อาหารขึ้นชื่อของภูมิภาคคันโต
สำหรับใครที่มาเที่ยวภูมิภาคคันโตแล้วยังคิดไม่ออกว่าจะทานอะไรดี หรือจะไปหาของกินอร่อยๆ ได้ที่ย่านไหน หมดห่วงได้เลย เพราะบทความนี้เราได้รวบรวมทั้งอาหารขึ้นชื่อ และย่านกินดังๆ มาไว้ให้ทุกคนแล้ว บอกเลยว่าหากคุณได้ลิ้มลองแล้วอาหารตามย่านต่างๆ เหล่านี้แล้ว คุณจะติดอกติดใจในความอร่อยจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลยล่ะ
1. หม้อไฟปลาอังโค (Anko Nabe)
หม้อไฟปลาอังโค เมนูที่ยอดฮิตในฤดูหนาวที่ขึ้นชื่อมากๆ ในภูมิภาคคันโตโดยเฉพาะจังหวัดอิบารากิ โดยเมนูนี้จะใช้ปลาอังโคเป็นวัตถุดิบหลัก ตุ๋นรวมกับวัตถุดิบอื่นๆ อีก 7 อย่างในหม้อ เพิ่มรสชาติด้วยมิโซะหรือโชยุ น้ำซุปเข้มข้นด้วยตับปลาอังโค เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เพราะเนื้อปลานั้น
มีแคลอรี่ต่ำ แต่มีคอลลาเจนสูง จึงเชื่อกันว่ายิ่งทานก็จะยิ่งผิวสวย
2. ราเมนเต้าหู้ (Tofu Ramen)
ราเมงเต้าหู้ คือ ราเมงในซุปรสโชยุ ราดด้วยเต้าหู้ผัดและหมูสับปรุงรสน้ำข้นหนืดๆ คล้ายกับราดหน้าของไทย
ถือเป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของไซตามะ หาได้หลายร้านในตัวเมืองไซตามะ เป็นเมนูที่อาจจะแปลกตาสำหรับ
หลายคน ถ้ามีโอกาสต้องลองนะ
3. มอนจายากิ (Monjayaki)
มอนจายากิ คือ อาหารกระทะร้อนคู่แข่งโอโคโนมิยากิ บางร้านในญี่ปุ่นอาจจะให้เราลงมือทำเองด้วยนะ เมนูนี้
จะทำจากแป้งผสมน้ำและเครื่องปรุงรส กะหล่ำปลีหั่นฝอย เนื้อสัตว์ นำไปย่างบนแผ่นเหล็ก ปิดท้ายด้วยสาหร่าย
และปลาแห้ง โดยเวลาทานจะใช้ช้อนเหล็กที่คล้ายกับตะหลิวขนาดเล็ก เรียกว่า เฮระ ในการตัดให้พอดีคำ
4. บะหมี่โฮโต (Hoto Noodles)
บะหมี่โฮโต เป็นบะหมี่ในน้ำซุปมิโซะแสนอร่อยประจำจังหวัดยามานาชิ ที่เสิร์ฟในหม้อเหล็ก เส้นลักษณะคล้ายกับอุด้ง แต่เส้นใหญ่และแบนเป็นพิเศษ นำมาต้มในหม้อไฟรวมกับวัตถุดิบอื่นๆ เช่น เห็ด เกี๊ยว ฟักทอง และผักอื่นๆ ตามฤดูกาล รสชาติกลมกล่อม หอมมิโซะสุดๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ไปลองชิมดูจริงๆ
5. ยากิมันจู (Yaki Manju)
cr:visit-gunmaยากิมันจู ขนมขึ้นชื่อของจังหวัดกุนมะ จุดเด่นอยู่ที่การทาซอสมิโซะรสหวานๆ เค็มๆ ลงบนแป้งมันจูนุ่มๆ ก่อนจะนำไปย่าง อีกทั้งยังมีแบบที่ข้างในสอดไส้ถั่วแดงกวนด้วยนะ หอมหวาน หน้าตาชวนให้ลองขนาดนี้อดใจไม่ไหวแล้ว ต้องไปกินให้ได้ถึงจะหายอยาก!
ย่านของอร่อยในภูมิภาคคันโต
หลักจากที่ทุกคนได้รู้จักของกินอร่อยๆ กันไปแล้ว ว่าแต่เราจะไปลิ้มลองอาหารเหล่านี้กันได้ที่ไหนดีล่ะ นี่เลยเรามี 6 ย่านดังมาแนะนำให้ทุกคนได้แวะไปชิม ช้อป และเดินเล่นกันแบบชิลๆ สบายๆ หากใครไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนล่ะก็สามารถแวะมาที่นี่กันได้นะ1. ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
อาซากุสะเป็นอีกหนึ่งย่านที่มีนักท่องเที่ยวคึกคักอยู่เสมอ นอกจากมาชมวัดเซนโซจิและศาลเจ้าแล้ว เรื่องอาหารการกินก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะย่านนี้มีร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดังมากมายเรียงรายอยู่ท่ามกลางบรรยากาศ
สมัยเอโดะ ถือเป็นหนึ่งใน Gourmet spot สำหรับนักชิมอาหาร ที่โดดเด่นของโตเกียวเลยแหละ มีของกินรสชาติ
ไม่ธรรมดามากมายจนเลือกไม่ถูก ไม่ว่าจะเป็น เทมปุระนุ่มฟู กรอบกำลังดี ไดกะคุอิโมะ มันหวานทอดกรอบ
ราดน้ำผึ้งสไตล์ญี่ปุ่น เมล่อนปังหอมหวานชิ้นโต ราเม็งข้อสอบเจ้าดัง และอีกมากมาย ถ้ามาโตเกียวแล้วไม่รู้
จะไปทานอะไรดีก็มาที่ย่านอาซากุสะดูนะ รับรองว่าที่นี่มีอะไรให้คุณได้ลิ้มลองมากกว่าที่คิด
ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
ที่อยู่ | Asakusa, Taito, Tokyo 111-0032 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ไปลงที่สถานี Kanda ใช้เวลา 2 นาที จากนั้นให้เปลี่ยนไปนั่ง Tokyo Metro Ginza Line ไปลงที่สถานี Asakusa ใช้เวลาประมาณ 10 นาที |
2. ย่านชิบูย่า (Shibuya)
ชิบูย่า ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของวัยรุ่นโดยเฉพาะในด้านแฟชั่น เนื่องจากมีแหล่งช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า
ขนาดใหญ่ ร้านค้า รวมทั้งช็อปแบรนด์ดังมากมาย ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพากันมาท่องเที่ยว
เป็นจำนวนมาก หากเดินเล่นจนเหนื่อยก็มีร้านอาหารมากมายให้เติมพลังกัน อย่าง เนื้อทอดอันโด่งดังที่มีคนต่อคิว
ยาวมาก ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแท้ๆ รสเข้มข้น ราเมนเส้นเหนียวนุ่มหนึบหนับ และอื่นๆ อีกมากมาย
ย่านชิบูย่า (Shibuya)
ที่อยู่ | Shibuya, Shibuya, Tokyo 150-0002 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ไปลงที่สถานี Shibuya ใช้เวลาประมาณ 25 นาที |
3. ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
เดินต่อมาไม่ไกลจากชิบูย่า ก็จะพบอีกหนึ่งย่านสุดฮิตที่นักเที่ยวไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง คือ ย่านชินจูกุ ย่านนี้
มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง สวนสาธารณะ ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมรวบของเด็ดของดีโตเกียวเอาไว้อย่าง
ครบรส แน่นอนว่ามีร้านอาหารให้เลือกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซูชิสายพานราคาย่อมเยา ไก่ทอดหลากสไตล์
รสชาติถูกใจ ทงคัตสึ กรอบนอกนุ่มใน สึเคเมนรสชาติเข้มข้นถึงใจ และเมนูเด็ดอีกมากมายจนบรรยายไม่ไหว
เลยทีเดียว
ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
ที่อยู่ | Shinjuku, Shinjuku, Tokyo 160-0022 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi สีแดงมาลงที่สถานี Shinjuku ใช้เวลาประมาณ 18 นาที |
4. ย่านอุเอโนะ (Ueno)
อุเอโนะ ที่ตั้งของตลาดช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว หรือตลาดอะเมะโยโกะ (Ameyoko Market) ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และยังเป็นที่ย่านของร้านอาหารชื่อดัง
ร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น หากมาเที่ยวย่านนี้ในตอนเย็นๆ ก็จะได้เจอกับชาวญี่ปุ่นที่มาแวะกินดื่มกันหลังเลิกงาน
อีกด้วย ของกินแสนอร่อยในย่านนี้ที่หลายๆ คนไม่ควรพลาด คือ ซูชิปลาสด ราเมงซุปกระดูกหมูสูตรเข้มข้น
ปลาไหลรสเด็ด ทาโกยากิ ไทยากิ และเมนูเด็ดขึ้นชื่ออีกมากมายเลย
ย่านอุเอโนะ (Ueno)
ที่อยู่ | Ueno, Taito, Tokyo 110-0005 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ไปลงที่สถานี Ueno ใช้เวลาประมาณ 8 นาที |
5. ย่านคาวาโกเอะ (Kawagoe)
คาวาโกเอะ เมืองเก่าสุดน่ารัก ที่ได้ฉายาว่า “เอโดะน้อย” เพราะที่นี่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและบรรยากาศ
แบบญี่ปุ่นโบราณเอาไว้ นับเป็นย่านที่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์มากๆ อีกแห่งหนึ่ง ภายในย่านมีทั้งอาคารบ้านเรือน
ร้านอาหาร ร้านค้า และร้านขนมโบราณ ไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้ก็คือ เมนูจากมันหวานขึ้นชื่อประจำท้องถิ่น เช่น
ชูครีม มันหวานทอดแผ่นใหญ่ มันหวานเผาโอ่งแบบดั้งเดิม รวมถึงเมนูอื่นๆ อย่างซอฟท์ครีมหลากรส คาวาโกเอะ
พุดดิ้งนุ่มเด้ง และอาหารอื่นๆ อีกมากมาย สายกิน สายเที่ยว สายถ่ายรูปถูกใจแน่นอน
ย่านคาวาโกเอะ (Kawagoe)
ที่อยู่ | Kawagoe, Kawagoe, Saitama 350-0852 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Ikebukuro หรือสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟสาย JR Saikyo Line ไปลงที่สถานี Kawagoe ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที |
6. ตลาดปลานาคามินาโตะ (Nakaminato Fish Market)
ตลาดปลานาคามินาโตะ ตั้งอยู่ในเมืองฮิตาชินากะ จังหวัดอิบารากิ เป็นหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด คุณจะได้ชิมสารพัดอาหารทะเลสที่จับมาสดๆจากท่าเรือนาคามินาโตะ อาทิ ปลาลิ้นหมา ปลาจาน หมึกกล้วยญี่ปุ่น และซูชิหรือดงบุริ ที่ให้ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ชิ้นใหญ่เต็มคำในราคาแสนย่อมเยาอีกด้วย
ใครชอบอาหารทะเล ห้ามพลาดกับตลาดปลานาคามินาโตะ สวรรค์ของอาหารทะเลที่แท้ทรู
ตลาดปลานาคามินาโตะ (Nakaminato Fish Market)
ที่อยู่ | 19-8 Minato, Hitachinaka, Ibaraki 311-1221 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Joban Line มายังสถานี Katsuta แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ Hitachinaka Seaside Railway มาลงที่สถานีนา Nakaminato และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 10 นาที |