เราเลือกมาที่ร้าน JINS เพราะเป็นร้านแว่นตาที่มีสาขามากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะโตเกียวที่มีถึง 65 สาขา และหาง่ายมาก
เริ่มต้นเดินทางมาลงรถไฟที่สถานีอูเอโนะ สถานียอดนิยมของเหล่านักเดินทางที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกินและแหล่งช้อปปิ้งทุกแนว เมื่อลงจากรถไฟให้มองหาทางออกได้ตั้งแต่อยู่บนชานชาลาเลย โดยสังเกตคำว่า Central Exit
จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนไปตามทางเรื่อยๆจนมาสู่ทางออกเกทแบบนี้
จุดนี้คือจะมีห้องจำหน่ายตั๋วสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ให้เราจำง่ายๆว่าเราต้องเดินออกไปแล้วเลียบทางเดินด้านข้างนี้
นี่คือทางเดินสู่แหล่งช้อปปิ้งเบาๆภายในสถานี เดินตรงไปจนสุดทางเลยจ๊ะ
แล้วเลี้ยวซ้ายต่อไปตามทางจะผ่านจุดประชาสัมพันธ์แบบนี้ แต่เราเดินตรงต่อไปอีกนิด
ก่อนจะสุดทางออก มองไปด้านขวามือเห็นร้าน JINS อย่างชัดเจนเลย
เอาล่ะ จากนี้เรื่องราวดีๆกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
พนักงานแนะนำแว่นตารุ่นนี้ให้ โดยอธิบายคุณสมบัติเด่นๆของรุ่นนี้ให้ฟังพร้อมแนะนำเรื่องเลนส์(กรอบสวยนะเนี่ย)
มาดูกันว่า Airframe ทำอะไรได้บ้าง นอกจากจะ…ง้างขาออกได้มากขนาดนี้ กรี๊ด!
หรือหักงอกลับได้ขนาดนี้ กรี๊ดดด บ้านไหนมีลูกวัยซนแนะนำเลยจ้า คู่ควรมากๆ การง้างและการงอขาแว่นตาล้วนเป็นสิ่งที่เด็กเล็กทุกคนคุ้นเคยและคุ้นมือ
ตัดสินใจเลือกกรอบนี้แหละ พอดีกับรูปหน้าเป๊ะเลย ใส่แล้วคนรอบข้างก็ชมว่าสวยเหลือเกินแม่เอ๊ย (เหมือนจะได้ยินคนเดียว)
หยิบแว่นตาไปชำระเงินที่พนักงาน กรอกชื่อและเบอร์มือถือ พร้อมเลือกเลนส์ที่เหมาะกับตัวเอง ครั้งนี้เราเลือกเลนส์สายตาและเอาแบบชนิด 25% CUT หมายถึงว่าตัดแสงไฟสีฟ้า เหมาะสำหรับการใส่ขณะดูจอคอม มือถือ เกมส์ และต้องใช้เลนส์สายตาด้วย เพราะเป็นคนสายตาสั้นแต่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์อีก
แล้วเข้าสู่การตรวจวัดสายตาที่ทำด้วยความเอาใจใส่จากพนักงาน
จากนั้นไปลองทดสอบอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าจะได้แว่นตาและเลนส์ที่เหมาะสำหรับเราจริงๆ
การเลือกเลนส์นั้น เค้ามีภาษาอังกฤษให้ด้วยนะ เพื่อให้เราเข้าใจได้มากขึ้น ทุกกรอบและเลนส์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ สามารถสอบถามราคาได้
จุดที่สองนี้ เป็นการดูว่าระยะใกล้ไกลแค่ไหนที่เรามองเห็นได้ เราจะเจอตัวสัญลักษณ์คล้ายตัว C หันสลับไปทุกด้าน บน ล่าง ซ้าย ขวา สิ่งที่เราต้องบอกกับพนักงานคือ ตรงช่องว่างที่เว้าหันไปทางไหนก็ตอบไปตามนั้น เช่น right left up down หรือเอานิ้วชี้ๆบอกก็ได้ (ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น จะเป็นตัวอักษรญี่ปุ่นให้ดู)
เดี๋ยวเราจะได้ใบนัดรับนี้มา เก็บไว้ให้ดีนะ ระหว่างนี้สามารถไปเดินช้อปปิ้งเบาๆแถวนี้ก็ได้ แต่ขอบอกว่าอย่างเร็ว คือ 30 นาทีก็เสร็จแล้ว อย่าลืมเดินกลับมาเอานะ ฮา
ระหว่างนี้ เดินดูกรอบแว่นตาอื่นๆในร้านรอดีกว่า รุ่นนี้ก็เป็นแว่นที่เป็นแบบคลิปออน เรียกว่ารุ่น JINS Switch เป็นแว่นตาพร้อมคลิปกันแดดสีสวยเก๋ ขายเป็นเซ็ทนะ
น้ำหนักเบามากๆ แล้วสีโดนใจมาก
ลองเอามาเข้าเซ็ทกันดู สวยเนอะ และเนื่องด้วยการใช้งานที่ง่ายมากๆจากแว่นตาปกติเมื่อออกข้างนอก เดินทางท่องเที่ยวหรือขับรถ ก็แค่เอาคลิปกันแดดมาติดทับอย่างง่ายๆแค่นั้นเอง เราก็จะได้ใส่เป็นแว่นตากันแดดแล้ว
จะใส่แปะเข้าหรือจะถอดออกก็ง่ายนิดเดียว สะดวกสุดๆ JINS Switch เหมาะสำหรับนักเดินทางมากๆ
นอกจากนี้ ยังมีมุมแว่นตาที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ มือถือและเกมส์แต่ละวันเป็นเวลานานๆ เป็นเลนส์ธรรมดาที่ตัดลดแสงสีฟ้า(Blue light) ออกตามความต้องการใช้ ตั้งแต่ 25% ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และแบบ40%(สีของเลนส์จะออกเป็นเหลือง) สำหรับการใช้งานในระยะยาว กรอบและเลนส์ทั้งหมดนี้รวมกันในราคาที่ 5000 เยน ( ไม่รวมภาษี) คนใส่คอนแทคเลนส์ก็ใช้ได้นะ
แว่นของเด็กเริ่มต้นที่ 3000 เยน เป็นเลนส์แว่นตาแบบตัดลดแสงสีฟ้า ถึงจะยังสายตาดี แต่ในยุคแห่งเทคโนโลยีนี้ ควรมีติดบ้านไว้ดีกว่านะ เพื่อให้สายตาดีๆอยู่กับหนูๆนานๆ
เล็กและเบามาก เด็กก็ใส่สบาย
นอกจากแว่นตาแล้ว เรายังมีรายละเอียดของดีไซน์เนอร์ด้วยเช่นกัน
JINS MOISTURE เหมาะสำหรับถนอมให้ดวงตามีความชุ่มชื้นเสมอ ท่านที่ดวงตาแห้งง่าย น่าลองใช้นะ
JINS READING GLASSES เป็นเลนส์แว่นตาสำหรับอ่านตัวหนังสือเพื่อให้เห็นชัดขึ้น และมีเลนส์แบบตัดแสงสีฟ้าได้อันเป็นสาเหตุทำให้ปวดตาและเมื่อยล้า กรอบแว่นมีน้ำหนักเบา พับเก็บง่ายและดีไซน์กรอบแว่นมาได้คลาสสิกมาก
ใครชอบงาน เมด อิน แจแปนก็มีนะ
อันนี้ทรงแนวสปอร์ตหน่อย เท่ และน้ำหนักเบามากๆ
สาวๆจ๊ะ แว่นตากันแดดของร้านนี้ก็เปรี้ยวมากนะ
ใครที่ไม่เคยตัดแว่น และลังเลว่ากรอบสีไหน เลนส์สีอะไรถึงจะเหมาะสำหรับผิวและโครงหน้าของเรา เค้าก็มีจอให้ลองกดเลือกทั้งกรอบและเลนส์ให้เราดูด้วยนะ ใช้หน้าจริงของเราจ้า
ในที่สุด ดิชั้นก็เจอมุมโปรด Sale! โดยซัมเมอร์เซลล์จะอยู่ที่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ส่วนเซลล์หน้าหนาวจะอยู่ที่เดือนธันวาคม – มกราคม
นั่งชมนั่นนี่ไปเรื่อยๆ เมื่อได้เวลาที่ตามใบนัดรับ คือ ตั้งแต่เวลา 16.30 เราก็เดินมาที่พนักงานเลย แล้วก็จะได้แว่นตา * คำอธิบายใบนัดรับ 8/19 /16 : 30 ~ ( เลข 8 คือเดือนสิงหาคม /เลข 19 คือวันที่ / 16.30- คือเวลานัดรับ )
ปรับขาแว่นให้พอดีกับใบหน้าของเรา
แล้วร้านจะให้ผลตรวจวัดค่าสายตาของเรามาให้เก็บไว้
เห็นใบรับรองภาษาญี่ปุ่นไม่ต้องตกใจ มีคำอธิบายภาษาอังกฤษให้อ่านด้วยนะ
สบายใจ ได้แว่นสวยกลับบ้านไปอ่านหนังสืออย่างชัดแจ่มละ คราวนี้ล่ะจะตั้งใจเรียนกว่าเดิมเลยแม่จ๋า
รายละเอียด JINS Ueno Station
ที่อยู่ | 7-1-1 Ueno, Taito-ku, Tokyo Atre Ueno ชั้น 1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | สถานีอูเอโนะ เดินมาทางออก Central Exit อยู่ชั้น 1 โซน Atre West |
เวลาทำการ | 10:00~21:00 ทุกวัน |
โทรศัพท์ | 03-5826-5746 |
Website | Jins |
จากนั้นก็เดินทางไปขอพรพระให้ช่วยสอบผ่านกันดีกว่า เดินมาทางออกใกล้ร้านเลย จะเจอแยกไฟแดง ให้ข้ามมาทางเยื้องขวาตรงที่มีบันไดขึ้น
เดินขึ้นบันไดไปเล้ย เรากำลังจะเข้าสวนอูเอโนะแล้ว
แล้วไปสุดทาง พอเจอป้ายแบบนี้ค่อยเลี้ยวขวาแล้วเดินต่อตามทางไปเรื่อยๆ
เดินราว 5 นาทีก็จะถึง Ueno Daibutsu ในอดีตเคยเป็นพระพุทธรูปที่มีตั้งแต่ยุคเอโดะ ได้รับความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าจากทั้งแผ่นดินไหวใหญ่ในปี 1923(ครั้งนี้ทำให้เศียรตกลงมา) และจากนั้นถูกนำมาหลอมใช้ใหม่ในสงครามแปซิฟิค จนเหลือแค่เศียรพระ แบบที่เห็นในปัจจุบัน
คำอธิษฐานมากมาย ถูกบรรจงเขียนไว้รอบๆ เพราะจากเรื่องเล่าที่ว่า การที่เหลือแค่เศียรตั้งอยู่นิ่งๆ ในความเชื่อนั้นกล่าวกันว่า จะไม่มีวันตกลงมาอีกแล้ว (เพราะเศียรท่านได้หักตกลงมาเรียบร้อยแล้ว) จึงทำให้ใครที่มาขอพรจะไม่มีคำว่า ตก เช่นกัน เด็กนักเรียนญี่ปุ่นจึงมักมาขอพรเพื่อให้การสอบไม่มีคำว่าตก
ตรงจุดขายเครื่องราง จะมีลักษณะเหมือนก้อนหินใสๆ ราคา 700 เยน เอาไว้บูชาตรงเศียรพระพุทธรูป องค์ไดบุทสึอูเอโนะ คือเขียนคำอธิษฐานของเราลงไปแล้วนำไปวางลงในกล่องใกล้ๆท่าน
จากนั้น ความสำเร็จทุกอย่างต้องมาจากจิตใจที่อิ่มเอิบด้วยเช่นกัน ได้เวลาตะลุยตลาดอาเมะโยโกะกันแล้ว หาอะไรอร่อยๆทานกันเร็ว เดินย้อนกลับมาทางเดิม ข้ามกลับตรงไฟแดงตะกี้แล้วเดี๋ยวเจอทางเข้าตลาดด้านขวา เดินมาเลยจ๊ะ
มีสองทางให้เลือก แต่จะทางขวาหรือทางซ้ายก็มีของอร่อยๆให้ทานเต็มไปหมด จบทริปด้วยความอิ่มอกอิ่มพุง