Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ) จุดชมวิวที่ต้องไปเช็คอิน

16/11/2023
Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ) อาจเป็นชื่อหมุดหมายในการเดินทางของใครหลายคนที่ต้องการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะกับคนที่ชอบชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ หรือทิวทัศน์ในยามค่ำคื่น เรียกได้ว่าจะไปเที่ยวช่วงไหนก็มีความงดงามที่แตกต่างกันไปรอให้คุณได้สัมผัส ซึ่งวันนี้เราจะอาสาพาคุณไปทำความรู้จักกับ Mount Hakodate ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ จนถึงขั้นได้รับการยกย่องว่าเป็น 1ใน 3 ของจุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ทำความรู้จัก Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ)

Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ) ขึ้นชื่อในเรื่องของทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามจนหลายคนอยากไปสัมผัสด้วยสายตาตัวเอง การันตีด้วยด้วยการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 ของจุดชมวิวที่สวยที่สุดในประเทศญี่ป่น ซึ่งประกอบไปด้วยภูเขารอคโค(Mount Rokko) ที่โกเบ(Kobe), ภูเขาอินาซะ(Mount Inasa) ที่นางาซากิ(Nagasaki) แล้วก็ Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ) แห่งนี้นั่นเอง โดยที่นี่ตั้งอยู่บริเวณปลายคาบสมุทรทางตอนใต้เรียกได้ว่าเกือบจะกลางใจเมืองฮาโกดาเตะเลยก็ว่าได้ โดยมีความสูงอยู่ที่ 334 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล พอรวมกับตำแหน่งที่ตั้งซึ่งไม่ไกลจากตัวเมือง ทำให้สามารถมองเห็นท่าเรือและท้องทะเลได้อย่างชัดเจน เป็นภาพที่ผู้มาเยือนต่างประทับใจภาพหนึ่งเลยทีเดียวล่ะ

จุดเด่นของภูเขาฮาโกดาเตะ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่า Mount Hakodate นั้น ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากหากอยากมองทัศนียภาพของเมืองนี้ ซึ่งบอกเลยว่าสะดวก รวดเร็ว และตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจสุดๆ โดยหากเดินทางไปคลละฤดูก็จะได้สัมผัสภาพจำที่แตกต่างกันออกไป

โดยหากคุณมาท่องเที่ยวภูเขาฮาโกดาเตะในช่วงฤดูหนาว พอมองลลงมาด้านล่างก็จะพบกับสีขาวนวลของหิมะ ที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ซึ่งหาดูไม่ได้ในบ้านเรา เรียกว่า “มองความสวยจนลืมความสูงเลยล่ะ” โดยถ้าอยากให้คุ้มค่ากับการเดินทางควรมาถึงในช่วงเวลาราวๆ 15.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ยังมีแสงแดดทำให้มองเห็นความสวยงามของหิมะที่ปกคลุมอยู่เบื้องล่าง แต่ฤดูอื่นก็สวยไม่แพ้กันทั้งฤดูใบไม้ผลิ หรือช่วงเวลาที่ใบใบไม้กำลังเปลี่ยนสีผลัดใบ

สำหรับสิ่งที่น่าจะประทับใจนักท่องเที่ยวแทบทุกคนที่มาเยือน Mount Hakodate นั้นแน่นอนว่าสมคำร่ำลือ นั่นก็คือจุดชมวิวของที่นี่นั่นเอง บอกได้เลยว่าเป็น “วิวหลักล้าน” ที่แท้จริง ไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยวิธีไหน ระหว่างทางก็จะมีสิ่งสวยๆ งามๆ ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ ซึ่งช่วงเวลาที่สวยที่สุดที่นักท่องเที่ยวต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันก็คือช่วงระหว่างพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน กับภาพอ่าวฮาโกดาเตะ ท่าเรือ ตัวเมือง และแสงของพระอาทิตย์ยามอัสดง

และพอถึงช่วงเวลาที่มืดสนิท มองลงไปจะเห็นแสงไฟระยิบระยับราวกับดวงดาวนับล้านดวง เป็นความทรงจำที่งดงามขนหลายคนจนอยากจะกลับมาอีกครั้งพร้อมแนะนำให้คนอื่นได้มาเห็น เพราะแต่ละช่วงที่เดียวกันแต่ความสวยงามจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อ่อแล้วใครที่กลัวว่าจะไม่มีของกินสบายใจได้ครับ เพราะข้างบนมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านขายของที่ระลึกอีกด้วยล่ะ

