แผนที่ของ Jozankei ทั้งหมด เห็นได้ว่ามีที่เที่ยวมากมายทั้งสี่ฤดูกาลเลย อยู่ที่ว่าเราจะสะดวกในเวลาไหน เพราะที่นี่มีสถานที่เที่ยวเพียบ
“โจซังเค” เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องบ่อน้ำร้อนออนเซ็น และตรง Nishikibashi ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมแห่งหนึ่งของฮอกไกโด ช่วงที่เริ่มเปลี่ยนสีจะเป็นกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยสามารถชมวิวสวยๆแบบนี้ได้แทบทุกมุมของ Jozankei
ดูวิวเมืองจากมุมสูงกันบ้างนะ…ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา บ่อน้ำพุร้อนโจซังเค ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya ซึ่งสวนนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร ซึ่งถือเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากๆของที่นี่
ในอุทยานมีเส้นทางเดินป่าด้วย ซึ่งถ้าใครชอบการเดินขึ้นเขาชมวิวทิวทัศน์ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้ก่อนที่เราจะไปแช่น้ำพุร้อนโจซันเคกัน
บ่อน้ำพุร้อนในโจซันเคเป็นบ่อน้ำพุโซเดียมคลอไรด์ที่ไม่มีสีแต่รสชาติค่อนข้างออกเค็ม เมื่อนักท่องเที่ยวแช่ในบ่อน้ำ เกลือจะซึมเข้าผิวหนังช่วยให้ผิวของเราเก็บความชุ่มชื่นได้ดี และสุขภาพดี
ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในช่วง กลาง – ปลายตุลาคม ถือเป็นช่วงที่สวยมากและยิ่งทำให้ที่บ่อน้ำพุร้อนโจซันเคยิ่งสวยสะกดตามากขึ้นไปอีก มีคอร์สเดินป่าด้วยนะ ทำให้เรายิ่งเห็นความงามของธรรมชาติได้มากขึ้น
แต่นอกจากคุณภาพน้ำที่ดีแล้ว ภาพวิวดาวล้านดวงของที่นี่ก็ยิ่งสะกดใจให้อยากมาเห็นกับตาตัวเอง
เพราะสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ส้ม ตัดกับน้ำสีฟ้า ไม่ต้องบอกเลยใช่ไหมคะว่าภาพตรงหน้าสวยสะกดตามากขนาดไหน เหมือนถูกมนต์สะกดให้ยืนอยู่ในภวังค์
พอถึงช่วงกลางคืน ในฤดูหนาว แม้จะเป็นช่วงอากาศหนาวหิมะตก และอุณหภูมิติดลบก็ตาม แต่บรรยากาศแบบนี้จะเห็นได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ยิ่งทำให้เราต้องมาชมให้ได้
ภาพมุมสูงของโซนที่พักและแหล่งน้ำพุแช่เท้าที่มีอยู่มากมายตามถนน กลางคืนจะเป็นไฟสีส้มสว่างไสวแบบนี้ ส่วนกลางวันเดินเล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
พอเข้าช่วงฤดูหนาว ในหนึ่งวันนั้นเรามีกิจกรรมที่นิยมทำกันได้ในตั้งแต่ช่วงเช้าคือ เล่นสกี ที่ลานสกี Sapporo Kokusai Skiing resort หากใครจะเดินทางด้วยรถบัส สามารถไปรอขึ้นรถบัสได้ที่ป้าย “Jozankei Shrine Mae” หรือ “Yunomachi” แต่ถ้าไปด้วยรถยนต์ สามารถจอดชมวิวข้างทางแบบนี้ได้เลย ว้าว สวยมากๆ
สวยจนต้องหยุดจอดและลงไปถ่ายรูป ตรงนี้เราเรียกว่าบริเวณด้านสันเขื่อน Jozankei ซึ่งเป็นวิวที่สวยประทับใจที่สุด
