ทำความรู้จัก Hokkaido
ฮอกไกโด เป็นชื่อจังหวัดและเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศญี่ปุ่น รองจากเกาะฮนชู นอกจากนี้ฮฮกไกโดยังเป็นเขตการปกครอง ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่เกาะ โดยมีเกาะฮอกไกโดเป็นศูนย์กลาง และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเขตได้แก่ซัปโปโระ
โดยฮอกไกโดตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ใกล้กับประเทศรัสเซีย ฮอกไกโดเป็นพึ้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งผลิตข้าวญี่ปุ่น อาหารทะเล และผักผลไม้ และยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าต่างๆ เช่น เยื่อกระดาษ เบียร์ซัปโปโระ และผลิตภัณฑ์อาหาร
การเดินทางมายัง Hokkaido
สนามบิน
เกาะฮอกไกโดมีสนามบินอยู่หลายแห่งทั่วเกาะ เช่น สนามบินนิวชิโตเสะ เมืองซัปโปโร, สนามบินฮาโกดาเตะ เมืองฮาโกดาเตะ, สนามบินวักกะไน เมืองวักกะไน ซึ่งโดยปกติแล้วหากเดินทางจากไทยไป คนไทยจะลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ
การเดินทางจากสนามบินนิวชิโตเสะเข้าเมืองซัปโปโร
แนะนำที่เที่ยว ฮอกไกโด (Hokkaido) ห้ามพลาด
รวม 10 ที่เที่ยว ในฮอกไกโด เที่ยวจุใจเอาใจคนชอบหิมะ แบบจัดเต็ม จุใจ เดินทางตามง่ายๆ บอกเลยว่าต้องแวะให้ได้กับ 10 ที่นี้ ห้ามพลาด
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พูดถึงฮอกไกโดสิ่งแรกๆที่มักจะนึกถึงก็คงจะเป็น เบียร์ซัปโปโร ซึ่งที่ฮอกไกโดก็มีพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรตั้งอยู่ด้วย ตัวอาคารเป็นสไตล์คลาสสิคสีอิฐเรียบๆ
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ทุกคนที่มาจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของโรงเบียร์ซัปโปโรที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต แถมยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของฮอกไกโดในฐานะอาคารที่มีคุณค่าในยุคเมจิ
ถ้ามาในฤดูหนาวก็จะเจอกับหิมะที่ปกคลุมหลังคาของอาคารไว้ บริเวณลานหน้าอาคารก็จะมีหิมะขาวโพลน ดูไปดูมาเหมือนอยู่ยุโรปเหมือนกันนะเนี่ย ใครอยากลองไปก็ห้ามพลาด จดพิกัดไว้ได้เลย
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
ที่อยู่ | 9-1-1, Kita 7 Johigashi, Higashi, Sapporo, Hokkaido 065-8633 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR Hakodate Line จากสถานี Shiroishi ไปลงที่สาถานี Naebo และเดินต่อไปยัง พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร ใช้เวลาประมาณ13 นาที |
เวลาทำการ | 11.30 – 16.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 500 เยน / นักเรียนมัธยมต้น (ถึงอายุ 20 ปี) 300 เยน / นักเรียนประถมหรือต่ำกว่านั้น ฟรี |
Website | sapporobeer (ภาษาญี่ปุ่น) |
ชิโรอิโคอิบิโตะ ปาร์ค (shiroikoibito park)
หลายๆ คนคงรู้จักขนมชื่อดังของฮอกไกโด อย่าง Shiroi koibito กันเป็นอย่างดี แต่อาจจะยังไม่รู้จัก Shiroi koibito park เพราะฉะนั้นก็อยากให้ลองมามากๆ เพราะที่นี่โรงผลิตขนมที่เป็นแนวธีมปาร์ค มาในรูปแบบสวนสนุกช็อกโกแลตสดใส
ตัวอาคารในบริเวณนี้จะมีสไตล์โดเด่นมากๆ คลาสสิคสุดๆ เหมาะกับการถ่ายรูปมากเลย
ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบเลยนะ ทั้งเข้าชมการผลิตช็อกโกแลต ทำขนมชิโรอิ โคอิบิโตะในแบบฉบับของตัวเอง ชิมขนมหลากหลายรสชาติ แล้วยังมีของฝากให้ได้ซื้อกลับไปอีกด้วยนะ บริวเณภายนอกก็มีจุดถ่ายรูปที่เป็นซิกเนเจอร์สุดๆ ยังไงก็อย่าลืมแวะมาที่นี่กันนะ