การเดินทางสู่จุดชมวิวและหอดูดาวบน Mount Hakodate

สำหรับการเดินทางมุ่งสู่จุดชมวิวของภูเขาฮาโกดาเตะสามารถเดินทางได้หลายวิธีด้วยกัน แต่ที่ตื่นเต้นและท้าทายมากที่สุดก็คงจะเป็นการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า (Mt. Hakodate Ropeway) ที่สถานีโมโตะมาจิ(Motomachi) ซึ่งมีออกทุกๆ 5-10 นาที ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 นาที เท่านั้น ซึ่งวิวบนกระเช้าลอยฟ้าก็อย่างที่บอกเอาไว้ตอนต้นว่า “สวยจนลืมความสูง” เตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพเอาไว้ได้เลย (แต่ช่วงนี้เขาปิดปรับปรุง ก่อนเดินทางควรตรวจสอบให้แน่ใจทางเว็บไซต์ https://334.co.jp/en

เวลาทำการของ Mt. Hakodate Ropeway

ช่วงเวลารอบแรกเที่ยวสุดท้ายขาขึ้นเที่ยวสุดท้ายขาลง
ระหว่าง 20 เม.ย. – 30 ก.ย.เวลา 10:00 น.เวลา 21:50 น.เวลา 22.00 น.
ระหว่าง 1 ต.ค. – 19 เม.ย.เวลา 10:00 น.เวลา 20:50 น.เวลา 21.00 น.

ราคาค่าโดยสาร Mt. Hakodate Ropeway

ช่วงวัยตั๋วเที่ยวเดียวตั๋ว ไป-กลับ
ผู้ใหญ่1,200 เยน1,800 เยน
เด็ก600 เยน900 เยน
เด็กอายุ 0-3 ปีฟรีฟรี
กรณีเข้าชมเป็นกลุ่ม 15 คนขึ้นไปมีส่วนลดมีส่วนลด

โดยนอกจากการนั่งรถกระเช้าลอยฟ้าแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ อีก โดยเริ่มต้นจาก Hakodate Station

– เดินทางด้วยรถยนต์ ถึงยอดเขาโดยตรง ในช่วงกลางเดือนเมษายน ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน (ปิดถนน 17.00-22.00 น.)

-ขึ้นรถบัสสาย 1 ไปลงที่ยอดเขา แต่ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ในหน้าหนาว

-นั่งรถรางลงที่สถานี Jujigai แล้วเดินราว 10 นาที ไปยัง Sanroku Eki-mae แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า

-ขึ้นรถ Shuttle Bus สายโรปเวย์เขาฮาโกดาเตะ ไปยัง Sanroku Eki-mae แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า

พิกัด Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ)

ที่อยู่Hakodate, Hakodateyama, Hakodate, Hokkaido
วิธีเดินทาง – เดินทางด้วยรถยนต์ ถึงยอดเขาโดยตรง ในช่วงกลางเดือนเมษายน ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน (ปิดถนน 17.00-22.00 น.)
 -ขึ้นรถบัสสาย 1 ไปลงที่ยอดเขา แต่ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ในหน้าหนาว
 -นั่งรถรางลงที่สถานี Jujigai แล้วเดินราว 10 นาที ไปยัง Sanroku Eki-mae แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า
 -ขึ้นรถ Shuttle Bus สายโรปเวย์เขาฮาโกดาเตะ ไปยัง Sanroku Eki-mae แล้วขึ้นกระเช้าลอยฟ้า
เวลาทำการ10.00-22.00 น.
ราคา-ค่าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าตั๋วเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, เด็ก 600 เยน
-ค่าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไป-กลับ ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็ก 900 เยน           
Websitehttps://334.co.jp/en

ดูแผนที่ Mount Hakodate

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงภูเขาฮาโกดาเตะ

1. เนินฮาจิมัง-ซากะ

              ใครชอบตามรอยซีรีส์หรือภาพยนตร์ ต้องไมพลาดกับการแวะชมเนินฮาจิมัง-ซากะ (Hachiman-Zaka Slope) เพราะที่นี่มักจะใช้สำหรับการถ่ายทำหนึ่งในนั้นก็คือหนังโรแมนติกของบ้านเราอย่าง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว”  ด้วยวิวที่ทั้งสวยและโรแมนติก พื้นหลังเป็นท้องทะเล ตัดกับแสงไฟที่ระยิบระยับ ขนาบข้างด้วยต้นไม้เขียวขจี โดยในฤดูหนาวเนินฮาจิมัง-ซากะ จะถูกใช้เป็นที่จัดเทศกาลไฟแสงสี ยิ่งทำให้สวยมากขึ้นไปอีก ใครอยากทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน ที่นี่ก็เหมะสมไม่น้อย 

พิกัด เนินฮาจิมัง-ซากะ

ที่อยู่Motomachi/Suehirocho, Hakodate-shi
วิธีเดินทางนั่งรถ City Tram จากสถานี Hakodate ไปลงที่ Hakodate Dokku-mae หรือนั่ง JR Hakodate Main Line ลงที่ป้าย Suehirocho จากนั้นเดินต่ออีกราว  5 นาที
เวลาทำการเปิดตลอดเวลา
ราคาฟรี
Website

ดูแผนที่ เนินฮาจิมัง-ซากะ (Hachiman-Zaka Slope)