จริงๆด้านบนเป็นสันเขื่อนนะคะ แต่เพราะหน้าหนาวจะหนาวมาก น้ำเลยเป็นน้ำแข็งแบบนี้ เป็นความงามอีกแบบเหมือนกัน
สำหรับคนที่นี่ นิยมไปลานสกี Sapporo Kokusai Skiing resort ซึ่งเป็นลานสกีที่อยู่ใกล้ Jozankei มากที่สุด และมีทั้งสกี สโนว์บอร์ด และกอนโดล่าที่นั่งชมวิวไปถึงด้านบนยอดเขาได้
แม้ว่าคุณจะมามือเปล่า คุณก็สามารถมาเช่าอุปกรณ์ที่นี่ได้อย่างง่ายดาย ที่นี่เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับเพราะมีทั้งคอร์สตั้งแต่ผู้ฝึกเล่นไปจนถึงพวกมืออาชีพ แต่ถ้ามาเล่นหิมะเฉยๆก็มีโซน สโนว์พาร์ค
ขั้นตอนการเช่าชุดและอุปกรณ์สกีและสโนว์บอร์ดก็ง่ายมาก แค่กรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะจัดการให้หมดเลย เช่าได้ทุกอย่างตั้งแต่ถุงมือ แว่นตา หมวก ไปจนถึงอุปกรณ์ชิ้นใหญ่
ใครที่ไม่เล่นสกี สามารถขึ้นนั่งกอนโดล่าเพื่อชมวิวสูงด้านบนได้เช่นกัน น่าสนุกมากๆเลย
ใครจะมาชมวิวสวยๆ เล่นสกีมันส์ๆ แบบว่าหิมะแป้ง แนะนำมาช่วงเช้า เพราะว่าลานสกีที่นี่เส้นทางยาวจริงๆ แล้วด้านบนก็วิวสวยมากๆ เห็นแค่ลิฟต์ขึ้นก็รู้สึกตื่นเต้นอยากนั่งแล้ว ที่นี่ยังมีโรงเรียนสอนสกีด้วย สอนตั้งแต่เดี่ยว คู่ แบบเป็นกรุ๊ป ที่นี่มีสอนการเล่นสกีด้วยภาษาอังกฤษด้วย
ห้องพักรับประทานอาหาร ที่นั่งพักเหนื่อยระหว่างเล่นสกี หรือสโนว์บอร์ด ถึงคนจะเยอะก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหาที่นั่ง ที่นี่มีห้องอาหารให้บริการจำนวนมาก
วิวจากห้องอาหารก็จะเป็นลานสกีทั้งหมด พักเหนื่อยแล้วยังได้ชมวิวสวยๆอีก
ฮอกไกโดมีหิมะที่ขาวสวยจริงๆ ลานสกีที่นี่เค้าบอกเลยนะว่าหิมะละเอียดเป็นแบบธรรมชาติแท้ๆ ซึ่งผู้หัดเล่นใหม่ควรมาเล่นเลยล่ะ เพราะความละเอียดนุ่มของหิมะ ทำให้เบรคง่ายขึ้น
Sapporo Kokusai Skiing Resort
ที่อยู่ | Jozankei 937,Minami-ku,Sapporo,Hokkaido |
---|---|
เวลาทำการ | 9:00 น. – 17:00 น. ( เสาร์ อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 8:30 น.) |
Website | sapporo-kokusai |
สำหรับทริปวันนี้ของเรา เริ่มต้นกันด้วย การได้ทานร้านอาหารอร่อยๆ กัน เนื่องจากเราเดินทางมาจากซัปโปโร มาถึงนี่เกือบเที่ยง ค่อนข้างจะหิวแล้ว เราก็ไปร้านสวยๆที่ดังของเมืองนี้กันดีกว่า ชื่อร้าน Amenohi to Fuyunohi ( อาเมะโนะฮิ โตะ ฟุยุโนะฮิ) วิธีเดินทางสามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่ลงรถบัสตะกี้ได้นะ ส่วนใครที่ขับรถมาก็สะดวกเลย
บรรยากาศในร้าน ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูโมเดิร์น เน้นความโล่งสบายเพราะใช้กระจกเป็นฝาผนังเกือบจะรอบทิศเลย
