Kurobe Dam เขื่อนที่สูงและยิ่งใหญ่อลังการที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ความยิ่งใหญ่ของ Kurobe Dam

เขื่อนคุโรเบะใช้เวลาก่อสร้างกว่า 7 ปี  ก่อสร้างเสร็จในปีโชวะ 38 ค.ศ.1963 เขื่อนแห่งนี้ประสบปัญหาต่างๆ มากมายในระหว่างก่อสร้าง และมีผู้เสียชีวิตจากโครงการนี้มากกว่า 170 รายกว่าจะก่อสร้างเสร็จต้องใช้จำนวนแรงงานรวมกว่า 10 ล้านคน จึงจะเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ ส่งผลให้เขื่อนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “โครงการที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ” อีกด้วย

วันเวลาผ่านไป เขื่อนแห่งนี้ก็ทำหน้าที่สนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในการจ่ายไฟฟ้าให้กับภูมิภาคคันไซ อีกทั้งตัวเขื่อนแห่งนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญตลอดเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนตุลาคม น้ำในเขื่อนจะถูกระบายออกทางประตูเขื่อนอย่างงดงามและทรงพลังทุกวัน 

เขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

ความสูงของเขื่อนคุโรเบะอยู่ที่ 186 เมตร เขื่อนขนาดใหญ่รูปโค้งนี้สร้างขึ้นที่หุบเขาคุโรเบะโดยบริษัท KANSAI Electric Power Co., Inc. มีลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของการสร้างเขื่อนแห่งนี้คือคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ  และหากได้ไปยืนมองจากความสูง 110 เมตร จะพบว่ามีน้ำไหลออกมา 10 ตันต่อวินาที กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อนคุโรเบะหมายเลข 4 เองคือ 1 พันล้านกิโลวัตต์ต่อปี

ชมทิวทัศน์รอบด้าน

ความน่าทึ่งของที่นี่คือสามารถมองวิวแบบ 360 องศาได้ ภาพที่เห็นมีตั้งแต่ภาพของแม่น้ำ ทะเลสาบ สายรุ้ง หิมะบนภูเขา ต้นไม้เขียวขจี เขื่อนคอนกรีต ทัศนียภาพที่ครบถ้วนเหล่านี้ทำให้เขื่อนคุโรเบะประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเขื่อนมากกว่า 1 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว

กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

เมื่อทะเลสาบเต็มความจุ ผิวทะเลสาบจะอยู่ที่ระดับความสูง 1,448 เมตร ทำให้ทะเลสาบคุโรเบะเป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำมากมาย อาทิ เส้นทางเดินริมทะเลสาบ เป็นเส้นทางสำรวจธรรมชาติที่ง่ายสำหรับเด็กและครอบครัว ขากลับใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง หรืออยากสัมผัสน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ช่วยให้นักเดินทางที่เหนื่อยล้ารู้สึกสดชื่นขึ้นมา โดยน้ำที่ไหลออกมาจากหินในอุโมงค์โอมาจิระหว่างทางเดินชมเขื่อนคุโรเบะ คุณสามารถดื่มได้ และไม่อยากให้พลาดอีกหนึ่งกิจกรรมนั่นคือการล่องเรือรอบทะเลสาบคุโรเบะเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของเขื่อนบนความสูงที่สุดแห่งนี้ 

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

เขื่อนคุโรเบะได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  เพียงแต่ถ้าอยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกำแพงหิมะด้วย ต้องวางแผนการเดินทางดีๆ จะได้ไม่เสียเที่ยว

ช่วงปล่อยน้ำ (ประมาณปลายฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน)

ขนาดและความยิ่งใหญ่อลังการของเขื่อนคุโรเบะ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดฤดูร้อน  ปลายเดือนมิถุนายน – ตุลาคม  ระหว่างต้นเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมทะเลสาบคุโรเบะได้ การล่องเรือแบบชิลล์ๆ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเรือที่อยู่บนระดับความสูงที่สุดในญี่ปุ่น ภายในเรือมีเพดานกระจก ให้คุณมองเห็นทัศนียภาพอันงดงาม ด้านหลังเป็นดาดฟ้าชมวิว สนุกสนานไปกับการล่องเรือไปพร้อมๆ กับลมทะเลสาบปะทะใบหน้า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และมีค่าใช้จ่าย 1,200 เยน 

ความสวยงามช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว)

ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะใช้เวลาราวๆ  6 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน- ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีจากบริเวณที่สูงลงมาตามภูเขา ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใดที่ระดับความสูงจะเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ คุณสามารถเห็นความแตกต่างของสีที่เกิดจากธรรมชาติได้ในแต่ละฤดูกาล โดยจะเห็นใบไม้สีเขียวที่เชิงเขา ใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วงตรงกลาง และหิมะสีขาวที่ปกคลุมยอดเขาบริเวณเขื่อนแห่งนี้ได้อีกด้วย

หลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาวและเสาร์อาทิตย์

เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาที่นี่ในช่วงวันหยุด ทั้งคนญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก บางคนมาเป็นหมู่คณะ บางคนมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ ทำให้จุดชมวิวในพื้นที่ของเขื่อนเนืองแน่นไปด้วยผู้คน จึงไม่แนะนำให้มาที่นี่ช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงวันเสาร์ อาทิตย์

เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

ดูแผนที่ Kurobe Dam

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

มาเที่ยวในพื้นที่แถบนี้แล้วไม่อยากให้พลาดจุดท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามอีกหลายจุด จึงถือโอกาสนี้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับเขื่อนคุโรเบะเพิ่มให้จดลงในลิสต์อีกสักหน่อย 

เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route)

เส้นทางเที่ยวชมเทือกเขาแอลป์นี้มีความยาวประมาณ 90 กิโลเมตรโดยมุ่งไปทางทิศตะวันออกผ่านเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือซึ่งเป็นแนวเทือกเขาที่มีความสูงจนได้ชื่อว่า “หลังคาของญี่ปุ่น” ตลอดเส้นทางมีทิวทัศน์รูปแบบต่างๆ ของเชิงเขาทาเตยามะที่สวยงามน่าตื่นตา เพียงใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงคุณสามารถเดินทางผ่านผืนป่าเก่าแก่ที่มีต้นไม้อายุมากกว่าหนึ่งพันปี เพื่อไปยังพื้นที่ชุ่มน้ำกว้างใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของที่นี่ คือกำแพงหิมะ ถนนที่มีกำแพงหิมะสูงชันตั้งตระหง่านตลอดสองข้างทางเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าไปดูกับตาตัวเองสักครั้ง 

เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route)

ดูแผนที่ Tateyama Kurobe Alpine Route

ที่ราบสูงมูโรโดะ (Murodo Plateau)

สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ การมาเยือนยังที่ราบสูงมูโรโดะต้องอยู่ในลิสต์การเดินทางทริป นี้ของคุณนะ เพราะตลอดเส้นทางนี้คุณจะได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ของภูเขาและพืชพันธุ์ธรรมชาติต่างๆ ในแถบนี้ จากสถานีมูโรโดะถึงจุดชมวิวมูโรโดะ ใช้เวลาเดินประมาณ 50 นาที ถือเป็นคอร์สเดินเขาที่ไม่ยากจึงเหมาะกับนักเดินเขามือใหม่ ระหว่างเดินเขาก็สามารถชมพันธุ์ไม้ต่างๆ ตลอดเส้นทางเดินได้ด้วย เป็นอีกสถานที่ในการฟื้นฟูจิตใจด้วยธรรมชาติและความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ แนะนำให้ไปที่นี่ในช่วงฤดูร้อนจะเดินง่ายที่สุด

ที่ราบสูงมูโรโดะ (Murodo Plateau)

ดูแผนที่ Murodo Plateau

พื้นที่ชุ่มน้ำมิดากาฮาระ (Midagahara Wetlands)

พื้นที่ชุ่มน้ำมิดากาฮาระเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,400 เมตร บริเวณสถานีที่ 8 ของภูเขากัสซัง ที่นี่จะเรียงรายไปด้วยดอกไม้กว่า 130 สายพันธุ์ (เช่น ลิลลี่เดย์และอะลูเชียนอาเวนส์) พากันบานสะพรั่งสวยงามในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่เหล่าดอกไม้บนภูเขาสูงพากันผลิบาน ว่ากันว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้บนภูเขาสูงชั้นนำแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น หญ้าและใบไม้หลากสีจะปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บรรยากาศที่นี่ให้ความรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังเดินอยู่พรมสีสันสดใส

พื้นที่ชุ่มน้ำมิดากาฮาระ (Midagahara Wetlands)

ดูแผนที่ Midagahara Wetlands

สรุป

เขื่อนคุโรเบะ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ส่งต่อความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นไว้อย่างลงตัว เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่รายล้อมด้วยทัศนียภาพที่งดงาม และเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ การได้ยืนมองความยิ่งใหญ่ของเขื่อนแห่งนี้เงียบๆ ก็สัมผัสได้ถึงความทรงพลังของมวลน้ำมหาศาลที่หาชมได้ยากในประเทศญี่ปุ่นถือเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดเลยนะ