งานประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในงานแสดงไฟประดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น  รับรองว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามของแสงไฟนับล้านดวงแน่นอน

นอกจากนี้ที่หุบเขาอาคาเมะ (Akame Gorge) มีการจัดงานประดับไฟ “ยูเก็น โนะ ทาเคะอาคาริ” (Yugen no Take Akari) หรือ “แสงไฟจากโคมไม้ไผ่อันลึกลับ” โดยมีการจัดวางโคมไฟไม้ไผ่ตลอดทั่วทั้งหุบเขา แสงไฟอบอุ่นจากโคมไฟเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ

ยิ่งไปกว่านั้น ที่ภูเขาโกะไซโชะ (Gozaisho Mountain) ยังสามารถสนุกกับการเล่นสกีหรือเล่นเลื่อนหิมะได้ และหลังจากเล่นหิมะเสร็จ สามารถผ่อนคลายร่างกายที่เหนื่อยล้าจากอากาศหนาวด้วยการแช่น้ำพุร้อนที่บ่อน้ำพุร้อนยุโนะยามะ (Yunoyama Onsen) ได้

ลองมาใช้เวลาพิเศษในฤดูหนาวที่จังหวัดมิเอะ (Mie) กันดูนะคะ

เมืองโคโมโนะ (Komono) ภูเขาโกะไซโชะ (Mount Gozaisho)

ในช่วงฤดูหนาว ที่ภูเขาโกะไซโชะ (Mount Gozaisho) เราจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่เกิดจากอากาศหนาว เช่น ปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งบนต้นไม้ที่เรียกว่า “จุเฮียว” (Juhyo) หรือ “ปีศาจหิมะ” 

ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์การเล่นสกี หรือปีนเขามาก่อน ถ้าได้ใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าก็สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์หิมะได้อย่างง่ายดาย และเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา จะได้เห็นทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ไพศาลของเทือกเขาสุซุกะ (Suzuka Mountains) แบบเต็มตา

นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้ลองแวะไปแช่น้ำพุร้อนที่ยุโนะยามะ ออนเซ็น (Yunoyama Onsen) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและผ่อนคลายค่ะ

เมืองโคโมโนะ (Komono) ภูเขาโกะไซโชะ (Mount Gozaisho)

ที่อยู่8625 Komono, Komono-cho, Mie-gun, Mie Prefecture
วิธีเดินทางเดินทางโดยรถไฟสายคินเท็ตสึ (Kintetsu) มาลงที่สถานียุโนะยามะ ออนเซ็น
(Yunoyama Onsen Station) จากนั้นขึ้นรถบัสมิเอะ โคทสึ (Mie Kotsu Bus)
สาย “Yunoyama Onsen / Gozaisho Ropeway-mae” ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
แล้วลงที่ป้าย “Gozaisho Ropeway-mae” จากป้ายรถบัสให้เดินไปยังสถานี
กระเช้าลอยฟ้า แล้วนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปยังสถานีซันโจ โคเอ็น  (Sanjo Koen Station)
ซึ่งอยู่ใกล้ยอดเขา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ดูแผนที่ เมืองโคโมโนะ (Komono) ภูเขาโกะไซโชะ (Mount Gozaisho)

เมืองทสึ (Tsu) สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden)

สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden) ตั้งอยู่ในเมืองทสึ (Tsu) จังหวัดมิเอะ (Mie) เป็นสวนที่มีต้นบ๊วยชื่อดังปลูกอยู่ประมาณ 200 ต้น โดยเฉพาะต้นบ๊วยพันธุ์ชิดาเระอุเมะ (Shidare Ume – บ๊วยกิ่งห้อย)

ไฮไลท์ของสวนแห่งนี้คือต้นบ๊วยกิ่งห้อยพันธุ์โกะฟุคุ (Gofuku) ที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “เท็นโนะริว” (Ten no Ryu – มังกรแห่งสวรรค์) และ “จิโนะริว” (Chi no Ryu – มังกรแห่งพิภพ) ซึ่งมีความสวยงามอลังการมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีฉากหลังเป็นเทือกเขาซุซุกะ (Suzuka Mountains) สร้างทัศนียภาพที่งดงามน่าประทับใจ

ในช่วงที่ดอกบ๊วยบานสะพรั่ง จะมีการจัดไฟประดับในยามค่ำคืน สร้างบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก และน่าหลงใหลมากๆ เลย

เมืองทสึ (Tsu) สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden)

ที่อยู่151-2 Yamamoto-cho, Suzuka City, Mie Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีโยกไกจิ (Yokkaichi Station) นั่งแท็กซี่โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ระยะเวลากิจกรรมเทศกาลชมดอกบ๊วยชิดาเระอุเมะ (Shidare Ume Festival):
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ – ปลายเดือนมีนาคม 2025 (ตามกำหนดการ)
เวลาทำการ9:00 – 16:00 น.
ในช่วงที่มีการประดับไฟยามค่ำคืน จะขยายเวลาเปิดถึง 20:30 น.
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่: 700 – 1,800 เยน (ราคาแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา)
นักเรียนประถม: ครึ่งราคา
เด็กก่อนวัยเรียน: ฟรี
Websiteเมืองทสึ (Tsu) สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden)

ดูแผนที่ เมืองทสึ (Tsu) สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden)

เมืองคุวานะ (Kuwana) การประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination)

งานประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) เป็นพิกัดที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ด้วยขนาดพื้นที่จัดแสดงที่กว้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และคุณภาพของการจัดแสดงที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับ โดยเฉพาะ “อุโมงค์แห่งแสง” (Tunnel of Lights) ที่มีความยาวกว่า 200 เมตร เป็นไฮไลท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ชวนให้ผู้มาเยือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงแสงสีในพื้นที่หลักที่มีการเปลี่ยนธีมทุกปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ  และจะได้เพลิดเพลินไปกับการผสมผสานระหว่างดอกไม้ตามฤดูกาลและแสงไฟอันตระการตา

ภายในพื้นที่อันกว้างขวางของที่นี่ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำพุร้อน และร้านอาหาร ให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน

เมืองคุวานะ (Kuwana) การประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination)

ที่อยู่270 Urushibata, Nagashima-cho, Kuwana City, Mie Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station):
นั่งรถไฟสาย Kintetsu Nagoya Line จากสถานีคินเท็ตสึ นาโกย่า
(Kintetsu Nagoya Station) ไปยังสถานีคินเท็ตสึ นากาชิมะ
(Kintetsu Nagashima Station) ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
จากนั้นให้ขึ้นรถบัสมิเอะ โคทสึ (Mie Kotsu Bus) ไปยัง “นาบานะ โนะ ซาโตะ”
(Nabana no Sato) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
จากสถานีคุวานะ (Kuwana Station):
นั่งรถไฟสาย Kintetsu Nagoya Line ไปยังสถานีคินเท็ตสึ นากาชิมะ
(Kintetsu Nagashima Station ใช้เวลาประมาณ 5 นาที 
จากสถานี Kintetsu Nagashima Station จากนั้นให้ขึ้นรถบัสมิเอะ โคทสึ
(Mie Kotsu Bus) ไปยัง “นาบานะ โนะ ซาโตะ” (Nabana no Sato)
รถบัสโดยสารตรง: มีบริการรถบัสตรงจากศูนย์รถบัสเมเท็ตสึ
(Meitetsu Bus Center) ที่สถานีนาโกย่า (Nagoya Station) ไปยัง
“นาบานะ โนะ ซาโตะ” (Nabana no Sato)ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
รถบัสโดยสารตรง: มีบริการรถบัสตรงจากศูนย์รถบัสเมเท็ตสึ
(Meitetsu Bus Center) ที่สถานีนาโกย่า (Nagoya Station)
ไปยัง “นาบานะ โนะ ซาโตะ” (Nabana no Sato) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระยะเวลากิจกรรม19 ตุลาคม 2024 – 1 มิถุนายน 2025
เวลาทำการ10:00 – 21:00 น. หรือ 22:00 น.
เวลาปิดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัน
กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ค่าเข้าชมตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึง 1 มิถุนายน ราคา 2,500 เยน
(รวมคูปองแทนเงินสดมูลค่า 1,000 เยน)
*เด็กเล็กอายุต่ำกว่าชั้นประถมศึกษาเข้าชมฟรี
Websiteเมืองคุวานะ (Kuwana) การประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination)

ดูแผนที่ เมืองคุวานะ (Kuwana) การประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ
(Nabana no Sato Illumination)

เมืองนาบาริ (Nabari) น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย (Akame 48 Waterfalls)

งาน “ยูเก็น โนะ ทาเคะอาคาริ” (Yugen no Take Akari) หรือ “แสงไฟจากโคมไม้ไผ่อันลึกลับ” ที่น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย  (Akame 48 Waterfalls) เป็นงานประดับไฟที่จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว โดยมีการประดับประดาโคมไฟไม้ไผ่กว่า 2,000 ดวง ไว้ทั่วบริเวณหุบเขา

แสงไฟอันนุ่มนวลจากโคมไฟไม้ไผ่จะส่องสว่างไปยังน้ำตก และลำธาร สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และน่าหลงใหลราวกับต้องมนตร์ ทัศนียภาพอันงดงามนี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และประทับใจไปกับความสวยงามที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ เป็นอีกพิกัดชมงานประดับไฟที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

เมืองนาบาริ (Nabari) น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย  (Akame 48 Waterfalls)

ที่อยู่671-1 Nagasaka, Akame-cho, Nabari City, Mie Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีอาคาเมะกุจิ (Akameguchi Station) บนสายคินเท็ตสึ (Kintetsu Line)
นั่งรถบัสประมาณ 10 นาที ลงที่ป้าย “อะคะเมะ โนะ ทากิ” (Akame no Taki)
ระยะเวลากิจกรรมวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2024 – วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025
เวลาทำการช่วงเปิดไฟประดับ: 17:00 – 19:30 น.
เวลาเข้าชมช่วงกลางวัน :
ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน  เวลา 8:30-17:00 น.
ราคาผู้ใหญ่ 700 เยน
Websiteเมืองนาบาริ (Nabari) น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย  (Akame 48 Waterfalls)

ดูแผนที่ เมืองนาบาริ (Nabari) น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย (Akame 48 Waterfalls)

จังหวัดไอจิ (Aichi)

ช่วงฤดูหนาวที่จังหวัดไอจิ (Aichi) ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติก และงดงามเช่นกัน อย่างเช่นที่ “โอเอซิส 21” (Oasis 21) ในเมืองนาโกย่า (Nagoya) จะมีการจัดแสดงไฟประดับยามค่ำคืนที่สวยงามตระการตา สร้างทัศนียภาพยามราตรีที่ดูราวกับหลุดออกมาจากโลกแห่งจินตนาการ หรือแม้แต่ที่ “สวนน้ำพุยุซุย” (Yusui Park) ในเมืองโทโยตะ (Toyota) ก็สามารถจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติผ่าน “น้ำตกน้ำแข็ง” (Ice Falls) ที่เกิดจากการแข็งตัวของน้ำตกในช่วงอากาศหนาวจัด นอกจากนี้ ยังมีงานแสดงไฟประดับจัดขึ้นอีกหลายแห่งทั่วจังหวัดไอจิ รอให้ทุกคนไปสัมผัสความงดงามด้วยตาของคุณเองค่ะ

เมืองนาโกย่า (Nagoya) โอเอซิส 21 (Oasis 21)


ในช่วงฤดูหนาวที่ “โอเอซิส 21” (Oasis 21) จะมีการประดับไฟที่ “ยานอวกาศแห่งน้ำ” (Spaceship-Aqua : อาคารที่มีรูปทรงคล้ายยานอวกาศที่กำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน) ซึ่งตั้งอยู่สูงจากพื้นดิน 14 เมตร โดยมีการเปลี่ยนธีมของแสงไฟตามฤดูกาล สร้างบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกราวกับหลุดเข้าไปในโลกอีกมิติ 

โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว จะมีการประดับไฟสีทองแชมเปญสุดหรูหรา และการจำลองบรรยากาศหิมะโปรยปรายลงมา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน

นอกจากนี้ยังมีการเปิดให้บริการลานสเก็ตน้ำแข็งในช่วงเวลาจำกัดอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะมากับครอบครัว หรือคนรัก ก็รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน

เมืองนาโกย่า (Nagoya) โอเอซิส 21 (Oasis 21)

ที่อยู่1-11-1 Higashisakura, Higashi-ku, Nagoya City, Aichi Prefecture
วิธีเดินทางโดยสารรถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะ (Higashiyama Subway Line) หรือสายเมโจ
(Meijo Subway Line) ลงที่สถานีซาคาเอะ (Sakae Station) ออกจากประตูทาง
ออกฝั่งตะวันออกของสถานี แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย
หรือเดินทางโดยรถไฟสายเมเท็ตสึ เซโตะ (Meitetsu Seto Line)
ลงที่สถานีซาคาเอะมาจิ (Sakaemachi Station) ออกจากสถานีแล้ว
จะพบกับโอเอซิส 21 ทันที
Websiteเมืองนาโกย่า (Nagoya) โอเอซิส 21 (Oasis 21)

ดูแผนที่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) โอเอซิส 21 (Oasis 21)

เมืองชิตาระ (Shitara) ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest)

ในช่วงฤดูหนาว ณ ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest) ของเมืองชิตาระ (Shitara) จะกลายเป็นโลกแห่งเทพนิยายสีขาวเงินอันแสนมหัศจรรย์ ที่นี่เราจะได้พบกับปรากฏการณ์ธรรมชาติอันงดงามอย่าง “มุเฮียว” (Muhyo) หรือ “แม่คะนิ้ง” ที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้จนดูคล้ายกับดอกไม้น้ำแข็ง และ “จุเฮียว” (Juhyo) หรือ “ปีศาจหิมะ” ซึ่งเกิดจากหิมะ และน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนต้นไม้จนดูราวกับประติมากรรมน้ำแข็ง

เมืองชิตาระ (Shitara) ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest)

ที่อยู่3-67 Tsugu Takasasa, Shitara-cho, Kitashitara-gun, Aichi Prefecture
วิธีเดินทางจากทางออกชินชิโระ (Shinshiro IC) ของทางด่วนชิน-โทเม
(Shin-Tomei Expressway) ขับรถประมาณ 90 นาที
ค่าธรรมเนียมฟรี
Websiteเมืองชิตาระ (Shitara) ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest)

ดูแผนที่ เมืองชิตาระ (Shitara) ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest)

เมืองโตโยต้า (Toyota) น้ำตกน้ำแข็งที่ลานน้ำพุยุซุย (Yusui Plaza Ice Falls)

น้ำตกน้ำแข็งที่ลานน้ำพุยุซุย (Yusui Plaza Ice Falls) เป็นงานศิลปะน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือโดยชาวบ้านในท้องถิ่น สิ่งที่น่าดึงดูดใจคือความงดงามของประติมากรรมน้ำแข็งขนาดมหึมานี้ก็คือ ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับที่สร้างทัศนียภาพที่ดูราวกับอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์

TAKANAWA GATEWAY CITY

ที่อยู่Rokurogi, Inabu-cho, Toyota City
วิธีเดินทางจากสถานีโตโยต้าชิ (Toyotashi Station) บนสายเมเท็ตสึ (Meitetsu Line)
ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถบัสโตโยต้า โอยเด็ง (Toyota Oiden Bus) สายด่วนพิเศษอินาบุ
(Rapid Inabu) ลงที่ป้าย “ดงกุริ โนะ ยุ มาเอะ” (Donguri no Yu Mae)
จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 20-25 นาที
ระยะเวลากิจกรรมเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ (หรือจนกว่าน้ำแข็งจะละลาย)
ค่าธรรมเนียมฟรี
Websiteเมืองโตโยต้า (Toyota) น้ำตกน้ำแข็งที่ลานน้ำพุยุซุย (Yusui Plaza Ice Falls)

ดูแผนที่ JUNGLIA OKINAWA

เมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)

ในช่วงฤดูหนาว ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch) จะจัดงานประดับไฟสุดอลังการที่เรียกว่า “ลากูน่า อิลลูมิเนชั่น” (Laguna Illumination) ซึ่งจะทำให้มีบรรยากาศแสนจะโรแมนติกราวกับหลุดเข้าไปในโลกดินแดนแห่งความฝัน

ไฮไลท์ของงานประกอบด้วย “AquaPlanet” ที่ใช้ลูกบอลกระจก (Mirror ball) จำนวนมากสะท้อนแสงไฟระยิบระยับ และ “ฮานะเทะมิซุ” (Hanatezu – อ่างล้างมือประดับดอกไม้ยักษ์) โดยมีความยาวถึง 6 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสงสีเสียงหลากหลายรูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ

นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการฉายภาพลงบนพื้นผิว (Projection Mapping) และการแสดงน้ำพุดนตรีแสงสีเสียงอีกด้วย

เมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)

ที่อยู่2 Kaiyo-cho, Gamagori City, Aichi Prefecture
วิธีเดินทางจากป้ายรถบัสหมายเลข 1 ทางออกใต้ของสถานีกามาโกริ (Gamagori Station)
ขึ้นรถบัสรับ-ส่งฟรีไปยังลากูน่า เทนโบส ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ระยะเวลาจัดงานประดับไฟวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2024 – วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025
เวลาเปิดไฟ: ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงเวลาปิดสวนสนุก
ค่าบัตรเข้าชมผู้ใหญ่ (มัธยมต้นขึ้นไป): 2,300 – 2,700 เยน
นักเรียนประถม: 1,400 – 1,600 เยน
เด็กเล็ก: 800 เยน
* ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัน
* กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
Websiteเมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)
เมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)

ดูแผนที่ เมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)

เมืองทาฮาระ (Tahara) สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden)

สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในการชมทุ่งดอกคาโนลาสีเหลืองอร่ามที่บานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล “อัตสึมิฮันโตะ นาโนะฮานะ มัตสึริ” (Atsumi Peninsula Nanohana Festival) ที่จัดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมีนาคม ดอกไม้สีเหลืองสดใสจะบานสะพรั่งเต็มที่ ดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมชมความงามอย่างไม่ขาดสาย

ภายในสวนมีจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น “ตู้ไปรษณีย์ดอกคาโนลาแห่งความสุข” ชิงช้า และ “รันเวย์ดอกคาโนลา” ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว และคู่รักที่มาเที่ยวด้วยกันสุดๆ 

นอกจากนี้ ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงยังเสิร์ฟอาหารแสนอร่อยที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่สามารถสัมผัสถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณเลย

เมืองทาฮาระ (Tahara) สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden)

ที่อยู่Hamayabu, Horikiri-cho, Tahara City, Aichi Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีโทโยฮาชิ (Toyohashi Station) ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโทโยฮาชิ
เทตสึโด อัตสึมิ (Toyohashi Tetsudo Atsumi Line) ไปลงที่สถานีมิกาวะทาฮาระ
(Mikawa-Tahara Station) จากนั้นขึ้นรถบัสโทโยเทตสึ (Toyotetsu Bus)
สายอิราโกะ ฮอนเซ็น (Irago Honsen) ลงที่ป้าย “เมียวจิน มาเอะ” (Myojin Mae)
แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
รถรับ-ส่ง: ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนกุมภาพันธ์
และมีนาคม จะมีรถรับ-ส่งฟรีจากป้ายรถบัส “อิราโกะมิซากิ” (Irago Misaki)
ของโทโยเทตสึบัส (Toyotetsu Bus) ไปยังสวนดอกคาโนลา อิราโกะ
ระยะเวลาจัดงาน
เทศกาลดอกคาโนลา
18 มกราคม – 31 มีนาคม 2025
ช่วงเวลาจัดงาน9:00 – 17:00 น.
ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป): 500 เยน
เด็ก (ประถมและมัธยมต้น): 100 เยน
เด็กก่อนวัยเรียน: ฟรี
Websiteเมืองทาฮาระ (Tahara) สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden)

ดูแผนที่ เมืองทาฮาระ (Tahara) สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden)

เมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)

ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen) ตั้งอยู่ในเมืองคานิเอะ (Kanie) จังหวัดไอจิ (Aichi) ห่างจากใจกลางเมืองนาโกย่า (Nagoya) เพียง 20 นาทีโดยรถยนต์ ทำให้การเดินทางมาที่นี่สะดวกมาก ๆ

จุดเด่นของออนเซ็นแห่งนี้คือ การใช้น้ำแร่ธรรมชาติ 100% ที่ไหลตรงจากแหล้งต้นกำเนิด  โดยไม่ผ่านกระบวนการเติมน้ำ การเพิ่มความร้อน หรือการหมุนเวียนน้ำใด ๆ ทำให้ได้สัมผัสกับน้ำแร่ที่มีคุณภาพดีเยี่ยม และอ่อนโยนต่อผิวพรรณ

ซึ่งหลังการปรับปรุงใหม่ในเดือนตุลาคม 2020 ออนเซ็นแห่งนี้มีความสะอาด และสวยงามยิ่งขึ้น มีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยสวนสวยงาม และมีห้องซาวน่าที่ครบครัน  

ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็น ไอน้ำที่ลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อนจะสร้างบรรยากาศที่ดูลึกลับน่าหลงใหล ช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจเลยทีเดียว

เมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)

ที่อยู่97 Sayagawa Nishi, Kanie Shinden, Kanie-cho, Ama-gun, Aichi Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีคินเท็ตสึ คานิเอะ (Kintetsu Kanie Station) โดยสารรถไฟสายคินเท็ตสึ นาโกย่า
(Kintetsu Nagoya Line) จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 7 นาที
เวลาทำการ13:00 – 23:00 น. (เข้าได้ถึง 22:30 น.)
ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (มัธยมต้นขึ้นไป): วันธรรมดา 700 เยน, วันเสาร์ อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 800 เยน
เด็ก (ประถม): 300 เยน
Websiteเมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)
เมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)

ดูแผนที่ เมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

ฤดูหนาวในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)  คือช่วงเวลาที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับความงดงามของภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน และยังสามารถผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในบ่อน้ำพุร้อนที่มีอยู่มากมายทั่วจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีงานเทศกาลประดับไฟที่จัดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วจังหวัด ให้คุณได้สัมผัสกับความสวยงามตระการตาอีกด้วย มาสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ในแบบที่ไม่เหมือนใครในช่วงฤดูหนาวนี้ไปด้วยกันนะคะ

เมืองคาวาสึ (Kawazu) ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura)

ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura) ในเมืองคาวาสึ (Kawazu) จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) เป็นซากุระพันธุ์ที่บานเร็วกว่าซากุระทั่วไป โดยจะบานในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ดอกซากุระพันธุ์นี้มีสีชมพูเข้มขนาดใหญ่สะดุดตาสวยงาม

และที่นี่ยังมีต้นซากุระกว่า 850 ต้นเรียงรายตลอดแนวแม่น้ำคาวาสึ (Kawazu River) เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร และมีต้นซากุระทั้งหมดราว 8,000 ต้นทั่วทั้งเมือง ด้วยระยะเวลาออกดอกที่ยาวนาน และสีสันที่สดใส ทำให้ซากุระคาวาสึเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้มาเยือน

เมืองคาวาสึ (Kawazu) ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura)

ที่อยู่Sasahara, Kawazu-cho, Kamo-gun, Shizuoka Prefecture
วิธีเดินทางรถไฟด่วนพิเศษ:  จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟด่วนพิเศษ
(Odori-ko Limited Express) ของสายอิสึคิวโก (Izu Kyuko Line)
ไปยังสถานีคาวาสึ (Kawazu Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
รถไฟชินคันเซ็น: จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด
(Tokaido Shinkansen) ไปยังสถานีอาตามิ (Atami Station) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายอิโตะ (Ito Line) ที่มุ่งหน้าไปยังสถานีอิซุ-ชิโมดะ
(Izu-Shimoda Station) และลงที่สถานีคาวาสึ (Kawazu Station)
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
ระยะเวลากิจกรรม1 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ 2025
เวลาทำการ8:30 – 21:00 น.
ค่าธรรมเนียมฟรี
Websiteเมืองคาวาสึ (Kawazu) ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura)

ดูแผนที่ เมืองคาวาสึ (Kawazu) ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura)

เมืองชิโมดะ (Shimoda) อุทยานธรรมชาติสึเมคิซากิ (Tsumekisaki Natural Park)

อุทยานธรรมชาติสึเมคิซากิ (Tsumekisaki Natural Park) เป็นจุดชมวิวสุดอลังการ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีดอกนาร์ซิสซัส หรือดอกแดฟโฟดิลกว่า 3 ล้านต้นบานสะพรั่งทั่วทั้งบริเวณ ความงดงามของดอกไม้สีขาวตัดกับสีฟ้าครามของท้องทะเล ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามน่าประทับใจ

ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม ถึง 31 มกราคมของทุกปี จะมีการจัด “เทศกาลดอกนาร์ซิสซัส” (Suisen Matsuri) โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายจัดขึ้นภายในงาน เช่น การแสดงกลองไทโกะของชิโมดะ (Shimoda Taiko) และการแจกจ่ายอาหารพื้นเมืองอย่าง “นาเบะ” (Nabe – หม้อไฟ) ของชาวประมง ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าสนใจ และดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาเยี่ยมชมค่ะ

เมืองชิโมดะ (Shimoda) อุทยานธรรมชาติสึเมคิซากิ (Tsumekisaki Natural Park)

ที่อยู่Tsumekisaki Green Area, Susaki, Shimoda City, Shizuoka Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟอิซุคิว-ชิโมดะ (Izukyu-Shimoda Station) ของสายอิซุคิวโก
(Izukyu Line) ให้ออกจากสถานี และไปที่ป้ายรถประจำทางหมายเลข 10 ที่ด้านหน้าสถานี
จากนั้นขึ้นรถบัสสาย “สึเมคิซากิ” (Tsumekisaki) และลงที่ป้ายสุดท้าย “สึเมคิซากิ”
(Tsumekisaki) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที
ระยะเวลากิจกรรม10 ธันวาคม 2024 – 31 มกราคม 2025
ค่าธรรมเนียมฟรี

ดูแผนที่ เมืองชิโมดะ (Shimoda) อุทยานธรรมชาติสึเมคิซากิ (Tsumekisaki Natural Park)

เมืองฟูจิ (Fuji) ดอกบ๊วยในสวนสาธารณะอิวาโมโตะยามะ (Iwamoto-yama Park)

สวนสาธารณะอิวาโมโตะยามะ (Iwamoto-yama Park) เป็นพิกัดชมดอกบ๊วยชื่อดัง ที่มีต้นบ๊วยกว่า 30 สายพันธุ์ รวมกว่า 300 ต้น  โดยช่วงเวลาที่ดอกบ๊วยบานสวยที่สุดคือกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนมีนาคม

ณ สวนแห่งนี้ คุณจะได้ชมความงดงามของดอกบ๊วยหลากสีสันตัดกับฉากหลังอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทุกคน นอกจากนี้ ในช่วงที่ดอกบ๊วยบานสะพรั่ง ทางสวนยังจัดงาน “เทศกาลดอกบ๊วย” (Ume Matsuri)  อีกด้วย  ซึ่งเทศกาลนี้ทำให้สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายเลยค่ะ

เมืองฟูจิ (Fuji) ดอกบ๊วยในสวนสาธารณะอิวาโมโตะยามะ (Iwamoto-yama Park)

ที่อยู่1605 Iwamoto-kabokidachi, Fuji City, Shizuoka Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีฟูจิ (Fuji Station) ของ JR:
นั่งรถบัสชุมชนเขตอิวามัตสึคิตะ (Iwamatsu Kita Community Bus)
สาย “โคเมะ” (Kome) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
หรือแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากสถานีชิน-ฟูจิ (Shin-Fuji Station) ของ JR:
นั่งแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด
สำหรับการชมดอกบ๊วย
ปลายเดือนมกราคม – ต้นเดือนมีนาคม
ค่าธรรมเนียมฟรี

ดูแผนที่ เมืองฟูจิ (Fuji) ดอกบ๊วยในสวนสาธารณะอิวาโมโตะยามะ (Iwamoto-yama Park)

เมืองชิซุโอกะ (Shizuoka) ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 223 (เรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ – Suruga Bay Ferry)


ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 223 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ” (Suruga Bay Ferry) เป็นเส้นทางคมนาคมทางทะเลที่เชื่อมระหว่างท่าเรือชิมิสึ (Shimizu Port) ในเมืองชิซุโอกะ (Shizuoka) กับท่าเรือโทอิ (Toi Port) ในเมืองอิซุ (Izu) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที

จุดเด่นของการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่นี้คือ ผู้โดยสารสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) อันยิ่งใหญ่จากกลางทะเลซึ่งเป็นภาพที่หาชมได้ยาก เรือเฟอร์รี่นี้สามารถบรรทุกได้ทั้งยานพาหนะ และผู้โดยสารทั่วไป

การเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่นี้ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหารถติด พร้อมทั้งได้เพลิดเพลินกับการเดินทางที่สะดวกสบายและวิวทิวทัศน์อันงดงามไปพร้อม ๆ กันด้วยค่ะ

ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ ชิมิสึ (Suruga Bay Ferry Shimizu Port)

ที่อยู่10-80 Hinode-cho, Shimizu-ku, Shizuoka City, Shizuoka Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีชิมิสุ (Shimizu Station) ของ JR  มีรถรับ-ส่งฟรีไปยังท่าเรือ
ค่าธรรมเนียมค่าโดยสาร (เที่ยวเดียว):
ผู้ใหญ่ (มัธยมต้นขึ้นไป): 2,000 เยน
เด็ก (ประถม): 1,000 เยน
เด็กเล็ก (ต่ำกว่าประถม): ฟรี 1 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน
*ส่วนลด 10% สำหรับขาไป
Websiteท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ ชิมิสึ (Suruga Bay Ferry Shimizu Port)

ดูแผนที่ ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ ชิมิสึ (Suruga Bay Ferry Shimizu Port)