ชิโรอิโคอิบิโตะ ปาร์ค (shiroikoibito park)
ที่อยู่ | Miyanosawa 2-2-11-36, Nishi, Sapporo, Hokkaido 063-0052 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสสาย 42 จากสถานี Inazumikoen ไปลงที่ป้าย Hassamu และเดินต่อไปยัง ชิโรอิโคอิบิโตะ ปาร์ค ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 23 นาที |
เวลาทำการ | 10.00 – 17.00 น. (ขึ้นอยู่กับร้านค้า) |
Website | shiroikoibitopark (ภาษาญี่ปุ่น) |
ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
ริมคลองโอตารุ ตั้งอยู่ที่เมืองโอตารุ เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากๆ ด้วยความที่มีตัวอาคาร บ้านเรือน ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ตั้งเรียงรายอยู่ริมคลองโอตารุเลย เมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นท่าเรือที่คึกคักมากๆ
เป็นจุดถ่ายสินค้าจากเรือลำใหญ่ลงเรือลำเล็ก และก็ได้มีการบูรณะอยู่เรื่อยๆ จนกลายมาเป็นริมคลองโอตารุ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในฮอกไกโด จนถึงทุกวันนี้
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ เดินถ่ายรูปเล่นตามริมคลอง นั่งเรือชมสองฝั่งคลอง หรือจะมาดูโคมไฟโบราณในตอนกางคืนก็ได้เช่นกัน ในฤดูหนาวจะกลายเป็นสถานที่ที่โรมนติกมากๆ เลยแหละ เพราะแสงไฟตัดกับหิมะสีขาว สวยงามสุดๆ ไปเลย
ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
ที่อยู่ | 5 Hokkaido, Minatomachi, Otaru 047-0007 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Otaru ไปยัง ริมคลองโอตารุ ใช้เวลาประมาณ 12 นาที |
Occi Gabi Winery
Occi Gabi Winery เป็นโรงบ่มไวน์ที่สวยมากๆ ในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมากในฮอกไกโด และยังได้รับการยอมรับว่า เป็นโรงบ่มไวน์องุ่นที่ดีและมีคุณภาพ อีกด้วย บริเวณรอบๆ ของที่นี่จะโอบล้อมไปด้วยสีเขียวขจี
มีไร่องุ่นขนาดใหญ่ มีโรงบ่มไวน์ โรงเบียร์ใต้ดิน มีร้านอาหารที่สามารถนั่งทานไปด้วย และชมธรรมชาติที่เป็นวิวภูเขาขนาดใหญ่ได้
สำหรับใครที่ชื่นชอบไวน์ อยากแนะนำให้มาที่นี่มากๆ เพราะนอกจากจะได้เดินเล่นกินลมชมวิวธรรมชาติแล้ว ยังสามารถชิมไวน์รสชาติต่างๆ ได้อีกด้วย และถ้าถูกใจล่ะก็ที่นี่ก็มีขายด้วยนะ ใครไม่อยากพลาดไวน์รสชาติอร่อยๆ ล่ะก็ ต้องซื้อกลับไปแล้วแหละ
Occi Gabi Winery
ที่อยู่ | 635 Yamadacho, Yoichi, Yoichi, Hokkaido 046-0012 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถยนต์จากสถานี Niki ไปยัง Occi Gabi ใช้เวลาประาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | 11.00 – 17.00 น |
Website | occigabi (ภาษาญี่ปุ่น) |
ป้อมปราการโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku)
ป้อมปราการนี้มีลักษณะเด่นๆ เลยคือ เป็นรูปดาว 5 แฉก ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ เป็นสวนสาธารณะที่ทั่วทุกพื้นที่มีต้นซากุระจำนวนหลายต้น ทำให้กลายเป็น อีกหนึ่งจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ที่นี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะตอนปลาย จากเป็นพื้นที่เพื่อป้องกันเมืองจากการรุกรานของชาวตะวันตก และพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนถูกทำเป็นสวนสาธารณะในปัจจุบันนี้
หลายๆ คนมักตั้งคำถามว่าทำไม ที่นี่ถึงได้มีลักษณะเป็น 5 แฉก ก็เพราะว่าต้องสร้างเป็นพื้นที่รูปดาว เพื่อที่จะทำให้บริเวณนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ไว้สำหรับวางปืนใหญ่นั่นเอง
ถ้ามองจากหอคอยโกเรียวคาคุจะเห็นเป็นรูปดาวชัดเจนมาก เพราะหอคอยนี้มีความสูงถึง 90 เมตร ซึ่งหอคอยนี้ก็สร้างเป็นรูป 5 เหลี่ยมๆ คล้ายรูปดาวเลย เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา มองมุมไหนก็เห็นวิวด้านล่างหมดเลย และถ้ามาใช่ฤดูใบไม้ผลิ
แน่นอนว่าจะเจอกับดอกซากุระที่บานตระการตา สีชมพูทั่วทั้งสวน อากาศดี เหมาะแก่การมาพักผ่อนที่สุด หรือถ้าจะมาในช่วงฤดูหนาวล่ะก็ จะได้เห็นดาว 5 แฉกนี้กลายเป็นสีขาวสะอาดตา ฤดูร้อนก็เขียวขจี ตามแบบฉบับสวนสาธารณะที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติเลย
ป้อมปราการโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku)
ที่อยู่ | 44-2 Goryokaku, Hakodate, Hokkaido 040-0001 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถยนต์ จากสถานี Goryokaku ไปยัง ป้อมปราการโกเรียวคาคุ ใช้เวลาประมาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | เมษายน – ตุลาคม 05.00 – 19.00 น. / พฤศจิกายน – มีนาคม 05.00 – 18.00 น. |
Website | goryokaku (ภาษาญี่ปุ่น) |
ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
ทุ่งดอกไม้ของฟาร์มโทมิตะกำลังรอให้ทุกคนไปถ่ายรูปอยู่นะ เพราะที่นีเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมาก ดอกไม้ที่มีชื่อเสียงเลยก็จะเป็น ดอกลาเวนเดอร์ เพราะที่นี่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ไม่ได้มีแค่ลาเวนเดอร์นะ แต่มีดอกไม้ประจำฤดู
ทั้งฤดูใบไม้ผลิก็จะมีทุ่งดอกป๊อปปี้ไอซ์แลนด์ ดอกทิวลิป ฤดูร้อน ดอกยิปโซ ดาวเรือง ฤดูใบไม้ร่วง ดอกยาร์โรว์ ดอกลูพิน และฤดูหนาวที่ทุ่งดอกไม้จะกลายเป็นน้ำแข็งสีขาวปกคลุม ซึ่งไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็สวยแน่นอน
และนอกจากทุ่งดอกไม้ที่เป็นจุดเด่นแล้ว ที่นี่ก็ยังมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ถ้าใครชอบน้ำมันหอมระเหยล่ะก็ ต้องไปแวะที่พิพิธภัณฑ์ที่ไว้สำหรับสกัดน้ำมันหอมระเหยเลย หรืออยากชิมไอศครีมของฮอกไกโดแท้ๆ ก็ต้องห้ามพลาด
เพราะที่นี่มีให้ได้ลิ้มลองหลากหลายรสชาติ ทั้งรสลาเวนเดอร์ วานิลลา หรือจะสองรสชาติในโคลนเดียวอย่าง รสลาเวนเดอร์และเมลอน ก็น่าอร่อยไปอีกแบบ มาที่นี่ไม่ต้องกลัวอดเลย มีของกินเพียบ
ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
ที่อยู่ | 5 Kisenkita, Nakafurano, Sorachi, Hokkaido 071-0704 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถยนต์ จากสถานี Naka-Furano ไปยังฟาร์มโทมิตะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | 09.00 – 17.00 น. |
Website | farm-tomita (ภาษาญี่ปุ่น) |
น้ำตกชิราฮิเงะ (Shirahige Waterfall)
ใครชื่นชอบน้ำตกที่อยู่ท่ามกลางป่าไม้อุดมสมบูรณ์ล่ะก็ ขอแนะนำให้มาที่ น้ำตกชิราฮิเงะ น้ำตกที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องความสวยงามของฮอกไกโด น้ำตกมีความสูง 30 เมตร มีน้ำเป็นสีฟ้าอมเขียว
ซึ่งอาจจะพบเจอได้ยากในที่อื่น แถมยังใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เพราะรอบๆ มีต้นไม้ที่ร่มรื่นเขียวชะอุ่มในฤดูร้อน ส่วนฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสีนั้น
รอบน้ำตกจะกลายเป็นสีส้ม แดง เหลือง ซึ่งมองแล้วสดใสสวยงามมากๆ และในฤดูหนาวล่ะก็ น้ำตกชิราเงะที่สีฟ้าอมเขียวจะกลายเป็นน้ำแข็งสีขาว เป็นเกล็ดหิมะ ก็เป็นภาพที่สวยงามไม่แพ้กันเลย