ด้านในมีการตกแต่งน่ารักๆ ใช้ร่มคันเล็กๆ เพราะชื่อร้านนั้นคำว่า อาเมะโนะฮิ จะหมายถึง ในวันฝนตก ส่วนคำว่า ยูกิโนะฮิ คือ ในวันหิมะตก น่ารักเนอะ
ของขึ้นชื่อของที่นี่ นอกจากจะเป็นเมนูพิซซ่าแล้ว ยังมีเจลาโต้หลากหลายรสชาติ รวมแล้ว 16 รสเลยนะ เช่น เบลูเบอร์รี่ กาแฟนม พรุน รสนมเข้มข้น ช็อกโกแลต
ซุปสามชนิด เป็นซุปสูตรพิเศษเฉพาะของร้าน ราคาประมาณ 400 เยน ในช่วงอากาศหนาวๆ สั่งมาทานสักถ้วย ชื่นใจเลย
Amenoto to Yukinohi
ที่อยู่ | Jozankei Onsen West 2-41, Minami, Sapporo, Hokkaido 061-2303 |
---|---|
เวลาทำการ | 10.00 น. – 17.30 น. (หยุดวันพฤหัสบดี) |
โทรศัพท์ | 011-598-2141 |
Website | amenohitoyukinohi |
ทานอิ่มแล้ว เราไปเที่ยวกันดีกว่า ตอนนี้เราจะไปกันที่ Jozankei Farm เป็นแหล่งอิ่มอร่อยและกิจกรรมโลดโผนอย่าง Forest advenger ปีนป่ายโหนสลิงให้มันส์ไปเลย
วิวจากระเบียง ด้านล่างเป็นต้นเชอร์รี่เป็นร้อยต้นเลยนะ แต่ตอนนี้หน้าหนาวเลยยังไม่มีกิจกรรมเก็บผลไม้ หรือทำอาหาร ที่นี่มีผลไม้ตามฤดูกาล เช่น เชอร์รี่ องุ่น
ด้านในมีเตาให้ความอบอุ่น นั่งชมวิวกันไป ด้านบนนี้ไม่ใช่ร้านอาหารนะแต่เป็นห้องให้นั่งเล่น ชมวิวมุมสูงได้
กระโจมกลางป่า ที่ด้านในมีอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมปีนป่ายเพียบ เลือกได้ตามความเหมาะสมของเรา
ปีนไปให้สุด แม้จะหนาวแต่ความท้ายทายข้างหน้าก็รอเราอยู่เช่นกัน อุปกรณ์มาครบ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย
กระโดดลงมาเล้ยยยย พร้อมร้องโห่ฮิ้วว ความมันส์แบบนี้เกิดขึ้นได้ในฤดูหนาว พร้อมวิวสวยๆ ที่นี่เท่านั้น
จากนั้น ก็ให้เจ้าหน้าที่มาดึงกลับให้ ฮ่าๆ ดูความหนาฟูของหิมะ วิ่งเล่นแบบทุ่งลาเวนเดอร์ได้เลย เด็กๆมาเห็นต้องอยากกระโดดเล่นแน่นอน จัดไปเลยจ้า เล่นได้อิสระ
แผนผังของฤดูกาลผลไม้ที่นี่ ดินแดนแห่งผลไม้อย่างแท้จริงเลยนะคะ มาเดือนไหน เก็บผลไม้ไหนได้บ้าง ลองเช็คดู ความที่เป็นฮอกไกโด อะไรก็อร่อยที่ซู๊ดดด
เชอร์รี่ – กรกฎาคม ถึง สิงหาคม
พลัม – สิงหาคม ถึง ต้นกันยายน
พรุน – กันยายน ถึง ตุลาคม
แอปเปิ้ล – กันยายน ถึง ตุลาคม
สตรอว์เบอร์รี่ – มิถุนายน ถึง กรกฎาคม
** ทั้งนี้ตรวจสอบเว็บไซต์ล่วงหน้า เพราะสภาพอากาศมีเปลี่ยนแปลงตลอดทุกปี
Jozankei Farm
ที่อยู่ | 832 Jozankei, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido 061-2301 |
---|---|
วิธีเดินทาง | มันจะใช้เวลา 10 นาทีเพื่อเดินจากสถานีเกียวโต |
เวลาทำการ | 9.00 น. – 17.00 น. |
ราคา | ด้วยรถยนต์ หรือ สอบถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธฺการท่องเที่ยวโจซังเค ที่ป้ายรถบัสตรง Shiraito no Taki ได้เลย |
การจอง | 011-598-4050 หรือ https://jozankei-farm.com/reservation/ |
Website | jozankei-farm |
