รวม 5 แหล่งหาของกิน อาหารขึ้นชื่อ ใน ภูมิภาคโอกินาว่า ที่ต้องไปลองสักครั้ง

อาหารขึ้นชื่อภูมิภาคโอกินาว่า

มาถึงภูมิภาคที่คล้ายกับประเทศไทย เราก็อยากจะเห็นกันใช่มั้ยว่าหน้าตาอาหารเขาเหมือนกับของไทยรึเปล่า หรือจะมีรสชาติแบบไหน ขอบอกไว้เลยว่าไม่เหมือนหรอกนะ จะเหมือนแค่ภูมิอากาศเท่านั้นแหละ ส่วนอาหารก็ต้องไปดูกันเองว่าเป็นแบบไหน

1.โซกิโซบะ / โอกินาว่าโซบะ (Soki Soba / Okinawa Soba)

เมนูแรกที่เราได้พาทุกคนมารู้จักก็คือ โซกิโซบะ หรือ โอกินว่าโซบะ อาหารขึ้นชื่อของภูมิภาคโอกินาว่าที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง ด้วยความแตกต่างจากโซบะทั่วไปทำให้โซกิโซบะเป็นที่นิยมอย่างมาก สิ่งที่แตกต่างจากที่อื่นก็คือ เส้น ที่ไม่ใช่เส้นโซบะเหมือนเราคุ้นเคยกัน แต่เป็นราเมงซี่โครงหมูตุ๋นที่ใช้เส้นราเมงหรือเส้นอูด้ง เพียงแต่ใช้ชื่อเรียกว่า โซบะ เท่านั้น น้ำซุปใสรสชาติกลมกล่อมและเนื้อหมูเคี่ยวจนนุ่ม ทำให้เวลาทานนั้นรู้สึกเหมือนเนื้อหมูละลายอยู่ในปากเลยทีเดียว

2.โกยะจัมปุรุ (Goya Champuru)

โกยะจัมปุรุ หรือมะระผัดไข่สไตล์โอกินาว่า หนึ่งในอาหารที่ถือเป็นหน้าเป็นตาของโอกินาว่าอีกหนึ่งอย่างเลย เพราะความกรอบของมะระและมีรสชาติที่ไม่ขมจนเกินไป บวกกับเบคอนเนื้อนุ่มที่ปรุงด้วยซอสสูตรพิเศษ หอมกลิ่นรมควันเพิ่มความอร่อยเป็นสองเท่า และนอกจากความอร่อยแล้ว มะระยังมีวิตามินซีและวิตามินอีสูง ช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการอ่อนเพลียจากอากาศร้อน ใครกำลังมองหาเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย ก็ต้องลองเมนูนี้เลยนะ ห้ามพลาดเด็ดขาดเลย

3.ราฟุเท (Rafutei)

ราฟุเท (หมูสามชั้นโอกินาว่า) หน้าตาแอบคล้ายต้มพะโล้หมูสามชั้นของประเทศไทยเลย ราฟุเทนั้นเป็นหมูสามชั้นตุ๋นกับซอสสูตรพิเศษ ตุ๋นจนเปื่อยแบบละลายในปากโดยไม่ต้องเคี้ยวให้เมื่อยเลยล่ะ ส่วนมากจะนำมาตุ๋นกับ
เหล้ากลั่นอะวาโมริ โชยุ และน้ำตาลทรายแดง และถูกเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ นานหนึ่งคืน ทำให้มีรสชาติชุ่มฉ่ำและมีรสเผ็ดหวาน ชิ้นโตเต็มปากเต็มคำ ถึงจะดูเหมือนเป็นส่วนที่มีไขมันเยอะ แต่ราฟุเทนั้นกับไม่เลี่ยนเลย เป็นเมนูที่มักเสิร์ฟกันตามโอกาสพิเศษและวันขึ้นปีใหม่ นอกจากนี้ยังนิยมเอาราฟุเทไปใส่ในโซกิโซบะอีกด้วย เป็นอาหารที่กินแล้วเข้ากันสุดๆ

