Hakone (ฮาโกเน่) เมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาว่า ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ระยะทางจากโตเกียวมาประมาณ 70 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
เพราะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายที่ยังมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ขึ้นชื่อในเรื่องออนเซ็น ฮาโกเน่เป็นเมืองที่ยังมีภูเขาไฟที่ยังไม่ปะทุหลงเหลืออยู่ และที่สำคัญคือแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้นั่นเอง จึงเป็นเหตุให้ผู้คนจำนวนมากพากันมา เที่ยวฮาโกเน่
หากใครที่สนใจอยากหาข้อมูล เที่ยวคานากาว่าแบบครบถ้วน ทั้งพิกัดเที่ยวและการเดินทาง อ่านได้ที่นี่
การเดินทางจากโตเกียวไปฮาโกเน่
สำหรับการเดินทางไปฮาโกเน่นั้นไม่ยากเลย เพราะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ใครที่เดินทางมาโตเกียวแล้วอยากชมวิวภูเขาไฟฟูจิก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในฮาโกเน่ได้แบบ 1 Day Trip เพราะที่นี่มีบรรยากาศที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากโตเกียวที่เป็นเมืองหลวง เพราะถ้าให้เที่ยวในเมืองตลอดเวลาก็อาจจะปวดหัวมากไป ลองมาแวะ เที่ยวฮาโกเน่ ในบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ดูแล้วจะติดใจ
เดินทางโดยรถไฟ
1. นั่งรถไฟ JR ชินคันเซนจากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Odawara ใช้เวลาประมาณ 35 นาที จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็น Tozan line ต่อไปยังสถานี Hakone-Yumoto อีกประมาณ 20 นาที
-
- ราคาค่าโดยสารชินคันเซน : Unreserved seat 3,220 เยน / Reserved seat 3,540 เยน
- ราคาค่าโดยสาร Tozan Line : 310 เยน
2. นั่งรถไฟ Odakyu จากสถานี Shinjuku มาลงที่สถานี Odawara ใช้เวลาประมาณ 100 นาที จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็น Tozan line ต่อไปยังสถานี Hakone-Yumoto อีกประมาณ 20 นาที
-
- ราคาค่าโดยสาร Odakyu Line : 880 เยน
- ราคาค่าโดยสาร Tozan Line : 310 เยน
เดินทางโดย Highway Bus
1. นั่งรถ Odakyu Highway Bus จาก Shinjuku Bus Terminal เพื่อมาลงที่ Hakone-Togendai
-
- ราคาค่าโดยสาร : 2,010 เยน
- ระยะเวลาเดินทาง : 2 ชั่วโมง 15 นาที
2. นั่งรถ Keihin Kyuko Bus จากสนามบิน Haneda เพื่อมาลงที่ Hakone-Togendai
-
- ราคาค่าโดยสาร : 2,260 เยน
- ระยะเวลาเดินทาง : 2 ชั่วโมง 50 นาที
3. นั่งรถ Keihin Kyuko Bus จากสนามบิน Haneda เพื่อมาลงที่ Hakone-Yumoto
-
- ราคาค่าโดยสาร : 1,950 เยน
- ระยะเวลาเดินทาง : 2 ชั่วโมง20 นาที
แต่เพื่อความคุ้มค่า เราแนะนำให้ซื้อเป็น Hakone Free Pass ที่สามารถใช้ในการเดินทางจากชินจูกุมายังฮาโกเน่ได้ทั้งขาไปและขากลับ ทั้งยังสามารถใช้ขึ้นเรือโจรสลัด, Ropeway, Cable Car และใช้ในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในฮาโกเน่ได้อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจจะซื้อ Hakone Free Pass ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดของพาสได้ทางลิงก์ด้านล่างนี้เลย
Hakone Free Pass ตั๋วดีที่พาคุณขึ้นรถไฟ นั่งรถบัส ล่องเรือ ทั่วฮาโกเน่แบบสุดคุ้ม
สัมผัสความงดงามของภูเขาไฟฟูจิที่ฮาโกเน่แบบคุ้มค่าต้องใช้ Hakone Free Pass ตั๋วใบเดียวที่จะพาเพื่อน ๆ เที่ยวฮาโกเน่ แบบครบทุกการเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวฮาโกเน่
การเดินทางในฮาโกเน่สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นสามารถเดินทางได้โดยรถไฟ, รถราง, กระเช้า, รถบัส และเรือ ซึ่งเกือบทุกสถานที่ยอดนิยมนั้นเราสามารถใช้ Hakone Free Pass ในการเดินทางได้ ทำให้สามารถประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ
ในฮาโกเน่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดย Chill Chill Japan จะขอทำลิสต์ออกมาเพื่อแนะนำข้อมูลของแต่ละสถานที่ว่าจะมีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไร สำหรับเพื่อน ๆ ที่วางแผนจะมา เที่ยวฮาโกเน่ ก็คงจะมีตั้งแต่ 1 วัน, 2 วัน, 3 วัน แล้วแต่ความสะดวกหรือแพลนที่วางไว้ และจากลิสต์ที่เราแนะนำไปนั้น เพื่อน ๆ สามารถนำไปปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับระยะเวลาการท่องเที่ยวในฮาโกเน่ของตัวเองได้ตามต้องการเลยนะ
Hakone Kowakien Yunessun : ออนเซ็นแปลกหลากสไตล์
Yunessun คือ ออนเซ็นสุดเก๋ที่เป็นออนเซ็นในรูปแบบของธีมปาร์ค มีออนเซ็นที่ไม่เหมือนใครให้เราได้แช่ เช่น ออนเซ็นกาแฟ ออนเซ็นไวน์ ออนเซ็นที่มีสไลเดอร์ แค่ได้ยินชื่อของแต่ละออเนเซ็นก็ตื่นเต้นจะแย่แล้ววว เราลองไปดูกันดีกว่าแต่ละออนเซ็นหน้าตาเป็นยังไง !
Coffee Bath : ออนเซ็นกาแฟ
ออนเซ็นกาแฟของที่นี่เป็นน้ำกาแฟจริง ๆ เป็นกาแฟที่ได้จากการดริปด้วยความร้อนต่ำ ให้เราได้นั่งแช่ในน้ำกาแฟอย่างสบายอารมณ์ รีแลกซ์ไปกับกลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟที่คุ้นเคย สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟและเชื่อว่ากาแฟช่วยให้ผ่อนคลายได้ต้องลองมาแช่ดูให้ได้นะ
Wine Bath : ออนเซ็นไวน์
บางคนก็มีความเชื่อว่าการดื่มไวน์จะทำให้ดูอ่อนกว่าวัย แล้วจะเป็นยังไงถ้าได้มาแช่ออนเซ็นไวน์ของจริงที่เข้มข้นไปด้วยองุ่นที่บ่มจนได้เป็นน้ำสีแดง กลิ่นหอมหวานแบบไวน์แสนอร่อย แช่แล้วไม่เมานะจ้ะ แต่ได้ผิวสวยสุขภาพดีแทน เด็ก ๆ ก็แช่ได้นะคะ ไม่ถือเป็นของมึนเมา
Rodeo Mountain : ออนเซ็นภูเขาสไลเดอร์
ที่เห็นอยู่นี้ไม่ใช่เครื่องเล่นในสวนน้ำนะ แต่เป็นออนเซ็นที่มีสไลเดอร์และน้ำตกที่ทำให้เราสนุกสนาน ไม่ต้องนั่งแช่เฉย ๆ อีกต่อไป น้ำอุ่นสบายร่างกาย แช่ได้แม้จะเป็นฤดูหนาว
Indoor Bath : ออนเซ็นในร่ม
ออนเซ็นในร่มของที่นี่ดูหน้าตาน่าสนุกมาก ๆ เหมือนเป็นสวนน้ำในร่มที่เปิดโอกาสให้ทุกสมาชิกในครอบครัวมาสนุกสนานด้วยกัน ได้ทั้งความสนุกและสุขภาพดีจากการแช่ออนเซ็น
Open-air Bath
สำหรับใครที่ยังชอบการแช่ออนเซ็นแบบกลางแจ้งอยู่ ที่นี่เค้าก็มีให้บริการ ซึ่งวิวที่เราจะได้มองเห็นจากออนเซ็นคือภูเขา Hakone อันสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งงดงามเป็นพิเศษ
Hakone Kowakien Yunessun
ที่อยู่ | 1297 Ninotaira, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa-ken 250-0407 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakonetozan Line มาลงสถานี Odawara แล้วนั่งรถบัส Hakonetozan Bus หรือ Izu-Hakone Bus เพื่อมาลงที่ Kowaki-en Bus Stop แล้วเดินขึ้นไปยังออนเซ็น |
เวลาทำการ | ออนเซ็นที่ใส่ชุดว่ายน้ำเข้าได้ : 10.00-18.00 น.(เสาร์อาทิตย์ 9.00-19.00 น.) ออนเซ็นที่ต้องถอดเสื้อผ้า : 11.00-19.00 น.(เสาร์อาทิตย์ 11.00-20.00 น.) |
ราคา | Passport for all areas (Yunessun area และ Mori no Yu area): ผู้ใหญ่ 3,500 เยน, เด็ก 1,800 เยน |
Website | Yunessun Onsen |
Hakone Ropeway : ขึ้นกระเช้าชิมไข่ดำบนยอดภูเขาไฟ
Ropeway สาย Hakone เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบวิวของภูเขาไฟฟูจิล่ะก็ต้องห้ามพลาด เพราะในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ฟูจิซังจะเลิกเขินอายและโผล่มาทักทายเรานั่นเอง
นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ด้านบนยังมีสถานที่ยอดฮิตอย่าง หุบเขา Owakudani ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Hakone เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว
เป็นที่นิยมในการมากินไข่ดำเพราะเชื่อกันว่ากิน 1 ฟองแล้วจะอายุยืนไปอีก 7 ปี
จะเห็นได้ว่าทิวทัศน์รอบ ๆ ที่เราจะได้เห็นจากบนกระเช้าลอยฟ้านั้นมีหลากหลายจริง ๆ เคลื่อนผ่านไปเรื่อย ๆ เพื่อชื่นชมบรรยากาศกันอย่างเพลิดเพลินจนลืมกลัวความสูงไปเลย ซึ่งเส้นทางที่ไปจะมีให้เลือกหลายเส้นทางด้วยกัน ใครอยากไปเส้นไหนก็ลองเลือกดูนะ
Hakone Ropeway
ที่อยู่ | Gora, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa Prefecture 250-0408, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่ง Cable Car สาย Hakonetazan มาลงสถานี Sounzan เพื่อขึ้น Hakone Ropeway |
เวลาทำการ | 09.00-16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ : เริ่มต้น 840 เยน, เด็ก : เริ่มต้น 420 เยน |
Website | Hakone Ropeway |
Hakone Sightseeing Cruise : ล่องเรือโจรสลัดท่องทะเลสาบอะชิ
ถ้าพูดถึงเรือโจรสลัด อาจมีหลายคนนึกถึงเรือวันพีซ แต่วันนี้เราไม่ได้พาไปเจอลูฟี่นะ เพราะมีอีกหนึ่งเรือโจรสลัดแห่งฮาโกเน่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือเรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่นั่นเอง
สำหรับเรือที่จะพาเราไปทัศนาจรนั้นจะมีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน คือ เรือ Royal II, เรือ Victory และเรือ Vasa ซึ่งเรือแต่ละลำก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันเลย ซึ่งเราจะได้ขึ้นเรือลำไหนนั้นก็เป็นการแรนด้อม และถ้าอยากขึ้นลำอื่นก็ต้องแวะมาที่ฮาโกเน่ใหม่น้า
เรือ Royal II
เรือโรยัล II ได้ถูกออกแบบตามเรือรอยัล หลุยส์ ซึ่งเป็นเรือรบระดับเฟิร์สคลาสที่ถูกสร้างขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเมื่อศตวรรษที่ 18 และได้ทำหน้าที่เป็นเรือธงให้กับกองเรือรบฝรั่งเศส พยายามออกแบบให้มีบรรยากาศในยุคสมัยนั้น มาในสีแดงทรงพลังเด่นสง่า
ไม่ว่าเป็นรูปบนหัวเรือ การตกแต่งประดับทั้งข้างในและข้างนอกเรือ และระเบียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ท้ายเรือ ภายในห้องโดยสารพิเศษถูกประดับตกแต่งให้มีลักษณะแบบฝรั่งเศสในยุคสมัยนั้น ข้างในเรือทัศนาจรลำใหม่นี้ยังมีหุ่นของลูกเรือและพังงาประดับอยู่มากมายให้เราถ่ายรูปคู่ด้วย โดยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเรือนั้นออกแบบมาให้ผู้พิการหรือผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก
เรือ Victory
เรือวิคตอรี่ ออกแบบตามเรือรบวิคตอรีที่สร้างขึ้น ณ ประเทศอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ได้รัชัยชนะการรบมาหลายครั้งในสงครามกลางทะเลในประวัติศาสตร์ ปัจจุบันถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้เป็นที่ระลึกและสัญลักษณ์ของชาวอังกฤษ การประดับตกแต่งภายในและรูปบนหัวเรือของเรือได้ถูกออกแบบให้เราได้สัมผัสบรรยากาศในสมัยนั้น สีของเรือคือสีน้ำตาลสไตล์เรืออังกฤษโบราณ
เรือ Vasa
สำหรับเรือ Vasa นั้นถูกออกแบบตามเรือ Vasa ซึ่งเป็นเรือที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า Gustavus Adolphus แห่งสวีเดนที่มีอิทธิพลต่อแถบยุโรปเหนือเป็นอย่างมากในสมัยศตวรรษ 17 จนได้รับฉายาว่่า “สิงห์ยุโรปเหนือ” และด้านหน้าเรือก็มีรูปปั้นสิงโตไว้เป็นสัญลักษณ์ ภายในออกแบบประติมากรรมอย่างหรูหรา ตัวเรือสีเขียวมีพลังตัดกับสีแดงของกันหันแดงท้ายเรือ
นอกจากความสวยงามทรงเสน่ห์ของการออกแบบเรือแต่ละลำแล้ว เรายังจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศความสวยงามของทิวทัศน์โดยรอบอีกด้วย ซึ่งวิวที่จะได้เห็นนั้นคือวิวทะเลสาบอาชิที่สวยงามมาก ๆ และในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เราจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากเรืออีกด้วย !
เส้นทางเดินเรือ
-ท่าเรือ Togendai
ที่ท่าเรือนี้เราสามารถแวะลงมาทานอาหารที่ร้านอาหารบรรยากาศดี๊ดี วิวทะเลสาบ ที่มีชื่อว่า Togendai View Restaurant
หรือใครที่ต้องการไปนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวสวย ๆ จากมุมสูงก็ต้องมาลงที่ท่าเรือนี้เพื่อมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่นี่ได้ หรืออยากเดินเล่นชิลล์ชิลล์ที่สวนสาธารณะ ที่ท่าเรือก็มีนะจ้ะ
การเดินทางสู่ท่าเรือ Togendai
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถด่วนโรแมนซ์คาร์จากสถานี “ชินจุกุ” ประมาณ 85 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย T) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 35 นาที ลงป้าย “โทเง็นได”
เดินทางโดยรถด่วน
นั่งรถด่วนสายโอดะคิวฮาโกเน่จาก “ทางออก West Exit สถานีชินจุกุ” ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที ลงป้าย “ฮาโกเน่ โทเง็นได”
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถไฟชินคันเซนสายโทไคโดจากสถานี “โตเกียว” ประมาณ 40 นาที ลงสถานี “โอดาวาระ” นั่งรถไฟสายฮาโกเน่โทซังจากสถานี “โอดาวาระ” ประมาณ 20 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย T) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 35 นาที ลงป้าย “โทเง็นได”
เดินทางโดยรถด่วน
นั่งรถด่วนสายโอดะคิวฮาโกเน่ (สายฮาเนดะ) จาก “สนามบินฮาเนดะ” ประมาณ 170 นาที ลงป้าย “โทเง็นได”
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถไฟนาริตะ เอ็กซ์เพรสจาก “สนามบินนาริตะ” ประมาณ 80 นาที ลงสถานี “ชินจุกุ” นั่งรถด่วนโรแมนซ์คาร์จากสถานี “ชินจุกุ” ประมาณ 85 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย T) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 35 นาที ลงป้าย “โทเง็นได”
-ท่าเรือ Hakone Machi
สำหรับใครที่ชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์หรือมีความสนใจข้อมูลเชิงลึก การมาลงที่ท่าเรือนี้ถือเป็นเรื่องดีงาม เพราะมีทั้ง ด่านตรวจคนเข้าเมืองของฮาโกเน่ ที่จัดแสดงบรรยากาศและวิธีการตรวจคนที่น่าสนใจ รวมไปถึงสวนสาธารณะฮาโกเน่ให้เดินเล่นชมธรรมชาติ และยังมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่จัดแสดงเกี่ยวกับพืชและสัตว์ไว้ให้ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
การเดินทางสู่ท่าเรือ Hakone Machi
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถด่วนโรแมนซ์คาร์จากสถานี “ชินจุกุ” ประมาณ 85 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ”
นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย H) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 40 นาที ลงป้าย “ฮาโกเน่มาจิ”หรือนั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “ฮาโกเน่มาจิ”
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถไฟชินคันเซนสายโทไคโดจากสถานีโตเกียว ประมาณ 40 นาที ลงสถานี “โอดาวาระ” นั่งรถไฟสายฮาโกเน่โทซังจากสถานี “โอดาวาระ” ประมาณ 20 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย H) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 40 นาที ลงป้าย “ฮาโกเน่มาจิ”
หรือนั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “ฮาโกเน่มาจิ”
เดินทางโดยรถด่วนและรถบัส
นั่งรถด่วนสายโอดะคิวฮาโกเน่ (Air Liner) จาก “สนามบินฮาเนดะ” ประมาณ 130 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ”
นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถไฟนาริตะ เอ็กซ์เพรสจาก “สนามบินนาริตะ” ประมาณ 80 นาที ลงสถานี “ชินจุกุ” นั่งรถด่วนโรแมนซ์คาร์จากสถานี “ชินจุกุ” ประมาณ 85 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ”
นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “ฮาโกเน่มาจิ”
-ท่าเรือ Moto Hakone
ท่าเรือนี้นับเป็นท่าที่คับคั่งไปด้วย ที่ เที่ยวฮาโกเน่ ใครที่ขี้เกียจแวะที่อื่นก็มาแวะที่นี่ได้ ครบวงจรเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงน้ำชาที่มีเสิร์ฟเมนูข้าวหน้ายูบะ ข้าวหน้าฟองเต้าหู้ เมนูขึ้นชื่ของฮาโกเน่ รวมทั้งบะหมี่ อุด้ง และโซบะ
มาฮาโกเน่ทั้งที ไม่แวะศาลเจ้าฮาโกเน่ก็คงเหมือนมาไม่ถึง เพื่อน ๆ สามารถลงที่ท่าเรือนี้เพื่อแวะสักการะศาลเจ้าก่อนได้ นอกจากจะจิตใจผ่องใสแล้ว บรรยากาศยังสวยงามมาก ๆ ด้วย
การเดินทางสู่ท่าเรือ Moto Hakone
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถด่วนโรแมนซ์คาร์จากสถานี “ชินจุกุ” ประมาณ 85 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย H) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 40 นาที ลงป้าย “โมโตะฮาโกเน่โก”
หรือนั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “โมโตะฮาโกเน่โก”
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถไฟชินคันเซนสายโทไคโดจากสถานีโตเกียว ประมาณ 40 นาที ลงสถานี “โอดาวาระ” นั่งรถไฟสายฮาโกเน่โทซังจากสถานี “โอดาวาระ” ประมาณ 20 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ”
นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย H) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 40 นาที ลงป้าย “โมโตะฮาโกเน่โก”หรือนั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “โมโตะฮาโกเน่โก”
เดินทางโดยรถด่วนและรถบัส
นั่งรถด่วนสายโอดะคิวฮาโกเน่ (Air Liner) จาก “สนามบินฮาเนดะ” ประมาณ 130 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ”
นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “โมโตะฮาโกเน่โก”
เดินทางโดยรถไฟและรถบัส
นั่งรถไฟนาริตะ เอ็กซ์เพรสจาก “สนามบินนาริตะ” ประมาณ 80 นาที ลงสถานี “ชินจุกุ” นั่งรถด่วนโรแมนซ์คาร์จากสถานี “ชินจุกุ” ประมาณ 85 นาที ลงสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ”
นั่งรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (สาย R) จากสถานี “ฮาโกเน่ยุโมโตะ” ประมาณ 30 นาที ลงป้าย “โมโตะฮาโกเน่โก”
คลิ๊กที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติม
The Hakone Open-Air Museum : พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแสนสนุก
The Hakone Open-Air Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จในการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและศิลปะเข้าด้วยกันจนได้ผลงานออกมาเป็นพิพิธภัณฑ์สนุก ๆ แห่งนี้นั่นเอง
ศิลปะที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ใช่งานศิลปะน่าเบื่อที่เราได้แค่มองแล้วเดินผ่านไปเฉย ๆ เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ศิลปินต้องการจะสื่อ แต่ที่นี่เปิดโอกาสให้เราได้ใกล้ชิดกับงานศิลปะมามากกว่า
พื้นที่จัดงานมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง ในวันที่อากาศดีนั้นเหมาะอย่างยิ่งที่จะได้ชื่นชมและถ่ายรูปงานศิลปะแบบเก๋ ๆ
