คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
15%
17%
10%

ก่อนอื่นผมจะต้องอธิบายก่อนว่าในสมัยเอโดะนั้นญี่ปุ่นยังมีนโยบายปิดประเทศอยู่ ดังนั้นแล้วการติดต่อกับชาวต่างชาตินั้น จะต้องติดต่อผ่านเดจิมะ ( Dejima )
เกาะเดจิมะ ( Dejima ) จริงๆแล้วเป็นเกาะมาจากการสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ในปีค.ศ. 1636 ตามคำสั่งของโชกุน Tokugawa โดยมีจุดประสงค์คือ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของชาวโปรตุเกส ก่อนที่ชาวโปรตุเกสจะโดนขับไล่ออกจากญี่ปุ่น ต่อมาได้มีการย้ายสถานีการค้าของชาวดัตซ์จาก Hirado ไปยังเดจิมะ ( Dejima ) ทำให้ชาวดัตซ์ก็จำกัดให้อาศัยอยู่เดจิมะ ( Dejima ) และเป็นที่ตั้งของบริษัท Dutch East India Company ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทใหญ่และมีอำนาจ
นอกจากใช้เป็นที่อยู่ของชาวต่างชาติในยุคนั้นแล้ว ที่เดจิมะ ( Dejima ) ยังใช้เป็นสถานที่ทำการค้า เพราะว่ามีเรือสินค้าของโปรตุเกส จีน และดัตซ์มากมายที่เข้าเทียบท่าที่นี่ โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญเช่น ผ้าฝ้าย เครื่องแก้ว พริกไทย เป็นต้น นอกจากสินค้าน้ำเข้าแล้ว สินค้าส่งออกก็มีด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ทองแดง เซรามิก เป็นต้น
ต่อมาญี่ปุ่นได้มีนโยบายการเปิดประเทศ ทำให้บริเวณนั้นถูกปรับปรุงครั้งใหญ่จนทำให้เกาะเดจิมะ ( Dejima ) รวมกับแผ่นดินใหญ่ของ Nagasaki ทำให้เกาะเดจิมะ ( Dejima ) ถือว่าสิ้นสุดลง
โดยในอดีตเกาะเดจิมะ ( Dejima ) นั้นมีรูปทรงคล้ายกับ พัด

ในช่วงปีค.ศ. 1951 ซึ่งเป็นช่วงหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางเมือง Nagasaki ได้บูรณะเกาะเดจิมะ ( Dejima ) โดยมีการบูรณะอาคาร 16 หลัง ให้กลับมาเป็นในรูปแบบย้อนยุค
ต่อมาในปีค.ศ. 2017 นั้นสะพาน Dejimaomote ก็ได้สร้างเสร็จ ซึ่งสะพานแห่งนี้จะพานักท่องเที่ยวได้ข้ามไปยังเกาะเดจิมะ ( Dejima ) เหมือนครั้งในอดีต
ซึ่งหากนักท่องเที่ยวได้มาเดินที่เดจิมะ ( Dejima ) นักท่องเที่ยวจะมีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ย้อนกลับไปยังในสมัยที่เดจิมะ ( Dejima ) นั้นถูกใช้เป็นพื้นที่การค้าในสมัยยุคเอโดะ ยิ่งหากมาช่วงกลางคืนที่เดจิมะ ( Dejima ) แห่งนี้ก็จะมีการประดับไฟ ซึ่งสร้างบรรยากาศให้ยิ่งน่ามาเที่ยวที่นี่ขึ้นไปอีก

การมาเที่ยวสถานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นจะต้องมีพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วยแน่นอน ซึ่งที่เดจิมะ ( Dejima ) แห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมด้านในอย่างเช่น
Former Nagasaki International Club
อาคารแห่งนี้เป็นอาคารที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1903 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ที่มีสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษ โดยชั้นล่างเป็นร้านอาหารที่มีอาหารท้องถิ่นแบบ Nagasaki ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองกัน ส่วนชั้น 2 นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวประวัติศาสตร์ของชาวต่างชาติที่เข้ามาใน Nagasaki
Former Dejima Protestant Seminary
อาคารแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายกับโบสถ์โดยด้านบนสุดจะมีไม้กางเขนอยู่ ซึ่งอาคารนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1878 นับว่าเป็นอาคารเซมินารีโปรเตสแตนต์ที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นร้านค้าขายของที่ระลึก
Chief Factor’s Residence
ที่นี่ถือว่าเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดของเดจิมะ ( Dejima ) โดยเป็นบ้านพักอาศัยที่ตกแต่งสไตล์ตะวันตก โดยชั้นล่างนั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตกิจการประจำวันของเดจิมะ ( Dejima ) ส่วนชั้น 2 จำลองวิถีชีวิตของผู้ที่เคยพักอาศัยของที่นี่ ( Chief Factor )
โกดังสินค้าต่างๆ
ที่นี่ยังมีอดีตโกดังสินค้าต่างๆ ที่ถูกปรับปรุงเป็นสไตล์โบราณ อยู่หลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันด้วย

ที่เดจิมะ ( Dejima ) นั้น นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดกิโมโนแล้วเดินชมเมืองชิลๆได้อีกด้วย มีร้านที่บริการให้เช่าชุดกิโมโนคือร้าน dejima-hoppen ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องจองก่อน สามารถจองได้ที่นี่
จองชุดกิโมโนร้าน dejima-hoppen
โดยที่ร้านมีชุดให้เลือกเช่ามากกว่า 100 ชุดเลยทีเดียว โดยการใส่ชุดกิโมโนไปถ่ายรูปคู่กับอาคารเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกนั้น ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ในการมาเยี่ยมชมเดจิมะ ( Dejima )
การเช่าชุดกิโมโนนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องคืนร้านในวันเดียวกับที่เช่า
ร้าน Dejima-hoppen
| ที่อยู่ | 850-0862,Nagasaki, Dejimamachi, 6-1 Dejima Hetor Room 2nd floor |
| เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 10.00 น. – 17.00 น. ปิดวันอังคาร |
| ราคา | ค่าเช่าชุดคนละ 5500 เยน |
| Website | ร้าน Dejima-hoppen |

กลับมาที่พิพิธภัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง ในอดีตนั้นที่เดจิมะ ( Dejima ) เคยมีชาวดัตซ์มาอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นแล้ว ผมเลยอยากจะมาแนะนำอาคารต่างๆ ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวดัตซ์ให้เพื่อนๆได้รู้จัก และได้เห็นวิถีชีวิตของพวกเขา อย่างเช่นการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวดัตซ์ผ่านการตกแต่งสถานที่จำลองให้เหมือนจริงในยุคก่อน หรือชมผ่านภาพเขียน
First Ship Captain’s Quarters
อาคารแห่งนี้ใช้เป็นที่พักของกัปตันเรือชาวดัตซ์ และลูกจ้างโรงงาน โดยได้มีการบูรณะใหม่ โดยมีการจำลองเป็นห้องนอนในสมัยก่อนให้นักท่องเที่ยวได้ดูกัน
Head Clerk’s Quarters
ที่นี่เคยถูกใช้เป็นที่พำนักของหัวหน้าเสมียนของโรงงาน Dejima Dutch Factory ซึ่งชั้นล่างนั้นถูกทำเป็นร้านขายงานฝีมือและของฝาก ส่วนชั้น 2 นั้นมีห้องโถงและห้องครัว สำหรับอีเว้นท์พิเศษ
Dutch Clerk’s Quarters (Western Studies Pavilion)
ในอดีตเคยถูกใช้เป็นห้องพักของเสมียนชาวดัตซ์ ในปัจจุบันที่นี่ได้จัดแสดงเกี่ยวข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าในญี่ปุ่นโดยผ่านทางเดจิมะ ( Dejima )
Dutch Clerk’s Quarters
ที่อาคารนี้จัดแสดงเกี่ยวกับบทบาทของเดจิมะ ( Dejima ) ทางด้านการเชื่อมกันระหว่างญี่ปุ่นกับโลกภายนอกในทางการค้าและวัฒนธรรม

ในอดีตนั้นที่เดจิมะ ( Dejima ) แห่งนี้นั้นได้ถูกใช้เป็นสถานที่ทำการค้าขายกับต่างชาติมาก่อน ซึ่งที่นี่ก็มีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมกันเช่น
Copper Warehouse
ในอดีตที่นี่คือโกดังเก็บทองแดง ซึ่งในสมัยก่อนนั้นทองแดงถือว่าเป็นสินค้าส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งด้านในของที่นี่ได้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวการค้าขายทองแดงในสมัยก่อนของญี่ปุ่นกับชาวโลก ให้นักท่องเที่ยวได้ดูกัน
Japanese Officials’ Quarters
ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสำนักงาใหญ่โดยมีเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นนั้นมาจัดการด้านการค้าและกิจการอื่นๆของเดจิมะ ( Dejima ) ซึ่งปัจจุบันนั้นที่บริเวณชั้นล่าง ถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น
Sea Gate
อาคารแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูของการแลกเปลี่ยนการค้า วัฒนธรรม และวิชาการต่างๆ ระหว่างญี่ปุ่นและยุโรป โดยสินค้าส่งออก และนำเข้าจะต้องผ่านประตู Sea Gate แห่งนี้
| เดินทางโดย | ต้นทาง | ปลายทาง | รายละเอียดการเดินทาง |
|---|---|---|---|
| รถบัส | สถานี Jr Nagasaki | ป้าย Dejima | จากสถานี Jr Nagasaki นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสหมายเลข 17 หรือ 27 มาลงป้าย Dejima |
| รถราง ( Tram ) | สถานี Jr Nagasaki | Dejima หรือ Shinchi Chinatown | จากสถานี Jr Nagasaki นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางสายที่ไป Sofukuji แล้วลงที่สถานี Dejima หรือ Shinchi Chinatown |
เดจิมะ ( Dejima )
| ที่อยู่ | 6 Dejimamachi, Nagasaki, 850-0862 |
| เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 21.00 น. |
| ราคา | ผู้ใหญ่ 520 เยน เด็กมัธยมปลาย 200 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 100 เยน |
| Website | เดจิมะ ( Dejima ) |

สวนโกลเวอร์ Glover Garden เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง โดยไฮไลท์ของที่นี่คือบ้านโกลเวอร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้สไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของ Thomas Glover พ่อค้าชาวสก็อตแลนด์ ที่มายัง Nagasaki ในปีค.ศ. 1859
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้านได้ และที่นี่ยังมีร้านค้าและร้านกาแฟอีกด้วย
สวนโกลเวอร์ Glover Garden
| ที่อยู่ | 8-1 Minamiyamatemachi, Nagasaki, 850-0931 |
| วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากเดจิมะ ( Dejima ) หรือนั่งรถรางจากสถานี Nagasaki มาลงป้าย Ouratenshudo แล้วเดินอีก 7 นาที |
| เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 18.00 น. |
| ราคา | ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็กมัธยมปลาย 310 เยน เด็กประถม – มัธยมต้น 180 เยน |
| Website | สวนโกลเวอร์ Glover Garden |

