Ishibashi : สุกี้ยากี้ในตำนาน
Ishibashi คือ ร้าน สุกี้ยากี้ ที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโตเกียว ร้านแห่งนี้เปิดมานานกว่า 143 ปีแล้วตั้งแต่ปี 1872 หลังจากสิ้นสุดยุคเอโดะไปแล้วเพียง 5 ปี และยังเป็นร้านที่ได้ 1 Michelin Star อีกด้วย
บรรยากาศภายในร้านยังคงความเก่าแก่ของบ้านญี่ปุ่นในยุคโบราณไว้ได้เกือบทั้งหมด การตกแต่งก็เรียบง่ายไม่หวือหวา
หลังจากทำการจองคิวล่วงหน้าด้วยการให้ทางโรงแรมที่เราเข้าพักช่วยดำเนินการจองให้เรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะจัดเตรียมห้องอาหารแบบส่วนตัวเพื่อรองรับเราโดยเฉพาะ ภายในห้องจะมีพนักงานผู้หญิง หรือ Nakai ในภาษาญี่ปุ่น คอยดูแลและให้บริการเราในชุดกิโมโน ช่วยเพิ่มบรรยากาศการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
Nakai จะคอยบริการเราทุกอย่างโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากการรอคอยอย่างใจเย็น เพื่อลิ้มรสชาติมื้ออาหารสุดพิเศษนี้
ในระหว่างที่รอ เราจะได้รับการเสิร์ฟเมนูเรียกน้ำย่อยที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลมาให้ทานลดความหิวกันก่อน ซึ่งแต่ละเมนูนั้นไม่ใช่เมนูที่พิเศษที่สุด แต่ทุกจานนั้นผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจนได้รสชาติดีเยี่ยม
ร้าน Ishibashi นั้นโด่งดังมากในเรื่องสุกี้ยากี้ โดยที่เมนูก็แสนจะเรียบง่าย มีเพียงผัก เต้าหู้ เส้นโซบะ และเนื้อวัว
ความพิเศษที่ทำให้ร้านแห่งนี้มีชื่อเสียง คือ การเลือกใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะเนื้อวัวจาก Kagoshima ที่ผ่านการเลี้ยงมาเป็นอย่างดี จนทำให้ไขมันนั้นแทรกซึมอยู่ทั่วทุกอณู ได้เป็นเนื้อวากิวคุณภาพเยี่ยมระดับ A5 ลายหินอ่อนสวยงาม สีชมพูสด น่ากินสุด ๆ
หลังจากหนำใจกับเนื้อวากิวคุณภาพเยี่ยมแล้ว อีกเมนูที่อยากให้ลอง คือ Ojiya โดยการนำข้าวมาใส่ลงในหม้อที่ยังคงมีซอส สุกี้ยากี้ เหลืออยู่ ตีไข่ให้แตกแล้วเทราดให้ทั่วด้านบนข้าว จากนั้นปิดฝาแล้วรอให้ไข่สุก จะได้เป็นเมนูข้าวไข่สุกี้ยากี้ที่จะมาปิดท้ายอาหารมื้อนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
Ishibashi
ที่อยู่ | 3-6-8 Sotokanda, Chiyoda-ku, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza Line ลงสถานี Suehirocho ออกทางออก 3 แล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | 17.00-21.30 น. (หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล) |
ราคา | 10,000-14,999 เยน |
โทรศัพท์ | 03-3251-3580 |
Website | จองโต๊ะ Ishibashi |
Imafuku : น้องใหม่แห่ง Michelin Star
จากอดีตผู้ค้าส่งเนื้อสัตว์ ได้กลายมาเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเนื้อวัวคุณภาพดีพร้อมเสิร์ฟในเมนู สุกี้ยากี้ และร้านแห่งนี้นั้นเพิ่งก้าวเข้าสู่วงการ 1 Michelin Star มาหมาด ๆ ในปี 2015 นี้เอง
Cr: kuroge-wagyu.com