ที่เมืองนี้ มีบ่อน้ำพุร้อนตามริมถนนมากมาย เดินไปเมื่อยก็หยุดแช่ สบายตัวก็เดินต่อ ดังนั้นมาที่นี่แล้วต้องพกผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดเท้าด้วย
เดินเล่นไปมา มืดค่ำแล้วก็ยังมาแช่ได้เพราะที่นี่เปิด 7.00 น. – 21.00 น. ให้บริการฟรีด้วย ดีงามมากๆ กลางคืนนี่บรรยากาศด้านนอก ปลอดภัย เดินง่าย
เผลแป๊บเดียวค่ำแล้ว ค่อยเข้าโรงแรมละกัน นี่รู้ไหมว่า ที่นี่มีศาลเจ้าที่มีห้องลึกลับด้วยนะ เรียกว่า Iwato kannondo เป็นจุดรับพลังบวกด้วยนะ
เดินเข้าไปด้านในเลย เห็นประตูด้านหลังไหม ก่อนเปิดเข้าไปอย่าลืมจ่ายเงินก่อนนะ ตู้หยอดเงินอยู่ด้านขวาเลยจ้า มีเขียนราคาบอกไว้
เข้ามาแล้วจะเหมือนอุโมงค์ เหมือนห้องลับเลยเนอะ เดินเข้าไปก็ตุ้มๆต่อมๆ ใครชอบความตื่นเต้นต้องมากันช่วงค่ำเลยนะ
อย่าเข้ามาดึกเกิน 20.00 นะ เดี๋ยวเค้าปิดประตูล่ะ แต่ด้านในยิ่งเดินก็ยิ่งพิศวงงงงวยจริงๆนะ มีรูปปั้นเทพมากมาย
ด้านล่างของรูปปั้นเจ้าแม่แต่ละองค์ จะมีขนม นกกระดาษพับ เงินเหรียญบาท น่าจะเป็นการวางไว้เพื่อบูชา
แวะดูตู้เสี่ยงเซียมซีหน่อย น่ารักเนอะ เสียดายที่เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นได้เห็นอะไรน่ารักๆแน่นอน
Iwato Kannondo
เวลาทำการ | 7.00 น.-20.00 น. |
---|---|
Website | jozankei |
เดินลงไปด้านล่างถนนกัน เพื่อหาซื้อของฝาก ที่เห็นทางเดินนี้ เดินไปให้เกือบถึงสะพานเลยนะ จะเจอร้านขายของฝากชื่อว่า Bussan ( บุซซัน )
ร้านอยู่ตรงก่อนถึงสะพานเลยจ้า ตรงนาฬิกานี่เลย หาง่ายมากๆ เป็นร้านขายสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองของ Jozankei และของฮอกไกโด
ด้านในมีของฝากมากมาย ที่เป็นของฝากท้องถิ่น และของฮอกไกโด
แล้วยังมีงานฝีมือแบบแฮนด์เมดด้วยนะ ยืนดูจนเพลินเลยล่ะ จนลืมภาระกิจสำคัญ นั่นคือ การต้มไข่ ฮ่าๆ
แต่วันนี้เราจะไปแช่ไข่ในบ่อน้ำพุร้อนกัน ว่ากันว่า ไข่ที่สุกแล้วนั้น รสชาติหวานมันจริงๆ ป้ายคำเตือน ตอนแช่ระวังอีกามาคาบไปกินด้วยนะ ฮ่าๆ อีกาที่นี่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
เดินผ่านสะพานมา จะมาแช่ไข่ อ๊ากก สวย ห่วงไข่ก็ห่วง ห่วงถ่ายรูปก็ห่วง
บ่อแช่ไข่ อยู่ด้านล่างสะพานอีกฝั่งของร้านนี่เอง มีบ่อเล็กๆ ที่ฝาเป็นไม้ท่อนๆ ปิดบ่ออยู่
เอาไข่ของเราแช่ลงไปจ๊ะ ไข่ที่เราซื้อมาสามฟองนั่นแหล่ะ แหมๆ อ่านผิดชีวิตเปลี่ยนนะเนี่ย
ระหว่างรอเวลา ทำไรดีล่ะ เดินไปไหว้พระละกัน แถวตรงที่แช่ไข่นั่นแหล่ะ
หรือจะนั่งสวยๆ แบบนี้ ไม่ต้องห่วงว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน เพียงแค่เท้าเราอุ่น รูปเราสวยเราก็ทนได้ ฮิฮิ
หรือจะยิ้มละมุนแบบนี้ เอาเป็นว่า ในบรรยากาศแบบนี้ ได้แช่ขาในน้ำอุ่นๆก็ฟินมากเลยจ้า