นอกจากน้ำตกชิราฮิเงะ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบที่ไม่ควรพลาด อย่าง Blue Pond บ่อน้ำสีฟ้าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ภายในบ่อน้ำจะมีตอไม้ผุดขึ้นมาคล้ายๆ ป่าชายเลนของไทย ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์มากๆ
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้บ่อน้ำกลายเป็นสีฟ้าก็เพราะว่ามีอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำ แล้วก็มีการสะท้อนแสงกับแดดที่ส่องลงมา ทำให้เรามองเห็นน้ำเป็นสีฟ้านั่นเอง
น้ำตกชิราฮิเงะ (Shirahige Waterfall)
ที่อยู่ | Shirogane, Biei, Kamikawa, Hokkaido 071-0235 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถบัสจากสถานี Biei ไปลงที่ป้าย Shirogane Hot Spring และเดินต่อไปยังน้ำตกชิราฮิเงะ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 29 นาที |
เวลาทำการ | 08.30 – 17.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Website | shirahige-waterfalls (ภาษาญี่ปุ่น) |
ภูเขาโมอิวะ(Mount Moiwa)
พาไปนั่งกระเช้าลอยฟ้า ชมวิวภูเขาโมอิวะกันบ้าง โดยภูเขาอิวะนั้นเป็นภูเขาขนาดเล็ก มีขนาดความสูงประมาณ 531 เมตร ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองซัปโปโรได้อย่างชัดเจน
ถ้าขึ้นมาบนยอดเขาฝในช่วงพระอาทิตย์ตกดินล่ะก็ จะสวยมากๆ เลยแหละ ใครที่อยากขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาก็สามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปที่ความสูง 3 ใน 4 ของภูเขา ระหว่างที่นั่งก็จะมองเห็นความสวยงามที่อยู่ด้านล่าง เพลิดเพลินกันสุดๆ
จากนั้นจะต้องเปลี่ยนจากนั่งกระเช้าลอยฟ้ามาเป็นนั่งมินิเคเบิ้ลคาร์ไปยังยอดเขาแทน ทีนี้แหละเราจะได้พบกับความสวยงามตระการตา มีจุดชมวิวที่มองเห็นวิวได้แบบสุดลูกหูลูกตา 360 องศาเลยทีเดียว แถมบนยอดเขายังมีร้านอาหาร บ้านท้องฟ้าจำลอง โรงละคร และอื่นๆ อีกเพียบ เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ
และอย่างที่บอกว่าถ้าอยู่ทันช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าล่ะก็ จะต้องหยุดหายใจแน่นอน เพราะมันสวยไปหมด ใครที่ยังไม่เคยมาก็อยากให้ลองมามากๆ แล้วจะติดใจไม่อยากลงจากยอดเขาเลยแหละ
ภูเขาโมอิวะ(Mount Moiwa)
ที่อยู่ | 5-3-7 Fushimi, Chuo, Sapporo, Hokkaido 064-0942 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถบัสสาย 51 จากสถานี Nishi juitchome มาลงที่ป้าย Keimei Terminal และเดินไปขึ้นรถบัส ที่ป้าย Minami 13 West 22 ไปลงที่ป้าย Moiwasan Ropeway และเดินต่อไปยังSapporo Mt.Moiwa Ropeway อีกประมาณ 8 นาที |
เวลาทำการ | กระเช้าลอยฟ้า ฤดูร้อน (เมษายน – พฤศจิกายน) 10.30 – 22.00 น. (ขึ้นรอบสุดท้าย 21.30 น.) / ฤดูหนาว (ธันวาคม – มีนาคม) 11.00 – 22.00 น. (ขึ้นรอบสุดท้าย 21.30 น.) *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ moiwa |
ราคา | นั่งกระเช้าลอยฟ้าโมอิวะยามะ : ราคา ไป – กลับ ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 600 เยน ราคาเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็ก 300 เยน *สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ moiwa |
Website | mt-moiwa (ภาษาญี่ปุ่น) |
สวนสัตว์มารุยาม่า (Maruyama Zoo)
ใครรักสัตว์ และอยากใกล้ชิดกับน้องๆ ให้มาที่ สวนสัตว์มารุยาม่า ตั้งอยู่เชิงเขามารุยาม่า เมืองซัปโปโร เป็นสวนสัตว์ที่เหมือนกับว่าสัตว์ได้อยู่ในธรรมชาติที่เคยอยู่จริงๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สัตว์เยอะแน่นอน หมีขั้วโลก นกเพนกวิน เสือดาว ยีราฟ ลิงชิมแปนซี และอื่นๆ อีกมากมาย
แบ่งออกเป็นโซนๆ ทั้งโซนสัตว์ โซนร้านค้า โซน สำหรับเด็กที่สามารถให้เด็กๆ เข้าไปสัมผัสกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด ส่วนโซนที่ได้รับความนิยมสุดๆ ก็คือ โซนหมีขั้วโลก ที่จะมีหมียักษ์ตัวสีขาวคอยต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวอยู่
และในบริเวณใกล้ๆ สวนสัตว์ก็ยังมีสวนสาธารณะมารุยาม่า ที่ให้เราสามารถไปนั่งพัก กินลมชมวิวได้อย่างสบายใจ มีสนามเด็กเล่น สนามเบสบอลด้วยนะ ที่พิเศษเลยคือ สวนนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของญี่ปุ่นเลย ผลิ ร้อน ร่วง หนาว ซึ่งจะได้พบกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมแตกต่างกันไป แต่ก็สร้างความประทับใจให้เหล่านักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย
สวนสัตว์มารุยาม่า (Maruyama Zoo)
ที่อยู่ | 3-1 Miyagaoka, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0959 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Maruyama Koen มาลงที่ป้าย Total Ground Zen (Maruyama Bus stop) และเดินต่อไปยัง สวนสัตว์มารุยาม่า ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 11 นาที |
เวลาทำการ | ฤดูร้อน (1 มีนาคม – 31 ตุลาคม) 9.30-16.30 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16.00 น.) / ฤดูหนาว (1 พฤศจิกายน – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์) 9.30-16.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 15.30 น.) |
ราคา | ผู้ใหญ่ 800 เยน (นักเรียนมัธยมปลายได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม) / นักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน / เด็ก (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) ฟรี / กลุ่ม (30 คนขึ้นไป) 720 เยน |
Website | city.sapporo (ภาษาญี่ปุ่น) |
ตลาดซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market )
และถ้ามาถึงฮอกไกโด ภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลทั้งที่ ไม่แวะมาทานอาหารทะเลก็คงรู้สึกว่าไม่ถึง เลยอยากให้ลองมาที่ตลาดซัปโปโรโจไก หนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของซัปโปโร ที่นี่รวมแหล่งของสดไว้มากมาย ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา หอยเม่นทะเล หรือจะเป็นผักผลไม้ก็มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด
ใครอยากลองทานอาหารท้องถิ่นที่นี่ก็มีร้านขายเฉพาะเหมือนกัน ผ่านไปผ่านมาก็สามารถแวะมาชิมกันได้นะ รับรองว่าวัตถุดิบสดใหม่เหมือนเพิ่งขึ้นจากฝั่ง เพิ่งเก็บจากต้นแน่นอน
ตลาดซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market)
ที่อยู่ | 21-2-3 Kita 11 West, Chuo, Sapporo, Hokkaido 060-0011 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสที่ Soeneki Bus Stop ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Soen มาลงที่ ตลาดซัปโปโรโจไก ใช้เวลาประมาณ 7 นาที |
เวลาทำการ | 06.00 – 17.00 น. |
Website | jyogaishijyo (ภาษาญี่ปุ่น) |
Biei (บิเอะ)
บิเอะ เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างเมือง อาซาฮิกาวะ และเมือง ฟุราโนะ โดยเมืองนี้มีความน่าสนใจด้านทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่าง Blue pond หรือบ่อน้ำสีฟ้าชื่อดัง ที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาดูกัน
และยังมี น้ำตกชิราฮิเกะ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีวิวงดงามเป็นอย่างมาก
แต่จะพลาดไม่ได้เลยกับวิวทุ่งดอกไม้สีรุ้งก็อยู่ที่นี่เช่น กับ “เส้นทางพาโนราม่า (Panorama Road)” ซึ่งอยู่ที่ “เนินชิคิไซ (Shikisai Hill / Shikisai No Oka)” และแน่นอนว่าไม่ได้มีที่เที่ยวเพียงแค่นี้แน่นอน และแต่ละที่นั้นก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
การเดินทางภายใน Hokkaido
วิธีการเดินทาง | รายละเอียด |
---|---|
เครื่องบิน | การเดินทางภายในเมืองฮอกไกโดด้วยเครื่องบิน เหมาะสำหรับคนที่มีงบเยอะสักนหน่อย และต้องการประหยัดเวลา เกาะฮอกไกโดมีสนามบินอยู่ 12 แห่งทั่วเกาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะรองรับเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศ |
รถไฟ JR | เป็นวิธีเดินทางท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุด เพราะมีสถานีอยู่เกือบทุกเมือง |
รถไฟใต้ดิน | มีให้บริการเฉพาะในเมืองซัปโปโรเท่านั้น มีรถไฟใต้ดินอยู่ 3 สาย คือ สาย Namboku, สาย Tozai และสาย Toho |
รถราง | มีให้บริการในเมืองใหญ่อย่างซัปโปโรและฮาโกดาเตะเท่านี่น เป็นวิธีการเดินทางหลักในการท่องเที่ยวเพราะเชื่อมต่อไปยังจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ |
รถบัสข้ามเมือง | เราสามารถเดินทางข้ามเมือง เข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่าง โนโบริเบ็ทสึ โฮตารุ และอื่นๆ ด้วยรถบัสแบบนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดค่าใช้จ่าย แต่อาจจะต้องเพิ่มเวลาสักหน่อย |
แท็กซี่ | การเดินทางด้วยแท็กซี่เป็นวิธีเดินทางที่สะดวกมากๆ แต่อย่างที่รู้กันดีว่าค่าแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างแพงมากๆ เพราะฉะนั้นหากจะเดินทางด้วยแท็กซี่ อยากให้คำนวนระยะทางให้ดี |
JR PASS ที่แนะนำใน Hokkaido
JR PASS | รายละเอียดการใข้งาน |
---|---|
JR Rail Pass ราคาเริ่มต้น 7,562 บาท |
เป็นพาสที่สามารถใช้เดินทางได้ทั่วญี่ปุ่น มี 3 แบบ คือ 7 วัน, 14 วัน และ 21 วัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินทางทั่วญี่ปุ่นแบบข้ามจังหวัด เช่นการเดินทางจากจังหวัดอื่นๆ มาสู่ ฮอกไกโด |
HOKKAIDO RAIL PASS ราคาเริ่มต้น 4,846 บาท |
พาสนี้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ฮอกไกโด สามารถใช้รถไฟ JR Hokkaido โดยมีทั้งแบบ 3 วัน 5 วัน และ 7 วัน โดยต้องใช้ติดต่อกันตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งาน |
Sapporo-Noboribetsu Area Pass ราคาเริ่มต้น 2,040 บาท |
เป็นพาสใช้เดินทางเฉพาะจุดในฮอกไกโด สามารถใช้เดินทางได้ตั้งแต่ ซับโปโร โอตารุ และโนโบริเบ็ทสึ สามารถใช้งานแบบต่อเนื่องกัน 4 วัน |
Sapporo-Furano Area Pass ราคาเริ่มต้น 2,295 บา |
เป็นพาสที่สามารถใช้เดินทางได้ในพื้อนที่ซัปโปโร อาซาฮิกาว่า บิเอะ และ ฟุราโน่ โดยต้องใช้งานแบบต่อเนื่องกัน 4 วัน |
ข้อมูลพาสเที่ยว Hokkaido
สำหรับใครอ่านแล้วอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาสเที่ยวในฮอกไกโด อ่านที่นี่เลย บอกทุกข้อมูลครบ พร้อมแนะนำที่ซื้อพาสง่ายๆ
JR Hokkaido Pass เที่ยวฮอกไกโดสุดคุ้ม
ข้อมูล JR Pass เที่ยวฮอกไกโด พร้อมบอกสถานที่ซื้อพาสง่ายๆ
สำหรับใครที่สนใจข้อมูล Pass เดินทางในฮอกไกโดเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อ Pass ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ที่นี่
JR Hokkaido Pass เที่ยวฮอกไกโดสุดคุ้ม
รวมข้อมูลพาสและช่องทางการซื้อ
ช่องทางการซื้อพาส
ใครที่สนใจซื้อพาสเที่ยวฮอกไกโด เราจัดมาให้ครบแล้วทั้งสามพาส ใครที่มองหาอยู่ไปเลือกดูตามความต้องการ แล้วเลือกซื้อกันเลย
สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน Hokkaido
โดยฮอกไกโดเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉลี่ยจะมีหิมะอยู่ทั่วไปประมาณ 4-6 เดือน ในถดูหนาวจะมีอุณหภูมิ -20 ถึง 5 องศาเซลเซียส ในหน้าร้อนจะมีอุณหภูมิ 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่อากาศดีมากๆ และเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นสกี แต่ในฤดูร้อนเองก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติมากเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุณหภูมิในฮอกไกโด
4 ฤดูกาลท่องเที่ยว ฮอกไกโด ทำความรู้จักสภาพอากาศ และสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละฤดู
การแต่งตัวที่เหมาะสมใน Hokkaido
สำหรับใครที่มองหาว่า ไปฮอกไกโดหนาวมากจะแต่งตัวยังไง ลองมาดูนี่กันเลย
เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!
บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!
แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น ก็มาทางนี้เลย
แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต
หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน
อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง จังหวัดฮอกไกโด
ปูทาราบะ
ถ้าพูดถึงอาหารขึ้นชื่อที่ต้องมากินให้ได้ที่ฮอกไกโด คงพลาดไม่ได้ที่จะนึกถึงขาปู ทั้ง ปูทาราบะ (King Crab), ปูซุไว (Snow Crab) และ ปูขน (Hairy Crab)
ซัปโปโร ราเม็ง
แต่นอกจากปูที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังมี ซัปโปโร ราเม็ง ที่ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ “มิโซะราเม็ง (Miso Ramen)” ราเม็งร้อนๆ กับน้ำซุปกระดูกหมูผสมกับมิโซะจนเข้ากัน เติมความอบอุ่นช่วงฤดูหนาว แต่นอกจากปูและราเม็งพวกนี้แล้วยังมีอาหารทะเลสดที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก เพราะมีพื้นที่เป็นเกาะใหญ่ เลยทำให้มีอาหารทะเลสดขึ้นชื่อ
ยังไงถ้ามาฮอกไกโดก็อย่าลืมไปหากินกันให้ได้นะ
บทความท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องใน Hokkaido
ที่เที่ยวฤดูหนาว 10 พิกัดแนะนำ ต้องเที่ยวตาม สำหรับสายชอบหิมะ รับรองว่าจุใจ สำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวช่วงฤดูหนาวในฮอกไกโดอยู่ ห้ามพลาด อ่านเลย
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ที่ 10 สถานที่สุดฟิน พร้อมพิกัด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องต่อเลย
แต่นอกจากที่เที่ยวแนะนำ สำหรับใครที่ยังต้องการข้อมูลท่องเที่ยวฮอกไกโดเพิ่มเติมแบบครบรส อ่านนี่เลยรวมบทความแนะนำที่เที่ยวฮอกไกโด แนะนำครบรส ที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน ช้อปปิ้งฟิน
เที่ยวฮอกไกโด เล่นหิมะญี่ปุ่น สัมผัสอากาศหนาวสุดใจตลอดปี
อ่านบทความท่องเที่ยวฮอกไกโดอื่นๆ
ข้อสรุป
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโด มีทั้งรายละเอียด วิธีการเดินทาง และรูปภาพสวยๆ เป็นน้ำจิ้มเล็กๆ น้อย เห็นแล้วก็ยิ่งอยากไปเลยใช่ไหมล่ะ ใครมีแพลนที่จะไปญี่ปุ่นล่ะก็ ขอฝากภูมิภาคฮอกไกโดไว้ด้วยนะ ไม่ว่าจะสายกิน เที่ยว ช้อป หรือสายรักธรรมชาติ มาฮอกไกโดรับรองว่าไม่ผิดหวัง มีครบหมดทุกแบบ ลองมาเที่ยวกันดู แล้วจะติดใจไม่อยากกลับเลยแหละ