โบสถ์คาทอลิกที่สร้างขึ้นโดยมิสชั่นนารีชาวฝรั่งเศส ซึ่งที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยวัตถุประสงค์ของการสร้างคือเพื่ออุทิศให้แก่ชาวคริสต์ที่ถูกประหารชีวิต เมื่อปีค.ศ. 1597 จำนวน 26 คน
ปัจจุบันที่นี่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติซึ่งที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น
Oura Catholic Church
| ที่อยู่ | 5-3 Minamiyamatemachi, Nagasaki, 850-0931 |
| วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากเดจิมะ ( Dejima ) หรือนั่งรถรางจากสถานี Nagasaki มาลงป้าย Ouratenshudo แล้วเดินอีก 5 นาที |
| เวลาทำการ | เดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 08.30 น. – 18.00 น. เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 08.30 น. – 17.30 น. |
| ราคา | ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็กมัธยม 400 เยน เด็กประถม 300 เยน ผู้พิการผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยม 200 เยน เด็กประถม 150 เยน |
| Website | Oura Catholic Church |

ไชน่าทาวน์ของเมือง Nagasaki ถือว่าเป็นไชน่าทาวน์ ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เพราะว่าในอดีตนั้นญี่ปุ่นมีนโยบายในเรื่องการปิดประเทศ ดังนั้นแล้วที่ท่าเรือ Nagasaki เป็นที่เดียวที่เปิดค้าขายกับต่างประเทศ จึงมีพ่อค้าชาวจีนได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมืองได้ ( อีกประเทศคือดัตซ์ที่สามารถเข้ามาในเมืองได้ )
ในช่วงตรุษจีนนั้นที่ไชน่าทาวน์แห่งนี้จะมีการจัดงานเทศกาลโคมไฟ Nagasaki อีกด้วย โดยในไชน่าทาวน์แห่งนี้มีวัดและอาคารสไตล์จีน ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นด้วย
และที่ขาดไม่ได้คืออาหารที่ได้รับอิทธิพลจากจีนอย่าง จัมปง ซึ่งสามารถหารับประทานได้ที่ไชน่าทาวน์แห่งนี้
Nagasaki Chinatown
| ที่อยู่ | 10-13 Shinchimachi, Nagasaki, 850-0842 |
| วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจาก Dejima หรือนั่งรถรางมาลงป้าย Shinchi Chukagai |
| เวลาทำการ | ร้านอาหารส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 21.00 น. ( แล้วแต่ร้าน ) |
| Website | Nagasaki Chinatown |

แล้วก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความแนะนำเดจิมะ ( Dejima ) ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวเมืองเก่าๆ ดูตึกเก่าๆ เดินเล่นถ่ายรูปชิวๆ และยังสามารถเช่าชุดกิโมโนใส่เดินเล่นได้อีกด้วย ซึ่งเข้ากับบรรยากาศเก่าๆแน่นอน และนักท่องเที่ยวยังได้ความรู้ และวิถีชีวิตของคนต่างชาติในยุคที่ญี่ปุ่นยังปิดประเทศอีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ต้องมาให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต

Blogger : Kitslaughter666
ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น
109 Posts

สนุกกับการเที่ยวรอบเมืองฟุกุโอกะให้เต็มที่ ด้วยบัตรโดยสาร “Fukuoka City 1-Day Pass” ที่ทั้งคุ้มและสะดวก!
บัตร Fukuoka City 1-Day Pass ช่วยให้คุณสามารถนั่งรถบัสของ Nishitetsu ภายในเมือ...

รีวิวที่พักฟุกุโอกะ Cross Life Hakata Yanagibashi และ Cross Life Hakata Tenjin
รีวิว Cross Life Hakata Yanagibashi Hotel และ Cross Life Hakata Tenjin มีสิ่งอ...

อยากเที่ยวคิวชูให้คุ้ม ต้องรู้จัก! SUNQ Pass กับ 4 ข้อดีที่คุณไม่ควรพลาด
ไปคิวชูทั้งที เที่ยวยังไงให้คุ้มที่สุด? คำตอบคือ... SUNQ Pass! บัตรเดียวขึ้นรถ...

ไปคิวชูทั้งที ต้องไม่พลาด SUNQ Pass! พาเที่ยวทั่วเกาะ คุ้ม ครบ จบในใบเดียว
SUNQ Pass คือบัตรโดยสารสุดคุ้มที่ให้คุณขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัด ทั้งรถบัสด่วนและรถ...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515