4.จิมามิ โทฟุ / เต้าหู้ถั่วลิสง (Jimami Tofu)

จิมามิ โทฟุ เป็น เต้าหู้ พื้นเมืองของโอกินาว่า ที่มีความพิเศษตรงที่ไม่ได้ทำจากถั่วเหลืองแต่ทำมาจากถั่วลิสง เนื้อสัมผัสจะมีความเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นถั่วลิสง ราดด้วยซอสถั่วเหลือง แต่ถ้ากินแบบต้นตำรับก็จะกินกับโชยุ
รสชาติเค็มๆ หวานๆ หรือจะทำเป็นขนมหวานก็ให้ทานคู่กับผลไม้และราดน้ำผึ้งลงไปจะคล้ายกับพุ้ดดิ้ง นอกจากนี้เมนูนี้ซื้อที่ร้านหรือจะทำทานเองก็ได้ เพราะสามารถทำได้เองไม่ยาก และถั่วลิสงก็ยังอุดมไปด้วยสารพัดประโยชน์บำรุงร่างกาย ได้ทั้งวิตามินอีช่วยดูแลผิว แถมยังช่วยบำรุงสมองและประสาทตา ช่วยเสริมสร้างความจำอีกด้วย

5.อุมิบุโด (สาหร่ายพวงองุ่น) (Umibudou)

ไม่เพียงมีท้องทะเลและทัศนียภาพที่สวยงามเท่านั้นที่โอกินาว่าแห่งนี้ยังมีของดีอีกหนึ่งอย่างที่อยากนำเสนอ คือ สาหร่ายพวงองุ่นอุมิบุโด ที่มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ สีเขียวๆ เหมือนกับพวงองุ่น ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจนถูกขนานนามว่า กรีนคาเวียร์ (คาเวียร์สีเขียว) เพราะตอนที่ทานเข้าไปนั้นจะให้รสชาติที่อ่อนนุ่ม เค็มเล็กน้อยเหมือนกับไข่ปลา นิยมรับประทานคู่กับซอสพอนสึรสเปรี้ยวหน่อยๆ หรือจะนำมาทำเป็นหน้าของซูชิก็ได้นะ

6.เหล้าอะวาโมริ (Awamori)

เหล้าอะวาโมริ เป็นเหล้ากลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานประมาณ 600 ปีและเป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโอกินาว่าอีกด้วย โดยเป็นการนำข้าวไทย (ข้าวอินดิกา) และหมักโดยการเติมน้ำและยีสต์ ซึ่งยีสต์ที่ใส่นั้นคือ “เซลล์ยีสต์สีดำ” เพื่อผลิตกรดซิตริกที่แรงจำนวนมากเพราะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เหมาะแก่การผลิตสุราด้วยอากาศร้อนและชื้น และยังเป็นเซลล์ยีสต์ที่ใช้แค่ในโอกินาว่าเท่านั้น เหล้าอะวาโมรินั้นใช้เวลาในการบ่ม 3 ปีขึ้นไป ถึงจะได้รสชาติที่ยอดเยี่ยมและมีกลิ่นหอม ขั้นตอนการทำนั้นใช้เวลามาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไหมถึงได้รับความนิยิมมากขนาดนี้ ใครสายดื่มต้องลองแล้วนะ

7.ไอศครีม blue seal

มาดับร้อนกันต่อด้วย ไอศครีม blue seal ตัวโลโก้หน้าตาคุ้นๆ กันไหม เหมือนกับยี่ห้อ Foremost บ้านเราเลย เพราะ Blue seal กับ Foremost เป็นเจ้าของเดียวกัน ปัจจุบันบลูซีลได้รับการยกย่องให้เป็น Okinawa’s Iconic Ice Cream มีการเปิดร้านจำหน่ายในโอกินาว่ามากกว่า 75 แห่ง รวมถึงขยายสาขาไปยังจังหวัดอื่นๆ อีกหลายสาขา ส่วนผสมหลักๆ จะเป็นน้ำมันจากพืช ทำให้ตัวไอศครีมมีสัมผัสที่นุ่มละมุน ละลายในปาก แตกต่างกับไอศกรีมยี่ห้ออื่นๆ และยังมีรสชาติมากกว่า 30 รสชาติมีทั้งรสวานิลลา มินต์ช็อกโกแลต รสมันม่วงหวานที่เป็นของดีประจำโอกินาว่า เพราะความอร่อยและมีรสชาติที่หลากหลายนี้จึงทำให้เป็นไอศครีมที่ยืนหนึ่งในใจใครหลายๆ คนเลย