2. โกเรียวคาคุ

เมื่อมาเยือนเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ต้องไม่พลาดมาเช็คอินที่ Goryokaku (ป้อมโงเรียวกาคุ) หรือป้อม “ดาว 5 แฉก” แห่งฮาโกดาเตะ ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ปกป้องเมืองนี้ ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้ไม่เพียงแค่ทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการวางปืนใหญ่ ช่วยลดจุดบอดของวิถีการยิงได้มากขึ้น

ป้อมโงเรียวกาคุ ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย โดยมีการปลูกต้นซากุระเอาไว้โดยรอบมากกว่า 1,600 ต้น สองฝั่งของแนวคูน้ำ ที่สำคัญคือหากใครพลาดเทศกาลชมดอกซากุระจากที่อื่นสามารถมาชมได้ที่นี่ เนื่องจากพื้นที่ของฮอกไกโดจะเข้าสู่ฤดูร้อนช้ากว่าที่อื่นคือราวเดือนพฤษภาคม ทำให้ดอกซากุระของที่นี่ก็จะบานช้ากว่าที่อื่นด้วยนั่นเองครับ

พิกัด Goryokaku

ที่อยู่43-9 Goryokakucho, Hakodate, Hokkaido, Japan
วิธีเดินทาง-จากสถานี Hakodate ใช้รถรางสาย 2 และ สาย 5 ลงที่ Goryokaku Koen Mae จากนั้นเดินต่อราว 10 นาที
-จากสถานี JR Hakodate นั่งรถ Shuttle bus ไปลงที่หน้าป้อมได้เลย   
เวลาทำการ9.00-18.00 น.
ราคาฟรี
Website

ดูแผนที่ Goryokaku

3. ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ(Hakodate morning market)

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ(Hakodate morning market) เป็นที่ที่คนรักการทานของทะเลสดๆ ไม่ควรพลาด แต่ต้องตื่นกันเร็วหน่อย คำถามคือแล้วดชเราต้องทำทานเองหรือเปล่า ไม่ต้องห่วงครับ เพราะเราสามารถอิ่มอร่อยกันได้จากตลาดนี้เลย เพราะมีร้านค้าที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยของทะเลสดๆ เช่นข้าวหน้าอาหารทะเลสด ไคเซ็นด้ง หรือหากชอบความท้าทายก็มีร้านตกหมึกให้เราแสดงฝีมือ โดยปลาหมึกที่ตกได้ก็จะนำมาทำเป็นอาหารให้เราได้ทานนั่นเอง

พิกัด ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ

ที่อยู่9-19 Wakamatsu-cho, Hakodate
วิธีเดินทางลงรถที่สถานี JR Hakodate แล้วเดินอีกไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงตลาดแล้ว
เวลาทำการ5.00-14.00 น. ขึ้นอยู่กับร้าน
ราคาฟรี
Websitehttp://www.hakodate-asaichi.com/taxinfo/en/index.html

ดูแผนที่ Hakodate morning market

4. Kanemori Red Brick Warehouse

         ที่สุดท้ายที่เราอยากแนะนำในวันนี้ก็คือ Kanemori Red Brick Warehouse (โกดังอิฐแดงคาเนโมริ) จุดเด่นของที่นี่ก็คือตัวอาคารรูปทรงคลาสสิกอายุมากกว่า 100 ปี ที่ตั้งอยู่ริมอ่าวในย่านโมโตมาจิ ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ลานเบียร์ ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งบรรยากาศกลางวันและกลางคืนก็จะสวยไปคนละแบบ เดิมทีคือ Kanemori Red Brick Warehouse เป็นเพียงโรงเก็บของ แต่เกิดไฟไหม้ขึ้น จึงได้ทำการสร้างและตกแต่งใหม่ดังที่เราเห็นกันอยู่ในวันนี้

พิกัด Kanemori Red Brick Warehouse

ที่อยู่14-12 Suehirocho, Hakodate-shi
วิธีเดินทางจากสถานี Hakodate นั่งรถ City Tram หรือ JR Hakodate Main สาย 5 ไปยังสถานี Jujigai จากนั้นเดินต่อราว 5 นาที
เวลาทำการขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
ราคาฟรี
Websitehttps://hakodate-kanemori.com/

ดูแผนที่ Kanemori Red Brick Warehouse

สรุป

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น บอกเลยว่า ฮอกไกโด มีที่เที่ยวเยอะมาก หนึ่งในนั้นก็คือ Mount Hakodate (ภูเขาฮาโกดาเตะ) จุดชมวิวที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกหลายแห่ง เรียกว่าวันเดียวไม่พอแน่นอน ซึ่งครั้งหน้าเราจะพาคุณไปเที่ยวที่ไหนนั้น รอติดตามกันได้เลยครับ

Tonnam

Blogger : Tonnam

นักเขียนบ้าพลังกับตัวอักษรพูดได้ของเขา

9 Posts

CCJ Hotel Search

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515