Dejima หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ก่อนอื่นผมจะต้องอธิบายก่อนว่าในสมัยเอโดะนั้นญี่ปุ่นยังมีนโยบายปิดประเทศอยู่ ดังนั้นแล้วการติดต่อกับชาวต่างชาตินั้น จะต้องติดต่อผ่านเดจิมะ ( Dejima )
เกาะเดจิมะ ( Dejima ) จริงๆแล้วเป็นเกาะมาจากการสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ในปีค.ศ. 1636 ตามคำสั่งของโชกุน Tokugawa โดยมีจุดประสงค์คือ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของชาวโปรตุเกส ก่อนที่ชาวโปรตุเกสจะโดนขับไล่ออกจากญี่ปุ่น ต่อมาได้มีการย้ายสถานีการค้าของชาวดัตซ์จาก Hirado ไปยังเดจิมะ ( Dejima ) ทำให้ชาวดัตซ์ก็จำกัดให้อาศัยอยู่เดจิมะ ( Dejima ) และเป็นที่ตั้งของบริษัท Dutch East India Company ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทใหญ่และมีอำนาจ
นอกจากใช้เป็นที่อยู่ของชาวต่างชาติในยุคนั้นแล้ว ที่เดจิมะ ( Dejima ) ยังใช้เป็นสถานที่ทำการค้า เพราะว่ามีเรือสินค้าของโปรตุเกส จีน และดัตซ์มากมายที่เข้าเทียบท่าที่นี่ โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญเช่น ผ้าฝ้าย เครื่องแก้ว พริกไทย เป็นต้น นอกจากสินค้าน้ำเข้าแล้ว สินค้าส่งออกก็มีด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ทองแดง เซรามิก เป็นต้น
ต่อมาญี่ปุ่นได้มีนโยบายการเปิดประเทศ ทำให้บริเวณนั้นถูกปรับปรุงครั้งใหญ่จนทำให้เกาะเดจิมะ ( Dejima ) รวมกับแผ่นดินใหญ่ของ Nagasaki ทำให้เกาะเดจิมะ ( Dejima ) ถือว่าสิ้นสุดลง
โดยในอดีตเกาะเดจิมะ ( Dejima ) นั้นมีรูปทรงคล้ายกับ พัด
Dejima: การเดินทางย้อนเวลากลับไปในยุคสมัยเอโดะ
ในช่วงปีค.ศ. 1951 ซึ่งเป็นช่วงหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางเมือง Nagasaki ได้บูรณะเกาะเดจิมะ ( Dejima ) โดยมีการบูรณะอาคาร 16 หลัง ให้กลับมาเป็นในรูปแบบย้อนยุค
ต่อมาในปีค.ศ. 2017 นั้นสะพาน Dejimaomote ก็ได้สร้างเสร็จ ซึ่งสะพานแห่งนี้จะพานักท่องเที่ยวได้ข้ามไปยังเกาะเดจิมะ ( Dejima ) เหมือนครั้งในอดีต
ซึ่งหากนักท่องเที่ยวได้มาเดินที่เดจิมะ ( Dejima ) นักท่องเที่ยวจะมีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ย้อนกลับไปยังในสมัยที่เดจิมะ ( Dejima ) นั้นถูกใช้เป็นพื้นที่การค้าในสมัยยุคเอโดะ ยิ่งหากมาช่วงกลางคืนที่เดจิมะ ( Dejima ) แห่งนี้ก็จะมีการประดับไฟ ซึ่งสร้างบรรยากาศให้ยิ่งน่ามาเที่ยวที่นี่ขึ้นไปอีก
กิจกรรมที่คุณสามารถทำที่ Dejima
การเยี่ยมชมอาคารเก่าแก่และพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์
การมาเที่ยวสถานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นจะต้องมีพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วยแน่นอน ซึ่งที่เดจิมะ ( Dejima ) แห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมด้านในอย่างเช่น
Former Nagasaki International Club
อาคารแห่งนี้เป็นอาคารที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1903 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ที่มีสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษ โดยชั้นล่างเป็นร้านอาหารที่มีอาหารท้องถิ่นแบบ Nagasaki ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองกัน ส่วนชั้น 2 นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวประวัติศาสตร์ของชาวต่างชาติที่เข้ามาใน Nagasaki
Former Dejima Protestant Seminary
อาคารแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายกับโบสถ์โดยด้านบนสุดจะมีไม้กางเขนอยู่ ซึ่งอาคารนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1878 นับว่าเป็นอาคารเซมินารีโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นร้านค้าขายของที่ระลึก
Chief Factor’s Residence
ที่นี่ถือว่าเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดของเดจิมะ ( Dejima ) โดยเป็นบ้านพักอาศัยที่ตกแต่งสไตล์ตะวันตก โดยชั้นล่างนั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตกิจการประจำวันของเดจิมะ ( Dejima ) ส่วนชั้น 2 จำลองวิถีชีวิตของผู้ที่เคยพักอาศัยของที่นี่ ( Chief Factor )
โกดังสินค้าต่างๆ
ที่นี่ยังมีอดีตโกดังสินค้าต่างๆ ที่ถูกปรับปรุงเป็นสไตล์โบราณ อยู่หลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันด้วย
การทดลองสวมชุดประจำยุค
ที่เดจิมะ ( Dejima ) นั้น นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดกิโมโนแล้วเดินชมเมืองชิลๆได้อีกด้วย มีร้านที่บริการให้เช่าชุดกิโมโนคือร้าน dejima-hoppen ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องจองก่อน สามารถจองได้ที่นี่
จองชุดกิโมโนร้าน dejima-hoppen
โดยที่ร้านมีชุดให้เลือกเช่ามากกว่า 100 ชุดเลยทีเดียว โดยการใส่ชุดกิโมโนไปถ่ายรูปคู่กับอาคารเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกนั้น ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ในการมาเยี่ยมชมเดจิมะ ( Dejima )
การเช่าชุดกิโมโนนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องคืนร้านในวันเดียวกับที่เช่า
ร้าน Dejima-hoppen
ที่อยู่ | 850-0862,Nagasaki, Dejimamachi, 6-1 Dejima Hetor Room 2nd floor |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 17.00 น. ปิดวันอังคาร |
ราคา | ค่าเช่าชุดคนละ 5500 เยน |
Website | ร้าน Dejima-hoppen |
พิพิธภัณฑ์และการจัดแสดงที่ Dejima
การจัดแสดงการใช้ชีวิตของชาวดัตช์ใน Dejima
กลับมาที่พิพิธภัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง ในอดีตนั้นที่เดจิมะ ( Dejima ) เคยมีชาวดัตซ์มาอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นแล้ว ผมเลยอยากจะมาแนะนำอาคารต่างๆ ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวดัตซ์ให้เพื่อนๆได้รู้จัก และได้เห็นวิถีชีวิตของพวกเขา อย่างเช่นการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวดัตซ์ผ่านการตกแต่งสถานที่จำลองให้เหมือนจริงในยุคก่อน หรือชมผ่านภาพเขียน
First Ship Captain’s Quarters
อาคารแห่งนี้ใช้เป็นที่พักของกัปตันเรือชาวดัตซ์ และลูกจ้างโรงงาน โดยได้มีการบูรณะใหม่ โดยมีการจำลองเป็นห้องนอนในสมัยก่อนให้นักท่องเที่ยวได้ดูกัน
Head Clerk’s Quarters
ที่นี่เคยถูกใช้เป็นที่พำนักของหัวหน้าเสมียนของโรงงาน Dejima Dutch Factory ซึ่งชั้นล่างนั้นถูกทำเป็นร้านขายงานฝีมือและของฝาก ส่วนชั้น 2 นั้นมีห้องโถงและห้องครัว สำหรับอีเว้นท์พิเศษ
Dutch Clerk’s Quarters (Western Studies Pavilion)
ในอดีตเคยถูกใช้เป็นห้องพักของเสมียนชาวดัตซ์ ในปัจจุบันที่นี่ได้จัดแสดงเกี่ยวข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าในญี่ปุ่นโดยผ่านทางเดจิมะ ( Dejima )
Dutch Clerk’s Quarters
ที่อาคารนี้จัดแสดงเกี่ยวกับบทบาทของเดจิมะ ( Dejima ) ทางด้านการเชื่อมกันระหว่างญี่ปุ่นกับโลกภายนอกในทางการค้าและวัฒนธรรม
พิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายในยุคเอโดะ
ในอดีตนั้นที่เดจิมะ ( Dejima ) แห่งนี้นั้นได้ถูกใช้เป็นสถานที่ทำการค้าขายกับต่างชาติมาก่อน ซึ่งที่นี่ก็มีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมกันเช่น
Copper Warehouse
ในอดีตที่นี่คือโกดังเก็บทองแดง ซึ่งในสมัยก่อนนั้นทองแดงถือว่าเป็นสินค้าส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งด้านในของที่นี่ได้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวการค้าขายทองแดงในสมัยก่อนของญี่ปุ่นกับชาวโลก ให้นักท่องเที่ยวได้ดูกัน
Japanese Officials’ Quarters
ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสำนักงาใหญ่โดยมีเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นนั้นมาจัดการด้านการค้าและกิจการอื่นๆของเดจิมะ ( Dejima ) ซึ่งปัจจุบันนั้นที่บริเวณชั้นล่าง ถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น
Sea Gate
อาคารแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูของการแลกเปลี่ยนการค้า วัฒนธรรม และวิชาการต่างๆ ระหว่างญี่ปุ่นและยุโรป โดยสินค้าส่งออก และนำเข้าจะต้องผ่านประตู Sea Gate แห่งนี้
วิธีการเดินทางมายังเดจิมะ ( Dejima )
เดินทางโดย | ต้นทาง | ปลายทาง | รายละเอียดการเดินทาง |
---|---|---|---|
รถบัส | สถานี Jr Nagasaki | ป้าย Dejima | จากสถานี Jr Nagasaki นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสหมายเลข 17 หรือ 27 มาลงป้าย Dejima |
รถราง ( Tram ) | สถานี Jr Nagasaki | Dejima หรือ Shinchi Chinatown | จากสถานี Jr Nagasaki นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางสายที่ไป Sofukuji แล้วลงที่สถานี Dejima หรือ Shinchi Chinatown |
ตารางข้อมูล
เดจิมะ ( Dejima )