8.ทาร์ตมันหวานสีม่วง (Sweet Potato Tart)

ปิดท้ายกันด้วยของหวานสไตล์โอกินาว่า ทาร์ตมันหวานสีม่วง ขนมที่เป็นของดีของเด่นเลย เพราะใครไปใครมาก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือตลอด โดยตัวมันหวานสีม่วงนี้ตามชื่อเลย เพราะมีรสชาติหวานมัน หอม ไม่มีการใส่สีหรือใส่สารปรุงแต่งใดๆ ความหวานล้วนมาจากมันม่วงที่เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกในโอกินาว่าเท่านั้น ซึ่งมีรสชาติดีที่สุดในญี่ปุ่นเลย และยังมีใยอาหารและวิตามินอีกหลายชนิดที่เพิ่มประโยชน์ให้แก่ร่างกาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าลิ้มลองมากๆ

ย่านของกินภูมิภาคโอกินาว่า

ต่อไปจะพาไปรู้จักกับย่านของกินที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกันบ้าง ว่าจะน่าเดินเที่ยวขนาดไหน บรรยากาศโดยรอบเป็นยังไง ก็ไปดูกันเลย

1.ย่านโคคุไซ (Kokusai)

Kokusai-dori หรือถนนโคคุไซ มาเที่ยวโอกินาว่าต้องมาเยือนให้ได้ เพราะเป็นถนนสายหลักที่ทอดยาว 2 กิโลเมตร ผ่านใจกลางเมืองนาฮะ ถนนสายนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “1 ไมล์มหัศจรรย์“ (ซึ่งเป็นการเล่นคำของ Mile > Miracle) สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหารแนว
อิซากายะ ยังมีสินค้ายอดนิยมของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิที่ไม่มีขายที่ไหนนอกจากที่นี่ และร้านไอศครีม blue seal ก็มีขายที่นี่ด้วยนะ อย่าลืมแวะมาลองชิมกันล่ะ

ย่านโคคุไซ (Kokusai)

2.ตลาดมาคิชิ (Makishi Public Market)

ตลาดเก่าแก่ประจำเมืองนาฮะ แห่งโอกินาว่า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1951 หลังเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และถือเป็นย่านที่คึกคักที่สุดของโอกินาว่าแข่งกับถนนโคคุไซเลย บรรยากาศภายในตลาดจะเป็นความอบอุ่นในแบบของโอกินาว่าดั้งเดิม ร้านค้ามากมายจะตั้งเรียงรายไปตามถนนแต่ละเส้นและขายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล มีปลาปากนกแก้ว อาบาสะ (เม่น) และปลาอีกหลากหลายชนิดขายกันอยู่เต็มไปหมด และนอกจากนี้ยังมีผักผลไม้ประจำท้องถิ่นอยู่ด้วย ถ้าอยากทานผลไม้ที่คล้ายๆ กับประเทศไทยก็ต้องมาที่นี่เลย ทั้งสับปะรด กล้วย มีหมด

ตลาดมาคิชิ (Makishi Public Market)

3.ถนนสึโบย่า ยาชิมุง (Tsuboya Yachimun)