ที่นี่เลือกใช้เนื้อวัววากิวสันนอกสำหรับเมนูสุกี้ยากี้ โดยการนำเนื้อไปชุบในซอสหมักสูตรเข้มข้นก่อนนำไปย่าง แล้วนำไปเคี่ยวอีกครั้งในซอสสูตรเจือจาง เป็นการรวมเอารสชาติสไตล์คันโตและคันไซเข้าไว้ด้วยกัน
Cr: kuroge-wagyu.com
เมื่อเนื้อวากิวได้ที่แล้ว ก็ถึงเวลาของพระรองอย่างไข่ที่ตีจนเข้ากัน มีความฟูคล้ายกับขนมเมอแรงค์ จุ่มเนื้อลงในไข่ และพร้อมรับความอร่อยที่นุ่มละมุน อุ่น ลื่นคอ
Cr: kuroge-wagyu.com
การตระเตรียมอาหารทุกเมนูก็ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่มีเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารญี่ปุ่นคอยควบคุมดูแลให้เราเป็นอย่างดี
และคุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อาหารญี่ปุ่น 4 ฤดู จากการเลือกนำเอาวัตถุดิบตามฤดูกาลมาใช้ในการปรุงอาหาร ซึ่งบางอย่างอาจหาได้เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
Imafuku
ที่อยู่ | 1-12-19 Shirokane, Minato-ku, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Mita Line ลงสถานี Shirokanetakanawa ออกทางออก 4 แล้วเดินอีก 5 นาที |
เวลาทำการ | 17.00-24.00 น. |
ราคา | 10,000-14,999 เยน |
โทรศัพท์ | 03-5420-2914 |
Imafuku |
Hiyama : ส่งตรงเนื้อเกรด A
Cr: hiyama-gr.com
ในย่านเก่าอย่าง Nihonbashi ที่ซึ่งคุณจะสามารถพบกับร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่มากมายที่ยังหลงเหลืออยู่ให้เห็น รวมถึงร้าน สุกี้ยากี้ อย่าง Hiyama แห่งนี้ด้วย
Cr: hiyama-gr.com
บรรยากาศร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีจำนวนหลายห้องหลายขนาดเพื่อแบ่งแยกความเป็นส่วนตัวของลูกค้าแต่ละกลุ่ม การแบ่งห้องแบบนี้ชวนให้นึกถึงบ้านชาในสมัยก่อนของชาวญี่ปุ่นที่จัดพิธีชงชาขึ้นภายในบ้าน
Cr: hiyama-gr.com
และไม่ต้องกังวลกับหม้อสุกี้ยากี้ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า เพราะที่นี่เขามีพนักงานเสิร์ฟที่คอยบริการอย่างใกล้ชิดอยู่ที่โต๊ะของคุณ ตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย
Cr: hiyama-gr.com
เนื้อวัวสด ๆ ที่ถูกส่งมาตรงมาจากร้านขายเนื้อที่อยู่ชั้นล่างของร้าน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ทานเนื้อสดอร่อย คุณภาพดี และที่นี่ยังคัดสรรเฉพาะเนื้อวากิวจากวัวเพศเมียเท่านั้นด้วย
Cr: hiyama-gr.com
เนื้อเกรด A ที่กำลังสุกส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนหิว เมื่อกินแล้ว เนื้อนั้นนุ่มอร่อยจนแทบจะละลายในปาก ผักหลากชนิดในหม้อก็สุกตามกันมา และเมื่อได้ที่แล้วก็ใช้ตะเกียบคีบเนื้อและผักจุ่มลงในไข่ตามแบบฉบับสุกี้ยากี้ แล้วคุณจะได้สัมผัสกับความอร่อยที่แท้จริง
Hiyama
ที่อยู่ | 2-5-1 Nihonbashiningyocho, Chuo-ku, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Asakusa Line ลงสถานี Ningyocho ออกทางออก A3 แล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | วันจันทร์-เสาร์ : 11.30-14.00 น./17.00-21.00 น. |
ราคา | 10,000-14,999 เยน |
โทรศัพท์ | 03-3666-2901 |
Website | Hiyama |
Chinya : สุกี้เนื้อ ไม่ไกลจากอาซากุสะ
ร้าน Chinya ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1880 กลิ่นอายของร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมยังคงอยู่ และที่นี่ยังได้รับการยอมรับจาก Michelin Guide ว่าเป็นร้านอาหารที่รสชาติดีในราคาคุ้มค่า และควรค่าแก่การเดินทางมากิน
เดินเพียง 30 วินาที จากประตู Kaminarimon ย่านอาซากุสะ ก็จะพบกับร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่เก่าแก่ ตั้งมาตั้งแต่สมัยเอโดะ
ทางร้านสามารถรองรับลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาเป็นคู่ กลุ่มเล็ก หรือกลุ่มใหญ่ ก็มีห้องให้เลือกหลายแบบ ทั้งห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ห้องแบบส่วนตัวขนาดกลางที่มีทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกตามความต้องการของลูกค้า
เมนู สุกี้ยากี้ แบบเป็นเซ็ตมีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบเนื้อวัวเกรดธรรมดา (Tsubaki) หรือเนื้อวัวเกรดดี (Kaeda) และเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยม (Kiri)
เราขอแนะนำให้สั่งแบบ Kiri ไปเลย เพื่อให้เป็นมื้อสุดพิเศษที่อร่อยแบบฟินสุด ๆ เพราะคุณจะได้อิ่มอร่อยกับเนื้อคุณภาพดีลวดลายหินอ่อน ที่รับรองได้ว่า คนรักเนื้อถึงกับต้องเก็บไปนอนฝัน
ต้มเนื้อและผักเข้ากันกับซอสสุกี้ยากี้จนเดือดปุด ๆ เพียงแค่มองก็แทบจะอดใจรอให้สุกไม่ไหว เมื่อพร้อมแล้วก็ถึงขั้นตอนการชุบไข่ดิบ แล้วเอาเข้าปาก และคุณจะต้องจดจำรสชาติของสุกี้ยากี้หม้อนี้ไปอีกนาน
Chinya
ที่อยู่ | 1-3-4 Asakusa, Taito-ku, Tokyo 111-0032 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza Line ลงสถานี Asakusa ออกทางออก 2 แล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | วันจันทร์-ศุกร์ : 12.00-15.30 น./16.30-21.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ : 11.30-21.00 น. |
ราคา | ประมาณ 10,000 เยน |
โทรศัพท์ | 03-3841-0010 |
Website | Chinya |
ข้อสรุป
โปรดอย่าสับสนระหว่าง สุกี้ยากี้ กับ ชาบู เพราะสองเมนูนี้มีความแตกต่างกัน ซึ่งจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไรนั้น เราจะบอกให้เพื่อน ๆ ได้รู้กันค่ะ
สุกี้ยากี้ คือ เมนูที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกันในฤดูหนาว เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วยังช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น วัตถุดิบหลักที่ใช้ คือ เนื้อสัตว์ ผักต่าง ๆ เต้าหู้ และน้ำซุปมาเทลงในหม้อ ปรุงรสด้วยโชยุ น้ำตาล ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน มาต้มรวมกันจนสุก แล้วใช้ตะเกียบคีบในการกิน โดยการคีบเอาเนื้อจากหม้อมาจุ่มในไข่แทนน้ำจิ้ม เท่านี้ก็อร่อยได้แบบฟิน ๆ
ส่วนชาบูเป็นอาหารประเภทหม้อไฟเหมือนกัน แต่ชาบูจะเป็นการลวกเนื้อให้สุกพอดี แล้วจิ้มน้ำจิ้มงาหรือพอนซึ แต่สุกี้ยากี้จะต้มพร้อมกันทั้งหมดนั่นเอง