เมืองอาตามิ (Atami) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ (Atami Sea Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ (Atami Sea Fireworks Festival) จะจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว มีเสน่ห์อยู่ที่ดอกไม้ไฟที่สว่างไสวอย่างชัดเจนในท้องฟ้าที่ใสกระจ่าง ด้วยภูมิประเทศของอ่าวอาตามิ (Atami Bay) ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ทำให้เสียงของดอกไม้ไฟสะท้อนกลับมา สร้างเอฟเฟกต์เสียงที่ทรงพลังดังกึกก้องราวกับอยู่ในสนามกีฬา

ไฮไลท์ของงานคือ “ไนแองการ่ากลางอากาศ” (Grand Aerial Niagara) ที่จะย้อมท้องฟ้ายามค่ำคืนให้เป็นสีเงินระยิบระยับ เป็นภาพที่สวยงามจนแทบลืมหายใจ

เมืองอาตามิ (Atami) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ (Atami Sea Fireworks Festival)

สถานที่จัดงานชายหาดอาตามิซันบีช (Atami Sun Beach) และสวนสาธารณะชินซุย
(Shinsui Park) Nagisa-cho, Atami City, Shizuoka Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีอาตามิ (Atami Station) ของ JR เดินประมาณ 15 นาที
ไปยังชายหาดอาตามิซันบีช (Atami Sun Beach) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
หากใช้บริการรถบัส ให้ขึ้นรถบัสโทไคบัส (Tokai Bus) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
และลงที่ป้ายซันบีช (Sun Beach)
ระยะเวลางานระยะเวลาจัดงาน (ปี 2025):
ฤดูใบไม้ผลิ:
– วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์
– วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม
– วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน
– วันจันทร์ที่ 28 เมษายน
ฤดูร้อน:
– วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม
– วันอังคารที่ 5 สิงหาคม
– วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม
– วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม
– วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง:
– วันจันทร์ที่ 15 กันยายน (วันหยุด)
– วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม (วันหยุด)
– วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน (วันหยุด)
ฤดูหนาว:
– วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม
ช่วงเวลาจัดงาน20:20 – 20:40 น.
(เฉพาะเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมแสดงเวลา 20:15 – 20:40 น.)
ค่าธรรมเนียมฟรี
Websiteเมืองอาตามิ (Atami) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ (Atami Sea Fireworks Festival)

ดูแผนที่ เมืองอาตามิ (Atami) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ
(Atami Sea Fireworks Festival)

เมืองอิโตะ (Ito) สวนสัตว์ และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo)

เสน่ห์ของสวนสัตว์และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo) ในช่วงฤดูหนาว คือการได้ชมภาพ “คาปิบาระแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง” (Capybara Open-air Bath) ซึ่งเป็นภาพที่คาปิบาระกำลังผ่อนคลายในบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ที่น่ารักสุด ๆ ภาพนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำฤดูหนาวในอิซุ (Izu) และดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยี่ยมชม

เมืองอิโตะ (Ito) สวนสัตว์ และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo)

ที่อยู่1317-13 Futo, Ito City, Shizuoka Prefecture
วิธีเดินทางจากสถานีอิซุโคเก็น (Izu-Kogen Station) ของสายอิซุคิวโก (Izukyu Line) 
ขึ้นรถบัสโทไค (Tokai Bus) สาย “สวนสัตว์ชาโบเต็ง” (Shaboten Koen) 
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากสถานีอิโตะ (Ito Station) ของ JR  ขึ้นรถบัสโทไค (Tokai Bus)
สาย “สวนสัตว์ชาโบเต็ง” (Shaboten Koen)  ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
เวลาทำการ9:30 – 16:00 น.
ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (มัธยมต้นขึ้นไป): 2,700 เยน
นักเรียนประถม: 1,300 เยน
เด็กเล็ก (4 ปีขึ้นไป): 700 เยน
Websiteเมืองอิโตะ (Ito) สวนสัตว์ และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo)

ดูแผนที่ เมืองอิโตะ (Ito) สวนสัตว์ และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo)

เที่ยวภูมิภาคโทไก (Tokai) แบบจุใจด้วยบัตรโดยสารสุดคุ้ม !

ภูมิภาคโทไก (Tokai) เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวฤดูหนาวที่น่าสนใจมากมาย ถ้าได้มาเที่ยวแล้ว ทุกคนก็อยากจะไปให้ได้หลายๆ ที่แบบคุ้มค่าใช่มั้ยล่ะคะ?  ถ้าอย่างนั้นเราขอแนะนำตัวช่วยที่จะทำให้ทริปของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยบัตรท่องเที่ยว “Tourist Pass” สุดคุ้มที่ทำให้คุณสามารถขึ้นลงระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ ในภูมิภาคโทไกได้แบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ JR หรือรถบัสค่ะ

• บัตร “ฟูจิซัง-ชิซุโอกะ แอเรีย พาส มินิ” (Fujisan-Shizuoka Area Pass Mini) ที่ช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปยังพื้นที่รอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ รวมถึงพื้นที่ในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) และเมืองฮามามัตสึ (Hamamatsu)

• บัตร “ทาคายามะ-โฮคุริคุ แอเรีย พาส” (Takayama-Hokuriku Area Pass) ที่ช่วยให้คุณสามารถเดินทางจากนาโกย่าไปยังพื้นที่จังหวัดกิฟุ (Gifu) โดยเฉพาะบริเวณหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) และโกคายามะ (Gokayama)