ถนนสายเครื่องกระเบื้อง ถือว่าเป็นแหล่งขายของฝากชื่อดังในจังหวัดโอกินาว่า ความพิเศษของถนนเส้นนี้ก็คือ กระเบื้อง เพราะมีร้านขายกระเบื้องและมีร้านเครื่องปั้นดินเผาเยอะมาก ตลอดสองข้างทางจะเห็นร้านที่ตกแต่งด้วยอิฐแดงหลากหลายแบบ มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่น่ารักๆ ที่ตกแต่งตามสไตล์โอกินาว่า และยังมีร้านค้าโบราณที่ขายของสไตล์เก่าๆ ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบสะสมของเก่ามากๆ ถ้ามาที่นี่ขอแนะนำ ตุ๊กตาดินเผารูป ซีซ่า ที่เป็นสิงโตของโอกินาว่ากลับไป เพราะชาวโอกินาว่าเชื่อกันว่าจะเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง ถ้าใครอยากลองปั้นดินเผาด้วยตัวเอง ที่นี่ก็มีให้ได้ลองด้วยนะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีกิจกรรม และของกินอย่างหลากหลายเลยแหละ

ถนนสึโบย่า ยาชิมุง (Tsuboya Yachimun)

4.ย่านยะไตมูระ (Yatai Mura)

ย่านยะไตมูระ อีกหนึ่งย่านของอร่อยในภูมิภาคโอกินาว่า เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาก ตั้งอยู่บนถนนโคคุไซ ในเมืองนาฮะ จังหวัดโอกินาว่า ตลอดข้างทางมีร้านอาหารมากกว่า 20 ร้าน ส่วนมากเป็นร้านนั่งทานเหมาะสำหรับการเลี้ยงฉลองหรือสังสรรค์เป็นอย่างมาก มีโคมไฟประดับดูครึกครื้นตลอดเวลา มีทั้งของอร่อยอย่าง โซกิโซบะ ที่เป็นอาหารพื้นเมือง และมีทั้งร้านเหล้าเบียร์ให้ได้นั่งชิล ชมบรรยากาศสบายๆ อีกด้วย

ย่านยะไตมูระ (Yatai Mura)

5.ตลาดปลาโทมาริยุมาจิ (Fish market Tomari Iyumachi)

โทมาริยุมาจิเป็นตลาดปลาในเมืองนาฮะ เป็นตลาดปลาในร่มติดแอร์เดินสบายไม่ร้อน มีลานจอดรถทำให้สะดวกสบายมาก ยิ่งใครเป็นสายปลาทูน่านะ มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง เพราะเป็นแหล่งขายปลาทูน่าชั้นเยี่ยมจากสหกรณ์การประมงโอกินาว่า ถ้ามาเช้าๆ มักจะมีการแล่ปลาให้ดูกันอย่างสดๆ บรรยากาศในตลาดทั้งวันก็จะมีผู้คนคึกคัก นักท่องเที่ยวที่มาตลาดส่วนมากก็มักจะมาหาอาหารทะเลสดๆ ทานกัน นอกจากจะขายของสดให้กลับไปทำทานเองที่บ้านแล้ว ที่นี่ก็ยังมีร้านที่ขายอาหารปรุงสุกอยู่ด้วย แต่มีเพียงไม่กี่ร้านที่บริการทำอาหารให้ จึงทำให้แต่ละร้านนั้นเต็มไปด้วยลูกค้ามากมายเลย และที่สำคัญที่นี่ยังมีปลาที่มีแค่ในโอกินาว่าเท่านั้น อย่าง ปลากุรุคุน ปลาท้องถิ่นของที่นี่ มีเนื้อขาว เนื้อออกกรอบๆ ไม่มีกลิ่นคาวใดๆ ทานคู่กับวาซาบินี่ชนะเลิศเลย

ตลาดปลาโทมาริยุมาจิ (Fish market Tomari Iyumachi)

ข้อสรุป

ภูมิภาคโอกินาว่า ถึงจะเป็นภูมิภาคที่อยู่ใต้สุด แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน ของฝาก และแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งกิน ไม่แพ้ภูมิภาคอื่นๆ เลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่มีครบทั้งของคาว ของหวาน ของสดอย่างพวกอาหารทะเล มีตลาดปลาขนาดใหญ่หลายที่ มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้ได้ไปลิ้มลอง ถ้าหากใครมีโอกาสได้มาใต้สุดของญี่ปุ่น ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวชม และชิมของอร่อยๆ ที่โอกินาว่ากันด้วยนะ