นั่งเพลินเกือบลืมไข่ ฮ่าๆ ถือกลับมานั่งทานที่ร้านต่อ ภายในร้านมีบริการเครื่องดื่มและขนมด้วยนะ
ไข่ข้าใครอย่าแตะ อ้าว ไม่ใช่แล้ว .. เอาไข่มา เอาถ้วยมาตอกไข่ใส่ลงไป โรยเกลือนิดหน่อยพอ
ดูไข่สิจ๊ะ น่าทานเนอะ ไข่แดงมีความมันๆ แม้เราจะไม่เหยาะเกลือหรือโชยุลงไป ก็อร่อยแล้ว
ร้าน Bussakan
ที่อยู่ | 4-343 Jozankei Onsennishi, Minami-ku, Hokkaido ,Sapporo |
---|---|
เวลาทำการ | 8:00~21:00 |
โทรศัพท์ | 011-598-2178 |
Website | j-bussankan |
จบวันละ เดี๋ยวมาแนะนำที่พักกันก่อนนะ ว่าที่เมืองนี้เราจะพักอะไรที่ไหนได้บ้าง แถวนี้มีโรงแรมมากมายให้เลือกพัก เข้าไปเช็คดูได้ที่ ลิงค์นี้ เลย
เดี๋ยวแนะนำสัก 3 แห่งก่อนแล้วกันเนอะ อันแรกคือ
โรงแรม Jozankei View ทำเลแทบจะใจกลางโซนน้ำพุแห่งนี้เลย ใหญ่โตมาก
ออนเซ็นภายในโรงแรม ที่เป็ฯวิวหันออกไปทางป่าและธรรมชาติ เห็นแล้วจะต้องร้องว้าว นั่งเกาะขอบบ่อมองธรรมชาติไป
Jozankei View Hotel
ที่อยู่ | Higashi 2-chome, Jozankei, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido 061-2302 |
---|---|
เวลาทำการ | เช็คอิน 14.00 น. / เช็คเอาท์ 10.00 น. |
ราคา | รวมอาหารสองมื้อ |
jozankeiview |
โรงแรมที่สองที่จะแนะนำเป็นทางเลือกคือ Jozankei Manseikaku Hotel Milione เป็นอีกหนึ่งโรงแรมขนาดใหญ่ของที่นี่
ออนเซ็นของโรงแรม มีลวดลายตามผนังด้วยนะ แล้วดูบ่อกลางแจ้ง มองเห็นดาวเดือนได้ชัดแจ่มเลย
มีมุมอาหารที่เก๋มากๆ ให้บรรยากาศสบายๆ นั่งคุยพักผ่อนกัน แล้วดู Live kitchen ทำให้ความสุขแห่งการทานดูเต็มอิ่มขึ้นมาทันที
Jozankei Manseikaku Hotel Milione
ที่อยู่ | 3 Higashi Minami, Jozankei-onsen, Minami, Sapporo, Hokkaido 061-2302 |
---|---|
Website | jozankei.manseikakuhotels |
โรงแรมที่สาม แนะนำที่นี่แล้วกันจ้า Hanamomiji เป็นโรงแรมที่มีหลากหลายสาขา แล้วห้องพักเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่น เสื่อทาทามิ มื้ออาหารไคเซกิอลังการน่าทานมาก
เป็นโรงแรมที่มีบ่อออนเซ็นสวยมากๆ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี น้ำออนเซ็นที่นี่เป็นแบบโซเดียม คลอไรด์ ทำให้ผิวเนียนนุ่ม
ใบไม้เปลี่ยนสี ออนเซ็นวิวแบบนี้เลยจ้า ใจละลายแล้วจ้า เก็บกระเป๋าเตรียมซื้อตั๋วเลย
Hanamomiji
ที่อยู่ | Nishi 3-32 Jozankei Onsen, Minami-ku, Sapporo-shi, Hokkaido 061-2303 |
---|---|
วิธีเดินทาง | shikanoyu |
Website | shikanoyu |
สำหรับการเดินทางมาที่ Jozankei Onsen นั้นก็แสนง่าย เพียงแค่ขึ้นรถที่ Bus Terminal ป้ายที่ 12 ของสถานีรถไฟซัปโปโร ใครมาจากรถไฟก็เดินหาป้ายในสถานีแล้วเดินตามเลยจ๊ะ
หน้าตาของป้ายรถบัส เบอร์ 12 ที่จะไป Jozankei ไปซื้อตั๋วก่อนขึ้นนะจ๊ะ แนะนำว่าไปถึงก่อนเวลาสัก 20 นาทีนะ