• บัตร “อิเสะ-คุมาโนะ-วากายามะ แอเรีย พาส” (Ise-Kumano-Wakayama Area Pass) ที่ช่วยให้คุณสามารถเดินทางจากนาโกย่าไปยังพื้นที่จังหวัดมิเอะ (Mie) โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางแสวงบุญมรดกโลกคุมาโนะ โคโด (Kumano Kodo)

บัตรโดยสารทุกประเภทสามารถขึ้นลงได้ไม่จำกัด ช่วยให้คุณเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสะดวกและคุ้มค่าสุดๆ

ลองเลือกบัตรโดยสารที่เหมาะกับแผนการเดินทางของคุณ แล้วออกไปสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจในภูมิภาคโทไกกันนะคะ !

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรท่องเที่ยว (Tourist Pass) กรุณาคลิกที่นี่: https://touristpass.jp/th/
*กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับระบบขนส่งสาธารณะที่สามารถใช้บัตรได้ที่เว็บไซต์
*โปรดทราบว่าบัตรนี้อาจไม่สามารถใช้เดินทางไปยังทุกสถานที่ที่แนะนำในบทความนี้ได้

ทัวร์แนะนำในพื้นที่โทไก 

สำหรับใครที่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ เราก็มีทัวร์หลากหลายเส้นทางที่จะพาไปในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งในพื้นที่โทไกซึ่งเราได้แนะนำไปค่ะ หากใครต้องการท่องเที่ยวในพื้นที่โทไกอย่างสะดวกสบาย ลองดูทัวร์ที่เราเลือกมาแนะนำกันได้เลยนะคะ

Contents Index
  1. 1 จังหวัดกิฟุ (Gifu)
    1. 1.1 เมืองทาคายามะ (Takayama) ย่านถนนซันมาจิ ซึจิ (Sanmachi Suji)
    2. 1.2 เมืองนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) หมู่บ้านมาโกเมะ-จุกุ (Magome-juku)
    3. 1.3 เมืองมินะคะโมะ (Minokamo) รถไฟสายนาการะกาวะ (Nagaragawa Railway)
    4. 1.4 เมืองทาคายามะ (Takayama) กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)
    5. 1.5 เมืองเกโระ (Gero) ทัวร์ชมน้ำตกโอซากะฤดูหนาว (Osaka Winter Waterfall Tour)
    6. 1.6 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
  2. 2 จังหวัดมิเอะ (Mie)
    1. 2.1 เมืองโคโมโนะ (Komono) ภูเขาโกะไซโชะ (Mount Gozaisho)
    2. 2.2 เมืองทสึ (Tsu) สวนซุซุกะ โนะ โมริ (Suzuka no Mori Garden)
    3. 2.3 เมืองคุวานะ (Kuwana) การประดับไฟที่นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Illumination)
    4. 2.4 เมืองนาบาริ (Nabari) น้ำตกอาคาเมะ 48 สาย (Akame 48 Waterfalls)
  3. 3 จังหวัดไอจิ (Aichi)
    1. 3.1 เมืองนาโกย่า (Nagoya) โอเอซิส 21 (Oasis 21)
    2. 3.2 เมืองชิตาระ (Shitara) ป่าดงดิบเมนโนกิ (Mennoki Soft Rime Virgin Forest)
    3. 3.3 เมืองโตโยต้า (Toyota) น้ำตกน้ำแข็งที่ลานน้ำพุยุซุย (Yusui Plaza Ice Falls)
    4. 3.4 เมืองกามาโกริ (Gamagori) ลากูน่า เทนโบส (Laguna Tenbosch)
    5. 3.5 เมืองทาฮาระ (Tahara) สวนดอกคาโนลา อิราโกะ (Irago Canola Garden)
    6. 3.6 เมืองคานิเอะ (Kanie) ออนเซ็นโอวาริ (Owari Onsen)
  4. 4 จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)
    1. 4.1 เมืองคาวาสึ (Kawazu) ดอกซากุระคาวาสึ (Kawazu Sakura)
    2. 4.2 เมืองชิโมดะ (Shimoda) อุทยานธรรมชาติสึเมคิซากิ (Tsumekisaki Natural Park)
    3. 4.3 เมืองฟูจิ (Fuji) ดอกบ๊วยในสวนสาธารณะอิวาโมโตะยามะ (Iwamoto-yama Park)
    4. 4.4 เมืองชิซุโอกะ (Shizuoka) ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 223 (เรือเฟอร์รี่อ่าวซุรุกะ – Suruga Bay Ferry)
    5. 4.5 เมืองอาตามิ (Atami) เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเลอาตามิ (Atami Sea Fireworks Festival)
    6. 4.6 เมืองอิโตะ (Ito) สวนสัตว์ และสวนแคคตัสอิซุ (Izu Shaboten Zoo)
  5. 5 เที่ยวภูมิภาคโทไก (Tokai) แบบจุใจด้วยบัตรโดยสารสุดคุ้ม !
  6. 6 ทัวร์แนะนำในพื้นที่โทไก
Kintetsu Line LP R3

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • คุณเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นปีละกี่ครั้ง?

    View Results

    Loading ... Loading ...
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x