ภายในก็เต็มไปด้วยงานศิลปะที่เราสามารถมีส่วนร่วมได้ ทำให้สิ่งที่เรียกว่าพิพิธภัณฑ์ไม่น่าเบื่อแต่สนุกสนานมากกว่า
นอกจากนั้นก็ยังมีกิจกรรรมให้เราได้ร่วมสนุกในการสร้างสรรค์งานศิลปะของเราเองอีกด้วย และในแต่ช่วงก็จะมีการจัดอีเว้นท์ต่าง ๆ ที่นาสนใจมาก ๆ เลยล่ะ
The Hakone Open-Air Museum
ที่อยู่ | Ninotaira 1121, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa Prefecture 250-0493 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakonetozan Line มาลงสถานี Chokoku-no-Mori แล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ : 1,600 เยน, นักศึกษามหาวิทยาลัยและนักเรียนมัธยมปลาย : 1,000 เยน, เด็กประถม : 800 เยน |
โทรศัพท์ | 0460-82-1161 |
Website | The Hakone Open-Air Museum |
Gotemba Premium Outlets : ช้อปปิ้งกระจายที่ Outlet แห่งฮาโกเน่
ปิดท้ายความสนุกของทริปด้วยการไปช้อปปิ้งที่เอาท์เล็ต Gotemba Premium Outlets กันเถอะ ที่นี่ไม่ใช่แค่แหล่งช้อป ฯ หรอกนะ แต่ยังเป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามมาก ๆ แห่งหนึ่งอีกด้วย
ภายในเอาท์เล็ตก็มีร้านแบรนด์ดังระดับไฮเอนด์ตั้งอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น GUCCI, COACH, FURLA, PRADA, miu miu หรือแบรนด์ยอดฮิตในราคาเอื้อมถึงอย่าง BANANA REPUBLIC, NIKE, Rayban, Levi’s และแบรนด์ที่น่าสนใจอื่น ๆ
นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างพากันมาช้อป ฯ ที่นี่ พร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศอันสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ
สไตล์การตกแต่งของเอาท์เล็ตก็เหมือนกับที่อื่น ๆ ในญี่ปุ่นที่จะมีศิลปะของฝั่งตะวันตกซ่อนอยู่
ช้อป ฯ กันเพลินจนเวลาล่วงเลยไปมาก พระอาทิตย์อำลาท้องฟ้าไปแล้ว แต่เอาท์เล็ตแห่งนี้ก็ยังสวยงามและเปิดบริการรอคอยให้เราได้ช้อป ฯ กันอย่างต่อเนื่องจนนาทีสุดท้ายไปเลย
แบรนด์ที่น่าสนใจ
- adidas
- ANNA SUI
- BALENCIAGA
- BALLY
- BURBERRY
- Calvin Klein
- CELINE
- Chole
- COACH
- crocs
- ecco
- DIESEL
- G-SHOCK
- GAP
- GUCCI
- ISSEY MIYAKE
- Kate Spade
- MICHAEL KORS
- new balance
- NIKE
- Nikon
- Paul Smith
- PRADA
- PUMA
- Reebok
- Sanrio
- TAG Heuer
- Timberland
- VALENTINO
- Vivienne Westwood
Gotemba Premium Outlets
ที่อยู่ | 1312, Fukasawa Gotemba-Shi, Shizuoka, Japan 412-0023 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Gotemba Line มาลงสถานี Gotemba แล้วนั่งรถ Shuttle Bus ฟรีต่อมาอีก 15 นาที |
เวลาทำการ | มีนาคม-พฤศจิกายน : 10.00-20.00 น., ธันวาคม-กุมภาพันธ์ : 10.00-19.00 น. |
Website | Gotemba Premium Outlets |
ข้อสรุป
ฮาโกเน่เป็นอีกเมืองที่เปี่ยมเสน่ห์ เดินทางง่ายไม่ไกลจากโตเกียว เป็นอีกหนึ่งเมืองสำหรับผู่ที่ต้องการยลโฉมภูเขาไฟฟูจิ เป็นหนึ่งเมืองน่ารักที่รอให้คุณสัมผัส มา เที่ยวฮาโกเน่ กันนะ!
แต่ที่คานากาวะเองนั้นก็ยังมีที่ท่องเที่ยวดังอื่นนอกจาก Hakone อีกมากมายเลย ใครที่สนใจลองอ่านกันเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
หากอยากรู้ว่าเสน่ห์ของจังหวัด Kanagawa ยังมีอะไรอีกมาก มาค้นหาไปพร้อมกันเลย
รวมที่เที่ยวคานางาวะ (Kanagawa) เดินทางเพียง 30 นาที จากโตเกียว
เมืองคานากาวะ เมืองท่าที่อยู่ติดโตเกียว พร้อมเสน่ห์ที่น่าค้นหา กับที่เที่ยวหลากหลายกว่า 17 ที่