ซื้อตั๋วได้ตรงจุดที่จะขึ้นรถเลย มีเจ้าหน้าที่นั่งรอขายตั๋ว บอกว่าจะไป Jozankei ไปนอนค้างหรือไปกลับภายในหนึ่งวัน เจ้าหน้าที่จะแนะนำตั๋วโดยสารที่เหมาะกับรูทเที่ยวของเรามาเอง
แต่สำหรับใครที่จองที่พักไว้ สอบถามที่พักดูนะว่ามีบริการรถรับส่งที่สถานีซัปโปโรไหม เพราะว่าที่โรงแรมต่างๆใน Jozankei นั้น เค้าบริการดีมากจริงๆ ตั๋วรถบัสนั้นไม่ระบุที่นั่ง นั่งได้ตามชอบเลย เดี๋ยวถึงเวลารถบัสมาจอด มีเจ้าหน้าที่ 2-3 คนมาดูแลความเรียบร้อยให้ และพูดอังกฤษได้จ้า
เว็บไซต์การเดินทางของเมืองนี้ก็ดีมากๆ มีแปลภาษาไทยให้เรียบร้อย ถึงแม้เดินทางครั้งแรกก็ไปถูกนะเพราะอธิบายละเอียดจริงๆ
แผนผังเดินทางเที่ยวในเมืองอีกเพียบ อธิบายจุดต่อจุดแล้วยังมีบริการส่งฟรีไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโจซังเคด้วยนะ ว้าวใจดีสุดๆ จุดที่เราต้องลงรถบัสป้าย Shiraito no Taki นั่นแหล่ะ ตรงนี้คือสามารถขอรับบริการไปส่งฟรีได้จ้า
ตัวอย่างตารางเดินรถบัสในวันธรรมดา เดินทางจากซัปโปโร – โจซังเค ซึ่งทุกคนสามารถตรวจเช็ครายละเอียดอื่นๆได้ในเว็บไซต์
ตารางการเดินทางจาก ซัปโปโร – โจซังเค ในวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุด
ตารางรถบัส
เว็บไซต์รวมการเดินทางจากทุกต้นทาง
เว็บไซต์เช็คตารางรถบัสจากสถานีซัปโปโร
นั่งบัสออกจากซัปโปโรมาละ เมื่อเห็น Shiraito no taki (白糸の滝) แล้ว ต่อไปเตรียมลงที่ป้าย Jozankei Shrine Mae (定山渓神社前)ก็ลงเลย คือนั่งมาประมาณ 40 นาทีเท่านั้นเอง ถ้าเค้าขึ้นจอแบบนี้ เตรียมกดลงป้ายต่อไปเลยจ้า
ลงรถปุ๊บ จากนั้นจะเห็น Jozankei Tourist Association ตั้งอยู่แถวบริเวณป้ายรถบัสเลย เดินเข้าไปเพื่อขอข้อมูลการเที่ยวเพิ่มเติมได้เลยจ๊ะ ใช้ภาษาอังกฤษได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่สื่อสารได้อย่างดี
เข้ามาด้านใน นึกว่าร้านขายตุ๊กตา เปล่าเลยไม่ใช่ค่ะ ฮ่าๆ เจ้าคัปปะคือตัวคาแรกเตอร์ของที่นี่ น่ารักเนอะ เดี๋ยวเดินไปรอบเมืองจะเห็นมากมายเลยล่ะ
Jozankei Tourist Association
ที่อยู่ | Jozankei Onsen higashi 3-chome,Minami-ku, Sapporo 061-2302 |
---|---|
เวลาทำการ | 9:00 – 17:00 |
Website | jozankei |
ข้อสรุป
Jozankei แหล่งน้ำพุร้อนที่ไม่ได้มีแค่น้ำพุคุณภาพดีและวิวสวยงามทั้งเมืองเท่านั้น แต่เพราะการเดินทางมาที่นี่นั้นแสนง่ายมากๆ ทั้งสามารถเดินทางมาได้จากสนามบินชิโตเสะ หรือจะเลือกมาจากซัปโปโรก็ได้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์ที่รอคอยอำนวยความสะดวกให้เราอย่างเต็มที่อีก ทำให้การมาเที่ยวต่างแดนและต่างถิ่นของเรานั้น เที่ยวอย่างสบายใจหายห่วง
ทริปยังไม่จบ ตามไปอ่านพาร์ท 2 ได้เลย