ที่อยู่ | 6 Dejimamachi, Nagasaki, 850-0862 |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 21.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 520 เยน เด็กมัธยมปลาย 200 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 100 เยน |
Website | เดจิมะ ( Dejima ) |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับเดจิมะ ( Dejima )
สวนโกลเวอร์ Glover Garden ( เดินประมาณ 20 นาที )
สวนโกลเวอร์ Glover Garden เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง โดยไฮไลท์ของที่นี่คือบ้านโกลเวอร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้สไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของ Thomas Glover พ่อค้าชาวสก็อตแลนด์ ที่มายัง Nagasaki ในปีค.ศ. 1859
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้านได้ และที่นี่ยังมีร้านค้าและร้านกาแฟอีกด้วย
สวนโกลเวอร์ Glover Garden
ที่อยู่ | 8-1 Minamiyamatemachi, Nagasaki, 850-0931 |
วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากเดจิมะ ( Dejima ) หรือนั่งรถรางจากสถานี Nagasaki มาลงป้าย Ouratenshudo แล้วเดินอีก 7 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 18.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็กมัธยมปลาย 310 เยน เด็กประถม – มัธยมต้น 180 เยน |
Website | สวนโกลเวอร์ Glover Garden |
Oura Catholic Church ( เดินประมาณ 20 นาที )
โบสถ์คาทอลิกที่สร้างขึ้นโดยมิสชั่นนารีชาวฝรั่งเศส ซึ่งที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยวัตถุประสงค์ของการสร้างคือเพื่ออุทิศให้แก่ชาวคริสต์ที่ถูกประหารชีวิต เมื่อปีค.ศ. 1597 จำนวน 26 คน
ปัจจุบันที่นี่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติซึ่งที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น
Oura Catholic Church
ที่อยู่ | 5-3 Minamiyamatemachi, Nagasaki, 850-0931 |
วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากเดจิมะ ( Dejima ) หรือนั่งรถรางจากสถานี Nagasaki มาลงป้าย Ouratenshudo แล้วเดินอีก 5 นาที |
เวลาทำการ | เดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 08.30 น. – 18.00 น. เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 08.30 น. – 17.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็กมัธยม 400 เยน เด็กประถม 300 เยน ผู้พิการผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยม 200 เยน เด็กประถม 150 เยน |
Website | Oura Catholic Church |
Nagasaki Chinatown ( เดินประมาณ 10 นาที )
ไชน่าทาวน์ของเมือง Nagasaki ถือว่าเป็นไชน่าทาวน์ ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เพราะว่าในอดีตนั้นญี่ปุ่นมีนโยบายในเรื่องการปิดประเทศ ดังนั้นแล้วที่ท่าเรือ Nagasaki เป็นที่เดียวที่เปิดค้าขายกับต่างประเทศ จึงมีพ่อค้าชาวจีนได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมืองได้ ( อีกประเทศคือดัตซ์ที่สามารถเข้ามาในเมืองได้ )
ในช่วงตรุษจีนนั้นที่ไชน่าทาวน์แห่งนี้จะมีการจัดงานเทศกาลโคมไฟ Nagasaki อีกด้วย โดยในไชน่าทาวน์แห่งนี้มีวัดและอาคารสไตล์จีน ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นด้วย
และที่ขาดไม่ได้คืออาหารที่ได้รับอิทธิพลจากจีนอย่าง จัมปง ซึ่งสามารถหารับประทานได้ที่ไชน่าทาวน์แห่งนี้
Nagasaki Chinatown
ที่อยู่ | 10-13 Shinchimachi, Nagasaki, 850-0842 |
วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจาก Dejima หรือนั่งรถรางมาลงป้าย Shinchi Chukagai |
เวลาทำการ | ร้านอาหารส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 21.00 น. ( แล้วแต่ร้าน ) |
Website | Nagasaki Chinatown |
สรุป
แล้วก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความแนะนำเดจิมะ ( Dejima ) ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวเมืองเก่าๆ ดูตึกเก่าๆ เดินเล่นถ่ายรูปชิวๆ และยังสามารถเช่าชุดกิโมโนใส่เดินเล่นได้อีกด้วย ซึ่งเข้ากับบรรยากาศเก่าๆแน่นอน และนักท่องเที่ยวยังได้ความรู้ และวิถีชีวิตของคนต่างชาติในยุคที่ญี่ปุ่นยังปิดประเทศอีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ต้องมาให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต