คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
15%
20%
3,000 เยน
ประวัติของที่นี่นั้นก่อนอื่นต้องย้อนไปในปีค.ศ. 1858 ชายคนหนึ่งชื่อว่า Mikimoto Kokichi ได้ลืมตาดูโลกขึ้นที่เมือง Toba ซึ่งคุณ Mikimoto Kokichi นั้นเป็นผู้บุกเบิกการเพาะเลี้ยงไข่มุกและมีความประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีค.ศ. 1893 จนกระในปีค.ศ. 1899 เขาก็ได้เปิดร้านขายไข่มุกของตนเองมีชื่อว่า Mikimoto Pearl Store สาขาแรกได้สำเร็จ และฟาร์มไข่มุกที่เกาะนี้ยังถือว่าเป็นฟาร์มไข่มุกแห่งแรกของโลกด้วย
สำหรับจุดเด่นของเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) นั้น แน่นอนว่าเกาะนี้เป็นเกาะเกี่ยวกับไข่มุก ดังนั้นแล้วจุดเด่นก็ต้องเกี่ยวกับไข่มุกอย่างแน่นอน อย่างเช่น
นักดำน้ำหญิงอามะ (Ama Diver) ถือว่าเป็นประเพณีเก่าแก่อย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งการดำน้ำลักษณะนี้นั้น ผู้หญิงที่เป็นนักดำน้ำจะสวมชุดสีขาว และดำน้ำโดยไม่ใช้ถังออกซิเจน ซึ่งในอดีตเหล่านักดำน้ำหญิงก็มักจะลงไปเก็บหอยเป่าฮื้อ เปลือกหอยสังข์ และสัตว์ทะเลอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสมัยที่ฟาร์มไข่มุกได้เปิดใหม่ๆ เหล่านักดำน้ำหญิงเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพาะพันธุ์ไข่มุก
ซึ่งที่เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) นั้นก็จะมีการสาธิตการดำน้ำแบบอามะ (Ama Diver) ให้นักท่องเที่ยวได้ดูกัน เพราะยุคสมัยนั้นเริ่มเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ทำให้การดำน้ำแบบอามะ (Ama Diver) นั้นค่อยๆหายไป โดยการสาธิตการดำน้ำแบบอามะ (Ama Diver) นั้น มีให้ชมทุกชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. จนถึงรอบสุดท้ายเวลา 16.30 น.
พิพิธภัณฑ์ไข่มุกแห่งเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) เป็นพิพิธภัณฑ์ 2 ชั้น
ชั้น 1
เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับ การผลิตไข่มุก และ การจำหน่ายไช่มุก โดยจะมีการอธิบายเกี่ยวประเภทของไข่มุกให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน รวมถึงกลไกการผลิตไข่มุก โดยสื่อผ่านทางแบบจำลอง แผนผัง และ VDO เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจง่ายขึ้น และมีการอธิบายการเก็บไข่มุกที่เรียกว่า Hamaage อีกด้วย และที่ชั่น 1 ยังมีห้องที่จัดนิทรรศการแบบพิเศษอีก
ชั้น 2
จะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับเก็บไข่มุกจากทั่วทุกมุมโลก และมีตัวอย่างเครื่องประดับที่ทำมาจากไข่มุกให้นักท่องเที่ยวชม รวมถึงประวัติศาสตร์ของไข่มุกที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคเมจิอีกด้วย ซึ่งมีบางชิ้นนั้นได้เคยไปถูกจัดแสดงที่งาน Paris World Exposition ในปีค.ศ. 1937 อีกด้วย
นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้วที่นี่ยังมี Kokichi Mikimoto Memorial Hall ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดแสดงเรื่องราวต่างๆของท่าน Mikoto Kokichi โดยเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ และคำบรรยาย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของที่ระลึกของเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) นั้น ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์จะมีร้านที่ชื่อว่า Pearl Plaza ซึ่งที่นี่จำหน่ายเครื่องบประดับที่ทำจากไข่มุกแท้ๆ ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีหลายราคาให้ลูกค้าเลือกซื้ออีกด้วย
สำหรับการเดินทางมายังเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) นั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้โดยง่าย
เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island)
ที่อยู่ | 1 Chome-7-1 Toba, Mie 517-8511 |
เวลาทำการ | แต่ละวันเวลาเปิดปิด ไม่แน่นอนสามารถเข้าไปเช็คได้ที่นี่ ตารางวันเวลาทำการ |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1600 เยน เด็ก 850 เยน |
Website | เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) |
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่ใกล้ๆกับเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) โดยมีทั้งหมด 12 โซน โดยมีสัตว์ทะเลมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันเช่น ปลา แมงกะพรุน ปู สิงโตทะเล แมวน้ำ เป็นต้น ถือว่ามีสัตว์น้ำมากเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น
และที่นี่ยังมีการจัดแสดงโชว์สัตว์และการให้อาหารสัตว์ให้นักท่องเที่ยวดูอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium)
ที่อยู่ | 3 Chome-3-6 Toba, Mie 517-8517 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Toba เดิน 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 09.30 น. – 17.00 น. ยกเว้นช่วง Golden Week และเดือนสิงหาคมที่เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 2800 เยน เด็ก 1600 เยน เด็กเล็ก 800 เยน |
Website | พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium) |
ซากปราสาท Toba ตั้งอยู่บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 40 เมตร ซึ่งปัจจุบันถูกปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะที่มีชื่อว่า Shiroyama Park
โดยเมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงด้านบนนั้นจะสามารถมองเห็นอ่าว Toba แบบพาโนราม่าได้ เท่านั้นไม่พอถ้ามาช่วงที่ดอกซากุระบาน ที่แห่งนี้ก็คือแหล่งชมซากุระชั้นดีแห่งหนึ่งของจังหวัด Mie อีกด้วย
ซากปราสาท Toba
ที่อยู่ | 3 Chome-1-1 Toba, Mie 517-0011 |
วิธีเดินทาง | เดิน 15 นาทีจากสถานี Toba |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | ฟรี |
Website | ซากปราสาท Toba |
ศาลเจ้าโบราณที่สร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับสักการะบูชาเทพแห่งดวงอาทิตย์ Amaterasu Omikami โดยศาลเจ้าแบ่งเป็นศาลเจ้าชั้นใน และชั้นนอก
ซึ่งที่ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นยังมีพิธีกรรมที่น่าสนใจคือ Shikinen Sengu ที่จะต้องรื้ออาคารหลักแล้วสร้างใหม่ในทุกๆ 20 ปี และใกล้ๆกับศาลเจ้าชั้นในยังมีสถานที่ช็อปปิ้งอย่าง Okage Yokocho อีกด้วย
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine)
ที่อยู่ | 279 Toyokawa-cho, Ise city, Mie 516-0023 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Toba นั่งรถไฟ Kintetsu มาลงสถานี Isuzugawa จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถบัสมาลงป้าย Naiku – Mae แล้วเดินอีก 10 นาที |
เวลาทำการ | เดือนมกราคม – เมษายน และ กันยายน เปิดตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 18.00 น. เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม เปิดตั้งแต่ 05.00 น. ถึง 19.00 น. เดือนตุลาคม – ธันวาคม เปิดตั้งแต่ 05.00 น. ถึง 17.00 |
ราคา | ฟรี |
Website | ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) |
การที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) นั้น นักท่องเที่ยวจะได้เห็นการดำน้ำแบบ Ama Diving ซึ่งเป็นการดำน้ำที่สืบทอดกันมาช้านานที่หาดูจากที่ไหนไม่ได้ นอกจากนั้นแล้วนักท่องเที่ยวยังเห็นขั้นตอนต่างๆของการผลิตไข่มุกสู่ท้องตลาดได้อีกด้วยผ่านทางพิพิธภัณฑ์ และนักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อเครื่องประดับไข่มุกกลับบ้านได้อีกด้วย
ซึ่งการเที่ยวที่นี่นั้นยังสามารถเที่ยวสถานที่อื่นๆในเมือง Toba แบบ One Day Trip ได้อีกด้วย ซึ่งเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทุกคนต้องห้ามพลาด
Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
109 Posts
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515